tag:blogger.com,1999:blog-19228607754169332172024-03-13T16:01:24.181+07:00read2533Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comBlogger46125tag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-18629216675673248632016-09-25T19:09:00.002+07:002016-09-25T19:09:39.259+07:00เมื่อผมต้องผันตัวเองไปประกอบอาชีพเป็น เซลส์แมน...ในแดนมะกัน...<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/e5/picture222.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>เมื่อผมต้องผันตัวเองไปประกอบอาชีพเป็น เซลส์แมน...ในแดนมะกัน...</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: By: akausa</span> <a href="http://nanasara.org/forum/showthread.php?tid=4907" target="_blank">เว็บNanaSara.org</a><br />
<br />
ท่านผู้อ่านคงจะจำได้เมื่อครั้งที่ผมเขียนเรื่อง "เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00" .. <a href="http://read2533.blogspot.com/2013_05_01_archive.html" target="_blank">คลิกไปอ่านที่นี่..</a><br />
<br />
เขียนได้ 18 ตอนก็ไม่ได้เขียนต่อ(จะจบต้องประมาณ 40 ตอน) คือมัวไปสนใจกับการเมืองมากไปหน่อยจนไม่มีสมาธิที่จะเขียน แต่คิดว่ายังไงๆจะเขียนให้จบให้ลูกหลานเอาไว้พิมพ์แจกตอนผมตาย...55555...<br />
<br />
ที่นึกจะเขียนเรื่องการที่ผมไปประกอบอาชีพเป็น Salesman คืออยากจะเล่าช่วงนี้จริงๆคนอ่านจะได้ความรู้และประโยชน์มั่ง...<br />
<br />
มาเริ่มกันตอนที่ผมเจ๊งจากธุรกิจการทำเสื้อผ้าขายส่งเมื่อตอนอยู่ที่ Houston Texas ซึ่งทำมาแล้ว 8 ปีมี Established Accounts ทั่วสหรัฐกว่า 3,000 accounts นึกแล้วก็เสียดายไม่หาย...<br />
<br />
หลังจากเจ๊งจากการทำธุรกิจเสื้อผ้า ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ไม่รู้จะย้ายไปอยู่ที่ไหน แต่ช่วงนั้น(ปี 1989)เศรษฐกิจในสหรัฐย่ำแย่มากโดยเฉพาะส่วนที่เขาเรียก Central USA ก็คือแถวรัฐกลางๆของประเทศสหรัฐนั่นแหละ ตอนนั้นมีคนบอกว่าถ้าจะไปขุดทองใหม่ก็ต้องไปทางฝั่ง California หรือไม่ก็ทาง New York เพราะเศรษฐกิจยังดีอยู่...ผมไม่ชอบ East Coast เพราะไม่ชอบอากาศหนาวก็เลยเลือกไป West Coast ทาง California...<br />
<br />
อีกอย่างหนึ่งที่เลือกไปแคลิฟอร์เนียก็คือมีแฟนเก่าอยู่ที่นั่น...ก็คือคนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่เด็กที่เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละ พอผมเลิกทำธุรกิจเสื้อผ้าเธอก็ย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียที่เมือง Anaheim ซึ่งตอนหลังผมก็ย้ายไปอยู่ที่นั่นเป็นการถาวรจนกระทั่งทุกวันนี้...<br />
<br />
ทีแรกผมก็กะว่าจะไปเที่ยวดูลาดเลาก่อนพอดีเด็กปิดเทอมก็เลยถือโอกาสไปเที่ยว ตอนนั้นลูกๆผมอายุได้ 4-6 และ 8 ขวบตามลำดับ ก็พากันไปเที่ยว ตอนนั้นนอกจากรถเก๋ง Ford ที่ผมใช้ส่วนตัวแล้วผมยังมีรถ Custom Van ที่เอาไว้ใช้เดินทางเวลาไปเยี่ยมลูกค้าตามเมืองต่างๆใน Texas และก็สำหรับพาครอบครัวเที่ยวด้วย...<br />
<br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/ax/picture333.jpg" /></center><center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/r3/picture444.jpg" /></center>(รถจะเป็นแบบในภาพนั่นแหละครับ ไม่ใช่คันที่ใช้จริง...ตอนนี้คงเป็นเศษเหล็กไปแระ..)<br />
<br />
เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยถึงเวลาเดินทางผมก็ขับรถจาก Houston ตามทาง Interstate 10 มุ่งสู่ California ก็ผ่านหลายรัฐ(ดูแผนที่ประกอบ) ระยะทางทั้งหมดประมาณ 1,760 ไมล์ ถ้าขับโดยเฉลี่ย 70 ไมล์/ชั่วโมง ก็จะใช้เวลาทั้งหมด 25 ชั่วโมง แต่ผมขับไปแบบสบายๆเพราะไม้รีบร้อนอะไร จอดนอนงีบระหว่างทางก็หลายแห่ง Rest area ระหว่างทางมีมากมายแถมยังสะดวก สบายห้องน้ำสะอาดด้วย...<br />
<br />
ผมใช้เวลา 2 วันก็ขับถึงเมือง Anaheim ตรงไปบ้านที่แควนผมพักเลย...55555...เป็น Apartment 2 ห้องนอน ไม่หรูหราแต่ก็พออยู่ได้...คือตอนนั้นผมก็แค่ขับรถไปเที่ยวเฉยๆ...<br />
<br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/tm/picture555.jpg" /></center><br />
ผมอยากจะข้ามไปถึงเรื่องที่ผมไปใช้ชีวิตเป็น Salesman ได้อย่างไรเลยดีกว่า แต่จะข้ามไปหมดเลยก็ไม่ได้ เอาแบบเท้าความนิดๆก็แล้วกัน...<br />
<br />
คือหลังจากที่ผมตัดสินใจย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนียแล้วหาที่อยู่และโรงเรียนให้ลูกๆได้แล้วผมก็กลับ Houston ไปขนย้ายของมาแคลิฟอร์เนีย ขายรถ Ford ไปคงเหลือแต่รถ Van เอาไว้ใช้ เมื่อ Settle แล้วก็ต้องคิดหางานทำเพราะต้องมีค่าใช้จ่าย เงินที่มีพอเหลือจากการค้าขายก็ต้องมีไว้ยามฉุกเฉิน<br />
<br />
• การแบ่งเขต Time Zone ของอเมริกา เวลาแตกต่างกันตามสีภาพ พื้นที่สีเขียวเวลาจะตรงกันเป๊ะกับเวลาในเมืองไทย ต่างกันก็คือมันเป็นกลางวันกับกลางคืน<br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/6h/picture666.jpg" /></center><br />
• การแบ่งภาคต่างๆของอเมริกา<br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/8b/picture777.jpg" /></center><br />
มีอยู่วันหนึ่งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ใน Section เกี่ยวกับการหางาน รับสมัครคนงาน ก็ไปเห็น Ad อันหนึ่งที่บอกว่า Sales Representative wanted. แล้วเนื้อหาในนั้นบอกว่า ต้องการรับสมัครพนักงานเซลส์หลายตำแหน่ง Unlimited Opportunity, Free Training with pay, Draw Against Commissions ก็หมายถึงมีโอกาสก้าวหน้า เบิกเงินที่ได้จากค่าคอมมิสชั่นล่วงหน้าได้ เรียนรู้ฟรีมีเบี้ยเลี้ยงจ่ายระหว่างเรียน...<br />
<br />
ถึงตรงนี้อยากจะอธิบายไว้หน่อยว่า งานตำแหน่งเซลส์นั้นมันเป็นงานไต่เต้า...คือคุณไปสมัครเป็นพนักขาย ถ้าคุณขายได้คุณก็จะได้ค่าคอมมิสชั่นตามอัตราที่ตกลงกัน เขาจะจ่ายคุณแบบไหนเวลาไหนนั้นก็ต้องตามกฎระเบียบที่เขามีไว้<br />
<br />
อย่างคำว่า Draw Against Commissions นี่หมายถึงคุณทำงานไปได้สักระยะหนึ่งพอมีเงินสะสมที่เขายังไม่ได้จ่ายให้คุณเพราะยังไม่ถึงเวลาที่เขาตัดจ่าย แต่คุณก็ต้องอยู่ต้องกินต้องใช้เขาก็ยอมให้เบิกล่วงหน้าได้ประมาณ 50% จากที่คุณควรจะได้ตามที่คุณได้สะสมไว้<br />
<br />
สมมุติว่า เขาจ่ายเงินให้คุณเดือนละ 2 ครั้ง คือจะจ่ายให้วันที่ 5 หรือวันที่ 20 ของทุกเดือน คุณต้องทำงานตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 15 เขาจะจ่ายให้คุณเต็มตามจำนวนที่คุณทำได้ วันที่ 20 งานทำวันที่ 16 –วันที่ 31 จะจ่ายให้ วันที่ 5 เป็นต้น...<br />
<br />
ที่นี้เพราะคุณไม่มีเงินสำรองที่จะต้องใช้จ่าย เริ่มทำงานวันที่ 1 แล้วไปรอรับเอาวันที่ 20 สามอาทิตย์เต็มๆคุณจะเอาเงินที่ไหนใช้ เขาก็เลยให้คุณเบิกได้อันเป็นที่มาของ Draw Against Commissions พอจะเข้าใจนะครับ...<br />
<br />
พอผมเห็นประกาศก็เลยโทรไปสมัคร รู้ว่าเป็นงานขายแต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องขายอะไร ผมก็โทรไปตามเบอร์นั้นแล้วเขาก็นัดให้ไปหาเพื่อไปกรอกใบสมัครแล้วผมก็ไปตามนัด ไปถึงเขาก็มีเจ้าหน้าที่เอาใบสมัครมาให้กรอกแล้วนัดหมายให้ไปอีกครั้งหนึ่งเพราะจะมีการประชุมอบรมอธิบายถึงงานที่จะทำแล้วก็จะมีการถามว่าใครสนใจที่จะเรียนรู้ต่อ...ถ้าหากไม่แล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาให้กลับไปเลย...<br />
<br />
ถึงวันนัดหมายผมก็ไป...โหวันนี้คนเยอะแฮะ 30-40 คนได้มั้ง แล้วเขาก็ให้เราเข้าไปนั่งรวมกันในห้อง มี Projector ฉายให้เราดูด้วยว่างานจะเป็นอย่างไร<br />
<br />
แล้วพิธีกรก็เริ่มแนะนำตัวว่าเขามาจากไหน ทำอะไรมาก่อน ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ แล้วก็ถามคนที่อยู่ในห้องว่า "ถ้าคุณทำงานได้ปีละเท่านี้ คุณจะพอใจไหม?" แล้วก็เขียนบนกระดานว่า "Would you be happy if you are making between $70,000-100,000 a year or more?<br />
<br />
Wow...! มันเป็นตัวเลขที่น่าสนใจไม่น้อย...ช่วงนั้นน่ะหรือแรงงานขั้นต่ำอยู่ที่ 4 หรือ 5 เหรียญกว่าๆต่อชั่วโมงเอง ก่อนหน้านั้นผมทำงานได้ชั่วโมงละ $20.00(อาศัยความรู้และความชำนาญเก่า) อาทิตย์หนึ่งก็ $600.00 เดือนหนึ่งก็ $2,400.00 ปีหนึ่งก็ $28,880.00...รายได้ขนาดนี้ต้องชนชั้นกลางขึ้นไปถึงจะทำได้..แต่นี่ปีละ $70,000-100,000 มันกี่เท่า..? มันน่าสนใจไหม..?<br />
<br />
จากคำถามที่พิธีกรได้ถามไป ทุกคนในห้องยกมือหมด แล้วพิธีกรก็กล่าวต่อว่ามันเป็นรายได้ที่งดงามและมันก็เป็นไปได้ แต่เขาคิดว่าหลังจากการอบรมวันนี้จะมีเหลือไม่ถึงครึ่ง แล้วเขาก็เล่าถึงนวัตกรรมใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น แล้วเขาก็เล่าถึงว่าต่อไปการใช้เครดิตคาร์ด ไม่ว่าจะเป็น Visa หรือ Master card หรือ American Express หรือ Discover Card etc. นั้นจะเปลี่ยนไปจากการที่เคยใช้จากเดิมคือเอาบัตรเครดิตของลูกค้าไปวางบนแท่นรูดแล้วก็รูดกดทับบน Slip มันก็จะเห็นหมายเลขบัตร ชื่อ วันหมดอายุ ที่เป็น ตัวนูน เมื่อรูด Slip แล้วก็ให้ลูกค้าเซ็น แล้วก็ฉีกใบแรกให้ลูกค้าไป ใบต่อมาเจ้าของร้านเก็บไว้ ส่วนที่สามก็จะรวบรวมเข้าด้วยกันแล้วก็เอาไปฝากธนาคาร...<br />
<br />
เมื่อจะเปลี่ยนมาใช้ระบบ Electronic Draft Capture คือจะมีเครื่องรูดคาร์ดที่มีแถบแม่เหล็กที่บันทึกข้อมูลของผู้ใช้บัตรเมื่อรูดเข้าเครื่องแล้วก็จะรู้ทันทีว่าบัตรที่ใช้เป็นของใคร มีเครดิต Limit เท่าไหร่ ลูกค้าใช้บัตรซื้อของเจ้าของร้านก็จะได้เงินไปเข้าธนาคารทันที(แล้วจะอธิบายทีหลัง) ก็ต้องให้ความรู้กับเจ้าของร้าน คนติดตั้ง คนที่จะไปติดต่อลูกค้าคือไปแนะนำให้ลูกค้าให้รู้จักใช้นั่นแหละและหน้าที่ผมก็จะอยู่ส่วนนี้...<br />
<br />
(--มีต่อ--)<br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-50680642354270347792014-10-12T22:55:00.002+07:002014-10-13T15:04:17.524+07:0039 เรื่องเล่าเกี่ยวกับ นายกฯทักษิณ..<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/6m/145960960.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>เรื่องเล่าเกี่ยวกับ นายกฯทักษิณ..<br />
เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: Gretchen</span> เว็บpantip<br />
<br />
รู้มั้ย??? ทำไมเราถึงไม่เคยเชื่อพันธมิตรเสื้อเหลืองเลย ว่านายกฯทักษิณขายชาติ<br />
<br />
วันนี้อ่านกระทู้ คุณสมบัติของผู้บริหารประเทศ ก็เลยพลอยทำให้นึกถึงเรื่องนี้<br />
<br />
เมื่อ 17 ปีที่แล้ว (นานมาก --')<br />
<br />
ตอนนั้นเราอยู่ ป.4 โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนหนองวัด จ.ขอนแก่น<br />
<br />
เรากำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน เราไม่รู้เรื่องการเมืองอะไรเลย ^^ เราก็เป็นแค่เด็ก ป.4 ที่ชอบเล่นกับเพื่อนๆในห้อง ตามประสาเด็ก<br />
<br />
วันหนึ่ง คุณครูที่กำลังสอนอยู่ ก็บอกพวกเราว่า "วันนี้จะมี ผู้สมัคร สส. มาคุยด้วยนะนักเรียน" ^^<br />
<br />
เราก็ไม่รู้เรื่องอะไร เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สส. คืออะไร --'รู้จักแต่ นายชวนหลีกภัย นายกรัฐมนตรี (ท่องทุกวัน --' มีติดที่บอร์ดหน้าห้องเรียนด้วย)<br />
<br />
แล้วสักพัก ก็มีผู้ชายวัยกลางคน เดินเข้ามา<br />
<br />
แนะนำตัวเองว่า เขาชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร"<br />
<br />
ตอนนั้น ลุงทักษิณ แกพูดอะไรของแกก็ไม่รู้นะ --' (หาเสียงกับเด็ก ป.4)<br />
<br />
เราจำไม่ได้เลยว่าลุงทักษิณพูดอะไรบ้าง --' เพราะเราไม่รู้เรื่องการเมือง<br />
<br />
แต่ก่อนที่ลุงทักษิณจะจากไป เราจำประโยคสุดท้ายได้ว่า<br />
<br />
พรรคของลุงทักษิณ ไม่มีการซื้อเสียง เป็นพรรคที่สุจริตแน่นอน<br />
<br />
เสร็จแล้ว ลุงทักษิณ ก็แจกการ์ดแข็งๆ ใบเล็กๆ ให้เด็กๆคนละ 1 ใบ<br />
<br />
เลิกเรียนวันนั้น เราถือการ์ดแข็งๆใบนั้นแหละ กลับบ้าน กลับไปบอกแม่ว่า "แม่ๆ กาเบอร์นี้นะ วันนี้มีคนมาหาเสียง เขาบอกว่า พรรคเขาสุจริต ไม่มีการซื้อเสียง"<br />
<br />
แล้วเชื่อไหม??? วันเวลาผ่านไปหลายๆปี เราจำชื่อพรรคไม่ได้นะ เราจำเบอร์ไม่ได้ แต่เราจำชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ได้ เพราะลุงทักษิณ เป็นนักการเมืองคนแรก ที่เราเคยเห็นแบบตัวเป็นๆในชีวิต แล้วก็เป็นนักการเมืองคนแรกที่เราได้ยินเขาพูดกับหูตัวเองว่า เขาเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ซื้อเสียง<br />
<br />
ที่เหลือ เราไม่รู้จักใครเลย รู้จักแต่นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย<br />
<br />
---<br />
<br />
จนกระทั่ง เราขึ้น ม.1<br />
<br />
ก็เป็นเหมือนเดิม เราเป็นเด็กสายวิทย์ ไม่ค่อยรู้เรื่องการเมือง แต่เราจำได้ว่า มันมีอยู่วันหนึ่ง คุณครูประจำวิชาสังคมศึกษานี่แหละ เขามาพูดกับนักเรียนในห้องเรียนว่า<br />
<br />
"รู้มั้ย ว่าตอนนี้ ประเทศไทยเราติดหนี้ IMF ตอนนี้พวกเธอทุกคนที่นั่งเรียนอยู่ ก็ติดหนี้อยู่นะ คนละ.... บาท" (จำไม่ได้ว่า กี่บาท แต่จำได้ว่า พากันร้อง "โห....O.O" ทุกคนเลย --')<br />
<br />
ตอนนั้น เราก็คิดนะว่า ประเทศเรามันยากจนขนาดนั้นเลยหรอฟระ ??? O.O<br />
<br />
จนกระทั่งเราขึ้น ม.ไหน เราก็จำไม่ได้ ประมาณ ม.3 หรือ ม.4 นี่แหละ ประเทศไทยก็มีนายกรัฐมนตรีชื่อว่า "ทักษิณ ชินวัตร"<br />
<br />
ด้วยความที่เรา ไม่ค่อยสนใจการเมือง ไม่รู้เรื่องเลย --' สนใจแต่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แล้วก็บ้าดาราไปวันๆ<br />
<br />
แต่เราก็ได้ยินมาคร่าวๆนะว่า.. ประมาณเราอยู่ ม.4 คุณครูเขาก็มาบอกว่า ตอนนี้ ประเทศไทยใช้หนี้ IMF หมดแล้ว!<br />
<br />
แล้วสักพัก ก็มีการออกข่าว ออกทีวี มีการชูธงชาติไทย เหนือยาเสพติด มีการประกาศชัยชนะ ว่าประเทศเรา ไม่มียาเสพติดแล้ว!! (คนแถวบ้านเราคนหนึ่ง โดนจับด้วย เพราะขายยาเสพติด ตอนนี้โดนปล่อยแล้ว)<br />
<br />
แล้วสักพัก เราก็ได้ดูข่าว นายกฯทักษิณ ออกทัวร์สอนคณิตศาสตร์ตามโรงเรียนมัธยมต่างๆ (เราชอบมาก^^ เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์) แล้วก็มีการมอบเครื่องคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียนหลายๆแห่ง<br />
<br />
<center><iframe width="540" height="385" src="//www.youtube.com/embed/aYtdibyFXkU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
แล้วเราก็เห็นภาพ นายกฯทักษิณ ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน นุ่งผ้าขาวม้า ไปพูดคุยกับชาวบ้าน<br />
<br />
ตอนนั้น เราก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องการเมือง รู้แต่ว่า.. "มีความรู้สึกดีๆกับนายกฯคนนี้มาก!"<br />
<br />
จนมาถึง ตอนที่เราประทับใจที่สุด ตอนนั้นเราน่าจะอยู่ ม.5 หรือ ม.6 นี่แหละ เราก็จำไม่ได้<br />
<br />
เราเห็นโฆษณา ของรัฐบาลนี่แหละ ผ่านหน้าจอ TV บอกว่า.. "หากพบเห็น การทุจริต คอรัปชั่น การรับเงินใต้โต๊ะ ของข้าราชการ หรือหน่วยงานราชการ โปรดแจ้งสายด่วน 16xx" (จำเบอร์ไม่ได้)<br />
<br />
สักพัก เราก็เห็นโฆษณาของรัฐบาลอีกนี่แหละ บอกว่า "หากท่านพบเห็น การกระทำของผู้มีอิทธิพลที่ผิดกฎหมาย โปรดแจ้งสายด่วน 16xx" (จำเบอร์ไม่ได้ มันนานแล้ว)<br />
<br />
ตอนนั้น ในบรรดาสิ่งที่นายกฯทักษิณทำทั้งหมด เราประทับใจไอ่ สายด่วนโทรแจ้งคนขี้โกงนี่ ที่สุดเลย!!<br />
<br />
เราเคยโทรไปด้วยนะ เรื่องตำรวจที่ขอนแก่น ทำผิดกฎหมายซะเอง (แล้วเราก็เคยเขียนจดหมายไปขอการช่วยเหลือเรื่องที่ดินบ้านกับนายกฯด้วย ได้รับตอบกลับมาด้วย ^^ เร็วมาก ^O^)<br />
<br />
ตอนนั้น เราคิดในใจเลยนะว่า.. "เอาแล้ว!! ^O^ ประเทศเรา กำลังจะเจริญแล้ว!! ข้าราชการ หน่วยงาน ที่ทำผิดกฎหมาย เราจะโทรแจ้งสายด่วนให้หมดเลย!!! ยังไงเราก็มีนายกฯทักษิณหนุนหลังอยู่ >O< เราไม่ต้องกลัวอิทธิพลอะไรทั้งสิ้น! พบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราโทรแจ้งได้เลย ^O^ "
</br></br>นายกฯทักษิณ ประกาศเป็นศัตรูกับ การทุจริตคอรัปชั่น และการทำผิดกฎหมายของผู้มีอิทธิพลทั้งหมด<br />
</br>เรารู้สึกได้เลยว่า ประเทศเรากำลังจะ เจริญ และ เจริญ มากขึ้น มากขึ้น ทุกวัน ทุกวัน<br />
</br>แต่เชื่อไหม??? เราเพิ่งโทรแจ้งเรื่องที่ข้าราชการคอรัปชั่นไปเรื่องเดียว! ยังโทรแจ้งไม่ครบเลย<br />
</br>ไม่นานต่อมา (เราอยู่มหาลัย ปี 1) ทีวีทุกช่องก็ดับ แล้วตามมาด้วย การรัฐประหาร ล้มรัฐบาลของนายกฯทักษิณ (พิมพ์ไปยังขนลุกไปเลย!)<br />
</br>แล้วตั้งแต่นั้น ประเทศเราก็เริ่ม ถอยหลัง ยาเสพติดกลับคืนมา การทุจริตคอรัปชั่นกลับคืนมา (รวมไปถึงนายกฯทักษิณเองก็โดนกล่าวหาว่าขายชาติด้วย) แล้วพวกผู้มีอิทธิพลที่ชอบทำผิดกฎหมาย ก็กลับคืนมา<br />
</br>เรามองเห็น ประเทศถอยหลังลงคลอง มีคนใส่เสื้อเหลืองที่อ้างว่ามีการศึกษา พากันตะโกนด่านายกฯทักษิณว่า ขายชาติ!<br />
</br>เราไม่มีทางเชื่อเลย ว่านายกฯทักษิณจะขายชาติ เอาอะไรมาพูดเราก็ไม่เชื่อ<br />
</br>เราไปตามอ่านข่าวของทุกสำนัก อ่านสำนวนคดี เราอยากรู้ว่า นายกฯทักษิณ ขายชาติจริงๆไหม???<br />
</br>เราตามอ่านทุกสำนวนคดี ทุกข้อกล่าวหาที่พันธมิตรกล่าวหานายกฯทักษิณ<br />
</br>แล้วผลที่ได้คือ "ทุกข้อกล่าวหา ล้วนคลุมเครือ ไม่มีข้อกล่าวหาไหนที่ชัดเจนเลยว่า นายกฯทักษิณขายชาติ!"<br />
</br>นายกฯทักษิณเป็นคนไทยแท้ๆ มีพ่อแม่อยู่เชียงใหม่ โตมาแบบเด็กยากจน เรียนหนังสือผ่านแสงเทียนและหลอดไฟของวัด<br />
</br>มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่คนที่คิดจะขายชาติ จะสร้างอะไรดีๆทิ้งไว้มากมายขนาดนี้<br />
</br>เขาบอกว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ นิสัยเหมือนนายกฯทักษิณ<br />
</br>เราเห็นแล้วว่า เหมือนจริงๆ นายกฯยิ่งลักษณ์เป็นคนดี บอกตรงๆว่าเรื่องการบริหารอาจไม่เก่งเท่านายกฯทักษิณ แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ท่านเป็นคนอ่อนโยน ไม่ค่อยตอบโต้ใคร รู้จักกาละเทศะ เหมาะที่จะเป็นนายกฯในช่วงที่การเมืองครุกรุ่นที่สุด!<br />
</br>ป้าดดด!! กระทู้นี้ อวยกันเต็มๆ 5555+<br />
</br>รวม ตอน1-2-3 เป็นไฟล์เดียว<br />
<center><iframe width="540" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/MjB3VKHGP4s" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไทยของนายกฯปู</strong></span><br />
<br />
ฟังแล้วหนาวแทนข้าราชการกับท่านผู้ว่าฯ นะตา..<br />
<center><img src="http://upic.me/i/h4/s01510.jpg"></center><br />
จะสบายๆสักหน่อย ดันมาเจอนายกฯปูให้การบ้านหนักๆทั้งนั้นล่ะยายเอ้ย..<br />
<center><img src="http://upic.me/i/uw/s02510.jpg"></center><br />
นายกฯปู เช้า บรรยาย บ่าย work shop.. แน่นอนต้องมีการติดตามผลงานอีก<br />
<center><img src="http://upic.me/i/yy/s03510.jpg"></center><br />
เฮ้อ.. นี่มัน ทักษิณ2 นี่หว่า<br />
<center><img src="http://upic.me/i/87/s04510.jpg"></center><br />
ฮ่า ฮ่า ฮ่า... ฟังอีหนูปู..มีความสุขจุงเบย..<br />
<center><img src="http://upic.me/i/so/s05510.jpg"></center><br />
<center><iframe width="540" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/6P8Q5MMaM34" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2011/04/2354.html" target="_blank">ทักษิณแถลงนโยบาย "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ" ที่ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต 23เม.ย.54</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/ab/1359286151.jpg"></center><br />
<center><iframe width="540" height="315" src="//www.youtube.com/embed/XC_UuqVt-q0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="540" height="315" src="//www.youtube.com/embed/qMGlUtdUhMc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-70990946529770702862014-07-13T18:09:00.002+07:002014-07-17T11:45:12.986+07:0038 การประกันสุขภาพถ้วนหน้า<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/oq/nn13-7-2557.jpg" /></center><br />
นโยบาย "การประกันสุขภาพถ้วนหน้า" เกิดจากกระทรวงสาธารณสุข นำโดยนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ และภาคีเครือข่ายสาธารณสุขทั่วประเทศ ได้เอานโยบายนี้ไปเสนอทุกพรรคการเมืองใหญ่ในประเทศไทย..แต่ไม่มีพรรคการเมืองไหนกล้ารับเอาไปสานต่อ อาจเป็นเพราะไม่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลหรือกลัวไม่มีเงิน (หาเงินไม่เป็น) กันแน่?? โดยเฉพาะพรรค "ประชาธิปัตย์" นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในตอนนั้น ก็ตอบปฏิเสธ<br />
<br />
ต่อมา เมื่อคุณทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคการเมือง "ไทยรักไทย" นายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ และภาคีเครือข่ายสาธารณสุขทั่วประเทศ ได้นำนโยบายนี้ไปเสนอ คุณทักษิณท่านมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ก็รับเอาไว้พิจารณาและสานต่อนโยบายจนเป็นรูปเป็นร่าง "บัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค" มาจนถึงทุกวันนี้<br />
<br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: large;"><strong>"ประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นของประชาชน ไม่ใช่ประชานิยม"</strong></span><br />
<br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/ci/9u555.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>การประกันสุขภาพถ้วนหน้า</strong></span><br />
<br />
นายแพทย์มงคล ณ สงขลา อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ รมว.สธ.ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Mongkol Na Songkhla ว่า<br />
<br />
ผมในฐานะคนที่อยู่ในแวดวงสาธารณสุขมาทั้งชีวิต เคยผ่านช่วงเวลาที่ชาวบ้านไม่กล้ามาหาหมอที่โรงพยาบาลเพราะกลัวว่าจะไม่มีเงินจ่าย เคยเห็นคนขายวัวขายควายขายไร่ขายนาเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล มาจนถึงวันที่ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้รับการรักษาแม้จะยากจน และไม่ต้องรู้สึกต่ำต้อยอนาถาเมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล<br />
<br />
ผมรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เมื่อทราบข่าวว่า ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขสั่งห้าม รพ.และเจ้าหน้าที่กระทรวงให้ความร่วมมือกับ สปสช. มีข้อเสนอที่จะยกเลิกหลักการการแยกผู้ซื้อและผู้ให้บริการ เพื่อดึงอำนาจและการจัดงบประมาณกลับมาที่กระทรวง รวมถึงจะเสนอให้ประชาชนต้องร่วมจ่าย (co-pay) 30-50% ที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการส่งข้อความปลุกกระแสทาง line<br />
<br />
ผมจึงใช้เวลาช่วงบ่ายวันนี้ทั้งวันเขียนข้อมูลทั้ง 9 ข้อนี้เพียงหวังว่า มันจะสามารถกระตุกสำนึกของผู้คนที่กำลังหลงผิดทำลายระบบหลักประกันสุขภาพ และหวังว่ามันจะทำให้ คสช.เข้าใจในเรื่องความสุขทุกข์ของประชาชนจริงๆ<br />
<br />
1. กระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. ควรแยกจากกัน ในหน้าที่ผู้ซื้อและผู้ให้บริการ ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะงบประมาณเพื่อบริการจะไม่ถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เนื่องจากมีการติดตามจากผู้ซื้อบริการ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน<br />
<br />
2. รัฐมนตรีสาธารณสุขเป็นประธานบอร์ด สปสช. ปลัดกระทรวงสาธารณสุขอยู่ในฐานะบอร์ดคนหนึ่ง ถูกต้องแล้ว เพราะรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหารงานสาธารณสุขระดับนโยบาย จะได้ให้ความเห็นแก่บอร์ดในการพิจารณาเรื่องที่เป็นนโยบายที่ไปเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆเกี่ยวกับงานสาธารณสุข ส่วนปลัดกระทรวงในฐานะผู้บริหารสถานบริการส่วนใหญ่ของประเทศ จะให้ความเห็นแก่บอร์ดเมื่อพิจารณาเรื่องใดๆที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของสถานบริการต่างๆในสังกัดกระทรวง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย แต่อาจไม่จำเป็นถ้าหากกระทรวงสาธารณสุขยอมกระจายอำนาจให้โรงพยาบาลและสถานบริการต่างๆออกจากกระทรวงไปเป็นองค์กรมหาชน อย่างเช่นโรงพยาบาลบ้านแพ้ว หรือไปอยู่กับ อปท. ตามกฎหมายแผนและขั้นตอนกระจายอำนาจ 2543<br />
<br />
3. กฎหมาย สปสช. มีเจตนารมณ์ชัดเจนที่ต้องให้การระบบหลักประกันสุขภาพเป็นของคนทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการเท่านั้น ตัวแทนทุกภาคส่วนในบอร์ดมีสิทธิในการออกความเห็น เสียงส่วนน้อยก็ได้รับการยอมรับ ไม่มีการใช้อำนาจหน้าที่(Authority), บารมี(Prestige) หรืออิทธิพล(Power) ใดๆทั้งสิ้น เสียงส่วนใหญ่จึงเป็นทางเลือกที่สังคมผู้เจริญให้ความเคารพด้วยความศรัทธา ไม่ใช่เป็นเสียงที่มาจากไหนไม่รู้ เพราะตำแหน่งหน้าที่คือมายา คุณค่าคือของจริง ดังจะเห็นได้จากหลักการของกองทุนสุขภาพตำบล ที่เป็นการร่วมกองทุนระหว่าง สปสช.และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น หากเป็นตำบลที่มีใหญ่ๆก็จะได้งบประมาณ 5-600,000 บาทแล้วแต่ขนาดมาใส่ในกองทุน อปท.ก็ลงเงินร่วมอีกส่วนหนึ่ง นี่เป็นหลักการของการทำงานร่วมกัน การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายต่างๆในพื้นที่ เพราะสุขภาพของสังคมจะดีได้ มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องเกื้อกันเพื่อให้การป้องกันส่งเสริมสุขภาพมีประสิทธิภาพจริงๆ ภาคส่วนใดภาคหนึ่งทำลำพังไม่ได้ นี่ไม่ใช่เงินหาเสียงของ สปสช. เป็นกองทุนตั้งต้นซึ่งขณะนี้มี อปท.ตอบรับแล้วเกือบ 100% คน สธ.ควรตระหนักว่าเรื่องสุขภาพไม่ใช่แค่เรื่องการรักษาพยาบาล<br />
<br />
4. สิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาล (Benefit Package) ของประชาชนทุกรายการจะมีคณะกรรมการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากหลายอาชีพร่วมกันพิจารณา หลังจากผ่านการประเมินจากคณะวิชาการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (Health Technology Assessment ) มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ผ่านการทำวิจัยทุกรายการที่ยังสงสัย ส่วนใหญ่เลือกเพิ่มเติมรายการที่คุ้มค่า เช่นการเพิ่มวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ผู้สูงอายุ ทำวิจัยออกมาแล้วค่าวัคซีนต่ำกว่าค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องไปนอนโรงพยาบาลจากการเป็นไข้หวัดใหญ่หลายเท่านัก ยกเว้นสิทธิบางอย่างอาจไม่คุ้มทางเศรษฐกิจ แต่ลดการล้มละลายจากการรักษาได้มากเช่น การล้างไต การรักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น<br />
<br />
5. กฎหมายไม่ได้กำหนดว่า สปสช.ต้องซื้อบริการจากสถานบริการภายใต้การกำกับของกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้นถูกต้อง เพราะ สปสช.ซื้อบริการจากสถานบริการที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนดให้ประชาชนใช้บริการสะดวกที่สุด จากหน่วยงานรัฐหรือเอกชนก็ได้ แต่สถานบริการส่วนใหญ่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งบรรพบุรุษในวงการสาธารณสุขผู้ที่สายตายาวไกลได้ช่วยกันสร้างขึ้นมา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ นับว่าล้ำหน้าที่สุดจนหลายๆประเทศอยากเอาอย่าง ทั้งนี้เพื่อให้เป็นที่พึ่งของคนไทยทุกคนถ้วนหน้า แต่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขมายึดครองใช้อำนาจจำกัดการทำหน้าที่หลักของสถานบริการเหล่านี้ แท้จริงแล้วหากการให้บริการประชาชนดีขึ้น งบประมาณที่จะไปสู่การบริการประชาชนเพียงพอมากขึ้น น่าจะช่วยกันสนับสนุน เคยทราบกันไหมว่าก่อนหน้าที่มี สปสช. สัดส่วนงบประมาณที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับการจัดสรรน้อยมาก เพราะจัดตามโควต้ากระทรวง ไม่ใช่รายหัวของประชาชน ขอให้เราเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งได้ไหม<br />
<br />
6. การให้ประกันสุขภาพถ้วนหน้าทั้งคนจนและไม่จนทุกคน ถูกต้องแล้ว เพราะงบประมาณที่ใช้มาจากภาษีทั่วไป ซึ่งคนรวยจ่ายภาษีในสัดส่วนที่สูงกว่าคนจนอยู่แล้ว สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม นอกจากนั้นคนที่ไม่รวยแต่ใกล้จนคือคนชั้นกลางซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เมื่อป่วยหนักค่ารักษาพยาบาลแพง ทำให้ล้มละลายกันมากมายหลายรายต่อปี แม้แต่ร่วมจ่าย (co-pay) ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมอย่างที่เคยเห็นกันอยู่ เราคงไม่ต้องการเห็นพี่น้องคนไทยกำเงินมาโรงพยาบาลด้วยแขนที่เปียกโชคด้วยเหงื่อเม็ดโป้งๆ เพราะเงินที่กำอยู่ไปกู้เขามา และเราก็คงไม่อยากเห็นคนมาโรงพยาบาลด้วยความหดหู่เพราะถือบัตรผู้มีรายได้น้อยมาขอทานการพยาบาลอีกต่อไป<br />
<br />
7. กฎหมาย สปสช.ที่มีอยู่ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นที่กฎหมายทุกฉบับต้องบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญไทย ปี 40 และ 50 ได้บรรจุไว้แล้วว่า รัฐมีหน้าที่ที่ต้องให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชน และประชาชนมีสิทธิที่จะได้เข้าถึงการบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง<br />
<br />
8. การประกันสุขภาพถ้วนหน้าเกิดจากกระทรวงสาธารณสุข นำโดยนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงษ์ และภาคีเครือข่าสาธารณสุขทั่วประเทศ ไม่ใช่ 'ซากเดนระบอบทักษิณ'ตามที่กล่าวหากัน เพียงแต่การจะเป็นนโยบายสาธารณะได้นั้น ต้องได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลหรือการเมือง ซึ่งที่ผ่านมาไปเสนอมาแล้วทุกพรรคการเมืองใหญ่ และยืนยันว่านี่ไม่ใช่นโยบายประชาชนนิยม แต่เป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชนตามเจตนารมณ์ของอาจารย์หมอเสม พริ้งพวงแก้ว, อาจารย์หมออุดม โปษะกฤษณะ, อาจารย์หมออมร นนทสุต, อาจารย์หมอบรรลุ ศิริพานิช และอาจารย์ผู้ใหญ่อีกหลายๆท่านมากมายนัก รวมทั้งอาจารย์ผู้ใหญ่สมัยที่คัดลูกสาวชาวชนบทมาเรียนผดุงครรภ์ 2 ปีเพื่อให้กลับไปให้บริการญาติพี่น้องโดยชาวบ้านต้องสร้างสำนักงานผดุงครรภ์เองเพราะรัฐบาลอยากให้บริการทุกพื้นที่ถ้วนหน้าแต่ไม่มีเงินสร้างสำนักงานผดุงครรภ์ นี่ก็เกิดในสมัยอาจารย์หมอสมบูรณ์ วัชรโรทัย<br />
<br />
9. ขณะนี้องค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติตั้งเป้าไว้แล้วว่าเมื่อผ่านปี 2015 อันเป็นเป้าหมายแห่งสหัสวรรษ (MDG) แล้ว เป้าหมายต่อไป ปี 2030 คือการบริการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ณ เวลานี้ ประเทศไทยทำสำเร็จระดับหนึ่งในปี 2002 ล่วงหน้าเป้าหมายนี้ไป 28 ปี หลายประเทศมาศึกษาระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าจากประเทศไทย ประเทศไทยได้รับการยกย่องไปทั่วโลก เราจะทำลายเพชรเม็ดงามชิ้นนี้ไปเพื่อสนองกิเลส 1500 ตัณหา 108 ของคนบางกลุ่มอย่างนั้นจริงๆหรือ<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/photo.php?fbid=916967504983939&l=f5d2bf7956" target="_blank">การประกันสุขภาพถ้วนหน้า</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/photo.php?fbid=923654917648531&l=663c14b98e" target="_blank">ประชานิยม หรือ รัฐสวัสดิการ..</a><br />
<br />
กองทุนประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดูแลประชากร 48 ล้านคนด้วยเงินงบประมาณ 109,718,581,300 บาท หรือ 2,755.60 ต่อคนต่อปี / เมื่อเทียบกับกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการและครอบครัว เพียง 5 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณมากกว่า 60,000 ล้านบาท หรือประมาณ 12,000 ต่อคนต่อปี<br />
<br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/3k/nn16-7-2557.jpg" /></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-9757484784024870872014-01-07T16:20:00.000+07:002014-01-07T16:20:09.881+07:0037 มาดูเด็ก ม.6 คุยกับ อจ. ที่เป็นรุ่นพี่เขา คุยการเมืองกันในเฟซ<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/k4/programmer_creattica_full.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>มาดูเด็ก ม.6 คุยกับ อจ. ที่เป็นรุ่นพี่เขา คุยการเมืองกันในเฟซ</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: ก้านมะพร้าว</span> เว็บบ้านราชดำเนิน 7ม.ค.2557<br />
<br />
ผมไปเจอมา...<br />
<br />
เด็ก ม.6 ยัน อจ. ได้ทุกดอก เป็นอาจารย์ แต่ แถไปข้างๆคูๆ สู้เด็กไม่ได้จริงๆ 55555<br />
<br />
อจ. : นายก ก็ตลก ไปวันๆ.. วันนี้บอก เลือกตั้ง แก้ความขัดแย้งได้ดีที่สุด..<br />
<br />
เอ้อ ก็เขาขัดแย้งก็เพราะคุณนี่ครับ คุณก็ยุบสภาหนีความขัดแย้ง แต่ไม่ทัน ยิ่งขัดแย้งหนัก<br />
<br />
คุณเลยบอกว่าจะกลับมาเป็นรัฐบาลใหม่ .. แร้นมันแก้ความขัดแย้งตรงไหน..<br />
<br />
ใช้อะไรคิดนี่.. ประเทศชาติมีผู้นำแบบนี้ ให้น้องมิเนี่ยนเป็นนายกแทนดีก่านะ 555<br />
<br />
อจ. : ไทยรัฐบอก กปปส ชี้โน่น ชี้นี่ ปล่อยให้เป็นแบบนี้ บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน .. ก็ยังดีก่าศิวิไลซ์แร้นคนจนทั้งประเทศ โดนฝรั่งกดหัว แล้วให้พวกนักการเมืองขี้ช่อเป็นลิ่วล้อลอยไปลอยมา งานการไม่ทำ<br />
20 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ • 1<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ก็ให้ใช้ 1 คน 1 สิทธิ์สิครับ<br />
13 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
บุคคลที่สาม : หนึ่งคนหนึ่งสิทธิ์ก็ไม่ไหว ดูบัญชีรายชื่อแต่ละตัวที่มันจะเอามาบริหารประเทศสิ เผาบ้านเมือง หมิ่นสถาบัน หน้าขี้โกงทั้งนั้น นี่มันยิ่งกว่าตบหน้าแล้วจิกหัวกดน้ำอีกนะ ขอร้องเหอะ โลกมันไม่สวยขนาดนั้นหรอก<br />
12 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ถ้าเป็นจริงอย่างที่ว่า คนก็จะไม่เลือกไงครับ ข่าวก็ออกกันครึกโครม หรือจะทำไงดีฮะ<br />
12 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : เวลา software มีรู (bug) บางทีมันแก้ตรงๆ ไม่ได้ มันต้องปรับโครงสร้างใหม่ไง คนที่คิดจะโกงน่ะ เขาคิดเยอะกว่าคนปกติมาก คือเดินทางตรงก็เดินไป แต่จะเล่นรวยทางลัด.. แต่ก็นะ เขาว่าคุ้ม บินวนไปวนมาเหมือนแมงวัน 555 (bug)<br />
11 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ • 1<br />
<br />
อจ. : ที่จริง นายจะเห็นนะ ว่าการปรับโครงสร้างไม่ได้ปรับแค่ตัวซอฟต์แวร์อย่างเดียว สมมติมีคนโกง atm นายปรับไปก็เด๋วโกงอีกอะ.. ปกติแล้วคนเห็นเฮ้ย.. ทำไงอะ โกงได้ไง สอนบ้างดิ.. แต่ตอนนี้ เราปรับกระบวนการศึกษา สำนึก คุณธรรม พอคนเห็น.. ไม่ได้ว่ะ มึงทำแบบนั้นคนอื่นเขาเดือดร้อนหลายคน มึงสบายคนเดว.. มาแบ่งให้กูดีก่า..<br />
11 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ • 1<br />
<br />
เด็ก ม.6 : เอาไปเปรียบในส่วนการเมืองให้หน่อยครับ ผมอ่านแล้วโยงไม่ค่อยถูก<br />
11 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ตอนเขียนไปก็กังวล แต่คิดว่าถ้านายฟังแล้วไตร่ตรอง นายจะเห็นว่านี่ไม่ใช่สงครามระหว่างทักกี้กะเทพ แต่เป็นการผลักดันส่วนดีๆ ของสังคมให้มาช่วยดูแลชาติแทนส่วนที่เป็นมะเร็ง 6ล้านที่ออกมาเย้วๆ คงไม่ไร้สาระมากหรอก แต่เราเลือกใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติ ก็คงนานแต่น่าจะยั่งยืน<br />
11 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ป่าวครัช ผมถามทำนองว่า ให้มีการเลือกตั้ง ก็เป็นประชาธิปไตยแร้นนิครับ 1 คน 1 สิทธิ์ 1 เสียง เท่ากัน ประชาชนจะเป็นคนเลือกเอง ว่าใครเป็นยังไง ส่วนนักข่าว แกนนำ ก็ทำหน้าที่แฉข่าวคราว เรื่องไม่ดีที่ฝ่ายตรงข้าวเค้าทำกัน สุดท้ายแล้ว ประชาชนคนไทย ทุกคน เป็นคนตัดสินใจ แบบนี้ไม่ถูกหรืออย่างไร แนะหน่อยนะครับ<br />
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : เงินทำให้กลไกมันเพี้ยน ถ้าระบบมันไม่ช่วยทำหน้าที่ตรวจสอบ ให้คุณธรรมของคนเป็นคนตรวจสอบเอง คนบ้านเรายังไม่พร้อมตรงนั้น นายลองดูญี่ปุ่นไต้หวันดิ แค่โกงเล็กๆ แถมยังไม่ได้พิสูจน์เขาก็อับอายจนผู้ว่าโตเกียวลาออกแร้น แต่หลังจากนี้ พี่หวังว่ากระแสมหาคลื่นพลังรักประเทศจะช่วยกัน upgrade ประเทศเรา<br />
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ขณะที่เราชี้อยู่ว่าขบวนการนี้โกง atm มันก็ไม่หยุดนะ<br />
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : พี่คิดว่า การตัดสินใจของคนส่วนใหญ่นั้นย์ ขึ้นอยู่กับเงินหราครัช คนไทย 67 ล้านคน ได้รับเงินมากกว่า 35 ล้านคนหรอครับ จะเป็นไปได้ไง<br />
10 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
บุคคลที่สาม : เค้าจ่ายเงินซื้อเสียงทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงคือซื้อผ่านหัวคะแนน อันนี้คงรู้แล้ว และ ซื้อตัว ส.ส.และซื้อพรรคเล็กๆยกพรรคเลยค่ะ ทางอ้อมคือซื้อผ่านประขานิยม เช่นโครงการต่างๆ ได้แก่รับจำนำข้าว<br />
<br />
ถ้าประชาธิปไตยจริง ทำไมต้องซื้อล่ะ เพราะมันเป็นการลงทุนเพื่อเข้ามามีอำนาจเพื่ออภิมหาคอรัปชั่นค่ะ ผลจากนั้นก็ต้องคิดต่อเอาเองค่ะ<br />
9 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
บุคคลที่สาม : แล้วถ้าบอกว่าใครๆเข้ามาก็โกง ถูกค่ะ แต่ระบอบทักษิณนอกจากโกงทั้งโคตรแล้ว พอเค้าจับได้ก็บอกว่ากลั่นแกล้ง แก้กฎหมายซะเลย ตั้งโต๊ะไม่ยอมรับอำนาจศาล แถมออกกฎหมายนิรโทษกรรม ยกโทษให้ตัวเองอีก อีกทั้งแบ่งแยกคนไทยโดยใช้เรื่องชนชั้นวรรณะมาปลุกระดม ใครเห็นต่างก็ทุบตีทำร้าย ถ่อย เผา ปล้น ฆ่า ไม่ติดคุก เพราะมีนักการเมืองชั่วหนุนหลังปกป้อง<br />
<br />
แล้วเป็นยังงี้จะให้เลือกตั้งกันไปก่อนอีกเหรอคะ มันก็กลับมาอีกเหมือนเดิม คราวนี้ ปชช. จะอยู่กันยังไง ยังไม่รวมเรื่องน้ำมันแพง แก๊ส ไฟฟ้า ประปา ขึ้นราคาตลอด แถมการศึกษาก็ตกต่ำสุดๆ<br />
9 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ที่จริง น้องมิเนี่ยนขอสรุปง่ายๆ นะ อันนี้เอาแบบ บทที่ 1 ของการโกงก่อนนะ การทำแบบนี้มีมาหลายร้อยปีแล้ว<br />
<br />
1. เพื่อนๆ 100 คนในหมู่บ้าน ลงขันกันคนละพัน ให้นาย "ก" มาเป็นคนทำให้งอกเงย และดูแลบ้านให้ทุกคน<br />
2. นาย "ก" แบ่งเงินเป็นส่วนดูแลบ้าน และหากำไร<br />
3. เอาเงินดูแลบ้านไปจ้างคนสวน แม่บ้าน ยาม ในราคาสูงก่าที่ควรจะเป็น โดยฮั้วกัน และได้คุณภาพห่วย ไม่สะอาด ไม่สวย และไม่ปลอดภัย (แต่พวกนี้มันวัดเป็นตัวเลขไม่ได้ เลยยากจะเปรียบเทียบ)<br />
4. เอาร้านมินิมาร์ทมาขายในหมู่บ้านให้ได้กำไรเพิ่ม ไปแอบเอาน้ำประปาคนสวนมากรองน้ำขาย ทำน้ำแข็งขายแพง แบบไม่มีใครเห็น เพราะไป tab จากท่อใต้ดินมาติดมิเตอร์วัดเอง(หรือไม่ติด) นอกหมู่บ้านขายถูกก่าแต่ห้ามคนไปซื้อ<br />
5. พอคนในหมู่บ้านจะโวยวาย ก็กลัวสมัยหน้านาย "ก" ไม่ได้รับเลือก เลยไปบอกพวกเสียงดัง ว่าเด๋วจะซื้อข้าวให้ราคาแพง แต่ลืมนึกไปว่า ซื้อมาแพงแร้นจะไปขายใคร ก็เลยปล่อยให้เน่าไป เงินก็จ่ายไม่ครบ อ้างว่าคลังโดนยึด 555<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ที่ถูกแก้ไข • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : บทอื่นๆ จะซับซ้อนก่านี้ เพราะมีแบบไปฮั้วกะหมู่บ้านข้างๆ ด้วย คนในหมู่บ้านจะเดินขบวนเรียกร้องก็ไปฟ้องผู้ใหญ่บ้านว่าไม่เป็นประชาธิปไตย แถมมีซื้อสื่อ โถ.. concept มันก็ง่าย เอาเงิน เอาทรัพย์สมบัติคนส่วนใหญ่มาจ่ายให้คนที่มีอำนาจในบ้านเมืองไม่กี่คน ยังเหลืออีกหลาย.. ไปซื้อสื่อ กะบริษัท lobbyist ต่างชาติได้สบาย<br />
9 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : สุดท้ายยยแล้ว ความจริงก็ต้องเป็นความจริง ข่าวคราวก็ออกมา มีการผันผวนทางความคิดประชาชน เมื่อรัฐบาลทักษิณถูกล้ม และรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ถูกตั้งขึ้นจากค่ายทหาร ซึ่งผมว่าคนก็คงอยากจะรู้ ว่าอภิสิทธิ์บริหารประเทศดีกว่าทักษิณหรือไม่ แต่พอเวลาผ่านไป ก็ยังมีการโกงกันอยู่ดี และก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมากมาย เมื่อมีการเลือกตั้งอีกครั้งนึง ประชาชนได้เห็นการทำงานของทั้ง 2 รัฐบาลแล้ว สุดท้ายยแล้ว ประชาชนส่วนมากนั่นแหละครับ ที่เลือกตามสิ่งที่เจอสิ่งที่เห็น<br />
<br />
สักวันหนึ่ง ถ้าเกิดมีคนที่เก่งๆ และไม่โกง เข้ามาลงเลือกตั้ง ผมว่าเค้าก็คงจะเลือกคนใหม่นั่นแหละครัช คอย 4 ปี แล้วเรามาเลือกตั้งใหม่ ไม่ดีกว่าหรือ ถ้าทุกอย่างยังอยู่ในประชาธิปไตย การเสนอ พ.ร.บ. ก็เป็นหน้าที่ของ ส.ส. ที่จะโหวตกัน แต่ก็มีคนออกมาประท้วงได้ตามหลักประชาธิปไตย และ พ.ร.บ. ก็ล้มไปแล้ว ถอดถอนออกไปแล้ว มันก็แสดงถึงหลักประชาธิปไตย ไม่ใช่เอาปืนมาจ่ออะไรตรงไหนเลยนิครับ<br />
<br />
ประชาชนเลือกมาแล้ว 4 ปีเลือกใหม่ คอยสิครับ<br />
<br />
ไม่ถูกหรอฮะ<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ครับ ถ้ารอได้นะ<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
อจ . : มะเร็งระยะสุดท้าย นายจะยังไม่รักษาตอนนี้ก็ตามใจ 555<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
อจ.: อย่างว่าแระ ที่นี่ถือว่า active น้อยแร้น พวกเราอยู่กันสบาย ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ไม่รู้สึกหรอก ถ้าเป็นมะเร็งตับ เราคงอยู่ตาตุ่ม<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : มะเร็งที่ว่านี้คือ ส่วนไหนของการเมืองครับ<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ในประเทศนี้ก็ไม่แน่ใจนะว่าประชาธิปไตยเสียงข้างมาก บนพื้นฐานของคนการศึกษาน้อยเป็นส่วนใหญ่ คนจนเป็นส่วนมาก จะเหมาะไหม เขาจะรู้ไหมว่าคนที่เขาเลือก ไว้ใจได้แค่ไหน คุณยายข้างบ้านทำอาหารอร่อย จ่ายภาษี แต่คงไม่มี skill เรื่องคัดเลือกคนดีๆ มาช่วยสอนลูกหลานเขา<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : มะเร็งคือส่วนที่ไม่ดีของร่างกายครับ แถมขยายตัวได้ ถ้าเป็นประเทศไทย สิ่งที่โดนกัดกินคือศีลธรรม ค่านิยม และสิ่งที่งอกเงยคือการโกง<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : 1 สิทธิ์ 1 เสียง เท่ากันครับ ความเป็นคนเท่ากันครับ คนคนนึงทำให้ชีวิตคนคนนึงดีขึ้น ถึงจะไม่จบปริญญาก็สามารถรู้ได้ครับ ว่าเค้าทำดีกับเรา นายกเข้ามาบริหารประเทศครับ ไม่ใช่เข้ามาสอนฟิสิกส์สอนอังกฤษที่ต้องให้คนมีความรู้เท่านั้นที่จะรู้เรื่อง<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ก็ได้ ถ้านายจะเอาคุณยายไปเลือกนายกน่ะนะ.. คุณยายมี 1 เสียง ทำอาหารอร่อยด้วย นายกที่นายเคย happy น่ะนะ เขาเนียน ทำให้คุณยายหลง 555 เขารุดิ ว่าจะทำไง เงินหมาศาล<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ความเจริญ แปลผกผันกับความเชื่อนิครับ คนเมื่อก่อนเค้าเปิดประตูบ้านไว้ ไม่มีโจร ไม่มีขโมย ของหล่น กลับไปหา ก็เจอครับ แต่เมื่อความเจริญมาถึง ความฉลาดมีมากขึ้นของคน ความโลภ ความอยาก ทำให้สังคมไทยเปลี่ยนไป ความเชื่อที่ว่า ขโมยของคนอื่นแล้วจะบาปกรรมติดตัว โกหกแล้วบาปกรรม มันเริ่มใช้ไม่ได้แล้วครัช หลักวิทยาศาสตร์มีมากขึ้นความเชื่อเริ่มหมดไป มีแต่กฎหมาย เท่านั้นครับ ที่จะบังคับไม่ให้คนทำผิด เมื่อโลกโซเชียลเข้ามามีบทบาท ประชาชนก็สามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนความคิด การถูกข่มเหงก็เริ่มจะทำไม่ได้<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม. 6 : ถ้าเค้าไม่ทำให้คุยยายมีชีวิตที่ดีขึ้น คุณยายก็ไม่เลือกหรอกครับ แต่ถ้านายกพูดเก่ง คุณยายอาจจะเลือก แต่ถ้าการกระทำไม่ดีตามคำพูด เลือกตั้งครั้งหน้า คุณยายจะไม่เลือกละครัชช<br />
8 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ถ้าทักกี้คิดตงไปตงมาแบบนายน่าจะดีคับ คนไทยส่วนใหญ่ก้อแบบนั้น dna แกคงเปน mutation<br />
7 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ไม่เกี่ยวกันครัช ไม่เกี่ยวกับทักกี้ละฮะ มันคือการเลือกคนบริหารประเทศโดยประชาชนส่วนมาก ถ้าไม่ถูกข่มเหง คนก็จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด<br />
7 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : คับ พี่สรุปเลยว่านายไม่เข้าใจนะ ถ้าอยากเข้าใจเด๋วเจอกันค่อยอธิบายอย่างละเอียด เรื่องนี้มันซับซ้อน มีหลายเงื่อนไข และทำกันมาหลายปี คน6ล้านคนก็ใช่จะเข้าใจทุกคน แต่ก็ดีที่กระแสมาทางนี้ ให้คนได้มีจิตวิญญาณสร้างชาติ<br />
7 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ไม่เข้าใจได้ไง ในเมื่อการคิดมันก็คิดไปตามหลักที่ถูกตั้งขึ้นมา มันจะผิดได้ไงครัช ระบบมันมายังไง ความเข้าใจก็เปนไปตามระบบสินะครับ และถ้าการไม่พอใจใครสักคน ทำได้โดยการออกมาประท้วง และต้องทำตามใจตัวเอง ครั้งหน้าถ้าฝั่งนึงขึ้นมาเปนนายก อีกฝั่งก็จะทำแบบนี้อีก เพราะคุณทำให้คนเห็นว่า มันทำได้ มันแหกกฎได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูก แต่ถ้าการเปนนายกไม่ได้มาจากประชาชน เวลานั้นแหละ ที่ประชาชนจะต้องลุกขึ้นมา ช่วยกัน<br />
7 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ถ้ามันเข้าใจง่ายๆ เราก้อไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก ดูแต่จำนวนเสียง เดะ จะโง่ ของจะแพง ธุรกิจสู้ต่างชาติไม่ได้ สุดท้ายก็เปนเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจ<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : พี่ไม่ยอมรับระบอบหนิครับ ระบอบประชาธิปไตย ที่เกิดจากเสียงคนข้างมาก ถ้ามันจริงอย่างพี่ว่า คนส่วนมากจะรู้สึกและจะไม่เลือกเค้าเข้ามาบริหาร และถ้ามีสิ่งที่ดีกว่าตอนนี้ ประชาชนก็จะเลือกเข้ามาเอง ไม่ใช่จะล้มกระดานแล้วเลือกคนที่ตัวเองคิดว่าดีเข้ามาแบบนี้ คุณจะตั้งใครขึ้นมาเองไม่ได้ คน กรุงเทพไม่ใช่คนทั่วประเทศ<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : ใช่ software มันมีรู แระมีคนใช้ประโยชน์จากมันทำร้านผู้คน 6ล้านและครอบครัวพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ยอมรับระบบ แบบที่ว่า ถ้านายจะเล่นตรงไปตรงมากะคนคดโกง ยังไงก็ไม่ชนะหรอก<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : ถ้าทำร้ายผู้คนจริง คนก็ไม่เลือกขึ้นมาเป็นรัฐบาล และผมว่า สิ่งที่จะทำได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยคือ ตั้งม็อบ ให้ความรู้ประชาชน พร้อมหลักฐาน ทำให้ประชาชนเชื่อจากหลักความจริง ประชาชนจะได้ไม่เลือกนายกคนเดิมอีกเมื่อครบ 4 ปี และถ้ามันเป็นความจริง และมีหลักฐานจริงๆ คนก็ต้องเชื่อครัช<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : หวังว่าคับ.. พวกนี้เวลามันโกงน่ะ เนียน นายจับยาก.. โกงถูก ก.ม.ด้วย 555 ได้บทเรียนแร้นว่าโกงผิด กม.ทำให้กลับประเทศไม่ได้<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
เด็ก ม.6 : อ่อ จับยากไม่ยากไม่รู้ แต่คนที่รู้ มันก็เปิดโปงเองแหละครับ แล้วรัฐบาลคู่แข่งจะเอาไปเป็นนโยบาย ว่าจะปิดช่องนี้ ถ้าคนเห็นด้วยว่ามันถูกต้อง คนก็จะเลือกใน 4 ปีข้างหน้า และรัฐนั้นก็จะปิดช่องโหว่เอง<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว ผ่าน มือถือ • ถูกใจ<br />
<br />
อจ. : สื่อมีอิทธิพลมากเกินไป<br />
6 ชั่วโมงที่แล้ว • ถูกใจ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
>> ผมว่าเด็ก ม.6 มันสอน อจ. มากกว่า ไม่ใช่คุยกันร๊อก<br />
<br />
>> เด็ก ม.6 มันอยู่กับความเป็นจริง แต่ อจ. มันตะแบง เหมือนคนทั่วๆไปที่บอกว่าทักษิณโกง พอถามว่าโกงอะไร ตอบว่า ไม่รู้ แล้วทำไมบอกว่าเขาโกงล่ะ ก็เห็นคนเขาพูดกันอย่างนั้น.. อาจารย์คนนี้ก็คงไปได้ยินเขาพูดกันอย่างนั้นเหมือนกัน..<br />
<br />
>> อัตตาสูงมากครับ เจอกับตัวสดๆ ร้อนๆ เพื่อนสลิ่มผมเอง พอพูดเรื่องการเมืองนิดนึง หล่อนแถเข้าป่าเข้าดอยไปหมด พูดได้อย่างเดียวว่าทักษิณโกงๆๆๆๆ ยิ่งลักษณ์โง่ๆๆ แต่พอถามโกงอะไร โง่ยังไง ตอบไม่ได้ พอผมบอก อ้าวสุเทพก็โกงรัฐบาลก่อนก็โกง โรงพักก็สร้างไม่เสร็จ เพื่อนมันแถต่อว่า มูลค่ามันต่างกัน ทักษิณโกงเยอะกว่า ชาติเสียหายมากกว่า ...เอากับหล่อนสิครับ<br />
<br />
พอผมบอกว่า ไปทวงเขาแพงให้หน่อย นั้นก็สมบัติชาติ เงียบ หน้าตาขึงขัง จนผมกลัวว่าหล่อนจะทนไม่ไหวเอานกหวีดมาเป่าใส่ผม อิอิ ผมก็เลยเงียบ รู้แล้วว่า พวกนี้คลั่งไปแล้ว พูดไปเสียน้ำลายเปล่าจริงๆ<br />
<br />
ทั้งๆ โคตรเหง้าตัวเองก็คนชนบท มันไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอว่าเขาด่า ดูถูกโคตรเหง้าตัวเองอยู่ ...เพลียใจมาก<br />
<br />
>> ผมไม่แปลกใจเลยกับการศึกษาไทยที่ล้มเหลวอยู่ทุกวันนี้ที่พากันโทษหลักสูตร ในเมื่อตัวปัญหามันอยู่ที่คนเอาหลักสูตรไปใช้มันเข้าใจจุดมุ่งหมายของหลักสูตรและวิธีใช้มั้ย ผมเห็นแต่พวกมันบอกหลักสูตรห่วย ต้องเตรียมประเมินนั่น นี่ นู่น ไม่มีเวลาสอน ตกลงไอ้ที่ทำเอาวิทยฐานะนี่ไม่ได้มาจากการดัดแปลงเพื่อให้ความรู้แก่เด็กแต่เป็นการนั่งเทียนเอาแล้วให้เค้าประเมินว่างั้น<br />
<br />
สรุปสุดท้ายคือโมเมทั้งนั้น แจ่มจรัส!! ขนาดครูมันยังคิดไม่ได้ แล้วมันจะสอนวิธีคิดให้เด็กได้ไง มันถึงเจริญสุดๆอย่างนี้ไงการศึกษาไทย ตัวอย่าง ไอ้ครูสมองเป็ดในกระทู้นี้เป็นตัวอย่าง ยกตัวเองข่มคนอื่นหลักการอลังการโก้หรู แต่เอาความจริงมาพูดแค่ครึ่งเดียว อนาถจริงๆวงการ การศึกษาของทุยแลนด์<br />
<br />
>> น้อง ม.6 นี่ มีหัวคิดมากกว่าอาจานอีกนะ ดูคำพูดอาจานแกยังกะเด็กแว้นซ์ วนไปวนมาอยู่กะทักษิณแล้วก็เรื่องโกงอยู่นั่นแหละ<br />
<br />
พวกม็อบเปรตนี่ขาดหลักการเลยมีต้องพยายามจะหาเหตุผลมารองรับการกระทำของตัวเอง ทีนี้เด็กมันมีหลักการมากกว่า มันก็เลยเถียงได้เป็นเรื่องเป็นราว<br />
<br />
>> ตอนจบ ผมแอบถามมาให้แล้ว<br />
<br />
น้องเขาบอก เห็นว่า อจ. คุยตอบน้อยลงเรื่อยๆ จึงให้เกียรติไม่ขอรุกต่อ<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2549crisis.blogspot.com/2014/01/2544-2549.html" target="_blank">ทักษิณ บุรุษผู้โง่เขลา เบาปัญญา..นายกรัฐมนตรีปี 2544-2549</a>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-35103200236972663062013-12-26T11:28:00.002+07:002014-01-06T16:17:54.943+07:0036 อัลบั้ม 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/hn/aa111.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/he/aa222.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/hy/9l333.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/en/aa444.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/ls/aa555.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/42/aa666.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/nv/aa777.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/x9/ry113.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/vr/dk223.jpg" /></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต<br />
และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</strong></span><br />
<center><img style="max-width: 540px;"src="http://upic.me/i/g1/aa999_1.jpg" /></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-70862141153540750202013-09-16T00:20:00.002+07:002013-10-13T22:30:19.070+07:0035 คนแก่...(แดงชรา) ชอบเล่าเรื่องอดีต<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/04.html" target="_blank">พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.616360008378025.1073741827.100000120933242&type=1&l=e36f6511ea" target="_blank">เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/03/05-2.html" target="_blank">ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/08.html" target="_blank">เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/09.html" target="_blank">ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/11.html" target="_blank">อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/12.html" target="_blank">ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ตราตาชั่งเอียงสีฟ้า</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/13.html" target="_blank">เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/14.html" target="_blank">คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/05/15-312.html" target="_blank">จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น<br />
<center><a href="http://upic.me/i/xx/tyui839.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/hc/tyui515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/jp/126untitled.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ระลึกถึงอดีต 40 กว่าปีที่แล้ว</span></strong><br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> เว็บprachatalk.com<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2013/08/34.html" target="_blank">ความเสียใจที่ไม่มีวันลืมของแดงชรา</a><br />
<br />
15/09/2013 : นานๆ จะตั้งกระทู้สักที ไม่เหมือนก่อน<br />
<br />
สงสัยยิ่งแก่ก็ยิ่งขี้เกียจเขียน...แต่ ชอบอ่านหนังสือ และอยู่หน้าคอมฯทุกวัน<br />
<br />
ชีวิตคนแก่วัย 56 อย่างผมคงขาดหนังสือและคอมฯไม่ได้ ใครที่อายุไล่เลี่ยกับผมเป็นแบบนี้ไหมครับ?<br />
<br />
คนแก่ชอบเล่าเรื่องอดีต อันนี้เรื่องจริง<br />
<br />
เมื่อก่อนเป็นเด็กก็สงสัยว่าทำไมย่า ยาย แม่ ชอบเล่าเรื่องราวต่างๆตั้งแต่เรายังไม่เกิดให้ฟัง<br />
<br />
ไอ้เราเป็นเด็ก ก็ชอบฟังนะสำหรับผมมันสนุกดี<br />
<br />
พอตัวเองเริ่มแก่ลง นั่นไงเริ่มพูดเรื่องอดีตให้คนลูกๆฟัง<br />
<br />
ตอนนี้อยู่กับลูกชายสองคน ก็มันนั่นแหละที่ผมมักเล่าอะไรให้ฟังบ่อยๆ<br />
<br />
บางครั้งมีเคืองกันบ้าง เพราะมันชอบบอกว่า<br />
<br />
"เรื่องนี้ซ้ำครับ ฟังมาสองสามรอบแล้ว"<br />
<br />
นี่แค่เคืองมันนะ แต่ที่เริ่มเอะอะกันก็อีตรงมันพูดไปยิ้มขำผมไปนี่ซี...น่าตบกะโหลกมั้ย?<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/hz/4439586601_995720d3e9_q.jpg"></center><br />
เอ้า.. มาเข้าประเด็นที่ผมจะแบ่งปันให้ เพื่อน สมช.ฟังกันสักที<br />
<br />
เมื่อสมัยผมอายุได้สิบต้นๆ เวลาปิดเทอมใหญ่ จะต้องช่วยแม่ขายของครับ แม่ผมขายผ้าตัดเสื้อ โดยเอาผ้าพับเป็นชิ้นๆใส่ตะกร้า หิ้วสองมือขาย ผมก็หิ้วตะกร้าขายผ้าเหมือนแม่ ส่วนมากเราจะไปขายตาม ตจว. ไปทุกภาค เหนือ ใต้ ออก ตก ตะวันออก แดงชราเดินขายผ้ามาแล้ว<br />
<br />
เรื่องราวต่างๆ ที่มีประสบการณ์มา จึงอยู่ในความทรงจำของผมมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวต่างๆ บางทีเป็นเรื่องราวที่จดจำเพราะ น่ากลัว ประทับใจ และ หลอนๆ ใครเชื่อบ้างว่าผมเคยเจอศพคนตายในโรงแรม<br />
<br />
บรึ๊อ...<br />
<br />
เอาเรื่องที่ผมกลัวที่สุดก่อน<br />
<br />
ตอนนั้นอายุน่าจะประมาณ 12 ผมกับแม่ไปขายผ้าที่ อ.ชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช จำได้ว่าพักอยู่ที่โรงแรมในตัวจังหวัด เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ต้องนั่งรถไฟไปที่ชะอวด<br />
<br />
พอถึงและลงจากรถไฟเสร็จ แม่กับผมก็เข้าไปกินอาหารเช้าที่ร้านข้าวแกงแถวๆสถานีรถไฟ<br />
<br />
พอกินข้าวเช้าเสร็จแม่ผมก็จัดแจงวางแผนการตลาด<br />
<br />
"ไอ้หนู แกไปเดินขายฝั่งนู้นนะ แม่จะขายฝั่งนี้ พอสามโมงเย็นกลับมาเจอกันที่สถานีรถไฟ เพราะรถไฟเที่ยวสุดท้ายจะออกตอนสี่โมงเย็น"<br />
<br />
"จ้าแม่"<br />
<br />
พอเราวางแผนการตลาดเสร็จ เราก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่ ผมออกเดินไปตามอีกฟากถนน ใจก็ตุ๊มๆต่อมๆ<br />
<br />
เพราะนี่เป็นการค้าขายครั้งแรกของผม ใจก็ท่องถึงหลักการขาย ตามที่แม่สอน<br />
<br />
"ไอ้หนู แกเดินไปตามบ้านและคอยดูว่ามีผู้หญิงอยู่ไหม ถ้ามีแกก็เรียกเขาว่า พี่ ป้า น้า อา ตามอายุเค้า แล้วก็บอกเค้าว่า พี่..ครับ ผมมีผ้าตัวอย่างมาขายจาก กทม. สวยๆทั้งนั้นเลยครับ พี่สาวชมก่อนนะครับผมจะเอาออกมาให้ดู"<br />
<br />
ผมเจอบ้านหลังแรกรู้สึกว่าจะเป็นเรือนไม้กระดาน ชั้นเดียวมีระเบียงหน้าบ้านกว้างขวาง ที่สำคัญเห็นผู้หญิงอายุประมาณสามสิบกว่านุ่งกระโจมอก ยืนอยู่ในบ้าน ผมก็เริ่มทำตามหลักการสอนของแม่<br />
<br />
"น้าครับ ผมมีผ้าตัดเสื้อตัวอย่างมาขาย เอามาจาก กทม.ครับ สวยๆทั้งนั้นเลย น้ามาชมก่อนนะครับผมจะเอาออกมาให้ดู"<br />
<br />
น้าคนนั้นแกมองหน้าผม ที่จริงมองทั้งตัว แต่แกยังไม่พูดอะไร ผมก็ตีเนียนเดินขึ้นไปนั่งป๋อบนระเบียงบ้านแก แล้วก็จัดแจงเอาผ้าที่ใส่ไว้ในตะกร้าออกมาคลี่วางคอยให้แกมาดู<br />
<br />
ผมยิ้มแย้มให้แกตามหลักการตลาดที่แม่สอน แต่ผมว่าผมคงยิ้มแหยสิ้นดีในตอนนั้น ก็ผมเขิลนะ<br />
<br />
น้าแกเดินมา แต่แกไม่มองผ้าที่ผมวางไว้เลยสักนิด แกได้แต่มองหน้าผมแล้วก็ถามผมว่า<br />
<br />
"มาจากกรุงเทพรึ ตัวเท่านี้มาขายของแล้ว อายุเท่าไหร่ ไม่เรียนหนังสือหรือ" สำเนียงที่แกพูดก็เป็นสำเนียงใต้ แต่ผมพอฟังออก<br />
<br />
"หนูปิดเทอมครับ เลยมาช่วยแม่ขายของ จะได้มีเงินจ่ายค่าเทอม" (นี่ๆหลักการขายที่คุณนายแม่ท่านสอนมา)<br />
<br />
ได้ผล น้าแกเริ่มหันมามองผ้าที่ผมวางไว้ แล้วแกก็หยิบมาดู แกเลือกไว้สองสามผืน แล้วแกก็บอกผมว่า<br />
<br />
"ผ้าสวยดี เดี๋ยวน้าไปเรียกเพื่อนบ้านมาดู เผื่อเขาชอบใจจะได้ช่วยซื้อ จะได้มีเงินไปจ่ายค่าเทอม"<br />
<br />
ไม่นานหลังจากนั้นผมก็ถูกรุมล้อมด้วยพี่ ป้า น้า อา ซึ่งอยู่แถวๆนั้น ผมขายผ้าได้ดีมาก จนตะกร้าเบาไปเยอะ แล้วผมก็ออกเดินตะเวนขายบ้านหลังต่อๆไป<br />
<br />
เดินไปพูดไป วางผ้า พับผ้า จัดผ้าใส่ตะกร้า คิดตังค์ ทอนตังค์ จนเที่ยงหิวแล้ว เลยแวะเข้าริมทางกินข้าวผัดกับน้ำแข็งเปล่าหนึ่งแก้ว เสร็จแล้วก็ ออกเดินต่อ<br />
<br />
ทีนี้ไอ้ความเป็นเด็ก หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ง่วงนอนแต่ไม่รู้จะไปนอนที่ไหน มองไปมองมาเจอพุ่มไม้อยู่ข้างทาง เอาตะกร้าผ้าเสือกเข้าในพุ่มไม้ พร้อมทั้งเสือกตัวเข้าไปนอน หลับสนิทเลย<br />
<br />
มาคิดดูอีกทีตอนนี้ ตอนนั้นโชคดีจัง งูเงี้ยวก็ไม่มี คนคิดไม่ดีก็ไม่มี ถ้าเป็นสมัยนี้ สงสัยทั้งกระเป๋าตังค์และตะกร้าผ้าผมคงหายเกลี้ยง<br />
<br />
พอรู้สึกตัวตื่นก็ตอนบ่ายแก่ๆ ผมก็มุดออกมาจากพุ่มไม้นั้น เดินขายผ้าต่อ<br />
<br />
บ้านสุดท้ายที่ผมเข้าไปขาย มีลูกค้ามาเยอะมา ขายดิบขายดี คนละสองสามชิ้น ผมมองนาฬิกาข้อมือ นี่มันใกล้จะบ่ายสามแล้ว แต่ลูกค้ายังเลือกผ้ากันอยู่ จะบอกเลิกขายก็เสียดายตังค์<br />
<br />
คนนั้นเอาเท่านี้ คนนี้ต่อราคา คิดตังค์ทอนตังค์จนผมลืมเวลาไปเสีย มารู้สึกตัวอีกทีก็เห็นแม่เดินตามมาถึงบ้านที่ผมขายผ้าอยู่<br />
<br />
"แม่คอยแกตั้งแต่บ่ายสาม นี่บ่ายสี่แล้วเห็นแกหายเงียบไปเลยออกมาตามดู รถไฟคงไปแล้ว คืนนี้กินข้าวลิงกันแหงไอ้หนู"<br />
<br />
ตอนแรกนึกว่าจะโดนแม่ด่าหรือหยิก แต่แกยิ้มแล้วก็มารับช่วงขายผ้าต่อจากผม<br />
<br />
ตอนเราเดินกลับสถานีรถไฟ ตะกร้าผมแทบว่างเปล่า ผมเอาเงินค่าขายผ้าที่ได้ในวันนั้น ทั้งหมดรู้สึกจะประมาณ 380 ยื่นให้แม่ด้วยความภาคภูมิใจที่สุด แม่รับเงินไปแล้วพูดกับผมยิ้มๆว่า<br />
<br />
"อืม..แกเก่ง"<br />
<br />
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกกลัว จนจำมาถึงทุกวันนี้ก็คือตอนที่กลับไปสถานีรถไฟนี่แหละ เข้าประเด็นล่ะนะ<br />
<br />
พอกลับมาถึงสถานีรถไฟก็ปรากฏว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายไปแล้วจริงๆ นายสถานีเขาบอกว่าจะมีอีกเที่ยวก็นู่น ตอนห้าทุ่ม<br />
<br />
เราสองคนแม่ลูกรู้สึกหิว แม่ผมบอกกับผมว่า<br />
<br />
"ไอ้หนู ไปซื้อโรตีมากินกันไป๊"<br />
<br />
ผมก็เดินไปซื้อโรตีจากร้านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ ผมเห็นคนขายเป็นสองผัวเมีย และพวกแกคงเป็นมุสลิม แกยิ้มให้ผมทั้งสองคนเมื่อผมบอกว่าขอซื้อโรตีสองแผ่น<br />
<br />
ระหว่างที่ผัวแกทำโรตี เมียแกก็ชวนผมคุย ว่าผมมาจากกรุงเทพฯหรือ อ้อ..ปิดเทอมเลยมาช่วยแม่ขายของ แล้วแกก็พูดกับผมว่า<br />
<br />
"หนู มาอยู่กับป๊ะ และม๊ะมั้ย เราสองคนไม่มีลูก อยากได้หนูมาเป็นลูก นี่นะถ้ามาเป็นลูกป๊ะกับมะ จะไม่ให้หนูมาเดินขายของตากแดดร้อนๆเลย ป๊ะกับม๊ะจะเลี้ยงหนูอย่างดี"<br />
<br />
ผมตกใจครับ ต้องเข้าใจว่าผมอายุแค่ 11-12<br />
<br />
และที่ทำให้ผมตกใจยิ่งไปอีกก็ตอนที่ผมรับโรตีจากแก แล้วแกไม่เอาสตางค์ แกบอกให้ฟรี แล้วเดี๋ยวแกจะมาขอผมกับแม่<br />
<br />
ผมรีบวิ่งไปหาแม่แล้วเล่าให้แม่ฟังว่าสองคนผัวเมียเขาพูดอะไรกับผม ผมคิดว่าแม่ต้องแสดงความรู้สึกโกรธ ที่ใครจะมาเอาลูกไป แต่แม่ผมกลับยิ้มแล้วย้อนถามผมว่า<br />
<br />
"แกจะไปอยู่กับพวกเขามั้ยล่ะ ถ้าจะไปก็จะให้ไป"<br />
<br />
ผมตอบแม่ว่า ไม่..ไม่ไป แต่แม่ก็ยังยิ้มอยู่ แล้วผมก็เห็นม๊ะเดินจากร้านโรตี ตรงมาที่แม่ ตอนนั้นผมใจหายว๊าบ เพราะรู้ว่าเขาคงมาขอผมจากแม่ แล้วแม่จะยกผมให้พวกเขา ผมต้องทำอะไรสักอย่าง<br />
<br />
แล้วสิ่งที่ผมคิดว่าดีที่สุดที่จะทำได้คือหนีไปแอบ จะหนีไปแอบที่ไหนดีนะ ผมคิด แล้วผมก็มองไปที่ในสถานีรถไฟ ตอนนั้นประตูที่จะเข้าไปในสถานีเปิดอยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปในนั้น แล้วไปแอบใต้เคาน์เตอร์ที่ขายตั๋ว พยามอยู่นิ่งๆ และเงียบที่สุด<br />
<br />
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพนักงานขายตั๋วรถไฟแกไม่ไล่ผมออกมา ผมเห็นแกนั่งซดน้ำชายิ้มๆ แต่ไม่พูดอะไร<br />
<br />
ผมไม่รู้หรอกว่าแม่ผมกับม๊ะเค้าคุยอะไรกัน แต่รู้สึกว่าเวลามันนานมาก แล้วลุงที่ขายตั๋วรถไฟก็เดินมาหาผมแล้วบอกผมว่า<br />
<br />
"ไอ้หนูแม่เอ็งเดินหาเอ็งอยู่"<br />
<br />
"แม่อยู่คนเดียวหรืออยู่กับม๊ะที่ขายโรตีครับลุง"<br />
<br />
"แม่เอ็งอยู่คนเดียว"<br />
<br />
ผมจึงค่อยๆโผล่หัวออกมาแอบมอง เห็นแม่เดินไปเดินมาแกคงกำลังหาผม แล้วแม่ก็อยู่คนเดียวจริงๆ ผมเลยเดินออกไปหา<br />
<br />
"นึกว่าหายไปไหนที่แท้ไปอยู่ในสถานี ฉันหาแกจนทั่ว"<br />
<br />
"แล้ว แม่จะยกหนุให้มะหรือเปล่า"<br />
<br />
"เปล่า ฉันไม่ได้ยกแกให้เขา ฉันบอกเขาว่าถ้าไม่มีแก ใครจะช่วยฉันดูแลน้องของแก แล้วช่วยฉันขายของล่ะ"<br />
<br />
ผมถอนใจอย่างโล่งอก และกลับมานั่งคอยรถไฟกับแม่<br />
<br />
ระหว่างนั้นผมหลับๆตื่นๆ แต่ทุกครั้งที่ผมตื่นผมไม่กล้าหันกลับไปมองที่ร้านขายโรตีนั่นแม้แต่นิดเดียว แล้วผมก็พยายาม อยู่ใกล้แม่ให้มากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้<br />
<br />
จังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนั้น สำหรับผมเป็นเมืองที่น่าอยู่ ผู้คนมีน้ำใจ แม้แต่เด็กตัวเล็กๆอย่างผมในตอนนั้น ก็สามารถเดินไปขายของตามลำพังได้ ไม่มีภัยอันตรายใดๆ (ถ้าไม่นับเรื่องที่โดนคนมาขอเอาไปเป็นลูก) ผมมีความประทับใจกับอาหาร ความสงบ และธรรมชาติต่างๆที่สวยงาม ผมเชื่อเสมอว่าคนชนบทมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มากกว่าคนกรุง<br />
<br />
ผมจะฝันเฟื่องไปไหม ถ้าผมจะบอกว่าผมอยากพบอยากเห็นสิ่งดีงามต่างๆที่ผมเคยพบมาเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้ว<br />
<br />
ลึกๆแล้วผมเชื่อว่า ความฝันของผมคงไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้า..คนไทยทุกคน เริ่มกลับมาทำความรู้จักกับคำว่าน้ำใจ และมิตรภาพ<br />
<br />
จบสำหรับเมืองนครฯในวันนี้ครับ โอกาสหน้าผมอาจจะพาท่านไปภาคเหนือ อีสาน ฯลฯ ถ้าผมไม่ขี้เกียจเขียนซะก่อน<br />
<br />
ขอบคุณเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและอ่านกระทู้ครับ<br />
<br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>รอยจูบแรกของฉัน</span></strong><br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> เว็บprachatalk.com<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://upic.me/i/g4/dang20shara.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="257" q6="true" src="http://upic.me/i/g4/dang20shara.jpg" width="180" /></a></div>9/07/2010 : ขอเขียนเรื่องเบาๆ คลายกระแสความเครียดที่กำลังเกิดขึ้นกับผมและเพื่อนๆหลายๆคนนะครับ หวังว่าคงพอคลายเครียดได้บ้าง<br />
<br />
เมื่อตอนผมอายุได้ 7-8 ขวบผมจะถูกแม่ใช้ไปซื้อของที่ร้านชำแถวบ้านบ่อยๆ สมัยนั้นผมอยู่แถวถนนตก แต่ผมมักจะไม่ค่อยไปตามคำสั่งแม่เพราะ ผมกลัว...<br />
<br />
แม่ผมแกเป็นคนดุ ผมเลยโดนฟาดบ่อยๆที่ทำอิดออด การถูกแม่ตีด้วยไม้เรียวเจ็บไม่ใช่น้อยและไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ ผมเลยต้องเลือกเอาระหว่างไม้เรียว หรือโดนจับตัวไปจูบ...จากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอายุมากกว่าผม 10 ปี<br />
<br />
พี่คนนี้ชื่ออ้น แกเป็นคนผิวคล้ำ อวบ ก็น่ารักดีนะสำหรับความคิดผมเมื่อโตขึ้น แต่...ตอนนั้นผมไม่ชอบแกเลย ถึงขั้นกลัวเพราะแกจะคอยจ้องว่าผมจะเดินผ่านหน้าบ้านแกที่ขายเมี่ยงคำเมื่อไหร่<br />
<br />
ไม่ว่าผมจะแอบ จะหนีอย่างไรก็ไม่เคยพ้นสายตาแกสักที เมื่อแกเห็นผมแกจะรี่เข้ามาแล้วกอดผมไว้ ผมพยายามดิ้นรนเพื่อหนีแก แต่แกตัวใหญ่กว่าผม ผมสู้แรงแกไม่ได้ แกจะหัวเราะชอบใจที่เห็นผมแสดงกิริยาเช่นนั้นแล้วพูดกับคนที่อยู่แถวนั้นว่า<br />
<br />
"ไอ้...มันน่ารักดี เลยชอบหอมแก้มมัน มันยิ่งกลัวเรายิ่งแกล้งสนุกดี"<br />
<br />
แล้วผมก็จะถูกแกกอดรัดฟัดเหวี่ยงและหอมแก้มทุกวัน พอแกหนำใจแล้วก็ปล่อยผมไป ผมจะร้องไห้แล้วเอามือเช็ดแก้มตัวเองเพราะความโกรธและรังเกียจที่สุด พี่อ้นและผู้ใหญ่ทุกคนที่เห็นจะหัวเราะเพราะขำผมทุกครั้ง มันยิ่งทำให้ผมโกรธและกลัวพี่อ้น จนจิตแทบหลอน<br />
<br />
และนี่คือจูบแรกของผมที่ได้รับจากผู้หญิงอื่น ที่ไม่ใช่แม่หรือญาติผู้ใหญ่ของผม มันไม่ประทับใจเลยสักนิดเดียว ผมยังจำความรู้สึกของตัวเองในตอนนั้นได้ดีมาจนถึงทุกวันนี้<br />
<br />
ก่อนผมจะย้ายมาจากถนนตกผมมีลูก ๒ คนแล้ว พี่อ้นก็มีครอบครัวและลูกชาย 2 คน ถึงอย่างนั้นเวลาเราเจอกันโดยบังเอิญแกก็ยังชอบแหย่ผมบ่อยๆว่า<br />
<br />
"เฮ้ย...มาให้พี่หอมทีหนึ่งไอ้..."<br />
<br />
แล้วเราสองคนจะหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆกัน เพราะยังจำถึงวันเก่าๆที่ผ่านมาได้ดี ผมไม่เจอพี่อ้น ผู้หญิงคนแรกที่จูบผมเลยตั้งแต่ปี 2532 ตอนนี้ผมอายุ 52 พี่อ้นก็คงปาไป 60 กว่าแล้ว<br />
<br />
เพื่อนๆล่ะครับ ยังจำความรู้สึกถึง รอยจูบครั้งแรกในชีวิตได้ไหม เอามาแชร์กันแก้เครียดบ้างนะครับ สำหรับผมจูบครั้งแรกมันลืมไม่ลงจริงๆ จ้า<br />
<br />
อิอิ...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ไหมไทย maithai</span> : ถ้าพี่อ้นเป็นสาวสวย คุณลุงอาจจะบอกว่าพี่สาวครับ...อะไรเงี้ยอ่ะค่ะ อิอิ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> : พี่อ้นแกก็สวยนะครับ แต่ความรู้สึกตอนนั้นผมเหมือนโดนแกล้ง ผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับครับ แดงชรามีความเป็นส่วนตัวสูงในบางครั้ง หนูไหมพี่อ้นเขาแกล้งผมต่อหน้าคนเยอะแยะ ผมอายครับ แต่ตอนนี้ผมเข้าใจพี่อ้นแล้ว แกคงแค่อยากจะหยอกไอ้แดงเด็กที่เงียบๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใครเล่นเท่านั้นเอง<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ไหมไทย maithai</span> : ไหมเข้าใจค่ะ คุณลุงแดงขี้อาย แล้วก้อรู้สึกไม่ยินดีที่จะให้ใครมาทำอย่างนั้นนะคะ โดยเฉพาะคนนั้นเป็นผู้หญิง อิอิ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> : ไม่ถูกทั้งหมด แต่ใกล้เคียง<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ไหมไทย maithai</span> : อิอิอิ ยกเว้นตอนโตแล้วงัยคะ กะคนที่พอใจนะคะ ไม่ใช่รู้สึกเหมือนถูกบังคับแล้วใครๆหัวเราะเห็นเป็นเรื่องตลก อิอิ<br />
<br />
แหม...จูบแรกคุณลุงแดงไม่ยักกะเหมือนในนิยายโรมานซ์ ไหมว่าอย่าไปนับมันเลยค่ะ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: MonkeyLuffy</span> : ลุฟฟี่ว่า..มันเป็นความทรงจำที่ดีนะครับ ก็อย่างเมื่อเรายังเป็นเด็ก พ่อ-แม่มักจะให้เรานอนหัวค่ำ-ห้ามกินขนมก่อนกินข้าว ช่วงนั้นมันอาจจะโหดร้ายทารุณ สำหรับเด็กๆ แต่พอเราโตขึ้นถึงได้รู้ว่าเป็นเรื่อง จิ๊บ-จิ๊บ..กอด-จุ๊บ มันก็มีนัยยะมากกว่าคำว่าเกี่ยวกับเพศ เวลาเราเป็นห่วงเพื่อนๆเพศเดียวกัน เมื่อเจอเราจะวิ่งไปกอดเค้าตามสัญชาติญาณ (แต่คงไม่คิดจะจุ๊บ กลัวคู่กรณีรับไม่ได้) อาจเป็นเพราะผู้ชาย เป็นเพศที่ไม่กล้าแสดงออกก็ได้...อิอิอิ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> : เสียดายอ่ะลูฟฟี่ พอผมโตขึ้นดันไม่มีใครมาทำแบบพี่อ้น...<br />
<br />
เดี๋ยวนี้สาวๆเห็นแดงชรามีแต่วิ่งหนี<br />
<br />
อิอิ...<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="//www.youtube.com/embed/00H0fuNPAvU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
พี่วุฒิครับ...ผมเคยมีพี่ชายพ่อแม่เดียวกัน แต่...แม่แท้งไปเสียก่อน ผ่านมาได้ไม่ถึงปีแม่ก็ตั้งท้องผม ผมเลยเปรียบเหมือนลูกโทนของพ่อ...ยามผมทุกข์ใจ และอยากมีใครสักคนผมมักจะนึกถึงพี่ชาย...ที่ผมไม่เคยเห็นหน้า ผมเชื่อว่าหากพี่ชายผมมีชีวิตอยู่...พี่ชายคงรักผมเช่นที่ผมรักพี่ชาย ไม่รู้ซิ...ผมคิดตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามาในนี้ว่า พี่วุฒิเป็นพี่ชายที่แสนดีของผม<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="//www.youtube.com/embed/0qQaJGdOXZo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน ว่าหนักแค่ไหนบนหนทางสู้ ยังมีคำปลอบโยน ยังมีคำปลอบใจ มีคำว่าซำบายดีบ่ให้กันเสมอ...<br />
<br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตัวผมเอง</span></strong><br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> เว็บprachatalk.com<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href=" http://upic.me/i/5p/lotus.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="161" q6="true" src="http://upic.me/i/5p/lotus.jpg" width="200" /></a></div>13/10/2013 : วันนี้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง เหมือนเคย ไม่ใช่เรื่องของผู้ใด มันเป็นเรื่องของตัวผมเอง<br />
<br />
ผมเห็นว่าผมทำ...แล้วได้ผลดี เลยอยากเอามาเล่าสู่ให้เพื่อนๆ สมช.ฟัง อ่านจบแล้ว เพื่อนๆ คิดว่าผมได้ชัยชนะมั้ยครับ<br />
<br />
จะค่อยๆ เขียน จะได้ไม่เขียนผิดๆ ถูกๆ เหมือนครั้งก่อนๆ แต่ ขอออกตัวก่อนว่า สายตาผมไม่ค่อยดีครับ แฮ่...ผมแกเลี้ยวครับ<br />
<br />
ใครเชื่อเรื่องบุญกรรมบ้าง... ถ้าคนที่เชื่อเรื่องนี้จะเข้าใจในเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไป ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ถือว่าอ่านเล่นๆ คั่นเวลาว่างก็แล้วกันนะครับ กรุณาอย่าถกเถียงกัน เพราะสิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เกิดกับผมจริงๆ ไม่ใช่นิทาน<br />
<br />
เมื่อครั้งเกิดวิกฤติในชีวิตผม ตอนปี 47 ผมพกความแค้นเอาไว้กับตัวและใจของผมมาก คิดดูก็แล้วกันว่ามันน่าแค้นใจมั้ย คนข้างตัวคิดจะฆ่าผม เขาฆ่าผมโดยไม่ใช้อาวุธ หรือยาพิษ แต่เขาเจตนาฆ่าให้ผมตาย ด้วยการะกระทำ และคำพูด<br />
<br />
เปรียบเหมือนกับว่าเขาหยิบมีดขึ้นมา แล้วส่งให้ผมเอาไปแทงหัวใจตัวเองให้ตาย คุณคิดว่าผมทำตามเจตนาของคนๆนั้นมั้ยครับ<br />
<br />
เกือบโง่ทำครับ แต่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัวตาย...ที่มันยังหลงเหลืออยู่ในสัญชาติฌาณ ของความเป็นมนุษย์๋ ที่ย่อมมีความรักชีวิตของตน หรือเป็นเพราะความรัก ความเป็นห่วงที่ผมมีต่้อ ลูกๆ และ แม่ ก็ไม่รู้ ที่ทำให้ผมไม่เลือกเดินตามทางที่ใครคนนั้น ยั่วยุให้ผมทำ<br />
<br />
ผมมีความรู้สึกอยู่สองอย่างในตอนนั้น คือ ตายๆไปซะเหอะ ปัญหามันหนัก เสียใจที่สุด ทรมานและเจ็บปวด หรือ ฆ่า...แม่งให้ตายไปเลยทั้งสองคน คนสองคนที่ทำให้ผมมีปัญหา พอผมเลือกที่จะอยู่ต่อ จิตที่อาฆาตแค้นมันก็บอกผมว่า ฆ่าพวกมันซะ<br />
<br />
ก่อนทำผมก็ไปปรึกษาญาติผู้ใหญ่ผมที่แกไม่ธรรมดา แกโหดมาก่อน แต่ตอนนี้แกหักเขี้ยวหักเล็บตัวเองหมดแล้ว จากเสือกลายเป็นแมวน่ารักของภรรยา ฮ่าๆ<br />
<br />
"อาหนูว่าจะตามไปฆ่ามันดีมั้ย"<br />
<br />
"ไอ้หนูเอ็งคิดจะทำอะไร"<br />
<br />
"หนูจะหาปืนไปยิงมัน หรือไม่หนูก็จะเอามีดไปเสียบแม่งให้ตาย"<br />
<br />
แกแสยะยิ้มแล้วมองผมอย่างสมเพชลูกกะตาของแก แล้วแกก็บอกว่า<br />
<br />
"ทำยังงั้นเอ็งก็ควาย โง่ฉิบหายเลย เอ็งคิดดูนะถ้าเอ็งไปฆ่ามัน เอ็งก็ต้องติดคุก ในคุกไม่ใช่สถานที่ที่น่าอยู่นะโว้ย จะบอกเอาไว้ให้แม่งนรกบนดินชัดๆ และที่สำคัญ...เอ็งทำไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา จะได้ก็แค่ความสะใจ อาจะสรุปให้เอ็งฟังว่า คนของเรามันเฮงซวยเอง"<br />
<br />
ผมคิดตามที่แกบอก มันจริงแฮ๊ะ ถ้าผมติดคุก เวรของกรรม กรรมของเวร ทุกอย่างมันตกลงมาที่ลูกๆของผม และที่สำคัญผมนึกถึงภาพแม่ผมที่ชราภาพต้องมาเกาะลูกกรงเยี่ยมผม มันคงเป็นภาพที่ีน่าอดสูพิลึก<br />
<br />
"แล้วอาจะให้หนูนั่งดูมันย่ำยีเฉยๆยังงั้นหรือ อาเข้าใจไหมว่าหนูแค้นมันมาก นี่ไอ้คนนั้นมันกำลังฆ่าหนูทางอ้อมนะ"<br />
<br />
"เอ็งท่องเอาไว้ จงอดทนๆ"<br />
<br />
อาผมแกพูดกับผมเท่านี้แหละ แล้วแกก็ไม่พูดอะไรอีก นอกจากแกจะรีบเข้าห้องเอาปืนของแกที่ผมเล็งๆอยู่ไปใส่ตู้ลั่นกุญแจเอาไว้<br />
<br />
ผมหอบสังขารที่แทบจะเหลือแต่ซากกลับมานอนก่ายหน้าผากที่บ้าน และยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ไม่มีปืน มีดก็ได้วะ<br />
<br />
ผมลูบๆ คลำๆ มีดที่ผมมีอยู่พร้อมทั้งกะแผนการณ์เอาไว้ในหัว พรุ่งนี้เราก็บุกไปหามันเลย ถึงแม้ไม่เคยเจอหน้า แต่สาย...ให้รูปถ่ายไว้แล้ว<br />
<br />
ผมหว่านเงินวางสาย...หมดไปหลายตังค์ และก็ได้ผล เงิน...ช่วยได้เยอะ และเงิน...ก็สามารถจ้างวานคนที่เป็นมืออาชีพมาทำแทนผมได้ แต่...มันไม่สะใจ มันต้องตายด้วยมือของผมเอง ตอนนั้นผมมีความอาฆาตมากที่สุด<br />
<br />
คืนหนึ่งขณะที่ผมนอนหลับ ผมก็รู้สึกว่าผมได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า<br />
<br />
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ท่องเอาไว้นะ จงท่องเอาไว้"<br />
<br />
ผมตกใจตื่น มองไปก็ไม่เห็นมีใครนอกจากลูกสาวที่นอนอยู่ข้างๆ ผมก็คิดว่าผมฝันไปแหงๆ แต่ผมก็ท่องคำเหล่านั้นไว้ในใจตลอดเวลา เรียกว่าลืมตารู้สึกตัวเมื่อไหร่ ผมก็ท่องคำเหล่านั้นจนหลับไปอีกครั้ง<br />
<br />
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ผมก็จำคำเหล่านั้นได้จนขึ้นใจ ผมแปลกใจมาก เพราะปรกติแล้วผมไม่ใช่คนใกล้วัดวาเท่าไหร่ แล้วผมฝันถึงคำพูดเหล่านี้ได้ยังไงหว่า<br />
<br />
อนิจัง ทุกขัง อนัตตา คืออะไร? ผมเที่ยวไปถามใครๆที่รู้จัก เขาก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน<br />
<br />
จนวันหนึ่งผมได้นั่งคุยกับน้องเมย์ ลูกสาวของเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ผมก็เลยเล่าให้เด็กฟัง แล้วผมก็บอกว่าอยากรู้จริงๆ ว่าคำเหล่านั้นมันหมายถึงอะไร แล้วน้องเมย์ก็บอกกับผมว่า<br />
<br />
"ลุงหนู...ค่ะ พรุ่งนี้จะมีพระอาจารย์มาสอนธรรมะที่โรงเรียนเดี๋ยวน้องเมย์จะถามพระอาจารย์ให้ค่ะ"<br />
<br />
วันรุ่งขึ้นน้องเมย์ก็มาบอกกับผมว่า<br />
<br />
"หนูถามพระอาจารย์แล้ว ท่านถามหนูว่าทำไมถึงเอาเรื่องนี้มาถาม หนูก็เลยเล่าเรื่องของลุงให้พระอาจารย์ฟังว่าลุงฝันถึงคำเหล่านี้ พระอาจารย์บอกกับหนูว่า แสดงว่าคนๆนี้กำลังมีความทุกข์มาก พระอาจารย์ฝากให้หนูมาบอกว่า คำเหล่านั้นคือหลักแห่งไตรลักษณ์ และพระอาจารย์บอกมาว่าให้ลุง...ไปค้นหา และทำความเข้าใจกับหลักไตรลักษณ์นี้ แล้วลุงจะหมดทุกข์"<br />
<br />
หลังจากนั้นผมก็ค้นหาความหมายของคำเหล่านี้<br />
<br />
อนิจจัง แปลว่า ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่แน่นอน<br />
<br />
ทุกขัง แปลว่า ความเป็นทุกข์...ที่เกิดจากสิ่งรอบๆตัว<br />
<br />
อนัตตา แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน ทุกสิ่งคือความว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย<br />
<br />
ผมเอามาเขียนคร่าวๆนะครับ ถ้าผู้ใดอยากรู้ละเอียดลึก ลองไปศึกษาด้วยตัวเอง ผมขอแนะนำเพราะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ย่อมเกิดความเข้าใจลึกซึ้งมากกว่าฟังคนอื่นบอกแก่เรา<br />
<br />
เชื่อมั้ยว่าหลังจากที่ผมทำความเข้าใจกับหลักของไตรลักษณ์ ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะ และที่สำคัญความโกรธ ความแค้น อาฆาต ที่ผมเคยมีมันเบาบางลง<br />
<br />
ผมนั่งคิด ผมไปยึดติดกับใคร...ทำไม ผมไปคิดเป็นเจ้าเข้าเจ้าของใครได้ยังไง...<br />
<br />
วันหนึ่งเรารักกัน เราสุข<br />
วันหนึ่งเขาหมดรัก เราทุกข์<br />
วันนี้เราได้อยู่กับคนที่เรารัก เราสุข<br />
วันหนึ่งคนที่เรารักจากไป ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย เราก็ทุกข์<br />
<br />
ยามสุข เราก็เบิกบาน ยิ้มแย้ม<br />
ยามทุกข์ เศร้าหมอง ร้องไห้<br />
สมหวัง ดีใจ ระรื่นจิต<br />
ผิดหวัง มานั่งคิด อยากตาย หรือฆ่ามัน<br />
<br />
เอาชนะ ศักดิ์ศรี กูคืนมา<br />
ทุกทิวา ราตรี ฆ่าให้สิ้น<br />
ได้แต่คิด ใครเขาจะได้ยิน<br />
ที่สูญสิ้น คือ ตัวเรา ความสุขใจ<br />
<br />
ในโลกนี้ ไม่มี ตัวกู หรือของกู<br />
ทำจิตรู้ เท่าทัน ธรรมทั้งสิ้น<br />
วันนี้มี พรุ่งนี้หมด พบความจริง<br />
ทุกสิ่งสิ้น...ตามกระแส...พระธรรม นา<br />
<br />
เขียนกระทู้ มาลงที่กลอนๆแย่ แต่กลอนมันพาไปครับ<br />
<br />
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ได้คิด ทุกความรู้สึกค่อยๆหายไป<br />
<br />
รัก........ไม่มี<br />
โกรธ....มีอยู่บ้าง<br />
อาฆาต....หายไป<br />
<br />
ผมไม่สามารถปฎิบัติได้ทั้งหมด แต่ผมพยายามทำ...ในสิ่งที่ผมค้นพบ<br />
<br />
ความทุกข์ที่มันทับถมในใจผมแรงกดที่เคบมีเริ่มเบาลง ผมหายใจได้สะดวกขึ้น ใบหน้าที่เคยแต่บึ้งตึง เพราะความเครียดแค้น เริ่มยิ้มแย้มได้ จากที่ไม่ยอมกินยอมนอน จนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน<br />
<br />
เวลาออกนอกบ้านไม่มีใครกล้าทักทาย เพราะผมไม่เคยตอบคำทักทายใคร ไม่เคยมองเห็นใครเลยสักคน ตอนนั้นผมจมอยู่กับความทุกข์ของตัวเอง ผมไม่เคยมองออกไปนอกโลกของตัวเองเลย<br />
<br />
วันนี้ผมสามารถพูดคุญกับคนที่ที่ทำให้ผมทุกข์จนอยากฆ่าให้ตายได้เมื่อมีธุระ จากที่เคยบอกว่า อย่ามายุ่งกับกู<br />
<br />
ผมบอกกับเขาว่า ไม่ต้องกลัวผมไม่ทำอะไรเขาแล้ว "ฉันไม่อาฆาต ไม่แค้น และไม่รักเธอแล้ว"<br />
<br />
ผมคิดว่าที่ผมทำแบบนี้ได้เพราะผมเอาชนะใจตัวผมเองได้ ผมไม่ได้มุ่งแต่เอาชนะใครเหมือนก่อน<br />
<br />
คนที่ทำให้ผมทุกข์ ทุกวันนี้เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าที่ผมเปลี่ยนไปนั้น ไม่ใช่เขาเอาชนะผมได้ จริงๆแล้ว ไม่มีใครเอาชนะผมได้ และผมก็ไม่เคยคิดจะชนะใคร<br />
<br />
ผมคิดแต่เพียงว่า การที่ผมสามารถเอาชนะใจตัวเอง ถือว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่่สุดแล้ว<br />
<br />
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน อาจจะเขียนไม่ได้ดีเท่าไหร่ อาจจะทำให้เข้าใจยาก แต่กระทู้นี้ผมเขียนสดๆขึ้นมา โดยที่ไม่ได้คิดจะเขียนมาก่อน ขอบคุณอีกครั้ง<br />
<br />
กว่าจะผ่านมาได้ก็เลือดตาแทบกระเด็นครับ ปัญหาหนึ่ง โยงไปอีกปัญหาหนึ่งเป็นเหมือนลูกโซ่เลยล่ะ<br />
<br />
ผมจริงจังกับชีวิต...เรื่องจริงครับ<br />
<br />
ผมเคยเป็นคนมีข้อแม้ในชีวิตเยอะ ผมให้ความสำคัญกับคำสัญญามากที่สุด ผมเคยคิดว่าทุกคนต้องคิดเหมือนผม ผมไม่เคยรู้เลยว่า ธรรมะคือธรรมชาติ สรรพสิ่งย่อมแปรเปลี่ยน ผมเคยยึดติดกับทุกๆอย่างที่อยู่รอบๆตัวผม ผมไม่รู้จักความรักที่ไม่มีเงื่อนไข<br />
<br />
ขณะนี้ผมรู้แจ้งแล้วว่า การยึดติด นำมาซึ่งความทุกข์ ปัจจุบันผมไม่รู้สึกเหงา เวลาอยู่คนเดียว ชอบด้วยซ้ำไป<br />
<br />
ก่อนนั้นมองว่า คนๆนั้นเป็นคนไม่ดี ใจร้าย ใจดำ ตอนนี้ผมมองว่าตัวผมล่ะทำอะไรผิดพลาดบ้างหรือเปล่า?<br />
<br />
มองดูตัวเองโดยไม่เข้าข้างตัวเรา ผมก็ทำอะไรผิดพลาดมาไม่น้อย ผมเคยเป็นคน...เจ้าอารมณ์ ใจร้อน ไม่ยอมคน หักลบกันแล้ว ผมว่าเค้ากับผมผิดพอๆกัน ดีที่จบกันไปแล้ว ก่อนที่จะทำร้ายจิตใจกันต่อไปเรื่อยๆ ไม่สายไปสำหรับผมครับ<br />
<br />
ชัยชนะครั้งล่าสุดของผมคือ...ตัดใจไม่รับรักที่สาวอายุยี่สิบแปดขอสมัครเป็นแฟนคนอายุ 53 คือตัวผมเอง...<br />
<br />
เท่ห์ซะไม่มี...<br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-37308438060812899032013-08-11T23:46:00.000+07:002013-09-16T14:07:32.386+07:0034 ความเสียใจที่ไม่มีวันลืมของแดงชรา<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/04.html" target="_blank">พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.616360008378025.1073741827.100000120933242&type=1&l=e36f6511ea" target="_blank">เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/03/05-2.html" target="_blank">ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/08.html" target="_blank">เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/09.html" target="_blank">ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/11.html" target="_blank">อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/12.html" target="_blank">ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ตราตาชั่งเอียงสีฟ้า</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/13.html" target="_blank">เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/14.html" target="_blank">คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/05/15-312.html" target="_blank">จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น<br />
<center><a href="http://upic.me/i/xx/tyui839.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/hc/tyui515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://www.picdee.com/images/2013/08/11/previewhtmlm6b47db177EHrq.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ความเสียใจที่ไม่มีวันลืมของแดงชรา</span></strong><br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> เว็บprachatalk.com<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2013/09/35.html" target="_blank">คนแก่...(แดงชรา) ชอบเล่าเรื่องอดีต</a><br />
<br />
11/08/2013: เห็นกระทู้เกี่ยวกับเรื่องแม่หลายกระทู้แล้ว และผมก็ได้เข้าไปอ่าน หลายๆ คห.น่าสนใจ<br />
<br />
ที่จริงเรื่องของผมกับแม่ ผมเคยคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเอามาบอกเล่าให้ใครฟัง เนื่องจากผมคิดเสมอว่าสิ่งที่ผมทำพลาดไปกับแม่ผู้มีพระคุณ มันเป็นเรื่องที่แย่มาก<br />
<br />
แต่ เมื่อกลับเอามาคิดทบทวน ผมว่าบางทีเรื่องราวของผมกับแม่ อาจเป็นอุทาหรณ์ได้ไม่มากก็น้อย<br />
<br />
ผมจะเล่าให้ฟัง ว่าทำไมผมผมถึงเสียใจ...และรู้สึกผิด จนไม่เคยลืม แม้แต่สักวันเดียว...<br />
<br />
<center><img src="http://www.picdee.com/images/2013/08/11/dangg1Tk85C.jpg"></center><br />
" ...แม่ผมมีลูกทั้งหมด ๙ คน ผมเป็นลูกคนกลาง พ่อผมเสียชีวิตตั้งแต่ผมอายุแค่ ๙ ขวบ พ่อคือคนที่ผมรักมากที่สุด และผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า พ่อคือคนที่รักผมมากที่สุดในโลกนี้<br />
<br />
เมื่อแม่มีครอบครัวใหม่ ผมมีน้องตามมาอีก ๔ คน พี่ๆทั้งสี่ไม่ได้อยู่กับแม่ แต่ผมอยู่กับท่าน ผมจึงกลายเป็นลูกคนโตไปโดยปริยาย หน้าที่ดูแลน้องๆทั้ง ๔ คนจึงตกอยู่กับผมคนเดียว<br />
<br />
แม่กับสามีใหม่ของท่านมีอาชีพค้าขาย ซึ่งต้องออกต่างจังหวัดบ่อยๆ เมื่อน้องยังเล็กเวลาผมไปโรงเรียน แม่ก็เอาน้องผมไปไว้บ้านคนเลี้ยง เวลาผมเลิกเรียน ผมมีหน้าที่ดูแลน้องๆ<br />
<br />
วันเสาร์อาทิตย์ ผมไม่เคยออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหน เพราะต้องคอยเลี้ยงน้องทำงานบ้าน ฯลฯ<br />
<br />
นี่คือสาเหตุที่ทุกวันนี้ผมไปไหนมาไหนไม่ค่อยถูก แม้จะอยู่ กทม.มาตั้งแต่เกิดก็ตาม ใครอย่ามาถามผมเลยว่าจะไปสะพานควายนั่งรถเมล์สายอะไร ผมตอบใครไม่ได้ เพราะความที่ไม่เคยออกไปไหน ต้องทำหน้าที่ ให้ดี และทำทุกวันไม่งั้นแม่ตี<br />
<br />
แม่ผมแกเป็นคนดุ...ดุมาก ใจแข็ง โดยเฉพาะกับผม แกเลี้ยงแบบสุภาษิตที่ว่า รักวัวให้ผูกรักลูกต้องตี<br />
<br />
แม่ใจร้อน...เวลาใช้ให้ผมไปซื้อของ แกจะคอยว่า "เร็วๆนะอย่าช้าไม่งั้นเอ็งโดน"<br />
<br />
ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมจะไปไหนมาไหนก็ตามผมไม่เคยเดิน ผมวิ่ง...วิ่ง...และก็ต้องวิ่ง<br />
<br />
ใจไม่ดีทุกครั้งถ้าไปไหนมาไหนช้า ไม่ทันใจแม่ ก็ไม้ขัดหม้อมันไม่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่เวลาท่านแม่ประทานให้ผม มันเจ็บที่สุด<br />
<br />
แม่เคร่งคัดกับผมมากที่สุด เพราะผมจะโดนตีมากกว่าลูกทุกคน ในตอนเด็กเวลาโดนตีผมจะคิดเสมอว่าทำไมพ่อถึงต้องมาตายแล้วทิ้งผมไว้แบบนี้<br />
<br />
ตอนนั้นผมน้อยใจแม่มาก คิดอยู่ตลอดว่าแม่ไม่รักเรา แม่รักน้องๆ มากกว่าเรา<br />
<br />
ไอ้ผมมันก็เป็นคนแปลก คือเหมือนประชดชีวิตนะ ผมเห็นเวลาเพื่อนผมโดนแม่ตีมันใส่ตีนหมาโกยอ้าว<br />
<br />
แต่ ผมไม่เคยวิ่งหนียืนให้แม่ตีอยู่นั่นแหละ ให้แกตีจนกว่าแกจะเหนื่อยไปเอง<br />
<br />
เพื่อนผมมันเคยแนะผมว่า "ไอ้ห่าเอ้ย เวลาแม่เขาตีมึงทำไมมึงถึงไม่วิ่งหนีแบบกูวะ ยืนนิ่งเป็นตอไม้อยู่ได้"<br />
<br />
ตอนนั้นผมก็ตอบมันไม่ได้ว่าทำไมผมไม่ใส่ตีนหมาเหมือนมัน นี่้มั้งที่เขาเรียกว่าเป็นคนมีทิฐิ?<br />
<br />
ความรู้สึกว่าแม่ไม่รัก มันค่อยๆ ฝังแน่นเข้าไปในจิตใจผม โดยที่ผมไม่รู้ตัวตั้งแต่นั้นมาจนโตมีครอบครัวมันก็ยังเกาะกินใจผมอยู่ ไม่เคยเลือน ผมขอข้ามเรื่องปลีกย่อยไปนะครับ มันเยอะเกิน<br />
<br />
เมื่อผมมีลูกสองคน วิกฤติในชีวิตครอบครัวก็เข้ามา เมื่อลูกชายคนเล็กผมกำลังจะเอ็นเข้ามหาลัย<br />
<br />
ตอนนั้นผมทั้งยื้อ ทั้งด่า คือ ยื้อไปด่าไป ผลที่สุดก็กลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้งกัน ด้วยคำพูดไม่ดี ที่มันทำให้ผมรู้สึกแย่มากที่สุด<br />
<br />
ผมแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ห่วงลูกโดยเฉพาะไอ้คนเล็ก แต่ไอ้ความเครียดมันมีผลกับการดำเนินชีวิตตามปรกติ ผมเริ่มไม่ค่อยกินอาหาร<br />
<br />
ผมสูง ๑๖๕ จากที่เคยน้ำหนัก ๖๐ กว่าๆ ในสองสามปีน้ำหนักผมเหลือแค่ ๔๔ กิโล<br />
<br />
เพื่อนบ้านต่างจับตามอง เพราะเขาคิดว่าในไม่ช้าผมคงตาย ...เขามาเล่าให้ฟังตอนผมดีขึ้นแล้วครับ...<br />
<br />
ตอนนั้นแม่ผมท่านชราภาพแล้ว อายุ ๗๐ กว่าๆได้ แกอาศัยอยู่กับพี่สาวผม แล้วเมื่อแกได้ข่าวว่าผมกำลังกลายเป็นไม้เสียบผี วันหนึ่งแกก็ให้พี่สาวขับรถมาเยี่ยมผมที่บ้าน<br />
<br />
มาถึงแกมองผมด้วยแววตาที่ผมไม่ค่อยจะได้เห็น แต่ตอนนั้นผมกำลังหน้ามืด เลยไม่ได้สดุดใจอะไร ก็นั่งคุยกัน แม่ก็บอกกับผมว่า<br />
<br />
"ทำไมเอ็งผอมขนาดนี้ว่ะ"<br />
<br />
"หนูกินข้าวไม่ลง"<br />
<br />
"แม่ว่าเอ็งเลิกสูบบุหรี่ดีกว่า ข้าวก็ไม่กินยังดันสูบบุหรี่อีก ถึงได้ผอมเป็นผี เออ แม่จะเข้าห้องน้ำเอ็งพาแม่ไปห้องน้ำทีซิ"<br />
<br />
ผมชักแปลกใจ ว่าทำไมแม่เข้าห้องน้ำคนเดียวไม่ได้ ก็บ้านผมมันแค่ทาวน์เฮ้าส์เล็กๆ ห้องน้ำก็อยู่ข้างล่าง ใกล้ๆกับห้องสารพัดประโยชน์<br />
<br />
แต่ผมก็ลุกพาแม่ไปห้องน้ำ แล้วแม่ผมก็หยุดเดินหน้าห้องน้ำก่อนที่แกจะทำอะไรที่ผมคาดไม่ถึง<br />
<br />
ผมเห็นแม่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แล้วแกก็หยิบแบงค์พันออกมา<br />
<br />
"แม่มีเงินอยู่แค่นี้ เอามาให้เอ็ง เอ็งเอาเงินที่แม่ให้ไปซื้ออะไรกินซะนะลูก แล้วอย่าไปคิดอะไรมาก อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด ทำตัวเองให้แข็งแรง เอ็งจะได้มีชีวิตอยู่ดูแลไอ้คนเล็กให้มันเรียนจบแล้วมีงานทำเลี้ยงตัวได้ จำคำแม่ไว้ จงอยู่เป็นเสาหลักให้ลูก แม้เสาอื่นมันจะเดินหนีไปแล้วก็ตาม"<br />
<br />
ผมกำแบงค์พันของแม่แน่นในมือ ตอนนั้นแม้จะกำลังแย่ แต่ผมพอมีเงินอยู่บ้าง มากกว่าแบงค์พันที่แม่ให้ แล้วผมก็ร้องไห้เงียบๆ คือยืนน้ำตาไหลออกมาเฉยๆ ที่จริงใจผมอยากจะคืนเงินให้แม่ไป แต่ผมไม่กล้า<br />
<br />
เงินพันบาทของแม่ มันมีค่ามากกว่าเงินหนึ่งพัน มันคือความรักที่แม่ให้ต่อลูก มันยิ่งใหญ่มากกว่าเงินอื่นๆเป็นล้านๆ ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับคำแม่<br />
<br />
"หนูจะเอาเงินที่แม่ให้ไปซื้ออาหารกิน หนูสัญญาว่าหนูจะพยายามกิน และมีชีวิตอยู่ เพื่อลูก"<br />
<br />
ผมเล่าเรื่องราวนี้ให้ลูกสาวคนโตฟัง และเล่าถึงความรู้สึกของผมให้ลูกฟัง แล้วผมก็บอกลูกว่า<br />
<br />
"...จะกินข้าวแล้ว พรุ่งนี้พาไปซื้อหมอตุ๋นอาหารนะ จะเอาเงินที่ได้มาเพราะความรักของแม่ไปซื้อ"<br />
<br />
...ที่ผมต้องตุ๋นอาหารกินเพราะความที่ผมอดอาหารมานาน มันทำให้กระเพาะผมฝ่อผมเลยกินอาหารปรกติธรรมดาเหมือนคนอื่นไม่ได้ กระเพาะมันไม่รับอาหาร กินเข้าไปมันจะอ้วกออกมาหมด<br />
<br />
หมอเขาบอกว่าถ้าผมอดอาหารอย่างนี้ผมจะตายสมใจในไม่ช้า<br />
<br />
แล้วผมก็พยายามกินอาหาร แรกๆก็ทีล่ะคำสองคำ ต่อไปก็กินได้มากขึ้น จนสามารถกินอาหารเป็นปรกติได้ แม่ผมดีใจที่เห็นผมไม่ตาย และมีเนื้อมีหนังขึ้น<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="//www.youtube.com/embed/gsY0PgmDKYc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
ผมจะบอกว่า ปมในใจของผมมันยังฝังลึกอยู่โดยที่ผมไม่รู้ตัว ที่บอกว่าแม่ไม่รักๆ จนสุดท้ายของชีวิตแม่ผม ผมก็ยังทำเลวๆ ซึ่งผมไม่เคยให้อภัยตัวเองเลย เรื่องต่อไปนี้ ขอให้เพื่อนอ่านนะครับ<br />
<br />
วันหนึ่งเมื่อสี่ปีที่แล้ว ผมยังจิตตกอยู่และป่วย เลยหงุดหงิดง่าย ขี้โมโห ปะฉะดะเค้าไปทั่ว น้องสาวคนเล็กคนล่ะพ่อกับผมโทรมาบอกว่า<br />
<br />
"พี่ ไปดุแม่หน่อยแม่เป็นไข้หวัด หนูขึ้นไปดูแม่ไม่ได้ ไปเร็ว ๆนะพี่"<br />
<br />
ความที่ผมมีอารมณ์ไม่ปรกติ ผมเลยโมโห เลยย้อนถามไปว่า<br />
<br />
"ทำไมเอ็งไปไปดูแม่เอง กูเดินแทบไม่ไหวเสือกมาใช้กู เอ็งมือดีตีนดีแข็งแรงทำไมไม่ไปเองล่ะ แล้วเลือกมาสั่งกูอีก เห็นแก่ตัว จะให้คนป่วยไปดูแลคนป่วย ใช้อะไรคิดวะ"<br />
<br />
แล้วผมก็โทรไปหาแม่ ถามอาการแก แกบอกว่าแกค่อยยังชั่วแล้ว ความที่ผมโมโหน้องเลยด่าน้องสาวให้แกฟัง แกบอกผมว่า<br />
<br />
"อย่าโมโหเอ็งยิ่งไม่สบายอยู่ แล้วก็อย่าไปโกรธน้องมันทำงาน คงไม่มีเวลามาดูแม่"<br />
<br />
"แม่เข้าข้างน้องอีกแล้ว"<br />
<br />
ผมพูดกับแม่แบบนั้นแล้วก็วางสาย แล้วผมก็ไม่โทรไปหาแม่อีกเลย เพราะผมน้อยใจ และผมประมาทในการใช้ชีวิต ผมไม่เคยคิดเลยว่าแม่...ผู้หญิงเก่ง แข็ง จะไม่มีวันตายจากผมไปได้ ผมลืมคิดถึงเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ผมโง่สิ้นดี<br />
<br />
เดือนมกรา ๒๕๕๓<br />
<br />
พี่สาวผมโทรมาหาผมตอนดึกบอกว่าแม่ล้มในห้องน้ำ ตอนนี้อยู่ห้องไอซียู หมอบอกว่าเส้นเลือดในสมองแตก ต้องผ่าตัดด่วน<br />
<br />
"พี่ไม่กล้าตัดสินใจคนเดียว ช่วยพี่ตัดสินใจนะ"<br />
<br />
ผมนั่งรีบนั่งแท็กซี่ไปทันที สภาพแม่ตอนนั้นมีสายระโยงระยางไปหมด แกนอนหลับตา ไม่พูด แต่มือแกไขว่คว้าตลอด ผมไปกระซิบบอกแม่ที่ข้างหูว่า "แม่หนูมาแล้ว"<br />
<br />
แกคงพอรู้ตัวแกเอามือผมที่จับมือแกไว้ ดึงไปที่สายเครื่องช่วยหายใจ แล้วก็ดึงมือผมไปที่สายฉี่ที่หมอใส่ไว้ ผมรู้แกคงอยากจะบอกให้ผม บอกพี่น้องทุกคน และหมอว่า แกอยากไป...<br />
<br />
ผมและพี่สาวคุยกับหมอเจ้าของไข้ หมอบอกว่าต้องผ่าตัดเดรนเลือดที่คั่งในสมองออก ผมถามว่าแล้วแม่จะดีขึ้นไหม หมอบอกว่าแม่แก่แล้ว ถ้ารอดแม่อาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่ หมอเกรงว่าจะยื้อชีวิตแม่ไม่ได้ เพราะแม่อายุมากแล้ว<br />
<br />
สรุป เรายอมให้หมอผ่าตัดแม่<br />
<br />
แม่ฟื้นขึ้นในตอนบ่ายของอีกวัน แต่แกยังหลับตาอยู่ ผมด่าตัวเองตลอดในตอนนั้นว่า ทำไมผมถึงน้อยใจแม่ จนไม่ยอมพูดคุยกับแม่ จนถึงวันนี้ผมมาหาแม่ แต่แม่พูดกับผมไม่ได้ แม้แต่จะลืมตามองผมแม่ก็ทำไม่ได้ ผมบอกเรื่องนี้กับพี่สาว พี่สาวบอกผมว่า<br />
<br />
"ถ้าเปิดตาแม่แม่จะมองเห็นนะ พี่จะทำให้ดู แล้วพี่สาวผมก็เปิดเปลือกตาแม่ แล้วแม่มองมาที่ผม แม่ทำท่าทางเหมือนร้องไห้ ผมทนเห็นภาพนั้นไม่ได้ บอกอย่างไม่อายว่าผมวิ่งหนีจากเตียงที่แม่นอนอยู่พร้อมทั้งร้องไห้โฮๆ โดยไม่อายใคร<br />
<br />
"ตอนนั้นผมเกลียดตัวเองที่สุด ที่โง่ ซื่อบื้อ ดันไปสงสัยในความรักของแม่ ไอ้เวร ... มึงมันโง่มันเลว แม่รักมึง แต่มึงตาบอดมองไม่เห็นความรักที่แม่มีให้ แม่เลี้ยงมึงมาตั้งแต่เล็กจนโต จนมึงมีครอบครัว แม่ให้มึงดื่มน้ำนมในอก เวลามึงทุกข์ จะตายห่า ใครมาดูมึง ไม่มีนอกจากแม่เท่านั้นไอ้เลว กูมันเลว"<br />
<br />
แม่ผมนอนอยู่โรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย์ และก็เสียชีวิต ผมช่วยงานศพแม่ทุกวันตลอดอาทิตย์ ทำทุกอย่างที่ทำได้ แม้จะไม่แข็งแรง ผมก็ดึงพลังเฮือกสุดท้ายออกมาจนหมด ผมไม่เป็นลมเป็นแล้งเหมือนที่ใครๆกลัว พี่น้องที่เขาแข็งแรงกว่าผมลมจับกันสองสามคน<br />
<br />
จนวันลอยอังคารท่านที่หน้าวัดหลวงพ่อโสธร...ผมจำไม่ได้ว่าเขาเรียกแม่น้ำอะไร (แอดมิน: แม่น้ำบางปะกง) แกชอบที่นั่นแกไปกินเจอยู่ที่นั่นทุกปี<br />
<br />
แม่ผมไปสู่สุขคติแล้ว แต่ผมยังอยู่กับความผิดที่ผมไม่มีวันลืม และไม่มีวันให้อภัยตัวเอง<br />
<br />
เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า ลูกๆทุกคนอย่าได้คับข้องใจ หรือ สงสัยในความรักที่แม่มีต่อเรา ท่านนะรักเราน้อย หรือมาก แต่ความรักของแม่บริสุทธิ์ และเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครในโลกนี้จะรักเราได้ เท่าผู้หญิงคนนี้ คนที่เราเรียกว่า แม่<br />
<br />
สุดท้ายนี้ผมจะบอกว่าผมรู้แล้วครับแม่ว่าแม่รักผม และผมขอโทษที่เคยมีอคติกับแม่ ผมขอกราบขอโทษแม่ครับ แม้มันจะสายไป แต่ ผมสำนึกแล้ว<br />
<br />
ผมหวังกระทู้เรื่องของตัวผมที่เขียนมาในวันนี้ คงจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย<br />
<br />
ผมรักแม่ทุกวันและไม่มีวันเลิกรักแม่เลย... "<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="//www.youtube.com/embed/6I1zCyqugZ0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #ff9900;">By: สุดสวย</span> : สงสารชีวิตวัยเด็กของคุณแดงชราเนอะ เวลาแม่ตีสุดสวย สุดสวยจะนั่งร้องไห้เป็นวันๆ แล้วร้องเสียงดังมาก แม่จะต้องหาผ้ามาอุดปากสุดสวยเลยค่ะ แล้วสุดสวยจะดื้อที่สุดในบ้าน ตอนเล็กๆสุดสวยไม่ค่อยรักแม่หรอก เพราะแม่ดุ จะรักพ่อมากกว่าพ่อพาไปอยู่ด้วยไปออกท้องที่ ไปตามบ้านนอก ไปสวนไปป่าไปเมือง สุดสวยมารักและสงสารแม่ตอนที่มีลูกของตัวเองนี่แหละค่ะ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ตัวดำแต่ใจแดง</span> : "ขอบคุณความจริงที่อยู่ในใจ ที่ท่านแดงชราได้เล่ามาให้ฟังนะครับ...<br />
<br />
คนเราบางที ใครไม่โดนอย่างเราซ้ำบ่อยๆ จำเจอย่างที่พี่โดน เค้าก็คงจะไม่เข้าใจเราหรอกครับ...<br />
<br />
ผมฟังพี่แล้ว เหมือนกับที่แม่ของผมเล่าชีวิตของท่านให้ผมฟัง ตอนที่ท่านยังเล็กๆ ไม่ค่อยต่างกันซักเท่าไหร่เลย...<br />
<br />
เพราะเหตุนี้กระมัง แม่ผมเองจึงเลี้ยงลูกอย่างไม่เก็บกดนัก แต่มีระเบียบและเด็ดขาด...<br />
<br />
ถ้าแม่ได้สั่งงานอะไรกับใครแล้ว??? ...คนนั้นต้องรับผิดชอบงานนั้นๆ อย่าให้บกพร่อง...<br />
<br />
ส่วนนี้มันจึงติดตัวพวกผมมากันจนโต แต่เมื่อเทียบดู ผมยังเบากว่าชีวิตของท่านแดงชรามากๆเลยน่ะครับ...<br />
<br />
ไม่ทราบว่า เรื่องทิฐิ ที่พี่เองก็รู้ตัวว่าพี่มีอยู่มาก ไม่ทราบว่า ปัจจุบันนี้ พี่ปล่อยวางมันลงได้มากหรือยังครับ???...<br />
<br />
หากว่ายัง ผมอยากให้พี่ปล่อยวางมันลงซะเถอะนะครับ อย่าให้มันมาขุ่นอยู่ในจิตใจของเราอีกเลย...<br />
<br />
ยอมรับสภาพกับสิ่งที่มันเป็น มีปัญหาอะไร??? ก็ค่อยๆหาทางแก้ไขมันไปนะครับ...<br />
<br />
ขอให้พี่จงมีชีวิตที่เป็นสุข ในบั้นปลายของชีวิตนะครับพี่แดงชราครับ ด้วยความจริงใจครับ!!!"...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงชรา</span> : คุณตัวดำใจแดงครับ<br />
<br />
ผมยังคงมีทิฐิอยู่ แต่บางลงนิดแล้ว ผมคงได้มรดกจากแม่มาเต็มๆ เพราะคนรอบข้างบอกเสมอว่าผมเป็นคนดุ ลูกหลานค่อนข้างกลัวเกรง<br />
<br />
ทุกวันนี้ผมว่าผมใจดีกว่าอดีต พี่น้องลูกหลาน หรือญาติผู้ใหญ่ก็ลงความเห็นว่าผมเบาลง แต่คนมันเคยเกรงกันก็เลยเกร็งๆกันอยู่<br />
<br />
ผมคิดว่าการที่เรามีอายุมากขึ้น เราควรจะใจเย็น และยอมรับฟังคนอื่น โดยเฉพาะความรู้สึกหรือ ความคิดของเด็กๆ ถ้าเรายังคงเป็นคนตรงเป๊ะเกินไป บางทีลูกหลานที่มันทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็ไม่กล้าพูดคุยให้เราฟัง และมันจะทำให้เค้าเดินไปในทางที่ผิดอย่างโดดเดี่ยว<br />
<br />
ปัจจุบันผมกลายเป็นที่ปรึกษาของเด็กๆแถวบ้าน ก็คอยช่วยแนะนำหรือแก้ปัญหาให้ แม้เขาจะมาปรึกษาแบบกล้าๆกลัว ๆก็ตาม แต่ก็ดีกว่าเขาจะทำอะไรลงไปด้วยวุฒิภาวะที่ยังไม่พร้อม<br />
<br />
ขอบคุณอีกครั้งในความห่วงใยครับ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ตัวดำแต่ใจแดง</span> : ..."ถ้าเรายังคงเป็นคนตรงเป๊ะเกินไป บางทีลูกหลานที่มันทำอะไรไม่ถูกต้อง ก็ไม่กล้าพูดคุยให้เราฟัง และมันจะทำให้เค้าเดินไปในทางที่ผิดอย่างโดดเดี่ยว"...<br />
<br />
ดีใจครับ ที่ได้อ่านเม้นท์นี้ของพี่ มันบอกว่า พี่แดงเองก็รู้ตัวพี่เองดีอยู่แล้ว...<br />
<br />
สิ่งที่มันจะช่วยให้พี่มีความสุขได้ดีที่สุดแล้วก็ไม่เครียดด้วย นั่นก็คืออะไรที่มันพอจะละวางได้บ้าง...<br />
<br />
พี่ก็อย่าไปยึดไปถือ เอามันมาให้หมองในอารมณ์เลยน่ะครับพี่ ขอให้พี่มีความสุขตามที่มันควรจึงพึงมีพึงได้นะครับ"<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: รักกัน</span> : ผมชอบบทความทั้งหมดนี้ และผมรัก ถ้อยคำในประโยคนี้...<br />
<br />
"อย่าได้สงสัย ในความรักของแม่"<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: payai97</span> : ไม่ต้องหวังอะไรมากกับแม่..มากไปกว่าปัญญาของแม่จะหยิบยื่นให้<br />
<br />
แค่อุ้มท้อง 9 เดือนเบ่งออกมาเจียนตาย บุญคุณก็ล้นหัว..ทั้งชาติก็ใช้แม่ไม่หมด<br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-75139492900285190082013-07-12T00:14:00.002+07:002014-04-17T15:09:56.921+07:0033 ใครคิดถึง มานี..มานะ..ปิติ..ชูใจ..วีระ.. โหลดไปอ่านรำลึกความหลังกันได้!!<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/04.html" target="_blank">พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.616360008378025.1073741827.100000120933242&type=1&l=e36f6511ea" target="_blank">เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/03/05-2.html" target="_blank">ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/08.html" target="_blank">เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/09.html" target="_blank">ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/11.html" target="_blank">อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/12.html" target="_blank">ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ตราตาชั่งเอียงสีฟ้า</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/13.html" target="_blank">เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/14.html" target="_blank">คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/05/15-312.html" target="_blank">จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น<br />
<center><a href="http://upic.me/i/xx/tyui839.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/hc/tyui515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/c1/b3567771-56.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/4x/b3567771-57.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/8m/contactsheet-1.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ดาวน์โหลด..หนังสือเรียนภาษาไทย มานี มานะ 12 เล่ม PDF ฟรี!!</strong></span><br />
<br />
หลังจากที่ได้เขียนบทความ ดาวน์โหลด หนังสือเรียนภาษาไทย มานะ มานี ปิติ ชูใจ ทั้ง 12 เล่ม ฟรี ไปแล้ว ก็มีหลายท่านขอเข้ามาอีกว่าอยากให้ฝากไฟล์ไว้ที่ drive.google อีก วันนี้ก็เลยจัดให้อีกครับผม กับหนังสือเรียนภาษาไทย มานี มานะ<br />
<br />
หนังสือหนังสือเรียนภาษาไทย มานี มานะ เล่มนี้ดีมากๆครับ ด้วยกรมวิชาการได้จัดทำหนังสือเรียนภาษาไทย ตามหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๕๒๑ หนังสือเรียนภาษาไทยได้จัดพิมพ์ที่โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว โดยนายวิเวก ปางพุฒิพงศ์ ผู้พิมพ์และโฆษณา ๒๕๓๒<br />
<br />
ในเรื่องจะมี ตัวละครหลักดังนี้...<br />
มานี มานะ เจ้าโต(สุนัข)<br />
ปิติ เจ้าแก่(ม้า) ชูใจ สีเทา(แมว)<br />
วีระ เจ้าจ๋อ(ลิง)<br />
<br />
ยังไงถ้าหากใครคิดถึง มานี มานะ ปิติ ชูใจ วีระ ก็ดาวน์โหลดไปอ่านรำลึกความหลังกันได้นะครับ อิอิ<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://drive.google.com/folderview?id=0B_dx3cf4F2pkdkNkOVdMdmRLems&usp=sharing" target="_blank">ดาวน์โหลดที่นี่...</a><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://upic.me/i/s4/2969361.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="365" q6="true" src="http://upic.me/i/s4/2969361.jpg" width="250" /></a></div><span style="color: #FFFFFF;">หรือ ที่นี่...<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-04-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/e4m8jf2d43m3v36ltjqmdjmor0c3fhnl/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkc0ZWNV92SUQtY2s?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.1 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0k-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/s2e89196omvtf7m4fdulimcnrch0lhge/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkRGxycXBhSlVUZzA?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.1 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0g-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/uvpk8irjsp3vlrk7uuj9764m4asu9itt/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkMGNHQTdzXzlnWGc?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.2 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-14-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/412dd694dci7ajd5vfg86qqsopjabi5t/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkUE43MEkxNy1MTjQ?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.2 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0o-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/doe5ngdadpb3l9sbdnivqf4chk8ih0th/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkSk81dFlESUUwMDA?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.3 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0o-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/if757dt61he6tc1lmog40hhnqm1ja6cv/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkbS1Na2ZWcXZITTA?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.3 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-00-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/f2l595ivi4d7m3pcmnua75slfu8n3dg4/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkOXJkSHNSWjVwWXc?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.4 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0g-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/481mqk25k67ar2fqb1bu945cptupreqb/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkQ0NVaDdWTEdwRTg?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.4 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-04-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/4c1bmhtlcfum8m6eq2ehl10tet94jmru/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkd3hqX2x1VGNPM0E?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.5 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0c-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/cmj57mobh04v4evf21117ds9gcik9v8i/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkZENZR3RPUkMyemc?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.5 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-10-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/vbfu78lrg9mej86uudac7n91mi2beo2g/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkTjJWY0RzZW84TzA?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.6 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://doc-0g-bk-docs.googleusercontent.com/docs/securesc/ha0ro937gcuc7l7deffksulhg5h7mbp1/6teirhn6o4nv30prq3r23fsi4dfnjeje/1373472000000/08732393178425671749/*/0B_dx3cf4F2pkRzRzcE5wZEp6ckU?h=16653014193614665626&e=download" target="_blank">ป.6 เล่ม2</a></span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://upic.me/i/zo/1155367387.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="365" q6="true" src="http://upic.me/i/zo/1155367387.jpg" width="258" /></a></div><span style="color: #FFFFFF;">และ/หรือ ที่นี่...<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://199.91.153.87/wqlk1b5velgg/ngkqzjihoci/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.1+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+1.pdf" target="_blank">ป.1 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://199.91.152.134/5ge6y6tn7sug/nikymjx0dmj/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.1+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+2.pdf" target="_blank">ป.1 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.122.195/2cs59f4nq8ag/rmn2gygaogj/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.2+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+1.pdf" target="_blank">ป.2 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.120.217/0xj94on6bxtg/dogobgnjdt4/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.2+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+2.pdf" target="_blank">ป.2 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.120.226/n28u39yvmyig/uydjkekblmf/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.3+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+1.pdf" target="_blank">ป.3 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.123.58/k56auvyzzurg/4ojoemthmn0/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.3+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+2.pdf" target="_blank">ป.3 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.123.111/dszhwmaqrhcg/nwdywnhijhi/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.4+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+1.pdf" target="_blank">ป.4 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://199.91.154.213/vqyr1il45eag/ymmmz24wn25/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.4+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+2.pdf" target="_blank">ป.4 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.121.174/h66vi851n1qg/nmnndew1ioi/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.5+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+1.pdf" target="_blank">ป.5 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://199.91.152.180/5q53j18gfwug/nmjp62vamin17ir/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.5+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+2.pdf" target="_blank">ป.5 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.121.21/3db4fa54u5eg/nhk3zdtjjjj/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.6+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+1.pdf" target="_blank">ป.6 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.120.133/x3cmsdrs42ng/0mmtqoowank/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2+%E0%B8%9B.6+%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1+2.pdf" target="_blank">ป.6 เล่ม2</a></span><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.flipbooksoft.com/book/1639/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B0-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%9B-1?lang=th" target="_blank">E-Book ป.1 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.flipbooksoft.com/book/1640/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B0-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%9B-1-1?lang=jp" target="_blank">E-Book ป.1 เล่ม2</a><br />
<br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>แสบๆ คันๆ มันส์ๆ กับ "มานี มีแชร์"</strong></span><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/6y/nm442.jpg"></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.263508430456154.1073741826.263499200457077&type=3" target="_blank">ติดตามชม "มานี มีแชร์" ที่หน้าเพจ maneehaschair</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/am/nm432.jpg"></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/photo.php?fbid=861133777233979&l=3190852508" target="_blank">"ทางช้างเผือก" มานะ มานี ปิติ ชูใจ เวอร์ชั่นใหม่</a><br />
<br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>"ทางช้างเผิอก"</strong></span><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ตอนที่ 13 แล้ว...เราก็ได้พบกัน (พ.ศ.2544)</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: รัชนี ศรีไพวรรณ</span><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://upic.me/i/nl/a8760245-0.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="262" q6="true" src="http://upic.me/i/nl/a8760245-0.jpg" width="200" /></a></div>แพทย์หญิงมานี รักเผ่าไทย ออกจากห้องคนไข้คนสุดท้ายเมื่อเวลา 16.55 น. พยาบาลที่รออยู่หน้าห้องรายงานว่า มีสุภาพสตรีคนหนึ่งมาคอยพบอยู่ที่ห้องพักร่วมสองชั่วโมงแล้ว มานีรู้สึกตื่นต้นจนแทบระงับไม่ไหว เธอขอบใจนางพยาบาลคนนั้นพลางถอดเสื้อคลุมและส่งเครื่องมือแพทย์ให้ แล้วรีบเข้าไปล้างมือในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด<br />
<br />
มานีรู้ดีว่าสุภาพสตรีคนนั้นคือชูใจ ชูใจเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันเลยตลอดเวลา 17 ปี แม้จะได้ส่งข่าวคราวโทรศัพท์ถึงกันและได้เห็นภาพถ่ายอยู่เสมอ ก็ไม่ดีใจเท่าจะได้พบกันในวันนี้<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว พ่อของมานีก็ส่งเธอไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพมหานครเช่นเดียวกับมานะ ส่วนชูใจเรียนต่อที่โรงเรียนประจำอำเภอ แล้วทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลย เพราะย่าของชูใจเสียชีวิต แม่ของชูใจมารับเธอไปอยู่ด้วยที่เพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย พ่อเลี้ยงของชูใจเป็นประธานบริษัทเครื่องหนังที่ร่ำรวย เขาเป็นหมันจึงรักชูใจเหมือนลูกแท้ๆของเขา ชูใจมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ เธอเรียนต่อด้านการออกแบบเครื่องหนัง และทำงานในบริษัทของพ่อเลี้ยงนั่นเอง และแต่งงานกับลูกชายรองประธานบริษัทซึ่งทำงานอยู่ด้วยกัน<br />
<br />
วันนี้ชูใจมีโอกาสได้กลับมาประเทศไทย เพื่อไปร่วมฉลองพิธีการแต่งงานของปิติที่จังหวัดลำปางในอีกสองวันที่จะถึงนี้ ปิติเรียนสำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้พบกับเจ้าสาวของเขาระหว่างเรียนด้วยกัน เจ้าสาวของปิติเป็นลูกสาวชาวสวนผู้มั่งคั่งของจังหวัดลำปาง<br />
<br />
เมื่อมานีผลักบังตาเข้าไป สุภาพสตรีที่นั่งกระวนกระวายอยู่โผเข้ามากอด ทั้งสองกอดกันแน่นหัวเราะพลางร้องไห้พลางด้วยความดีใจสุดขีด<br />
<br />
"มานีจ๋า ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน"<br />
<br />
"ฉันก็เหมือนกันจ้ะ ชูใจ เธอน่าจะชวนปีเตอร์มาด้วย" มานีพูดถึงสามีของชูใจ ชูใจคลายวงแขนออก จ้องมองเพื่อนรักทั้งๆที่น้ำตายังนองหน้า<br />
<br />
"ปีเตอร์เหรอจ๊ะ เขาอยากมาจะแย่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าง คราวหน้ามานีแต่งงาน ฉันพาเขามาด้วยแน่ๆ"<br />
<br />
มานีหัวเราะ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้ชูใจและตนเอง จูงเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้ "ฉันคงไม่มีวันนั้นหรอกจ๊ะ"<br />
<br />
"อะไรกัน? เธอน่ะทั้งสวย ทั้งดี จันทรเขาเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ"<br />
<br />
"อ้าว ไปพบจันทรกับเพชรมาแล้วเหรอ นี่เธอมานานแล้วซี ไหนว่าจะนอนพักซักงีบ เครื่องลงเมื่อตีสี่ไม่ใช่เหรอ"<br />
<br />
"ใครจะไปงีบลงล่ะจ๊ะ หัวใจมันร่ำร้องอยากพบเพื่อนๆ อากับอาสะใภ้ไปหาฉันที่โรงแรมเมื่อแปดโมง ฉันก็เลยมากับอา ไปบ้านอา ไปกราบคุณแม่ของเธอ คุณพ่อยังไม่กลับจากทำงาน ไปบ้านปิติเจอแต่แม่ของปิติเหมือนกัน แล้วก็ไปบ้านจันทรกับเพชร ร้านของเขาใหญ่โตดีนะ น้าของเขาก็มอบให้จันทรกับเพชรดูแลร้าน ลูกคนเล็กของเขาน่ารักนะ อีกสองคนไปโรงเรียนเลยยังไม่ได้พบ ถ้าฉันไม่มีทางจะมีลูกได้ ฉันจะขอลูกของจันทรไปเลี้ยง ไม่รู้เขาจะให้หรือเปล่า" ชูใจคุยจ้ออย่างมีความสุข<br />
<br />
"คงให้นะ เพราะจันทรกับเพชรก็รักและไว้ใจชูใจมาก เออ..เสียดายครูไพลินกับคุณอาทวีปย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว เธอเลยไม่ได้พบ"<br />
<br />
"นึกถึงความหลังแล้วมีความสุขจัง ถ้าย่ายังอยู่ก็ดีนะ ยายของปิติก็เสียแล้ว พี่มานะอกหักแล้วยังหาใหม่ไม่ได้เหรอจ๊ะ ติดยศพันตรีแล้วไม่ใช่หรือ กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยไหม แล้วพี่เขาจะกลับลำปางกับเราไหมจ๊ะ" <br />
<br />
มานีหัวเราะเบาๆ <br />
<br />
"พี่มานะเขามีคนรักใหม่แล้ว แต่ไม่รู้จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ อาจจะได้พาปีเตอร์มาเร็วๆนี้ก็ได้นะ วันนี้วันศุกร์พี่มานะมาไม่ได้ พรุ่งนี้เขาจะมาแต่เช้า ไปกับเราด้วย"<br />
<br />
"พี่วีระซินะ น่าสงสาร คนดีๆไม่น่าจะเป็นอย่างนี้เลย"<br />
<br />
ชูใจรำพึงอย่างสลดใจ<br />
<br />
"เขามีภรรยาไม่ดีจ๊ะ เลยกลายเป็นคนขี้เมาหยำเป เสียสติ เลอะเลือน เพชรต้องดูแลลุงกับป้าแทน เพชรเป็นคนดีมาก ฐานะของเขาดีทีเดียว น้องๆได้เรียนสูงๆทุกคน"<br />
<br />
"ตอนเขากับจันทรแต่งงานกัน ไม่มีใครบอกฉันเลย" ชูใจตัดพ้อ<br />
<br />
"เขาไม่ยอมให้บอกจ๊ะ มีสตังค์แล้วจะพาลูกๆไปเยี่ยมเธอเอง"<br />
<br />
"ขอให้จริงเถอะ เธอก็เหมือนกัน บอกว่าจะไป จะไป ไม่เห็นไปสักที" ชูใจควักค้อน<br />
<br />
"เพิร์ธน่ะน่าอยู่น่าเที่ยวนะ ฉันไปเที่ยวมาหลายแห่งแล้ว ไม่ชอบใจเท่าเพิร์ธเลย ฉันชอบไปทำบุญที่วัดโพธิญาณกับแม่บ่อยๆ บางทีพ่อก็ไปด้วย พ่อเลี้ยงของฉันเป็นพุทธศาสนิกชนไปแล้วรู้ไหม"<br />
<br />
มานีหัวเราะชอบใจ "ชูใจยังใช้ภาษาไทยได้ดีอยู่นะ จากไปตั้งสิบกว่าปีแล้ว"<br />
<br />
"ฉันพูดภาษาไทยกับแม่เสมอ แต่เรื่องเขียนนี่สิ ต้องขอบใจมานีที่เขียนจดหมายถึงฉันอยู่เรื่อยๆ ทำให้ฉันได้อ่านและเขียนภาษาไทย ไม่ลืมภาษาไทย พจนานุกรมที่เธอส่งไปให้น่ะ ฉันใช้อยู่เสมอเวลาเขียนจดหมายถึงเธอ ม่ายงั้นคงเหมือนกับโคลงโลกนิติที่ว่า อักขระห้าวันหนีเลยจ๊ะ"<br />
<br />
"ชูใจหิวไหมจ๊ะ" มานีถามด้วยความเป็นห่วง<br />
<br />
"ไม่หรอกจ๊ะ ก่อนมาหาเธอ จันทรเขาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ให้ทาน อร่อยจังเลย ไม่ได้ทานนานแล้ว"<br />
<br />
"เย็นนี้เราก็จะไปทานข้าวที่บ้านจันทร เธอจะกลับไปค้างที่โรงแรมหรือเปล่าจ๊ะ"<br />
<br />
"เรื่องอะไร?" ชูใจค้อน "ฉันเตรียมกระเป๋ามาแล้ว นอนกับเธอ พรุ่งนี้เราก็ไปลำปางกันเลย เพชรเขาจะขับรถพาไป แต่ทางโรงแรมเขาบริการเอง"<br />
<br />
"ปิติคงตื่นเต้นดีใจมากนะ นี่คงจะอยากมาหาพวกเราเต็มแก่ ถ้าไม่ติดว่าจะต้องเป็นเจ้าบ่าว"<br />
<br />
"ฉันโทรไปหาเขาแล้ว" ชูใจพูดยิ้มๆ "ดีใจมากเลย เสียงเอะอะโล้งเล้งตามเคย นี่เดี๋ยวคงโทรมาหาพวกเรา"<br />
<br />
"ถ้าเช่นนั้น เราไปบ้านจันทรกันดีกว่านะ" มานีพูดพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าถือ "เดี๋ยวจะวานให้รถโรงพยาบาลไปส่ง ฉันไม่มีรถ ใช้แต่จักรยาน"<br />
<br />
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ท่านรองผู้อำนวยการผู้แสนมัธยัสถ์ ฉันมีรถตู้ของโรงแรมมาส่งและคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลาตามคำสั่งของแด๊ด..เอ๊ย...ของพ่อ พ่อจองโรงแรมให้และสั่งให้โรงแรมบริการทุกอย่าง ของฝากเธอก็อยู่ในรถ ฉันมีกระเป๋าถือเก๋ๆที่ฉันออกแบบเองมาฝากเธอด้วยล่ะ"<br />
<br />
"เฮ้อ..คนมีสตังค์ล่ะก็ เนรมิตอะไรได้ทุกอย่างนะ" มานีพูดยิ้มๆ<br />
<br />
"ชดเชยกับที่ฉันเคยลำบากเมื่อเล็กๆไงล่ะ แหมคิดถึงย่าจังเลย"<br />
<br />
ทั้งสองเดินเกี่ยวก้อยคุยกันไปยังที่จอดรถ ซึ่งมีรถคันหรูของโรงแรมมีชื่อจอดอยู่<br />
<br />
"เธอสั่งงานไว้เรียบร้อยแล้วหรือ จะพักร้อนตั้งอาทิตย์เชียวนะ เห็นจันทรบอกว่าเธอเป็นหมอที่เอาใจใส่ห่วงงานมาก แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้อำนวยการแล้วก็ตาม คนทั้งอำเภอรักเธอ ชอบเธอมากนี่ เมื่อตอนโรคฉี่หนูระบาด เขาว่าเธอไม่ได้หลับได้นอนเลยนี่ใช่ไหมจ๊ะ"<br />
<br />
"จ๊ะ ตอนนั้นแย่หน่อย หมอ พยาบาล เหน็ดเหนื่อยกันทุกคน ตอนนี้ค่อยยังชั่ว ถ้าเธอมาตอนนั้นหรือปิติแต่งงานตอนนั้น ฉันคงลำบากใจเหมือนกัน"<br />
<br />
เมื่อทั้งสองขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว รถคันงามก็ออกจากโรงพยาบาลมุ่งไปสู่ตัวเมือง มานีกับชูใจนั่งคุยไปตลอดทางสมกับความรักความคิดถึงที่มีต่อกัน มิตรภาพอันอบอุ่นเมื่อเยาว์วัยหวนกลับมาสู่หัวใจของคนทั้งสอง<br />
<br />
ชูใจมองเพื่อนรัก แล้วพูดเบาๆว่า "แล้วเราก็ได้พบกันนะมานี แต่อีกไม่กี่วันเราก็ต้องจากกัน"<br />
<br />
"แล้วเราก็จะได้พบกันอีกไม่ใช่หรือชูใจ ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราก็จะได้พบกันแน่นอน"<br />
<br />
"แน่นอนจ๊ะ มานี เราจะได้พบกัน" ชูใจตอบพร้อมยิ้มอย่างเป็นสุข เมื่อนึกถึงเวลาแห่งความเบิกบานที่จะได้อยู่กับเพื่อนรักตลอดสัปดาห์นี้<br />
<br />
แล้ว...เราก็ได้พบกัน <br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
"ทางช้างเผือก" มานะ มานี ปิติ ชูใจ เวอร์ชั่นใหม่ เริ่มตั้งแต่มานีและชูใจยังไม่เข้าเรียน ป.1 สอดคล้องกับฉบับดั้งเดิมซึ่งเป็นแบบเรียน 6 ปีโดยไม่ให้ขัดแย้งกัน เพิ่มความสมจริงและร่วมสมัยของเนื้อหา ตัวละครมีการพูดคำสบถบ้างเพื่อไม่ให้ดู "โลกสวย" จนเกินไป การดำเนินเรื่องจะเดินไปจนเด็กทั้งหมดจบชั้นประถมศึกษา และเล่าต่อไปจนทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่และกลับมาพบกันอีกครั้ง เชื่อว่าผู้อ่านที่เคยได้ใช้แบบเรียนชุดนี้ จะอ่านหนังสือเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้อย่างสนุก เป็นการเตือนให้หวนนึกถึงนิยายฉบับแรกในชีวิตในวัยเยาว์ของใครหลายๆคน<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://205.196.121.234/d7bz9lfwhwjg/7bpvqckood7wp12/%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%28%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B0+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5+%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4+%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B9%83%E0%B8%88%29.pdf"_blank">โหลดที่นี่.. "ทางช้างเผือก" มานะ มานี ปิติ ชูใจ เวอร์ชั่นใหม่ ตอนที่ 1 ถึง ตอนที่ 13 PDF172หน้า</a><br />
<br />
เชิญติดตามอ่านที่เว็บ pantip มานะ มานี ปิติ ชูใจ...<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://upic.me/i/zo/1155367387.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; cssfloat: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="365" q6="true" src="http://upic.me/i/zo/1155367387.jpg" width="258" /></a></div><font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7888761/K7888761.html" target="_blank">ป.1 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7889119/K7889119.html" target="_blank">ป.1 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7895884/K7895884.html" target="_blank">ป.2 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7902722/K7902722.html" target="_blank">ป.2 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7906603/K7906603.html" target="_blank">ป.3 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7910577/K7910577.html" target="_blank">ป.3 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7914832/K7914832.html" target="_blank">ป.4 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K7927980/K7927980.html" target="_blank">ป.4 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K8007017/K8007017.html" target="_blank">ป.5 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8071194/K8071194.html" target="_blank">ป.5 เล่ม2</a><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8113073/K8113073.html" target="_blank">ป.6 เล่ม1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/07/K8117183/K8117183.html" target="_blank">ป.6 เล่ม2</a><br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-63367350268008047522013-05-15T23:03:00.001+07:002016-09-26T17:42:57.241+07:0032 เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 15...สนุกสุดเหวี่ยงกับการขายและข่าวดีจาก California<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/04.html" target="_blank">พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.616360008378025.1073741827.100000120933242&type=1&l=e36f6511ea" target="_blank">เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/03/05-2.html" target="_blank">ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/08.html" target="_blank">เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/09.html" target="_blank">ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/11.html" target="_blank">อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/12.html" target="_blank">ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ตราตาชั่งเอียงสีฟ้า</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/13.html" target="_blank">เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/14.html" target="_blank">คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/05/15-312.html" target="_blank">จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น<br />
<center><a href="http://upic.me/i/xx/tyui839.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/hc/tyui515.jpg" /></a></center><br />
<center><span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>< < UpDate ถึงตอนที่ 17 > ></strong></span><br />
เก็บหน้านี้ไว้ใน Favorites เพื่อสะดวกในการอ่านตอนต่อๆไป นะครับ</center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/mv/00u.s.a..gif"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/11/logo515.jpg"></center><br />
หมายเหตุ: ขอขอบคุณและขออนุญาตคุณ akausa นำข้อเขียนของท่านมาลงไว้เว็บนี้นะครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/0k/chicagoohareairport.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: akausa เว็บประชาทอล์ค</span> (เริ่มตอนแรก 26 ธ.ค.2554)<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <font color="#FF9900">ตอนที่ 1-7</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2011/12/10-1972-8000.html">เชิญอ่านได้ที่นี่ครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <font color="#FF9900">ตอนที่ 8-14</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เชิญอ่านได้ที่นี่ครับ</a><br />
<br />
ตอนที่ 15... สนุกสุดเหวี่ยงกับการขายและข่าวดีจาก California<br />
<br />
ผมเดินเข้าตึกไปขณะนั้นก็ประมาณ 10 โมงเช้า..โห..มีคนเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อ Register ที่จะเข้าไปใน Market คือเข้าไม่ได้ Open to Public หมายถึงใครๆก็เข้าไปได้ จะต้องมีธุรกิจหรือไม่ก็มีการงานมีตำแหน่งในธุรกิจนั้นๆ Market Week นี้เกี่ยวกับงานเสื้อผ้าดังนั้นตำแหน่ง Owner, Manager และ buyer จึงจะมีเป็นส่วนมาก ผมในฐานะที่มี Line show อยู่และได้ทำบัตร pass ล่างหน้าไว้แล้วจึงไม่ต้องไปเข้าแถวรอคิวลงทะเบียนอีกต่อไป เอา ID ที่เขาให้มาคล้องคอแล้วก็เดินผ่านจุดตรวจเช็คเข้าไปเลย<br />
<br />
โชว์รูมของนายโจอยู่ชั้นสอง เมื่อผมเดินไปถึงก็เห็นนายโจกำลังโชว์ชุดแม้วให้กับลูกค้าอยู่ ผมสังเกตเห็นป้าย "Meo Fashions" ที่นายโจทำขึ้นใหม่ติดไว้ที่ฝาผนัง ทำให้ผมนึกภูมิใจ ดีใจมาก..ถึงจะยังกระท่อนกระแท่นอยู่ตอนนี้เราก็เข้า Business อย่างเต็มตัวแล้ว...เมื่อนายใจเห็นผมเดินเข้าไปเขาก็แนะนำให้ลูกค้าว่า "This is Mr. Aka. He’s the President of the company who created this beautiful little dress." Oh my God อีตาโจมันชั่ง Bull shit ดีแท้..ผมยังนึกไม่ถึงเลยว่าผมเป็นอะไร...แต่ก็ภูมิใจมากนะที่นายโจแนะนำลูกค้าไปอย่างนั้น...55555 แล้วผมก็ตอบขอบคุณลูกค้าที่มาอุดหนุนสั่งของเราไปขาย..<br />
<br />
ฝรั่งนี่นะก็เป็นมนุษย์มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนทั่วๆไปนี่แหละ เพียงแต่เผ่าพันธุ์และการสื่อสารเท่านั้นที่ต่างกับเรา...ดังนั้นการสรรเสริญเยินยอ มีความรู้สึกดีที่ได้พบคนที่มีเกียรติในสังคมทำให้เขาหน้าบานเหมือนกัน<br />
<br />
วันนั้นทั้งวันที่โชว์รูมของเรา Busy ตลอด ลูกค้าคนนั้นออกคนนี้เข้า นั่งรอคิวก็มี สรุปแล้วถือว่า ห้องโชว์รูมของเรา Hot มาก พวกเชลแมนส์ของโชว์รูมข้างๆแถวนั้นต่างมองด้วยความอิจฉา<br />
<br />
โชว์นี้นายโจทุ่มเวลาให้กับ Meo Fashion ปกติเขาจะ Represent เป็นตัวแทนขายให้ 4-5 บริษัท ตอนนี้เหลือ 1 เป็น 2 กับ Line ของผม<br />
<br />
Line ที่นายโจเหลือไว้ผมจำชื่อ Brand Nameได้ว่า Rainbow ซึ่งผลิตเสื้อผ้า Loungewear แบบชุดนอน ชุดหลวมๆอยู่กับบ้าน จะประมาณแบบรูปที่เอามาให้ดูนั่นแหละ ชุดแม้วของผมก็คล้ายอย่างนั้นแต่ไม่ได้แค่ใส่อยู่กับบ้านหรือใส่นอนเท่านั้นใส่ออกงานเลี้ยงยังได้เลย<br />
<br />
อีกอย่างหนึ่งที่ผมเห็นนายโจนี่ชาญฉลาดมากคือเขาไปเห็นรูปเมียของ Mayor of Dallas ในงานเลี้ยงอะไรไม่รู้ผมจำไม่ได้ในหนังสือพิมพ์แต่ใส่ชุดแม้วของเราเสียสวยเก๋เลย นายโจก็เอาไปพิมพ์ก็อปปี้ให้ลูกค้าดู..บอกว่าดูสิ..คนดังยังใส่เลย......ใส่ได้ทุกโอกาสเลย.....แบบฝรั่งเรียกว่า..Any occasion dress ผมชอบวิธี present หรือวิธีการขายจูงใจลูกค้าของนายโจมาก....นายโจนี่ผมก็ถือว่าเป็นครูในการขายของผมเลยทีเดียว<br />
<br />
พวกเซลส์แมนในตลาดนี่ผมมาเรียนรู้ว่าเวลามีของใหม่อะไรที่ขายดีเขาก็อยากเอาไปขาย ที่รู้นี่เพราะวันหนึ่งก็มีนายคนหนึ่งเข้ามาถามผมถึงเรื่องชุดแม้วเขาบอกว่าสนใจที่จะขายให้เขามีลูกค้าประจำเยอะสามารถขายให้ผมได้ ผมก็บอกว่าถ้าคุณอยากขายก็ไปคุยกับนายโจสิเขาว่าอย่างไรผมก็ว่าอย่างนั้นเพราะ เขาเป็น Sales Manager อยู่ แต่แล้วนายนั่นก็ไม่ไปผมก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/6j/flax1u1510.jpg"></center><br />
มีอยู่วันหนึ่งมีผู้หญิงคนไทยคนหนึ่งเข้ามาเขามีร้านขายเสื้อผ้าเหมือนกันเขาถามผมว่าผมขายตัวละ 30 เหรียญทำไมขายแพงนัก เอากำไรมาก ที่เมืองไทยไปซื้อที่เชียงใหม่มีขายเยอะแยะตามตลาดตัวละ 4-5 เหรียญเอง มาถามผมอย่างนี้ ถ้าจะใช้วิธีพูดแบบแม่ค้าปากคลองตลาดแล้วผมก็จะบอกว่า "งั้นคุณก็นั่งเครื่องบินกลับไปซื้อที่เมืองไทยสิ"<br />
<br />
แต่ผมก็คิดว่าจะสอนยายนี่เสียหน่อย ก็เลยถามเขาว่าร้านคุณขายเสื้อผ้าระดับไหน ราคาโดยเฉลี่ยอย่างไร เขาก็คุยว่าร้านเขาเป็นร้าน Boutique (บูติค) ขายเสื้อผ้าราคาระดับปานกลาง and up แล้วผมก็ถามว่าถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าคุณขายชุดแม้วนี่ในร้านคุณในราคา 65 เหรียญได้ไหม เขาก็บอกว่าได้สบายมาก ร้านเขามีระดับ<br />
<br />
ผมก็เลยบอกว่าผมขายให้คุณในราคา 30 เหรียญคุณเอาไปขาย 65 เหรียญ คุณได้กำไรตั้ง 35 เหรียญแล้วทำไมต้องมาพะวงว่าผมจะได้กำไรเท่าไหร่ แถมยังไม่พอผมให้เครดิตคุณอีก 30 วัน ถ้าคุณคิดว่าผมเอากำไรมากไปคุณไม่ซื้อ...คุณเองก็อดที่จะเอาไปขายได้กำไรตัวละ 35 เหรียญ<br />
<br />
พอผมพูดเสร็จเธอก็คงคิดได้แล้วก็สั่ง 1 โหล ทีหลังเขาก็สั่ง มาอีก 3-4 ครั้ง ซึ่งก็เป็นปกติที่ร้าน Boutique เขาจะขายได้ในระดับนี้เพราะย่านที่เขาเปิดร้านมันก็จะมีลูกค้าจำกัด ก็ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นนั่นแหละ คนที่อยู่ไกลเขาก็ไม่มาซื้อ<br />
<br />
สรุปแล้วผมก็ไม่รู้ว่าน้องนางนั่นจะคิดได้อย่างที่ผมสอนหรือเปลี่ยนนิสัยได้หรือเปล่า การค้าขายเนี่ยต้องพอใจในส่วนที่เราได้ เขาซื้อเรา 5 บาทเขาเอาไปขายได้ 20 บาท 50 บาทหรือแม้แต่ 100 บาท ก็อย่าไปอิจฉาเขากลัวเขาได้เราก็อดเหมือนกัน...แม่นบ่อ<br />
<br />
สามวัน(ศุกร์-อาทิตย์)ที่ผมอยู่ในโชว์รูม เรามีออเดอร์เยอะมากเกือบสามพันตัว ร้านค้าที่สั่งเป็นแบบ Chain Store ก็มี Chain Store ก็คือร้านที่มีหลายๆสาขา ตั้งแต่น้อยจนถึงมาก มีอยู่ร้านหนึ่ง มีตั้ง 65 สาขา เขาสั่งให้ส่งให้ 30 สาขาๆละ 1 โหลก่อน ถ้าเขาขายได้เขาก็จะสั่งเพิ่มและจะสั่งให้ครบสาขาเลย วิธีและระบบการค้าของเขาจะเป็นอย่างนั้น Reorder จะเป็นที่ต้องการของบริษัทผู้ผลิตอย่างยิ่งเพราะคนสั่งจะสั่งสองเท่าหรือสามเท่าของที่สั่งครั้งแรกเลย มันก็มีหลาย order นะที่เป็น Chain Store มี 4 สาขามั่ง 12 สาขาและ 18 สาขา ร้านพวกนี้ส่วนมากจะอยู่ใน 5 รัฐ ที่เป็น Territory หรือขอบเขตของโจเขา<br />
<br />
ตอนเย็นวันอาทิตย์หลังจากเลิกงานแล้ว ผม โจและภรรยาเขาก็ไปกิน Dinner กัน กินเสร็จแล้วผมก็ขับรถกลับ(ประมาณ 2 ทุ่ม)Houston พร้อม order ที่ได้รับมา ขณะที่ขับรถกลับก็คิดมาตลอดทางว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว ปัญหาก็คือจะไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า มันกลายเป็นงานใหญ่แต่ทุนเราน้อยแต่ก็คิดว่า "I will do my best" เที่ยงคืนผมก็กลับถึงบ้าน อาบน้ำแล้วก็เข้านอน<br />
<br />
ตอนเช้า 8 โมงเช้าผมก็ไปถึง Office ก็นั่งเอาออเดอร์มาแยกประเภทว่าอันไหนต้องส่งได้เร็วหรือเช้า มารวมดูว่าเขาสั่งสีไหน Size ไหนมากที่สุดแล้วจะได้จัดการสั่งทำต่อไป<br />
<br />
อาทิตย์หนึ่งผ่านไประหว่างนั้นก็ได้รับ order จากโจที่ส่งมาให้เรื่อยๆ คือแต่ละวันถ้าเขาได้ออเดอร์ตอนเย็นเขาก็จะเมล์มาให้<br />
<br />
และแล้ววันหนึ่งโจก็โทรมาบอกว่า Aka...I have a very good news for you... ผมก็ถามว่าอะไรหรือ..นายโจก็บอก Don(เขาหมายถึงนายดอนที่ขายให้ที่ตลาดแคลิฟอร์เนีย) he did a very good job for you at the market...see...I told you that he will do well. He’s very excited and he wants to make a real nice flier to mail to his customers. หมายถึงว่านายดอนขายได้ดีมาก เขาตื่นเต้นและเขาอยากจะทำใบปลิวส่งให้กับลูกค้าของเขา. ผมก็ตอบไปว่าผมดีใจและก็ให้นายดอนพิมพ์ใบปลิวได้แต่ขอดูก่อนพิมพ์นะ นายโจก็บอกโอเคและบอกว่านายดอนจะจัดการส่งออเดอร์มาให้ทางเมล์<br />
<br />
มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราขายของอะไรและของนั้นขายได้และเป็นที่ต้องการของตลาดแล้ว "โอกาส" ก็จะเป็นของเรา ผมรู้สึกดีใจมากกับข่าวที่ได้รับและนี่ก็จะเป็นโอกาสของผมอีกครั้งที่จะได้เข้าสู่ในแวดวงธุรกิจและวงการแฟชั่นอย่างเต็มตัว ทั้งๆที่ไม่เคยรู้เรื่องแฟชั่นอะไรมาก่อนเลย....เข้าไปโดยบังเอิญแท้ๆ<br />
<br />
อีกหนึ่งอาทิตย์อาทิตย์ต่อมานายโจก็ส่งข่าวมาว่า Market ครั้งหน้าเราจะมีตัวแทนขายที่ Miami Florida ชื่อนาย Paul และ ที่ Atlanta Georgiaชื่อนาย Millard ทั้งคู่ต่างก็รู้จักนายโจเพราะ Represent Line "Rainbow" เหมือนกัน<br />
<br />
ก็คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมดีใจขนาดไหน ยังไม่พอผมกำลังจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศให้คนรู้จัก Thailand มากยิ่งขึ้นไปอีก เอาสินค้า Made in Thailand ไปขายสมัยนั้นใช่ว่าคนอเมริกันเขาจะรู้จัก Thailand เหมือนอย่างสมัยนี้ เยอะเลยที่คิดว่า Thailand คือ Taiwan<br />
<br />
ผมไม่ได้มี Plan ที่จะสร้างธุรกิจให้เติบใหญ่อย่างนี้...คือแบบธุรกิจมันลากผมเข้าไปแท้ๆ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... ธุรกิจเติบโตงานก็เยอะ ไปเรียกนาย Keith ให้อออกจากงานโบลิ่งแล้วมาทำกับผม...วันที่พระเจ้าได้บอกให้ใครคนหนึ่งรู้...ว่าผมเป็นคนอย่างไร..</span><br />
<br />
Washington D.C ,U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/8p/15washingtond.cu.s.a..jpg"></center><br />
เนื่องจากมีคนบ่นมาเยอะให้ผมเขียนเรื่อง 40 ปีในการใช้ชีวิตในอเมริกาของผมต่อเพราะว่างเว้นมานานแล้ว...ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้เขียนเพราะเอาเวลาไปกู้ชาติมากไปหน่อย...55555...ช่วงนี้พอมีเวลาว่าง...จะพยายามเขียนให้ได้อาทิตย์ละ 2 ตอนครับ<br />
<br />
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน.... หากไม่เข้าใจหรือมีคำถามอะไร....เชิญถามได้นะครับ.... อาข่า<br />
<br />
ตอนที่ 16... ธุรกิจเติบโตงานก็เยอะ ไปเรียกนาย Keith ให้ออกจากงานโบว์ลิ่งแล้วมาทำกับผม...วันที่พระเจ้าได้บอกให้ใครคนหนึ่งรู้...ว่าผมเป็นคนอย่างไร..<br />
<br />
.. เมื่องานเริ่มเยอะขึ้น....ผมทำสองคนกับหลานแม่เด็กไม่ไหวผมก็เลยไปหานาย Keith ที่ยังทำงานอยู่ที่โบว์ลิ่งนั่นอยู่...ไปชวนเขามาทำงานด้วยโดยจะจ่ายให้เขาเท่ากับที่เขาได้อยู่ตอนนั้น $430.00/Wk. ผมก็แบ่งหน้าที่ให้เขาทำและรับผิดชอบ คือ Confirm Order, Packing และ Shipping และก็อัพเดท Stock สินค้าอาทิตย์ละครั้งผมจะได้รู้ว่ามีไซด์ไหนสีไหนเหลือเท่าไหร่ซึ่งผมจะได้สั่งมาเพิ่มเติมได้ถูก<br />
<br />
ส่วนหลานแม่เด็กผมก็ให้เขาดูแลรับผิดชอบเรื่องบัญชี ติดตามลูกค้าที่ค้างจ่ายแล้วก็เอาเช็คที่ลูกค้าจ่ายมาให้แต่ละวันไปเข้าธนาคาร<br />
<br />
ถึงตอนนี้เวลาก็ผ่านไปเกือบปีแระเรากำลังจะเข้า Market Weeks เป็นครั้งที่ 4 ครั้งนี้นอกจากจะมีโชว์รูมที่ Dallas กับ Los Angeles แล้วเรายังจะมีที่ Miami, Atlanta และก็ที่ Chicago อีก ผมได้เตรียมตัวที่จะไปที่ชิคาโก้เพราะตั้งแต่จากมาแล้วก็ไม่ได้ไปอีกเลยจะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมพี่สาวผมด้วย<br />
<br />
จากที่เคยสั่งเจ๊ให้ตัดชุดให้ผมเดือนละ 4,000 ตัว ผมก็สั่งเพิ่มขึ้นอีกเป็น 6,000 ตัว โดยส่งมาเป็น 2 ล็อตๆละ 3,000 ตัว ตามสีและไซด์ที่ได้กำกับไป..<br />
<br />
แล้ว Holiday’s Market ก็มาถึงโดยเริ่มต้นที่ Dallas ก่อนแต่ผมไม่มี Plan ที่จะไปเพราะคิดว่า Joe เขา Handle ได้อยู่แล้วและผมก็เตรียมตัวที่จะไป Chicago ใน Weekend ถัดไป งานที่ Dallas เริ่มตั้งแต่วันพุธ-วันอาทิตย์ แต่แล้ววันหนึ่งรู้สึกจะเป็นวันพฤหัส Joe ก็โทรมาบอกผมว่า มีคนต้องการที่จะพบผมเขาอยากจะมา Deal กับผมเรื่อง "ชุดแม้ว" และก็รายงานด้วยว่า Market ผ่านไปสองวันเขาก็ได้ Orders มาเยอะเหมือนกัน ผมก็ดีใจกับข่าว Orders แต่เรื่องที่คนจะมา Deal กับผมนั้นผมก็ถามโจว่าเขาต้องการ Deal เรื่องอะไร Joe ก็บอกว่าเขาอยากจะเอาชุดแม้วไปขาย ผมก็บอกโจว่าก็คุณเป็นผู้จัดการแล้วก็จัดการไปสิ Joe ก็บอกว่า "She just want to meet and talk to you" ผมก็เลยบอกว่าโอเค...นัดเธอไว้เลยตอน 6 โมงเย็นวันเสาร์...ผมจะบินไปตอนบ่ายค้างคืนหนึ่งแล้วเย็นวันอาทิตย์ถึงกลับ..<br />
<br />
แล้วผมก็มานั่งนึกว่าใครหว่า....” She ” เสียด้วย...55555 วันนั้นผมก็เลยจัดแจงโทรไปจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินไว้ แล้วบ่ายวันเสาร์ผมก็บินไป Dallas เข้าโรงแรมเอาของไปเก็บก่อนแล้วก็นั่งแท็กซี่ไปที่ Market ไปถึงที่โชว์รูมก็เห็น Joe กำลังขายชุดให้ลูกค้าอยู่ เขาเห็นผมก็ Say Hello แล้วก็แนะนำผมให้ลูกค้ารู้จักว่าผมเป็น President ของ Company และเป็นผู้ Design nice little dress นี้ด้วย....ลูกค้าก็ยิ้มด้วยความพอใจคือแบบมันเป็นของธรรมดาน่ะเราจะมีความรู้สึกดีเมื่อได้มีโอกาสพบปะบุคคลสำคัญหรือ VIP ลูกค้าก็ยื่นมือมา Check Hand ผมและก็บอกว่าชุดนี้สวยมากเธอหวังว่ามันจะขายดี ผมก็กล่าวขอบคุณที่สนใจในสินค้าของผมและบอกเขาไปว่าหากมีอะไรที่จะแนะนำแล้วผมยินดีรับฟังพร้อมกับควักนามบัตรผมให้ลูกค้า..<br />
<br />
ช่วงนั้นเป็นเวลา บ่ายสี่โมงกว่าแล้วโชว์รูมของเราก็ Busy แบบคนรอคิวที่จะสั่ง ก่อน 6 โมงเล็กน้อยผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามา....ผมก็นึกในใจว่าผู้หญิงคนนี้เคยเห็นที่ไหนหว่า..แล้วเขาก็ไปทักทายกับ Joe เสร็จแล้ว Joe ก็แนะนำเธอให้รู้จักกับผม Joe บอกว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่ต้องการรู้จักกับผมแล้วเขาก็พูดขึ้นว่า "Elizabeth, This is Aka..He's the president of the company...my boss...." เขาบอกว่า "อลิซาเบ็ท, คุณคนนี้คือคุณอาข่า..เขาเป็นประธานบริษัท...เป็นเจ้านายของผม...."<br />
<br />
Elizabeth..ก็เลยยิ้มทักทายพร้อมกับยื่นมือมาเช็คแฮนด์..แล้วผมก็ถามว่าคุณสบายดีหรือ คุณเป็นคนเดียวกับ Elizabeth ที่ผมรู้จักที่ Houston เมื่อเกือบปีที่แล้วหรือเปล่า..แล้วเธอก็มองผมอย่างงงๆว่าผมก้าวมาไกลถึงขนาดนี้ได้อย่างไร.. และตอนนี้เธอกลับมาเป็นคนที่จะมาของานผมทำคือจะมาเป็นตัวแทนเอาชุดไปขายให้...ผมจำได้ไม่เคยลืมว่าวินาทีนั้นผมรู้สึกสะใจเป็นที่สุด..เพราะผมเคยบอกเธอว่า...เราคงจะได้เจอกันอีกครั้งหากเธอยังอยู่ในธุรกิจนี้อยู่และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ..เขาคงจะรู้ว่าพระเจ้าย่อมเข้าข้าง "คนดี" เธอก็บอกว่าใช่..แล้วก็ถามผมว่า Line นี้เป็นของคุณหรือ..ผมก็บอกว่าใช่...พอดีมีลูกค้าเดินเข้าร้านผมก็บอกเธอว่าเราเจอกันอีกครั้งพรุ่งนี้ตอน 10 โมงเช้าได้ไหมเพราะตอนนี้เรากำลังยุ่งอยู่ เธอก็บอกโอเค..แล้วเธอก็เดินออกไป..<br />
<br />
ผมมานึกถึงเมื่อครั้งที่ผมเขียนจดหมายไปหา Elizabeth บอกเธอว่ารู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้ทำ Business ด้วยกัน God knew who told you the truth และผมก็ไม่ Blame เธอที่เธอมีแนวโน้มที่จะเชื่อ Nee มากกว่าผมเพราะเขารู้จักกันมานานแล้ว แต่อย่างไรก็ดีในกาลข้างหน้าหากทั้งเธอและผม Still in the same business อยู่เราคงได้เจอกัน<br />
<br />
และวันนี้เราได้มาเจอกันอีกครั้ง....เจอกันแบบที่ว่าเธอไม่คาดฝันว่าผมจะก้าวมาถึงขนาดนี้ได้...ผมสะใจและก็ดีใจจริงๆนึกถึงเมื่อไหร่ก็ขนลุกเมื่อนั้น....Where there is a will..there is a way...ความพยายามอยู่ที่ไหน..ความสำเร็จอยู่ที่นั่น...ยังใช้ได้ดีเสมอ..<br />
<br />
รุ่งขึ้นอีกวันผมก็ไปที่ Market ประมาณ 9.30 น. ถึงตอน 10.00 น. ผมก็ไม่เห็น Elizabeth มาตามนัดแล้วเธอก็ไม่ได้โทรมาด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร..ถึงมาผมก็จะให้เขาตกลงกับ Joe อยู่ดีเพราะ Joe เป็น Manager และก็เป็น Territory ของเขาด้วย...ทางเดียวที่ Elizabeth จะเอาชุดแม้วนี่ไปขายตอนนี้ได้ก็คือเป็นเซลส์ให้เท่านั้น จะมาสั่งซื้อจากผมแล้วเอาไปจัดจำหน่ายเองไม่ได้แล้ว เพราะผมก็มี Net Work กระจายไปทั่วประเทศแล้ว ผมเองก็ไม่รู้ถึงสาเหตุที่เธอไม่มาว่าเป็นเพราะอะไร...แต่งานของเธอก็เป็นงานอย่างที่ผมทำนี่แหละ...ออกแบบ..หาแบบมาแล้วก็เอามาขาย...Take Order แล้วก็ Fill up Order..วงการแฟชั่นที่โน่นมันเป็นอย่างนี้..<br />
<br />
บ่ายวันอาทิตย์ผมก็กลับพร้อมกับ Order ที่ได้รับมาผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่ก็เกือบ 4 พันตัวนี่เฉพาะที่ Dallas ที่เดียวนะ..ยังจะมีจาก California, Miami, Chicagoและก็ Atlanta อีก..<br />
<br />
ผมตั้งใจจะไปอยู่ Chicago 3 วันคือศุกร์เสาร์และอาทิตย์...ผมบินจาก Houston ไป Chicago ตอนเช้าวันศุกร์ไปถึงโน่นก็บ่าย..จำได้ว่าจะใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง...โดยมีพี่เขยและพี่สาวไปรอรับผมก็ไปนอนบ้านเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนักไปทำอะไรกินกันแล้วก็คุยกันถึงเรื่องอดีต..พี่สาวผมเขาก็ดีใจนะที่ผมผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจได้...พี่สาวก็ปลื้มไปกับผมที่ไม่ผิดหวังกับน้องชายคนนี้...แหะๆ..<br />
<br />
เช้าวันเสาร์พี่เขยก็ขับรถไปส่งผมที่ Apparel & Accessory Shows ที่ Merchandise Mart ถนนอะไรผมก็จำไม่ได้แระอยู่ใน Downtown Chicago นั่นแหละแล้วผมก็บอกพี่เขยให้มารับผมตอน 5 โมงเย็นผมจะมายืนรอตรงที่ Drop ผมนั่นแหละแล้วผมก็ Check in เข้าไปในตึกในใจก็นึกว่าเราเคยอยู่ชิคาโก้มาเป็นปีไม่เคยได้ย่างกรายเข้าไปในตึกนี้เลยทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้มีธุรกิจหรือธุระปะปังอะไรที่เข้าไปในนั้นแล้วผมก็ไปถึงโชว์รูมของ Rep. คนนี้ของผมเป็นครั้งแรกที่เขาจะเริ่มขายเพราะเขาได้ยินกิติศัพท์ว่าขายดีใน Texas และ California เขาจึงเอาไปลองดู ผมจำชื่อ Sales Rep คนนี้ไม่ได้แระเพราะเขาไม่มีผลงานอะไรที่ประทับใจเอาง่ายๆก็คือขายไม่ค่อยได้..ว่างั้นเถอะ..คือมันจะขายได้อย่างไรเมื่อผมไปถึง Show Room เขาดูแล้วเขาไม่ได้คิดที่จะ Promote ชุดผมเลย..แทนที่จะเอาไปใส่ในหุ่นที่ตู้โชว์เขากลับเอาไปแขวนไว้ตรงมุมห้องริมสุด..<br />
<br />
คนที่ไม่สังเกตก็จะไม่เห็นมันจะต้องวางโชว์ให้เด่นสะดุดตาคนถึงจะสนใจแถมยังต้องแนะนำลูกค้าด้วย...อ้อ..ลืมบอกไปว่าผมมาที่ Chicago Market ครั้งนี้ผมไม่ได้บอกเซลว่าผมจะมา..แต่ผมได้ส่งเงินให้เขา $300.00 เพื่อช่วยค่าโชว์รูมระหว่าง Market ผมไปก็อยากจะไปสังเกตการณ์เท่านั้นและก็ถือโอกาสไปเยี่ยมพี่สาวด้วย แล้วผมก็ได้เรียนรู้มาอีกอย่างคือพวก Sales Rep. นี่เขามักจะติดต่อไปตามบริษัทต่างๆว่าจะ Represent Line ให้พร้อมกับขอช่วยค่าเช่าห้องเขาหน่อยบริษัทที่ต้องการ Rep. ก็จะสนองตามที่เขาต้องการแต่เมื่อ Rep. ได้รับตัวอย่างสำหรับเอาไว้ Take Order แล้วหากเขาไม่ชอบเขาก็ไม่เอามาโปรโมทหรือบางทีไม่เปิดกล่องดูด้วยซ้ำ..<br />
<br />
ผมนั่งอยู่ในโชว์รูมเขาประมาณ ½ ชั่วโมงผมก็ขอตัวกลับเพราะบอกเขาว่าพอดีผมมาธุระมาเยี่ยมพี่สาวเลยถือโอกาสมาแวะเยี่ยมเยียน(ที่แท้ก็อยากจะมาดูว่าเขาจะตั้งใจขายให้เราหรือเปล่า) เมื่อผมลากลับผมก็ออกไปเดินดูตามชั้นและโชว์รูมต่างๆ โชว์รูมไหนที่มีเสื้อผ้าอยู่ใน Category เดียวกันกับของผมๆก็จะขอนามบัตรเขามาเพื่อที่จะติดต่อภายหลัง..ว่าเขาสนใจที่จะ Represent Line เราไม๊..<br />
<br />
ได้เวลา 5 โมงเย็นพี่เขยก็มารับพี่สาวก็มาด้วยเขาตั้งใจจะพาผมไปกินอาหารจีนที่ China Town กินเสร็จแล้วก็กลับบ้านรุ่งขึ้นอีกวันตอนเช้าผมจำไม่ได้ว่าไปเที่ยวไหนกัน...ตอนบ่ายเขาก็ไปส่งผมที่สนามบินกลับ Houston<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... Growing Pain...มีออเดอร์เข้ามาเยอะมาก...ทำไม่ไหวเพราะทุนน้อยและก็ทำไม่ทันด้วย...ส่งเมียมาอยู่เมืองไทยเพื่อเปิดโรงงาน..</span><br />
<br />
Highway #7 Downtown Houston, Texas, USA, 2004 500<br />
<center><img src="http://upic.me/i/au/16highway7downtownhoustontexasusa2004500.jpg"></center><br />
ตอนที่ 17... Growing Pain...มีออเดอร์เข้ามาเยอะมาก...ทำไม่ไหวเพราะทุนน้อยและก็ทำไม่ทันด้วย...ส่งเมียมาอยู่เมืองไทยเพื่อเปิดโรงงาน..<br />
<br />
หลังจาก Market Weeks ผ่านไปผมก็เอา Order จากเซลส์ทั้งหมดมารวบรวมดูได้ Order มาเกือบแปดพันตัว นาย Joe ขายได้เป็นอันดับหนึ่ง นาย Don จากแคลิฟอร์เนียเป็นอันดับ2 นาย Paul จาก Miami เป็นอันดับ3 นาย Millard จาก Atlanta เป็นอันดับ4 เซลส์จาก Chicago มาเป็นอันดับ5 (ส่งมา 6 ออเดอร์รวมทั้งหมดไม่ถึงร้อยตัว) เซลส์คนนี้หลังจากผ่านไปอีก 1 Season เขาก็แพ็คตัวอย่างส่งคืนเขาบอกว่าเขาทำอะไรไม่ได้..แต่ผมก็มีคนใหม่มาแทน..<br />
<br />
เอาละสิปวดหัวแระ..แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาหมุนมาลงทุนวะเนี่ย..ไปกู้แบ็งค์ก็ไม่ได้ถึงได้อย่างดีก็แค่ 2-3 พันเหรียญสำหรับ Personal Loan นอกจากนี้แล้ว..จะไปหยิบยืมใครที่ไหนให้ลืมเลย วันหนึ่งเลยตัดใจเข้าไปที่แบ็งค์ไปขอกู้เขา..แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ..เพราะเราไม่มีหลักประกันอะไร..แม้จะเอา Account Receivable ที่รอจ่ายจากลูกค้าอีกหลายหมื่นเหรียญเป็นประกันเขาก็ไม่เอา..ติดต่อไปยังบริษัท Factor หมายถึงเขาจะรับซื้อ Account Receivable ของเราโดยมีส่วนลด 7-10% จากราคาเต็มแล้วก็จะเลือกเอาแต่ Accounts ที่มี Credit ดีด้วย..<br />
<br />
ถึงคราวเสียแล้วก็ต้องยอมไม่เช่นนั้นธุรกิจเราจะหยุดชะงักจะต้องหาเงินมาเพื่อทำการผลิตให้ได้ก็เลยนัดให้เขามาดู Accounts เขาก็เอาไปตรวจสอบดูเป็นอาทิตย์แล้วบอกว่าเขารับได้ประมาณ 10% ของ Account Receivable ที่เรามีเท่านั้น..มานั่งคิดสารตะดูแล้วมันไม่คุ้มอะไรจะได้มาไม่กี่พันเหรียญเองแถมยังจะเสียส่วนลดไปอีกเป็นพันเหรียญในเวลาไม่ถึงเดือน..ที่สุดก็เลยบอกโนไป..<br />
<br />
อีกสองวันต่อมาผมกลับไปที่แบ็งค์ใหม่ได้เจอกับ Ms.Mann ซึ่งเป็นรองประธานของแบ็งค์นั้น..ผมหอบเอาออเดอร์ที่ผมได้รับสองแสนกว่าเหรียญให้เขาดู..และเอา Account Receivable ที่มีประมาณ 50,000 เหรียญให้เขาดู..ถ้าลูกค้าจ่ายตรงเวลาภายใน 1 เดือนหรือกว่าๆก็จะได้รับหมดแถมยังมีเพิ่มจากที่ขายไปอีกทุกวัน..<br />
<br />
Ms.Mann เขาก็ดูหลักฐานที่ผมให้เขาดูประกอบแล้วเขาก็บอกว่า "Aka..you are in a situation of growing pain" ทีแรกผมก็งงว่า Growing pain นี้มันคืออะไร..ก็ถามเขากลับเขาก็บอกว่าธุรกิจคุณไปได้ดี..แต่ในเวลาเดียวกัน Cash Flow ของคุณมันไม่ Balance กับธุรกิจที่กำลังรุ่งของคุณ..มันถึงทำให้คุณเจ็บปวดไปด้วยไง.. อธิบายมาอย่างนี้ผมก็ถึงบางอ้อ..รู้จักความหมายของคำว่า Growing pain มาตั้งแต่บัดนั้น<br />
<br />
Ms.Mann ก็บอกว่า..I would like to help you.. but it’s the rule of the bank not to lend the money to someone who has no credit nor has established relationship with us without collateral even though you have account with us. คือหมายถึงว่าเขาอยากจะช่วยผมแต่มันเป็นกฎของแบ็งค์ที่จะไม่ให้เงินกู้แก่ลูกค้าที่ไม่มีเครดิตและก็ยังไม่มีประวัติในการกู้ที่นี่ถ้าไม่มีอะไรมาประกันถึงแม้ว่าคุณจะมีบัญชีไว้กับแบ็งค์เราก็ตาม ผมก็บอกให้เขาดูกระแสเงินเข้าออกของผม..เขาก็บอกว่ามันก็ดูโอเค..แต่จะเอามาเป็นหลักประกันในการกู้ไม่ได้<br />
<br />
เอาอย่างนี้นะวิธีที่ฉันพอที่จะคิดช่วยคุณได้ คือคุณต้องสร้างเครดิตกับเราก่อนสักพักหนึ่งดูการผ่อนจ่ายของคุณว่าตรงเวลาไหม หากคุณสามารถจ่ายตรงเวลาได้สัก 3-4 เดือนเรามาคุยกันใหม่.. ผมก็ถามกลับไปว่าในเมื่อไม่ให้ผมกู้แล้วผมจะผ่อนจ่ายแบ็งค์ยังไง.. Ms.Mann ก็ถามว่าตอนนี้คุณหาเงินได้ 1 หมื่นเหรียญไหม.. ผมก็ตอบว่าก็มีอยู่ในบัญชี ประมาณ 7 พันแล้วผมก็ถามต่ออีกว่าถ้าผมมีหมื่นหนึ่งแล้วจะต้องทำอย่างไร... Ms.Mann ก็อธิบายว่าให้ผมซื้อ Certificate of Deposits หรือ CD’s หนึ่งหมื่นเหรียญระยะเวลา 1 ปีโดยจะให้ดอกเบี้ยกี่ % ผมจำไม่ได้แล้วให้ผมกู้เงิน 1 หมื่นนั้นโดยเอา CD’s เป็นประกัน ผมจะจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าที่ผมจะได้รับจาก CD’s 2%<br />
<br />
แล้วผมก็ถึงบางอ้อ..ตกลงที่จะทำตามอย่างที่ Ms.Mann แนะนำถึงแม้ว่ายังแก้ปัญหาให้ผมไปในทันทีไม่ได้ก็ถือว่าเป็นการปูทางไปข้างหน้า.. ผมบอก Ms.Mann ว่าอีกสองสามวันผมจะมารอให้เงินเข้าครบหมื่นก่อน..แล้วผมก็ลากลับ..แต่ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะหาเงินมาจากไหน หากผลิตไม่ได้ออเดอร์ที่ได้มาก็จะสูญเปล่า งานนี้แม่เด็กเขาก็รู้และเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนผมเหมือนกัน เขาบอกว่าเขาจะลองไปกู้ที่ Credit Union ของ City ดู ตอนนั้นเขาทำงานที่ City Of Houston ผมก็บอกโอเค..ลองดู...หลายวันต่อมาแม่เด็กก็บอกว่ากู้ได้ 5 พันเหรียญ<br />
<br />
เมื่อผมไปจัดการซื้อ CD’s และทำสัญญาเงินกู้แล้วผมก็จะมีเงินสดอยู่ในมือ 10,000 เหรียญบวกกับของแม่เด็กอีก 5,000 ก็จะมีในราว 15,000 เหรียญ แต่ผมจะต้องใช้ประมาณ 35,000 เหรียญ..อีกสองอาทิตย์กว่าๆก็คงจะมีลูกค้าทยอยจ่ายมาประมาณ 6-7 พันเหรียญผมก็อาจจะมี สองหมื่นกว่าๆ..แต่มันก็ยังไม่พอ..และผมจะต้องกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุดเพื่อเร่งการผลิต..<br />
<br />
แล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า..มีเงินติดตัวกลับเมืองไทย 25,000 เหรียญ..ตอนนั่งเครื่องกลับ..ก็คิด..ดิด..คิด..แต่ก็คิดไม่ออก..มาคิดออกว่าจะทำยังเอาเมื่อมาถึงเมืองไทยตอนเข้าห้องน้ำที่สนามบินดอนเมือง..เครื่องบินมาถึงดึกไม่มีเที่ยวบินไปเชียงใหม่..ผมต้องรอถึงเช้าถึงจะมีเครื่องบินต่อไปเชียงใหม่..ก็นั่งหลับๆตื่นๆที่สนามบินนั่นแหละจะออกไปนอนโรงแรมก็เสียเวลาเปล่าๆ..<br />
<br />
มาถึงเชียงใหม่ผมก็เข้าไปพูดกับพ่อ..บอกพ่อว่า..ผมกลับเมืองไทยครั้งนี้มีเงินติดมา 500,000 บาทแต่ต้องใช้ทั้งหมดประมาณ 700,000 บาท แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจ่ายทีเดียวหมดคือจะจ่ายเมื่อมีของเข้าพร้อมส่ง..ผมจะเอาเงินนี้ให้พ่อเก็บไว้..แล้วก็ทยอยจ่ายไปตามที่ผมสั่ง..พ่อต้องสำรองไว้ให้ผม 200,000 เผื่อเหลือเผื่อขาดหากทางเมืองนอกส่งมาเพิ่มเติมให้ไม่ทัน..ผมกำชับพ่อด้วยว่างานครั้งนี้ผมมาทำเพิ่ม 5,000 ตัวพ่อได้ตัวละ 10 บาทพ่อก็จะได้อีก 50,000 ซึ่งมันก็อยู่ในงบนี้ด้วย..<br />
<br />
สรุปแล้วพ่อจะสำรองให้ผมแสนกว่าๆเท่านั้นเองส่วนเปอร์เซ็นต์ของพ่อก็จะได้ช้าหน่อยเท่านั้นเอง... เมื่อพ่อผมถูกมัดมือชกอย่างนี้ก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้อีกอย่างก็คงอยากได้ Draft $25,000.00 ไปเข้าบัญชีพ่อยังจะได้ส่วนต่างที่เป็นเศษสตางค์เช่น $1.00 จะแลกได้ 20.50 บาทเป็นต้นแต่พ่อจะลงบัญชีให้ผม 20.00 บาทถ้วน<br />
<br />
เมื่อตกลงกับพ่อได้แล้วผมก็ไปหาเจ๊เจ้าประจำที่ตัดเย็บให้ผมอยู่ ผมก็ถามเขาว่าจะรับงานเพิ่มอีก 5,000 ตัวได้ไหมและให้เสร็จภายใน 1 เดือน เจ๊ก็บอกว่าทุกวันนี้ เดือนละ 6,000 ตัวก็หืดขึ้นคอแล้วนะแล้วจะให้ทำอีก 5,000 ตัวไม่กล้ารับปากกลัวทำให้ไม่ทัน.. เจอแบบนี้แล้วผมจะทำยังไงดีหว่าจะจ้างคนอื่นทำเพิ่ม..ก็ต้องเป็นคนที่ไว้ใจกันได้จริงหากทำไม่ดีไม่เหมือนกับที่รับปากไว้ผมก็ต้องตายแน่ๆเลย.. ผมก็เลยบอกเจ๊ว่า..ผมจะผลิตเองแต่ผมขอคนมือดีของเจ๊ไปคุมงานคนหนึ่งได้ไหม แล้วก็ให้เจ๊รับภาระแค่จัดหาลายแม้วให้แล้วผมจะสมนาคุณให้บ้าง..เจ๊แกก็ตกลง<br />
<br />
ผมก็เริ่มวางแผนงานทันทีผมก็ไปติดต่อซื้อผ้าที่เดียวกับที่เจ๊ซื้อนั่นแหละผมก็เสนอเขาว่าตอนสั่งผมจะจ่าย 50% ที่เหลือ 60 วันเขาก็โอเคเพราะเห็นว่าเจ๊แกก็ทำงานส่งให้ผมและไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินแต่อย่างใด ส่วนพวกด้ายหรืออะไรที่จะใช้ก็ให้ "หมวย" คนที่ผมขอเจ๊มาช่วยเป็นธุระให้หมด.. งานนี้ถ้าเสร็จตามแผนหมวยก็จะมีเงินเป็นแสน(ตัวละ 20 บาทเหมือนกับเจ๊ที่ได้รับ)..ผมก็สบายใจขึ้นเมื่องานเดินราบรื่น..<br />
<br />
อ้อผมลืมบอกไปว่าก่อนที่ผมจะตัดสินใจเรื่องผลิตเองผมได้บอกถึงปัญหานี้ให้แม่เด็กทราบ เขาก็บอกว่าจะให้เขาลางานแล้วมาคุมให้ก็ได้นะลาได้หลายเดือนอยู่ ผมก็ตอบตกลง เมื่อทุกอย่างราบรื่นผมก็บอกให้แกซื้อตั๋วเดินทางมาเมืองไทยเลย(เป็นครั้งแรกที่แกเดินทางมาเมืองไทย)แนะนำงานอะไรเสร็จผมจะได้กลับสหรัฐ อีกไม่ถึงอาทิตย์แม่เด็กก็เดินทางมาถึงผมไปรับแกที่สนามบินดอนเมือง พาแกไปเที่ยวที่เมืองโบราณปากน้ำแล้วก็ไปพัทยานอนค้างที่นั่นหนึ่งคืน..รุ่งอีกวันก็กลับเชียงใหม่..<br />
<br />
เนื่องจากพวกคนงานเดินทางมาทำงานที่บ้านผมไม่ได้..ผมก็ไปเช่าบ้านหลังหนึ่งให้คนงานตัดเย็บอยู่ ที่ไปกลับก็มี หมวยเป็นคนจัดการและคุมทั้งหมด ผมให้แม่เด็กไปดูแลด้วยเพราะต้องการให้งานเดินไปตามเป้าหากมีอะไรผิดพลาดจะแก้ไขได้ทัน.. ดูแม่เด็กเขาก็ชอบงานนี้ อีกอย่าง..ผลไม้..อาหาร..อุดมสมบูรณ์..เขาแค่เดินไปตลาดไปเลือกซื้ออาหารกินวันหนึ่งจ่ายค่าอาหาร 2-3 ดอลล่าร์ก็เหลือกินแระ (ผมจำไม่ได้ ปี 1983 ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกงจานละเท่าไหร่นะ)<br />
<br />
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมก็เดินทางกลับสหรัฐ..ใช้เวลาอยู่ในเมืองไทยครั้งนี้ประมาณ 3 อาทิตย์..<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... กลับถึงสหรัฐ มีออเดอร์มาเยอะมาก....หลายรายส่งให้ไม่ทันตามที่เขาต้องการเขาก็ Cancel ไปโดยอัตโนมัติ...เผลอตัว..เผลอใจ...</span><br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> "คืออยากจะเล่าช่วงนี้จริงๆ" <a href="http://read2533.blogspot.com/2016/09/blog-post.html" target="_blank">เมื่อผมต้องผันตัวเองไปประกอบอาชีพเป็น เซลส์แมน...ในแดนมะกัน...</a><br />
<br />
Beverly Hills Los Angeles U.S.A.<br />
<center><img style="max-width: 500px;"src="http://upic.me/i/8y/17beverlyhillslosangelesu.s.a..jpg" /></center><br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่... ศาสตร์เลี้ยงลูกให้ได้อย่างใจ... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> For...Friends&Friends <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/share/NDYyM3w4M2VhYTY3MjI3OThhNzczZGQ1NWU4ZmM3NDQzYWEwOXwzMDQ2Mg==" target="_blank"><img src="http://thanapat53a25.wikispaces.com/file/view/click1.gif/351004366/click1.gif"></a><br />
<br />
E-Bookโหลดทั้ง2part แตกไฟล์คลิกขวาpart1 คลิกซ้ายExtract Here <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4ODJ8ODM4NmQ3ZGNmZTJmYjc2ZWI1ZjVlOTliOTNmOGRkMjN8MzA0NjI=" target="_blank">Part1</a> & <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4Nzl8YjYxYjVmY2M4NDQ0MGFjNDBlODFjYTE5NmQ5YjBiNmV8MzA0NjI=" target="_blank">Part2</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> เป็นพ่อเป็นแม่คน...เรื่องนี้ให้เก็บเอาไปคิดเป็นการบ้าน... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/hna-xan-hna-suksa-7" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตต้องสู้...Jimbo นักธุรกิจใหญ่ที่ชะตาผกผัน...มาเป็นคนขายปลาทู...สู่คนขับแท็กซี่...ลีมูซีน และอีกหลายๆๆ... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ลองอ่านๆดู ผมว่ามันฮามาก... ชีวิตท.ทหารเกณฑ์...รันทดยิ่งกว่านวนิยายน้ำเน่าอีกว่ะ!... <a href="http://northernfoodd.blogspot.com/2013/04/1-2.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> โฉมฉาย อรุณฉาน...สาวสวยร้องเพลงไพเราะที่ผมขอเขียนถึงสักครั้ง <a href="http://redbkk.blogspot.com/2010/05/13.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> การเมืองเร่อะ...อย่า"อิน"ให้มากนัก เพลาๆกันไว้มั่ง <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/08/67.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ห้องนอนใครเหม็นอับมาทางนี้... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/khxkhid-di-di" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<center>กะลังมันส์!! รอหน่อยนะตะเอง...อิอิ<br />
<img src="http://app.eduzones.com/ezupload/uploads/200814_171842.gif"></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-31729930080595997472013-03-04T00:08:00.000+07:002013-05-02T22:30:49.976+07:0031 ผมว่า..เป็นการแพ้แบบช่องว่างระยะห่างเริ่มแคบเข้ามามากกว่าน่ะ<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/12/71.html" target="_blank">ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/01/102.html" target="_blank">แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/10/24-master-of-business-administration-mba.html">สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/01/103.html" target="_blank">เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/1-01.html" target="_blank">ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่สามารถวางเพลิงได้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/1-01.html" target="_blank">หึหึ ปวดตับละทีนี้ จะรุกเขมิบม้า เจอสวนรุกฆาต โบราณว่า..เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/03.html" target="_blank">โถ..โถ..โถ..น่าสมเพชเวทนา เอา"ข้าวนึ่ง"จากไหนไม่รู้ จัดฉากใส่ร้ายเขาเป็นตุเป็นตะ หวัง"ตีกิน"ตามสันดาน!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/02/104.html" target="_blank">มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2013/02/73.html" target="_blank">สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/04.html" target="_blank">พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/03/105.html" target="_blank">"ลื้อมีร่มมั้ย??..." แค่คำนี้แหละ ที่ทำให้นิสัยผมเปลี่ยนทันที</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.616360008378025.1073741827.100000120933242&type=1&l=e36f6511ea" target="_blank">เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/03/05-2.html" target="_blank">ทำความเข้าใจก่อนวิจารณ์ "การลงทุน 2 ล้านล้าน" กับ รัฐมนตรีชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/07.html" target="_blank">หนีก็ตาย สู้ก็ตาย สู้เถอะ ยังมีศักดิ์ศรี ยังมีโอกาสรอด!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/08.html" target="_blank">เขียนให้อ่าน..จากใจ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/09.html" target="_blank">ทิ้งหนี้ไว้ให้ลูกหลาน โดย ดร.วีรพงษ์ รามางกูร</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/10.html" target="_blank">คุณเชื่อใคร.. ระหว่าง กนก ส.ส.ปชป. กับ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/11.html" target="_blank">อะไรคือ มรดกอสูร!!! ใครคือ ทายาทอสูร!!! ดร.โกร่งมีคำตอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/12.html" target="_blank">ผงซักฟอกยี่ห้อใหม่ตราตาชั่งเอียงสีฟ้า</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/13.html" target="_blank">เป็นเพราะว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการรักษาความยุติธรรม..และยังทำลายความยุติธรรมด้วยมือของตนเองอีกด้วย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/04/14.html" target="_blank">คำแปล ปาฐกถาพิเศษ ปชต."นายกฯยิ่งลักษณ์"ที่มองโกเลีย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/05/15-312.html" target="_blank">จดหมายเปิดผนึก.. ส.ส.และ ส.ว.312 คน คัดค้านและไม่ยอมรับการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/yj/1362316850-image-o2.jpg"></center><br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/4QPdlEPOeF0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ผมว่า..เป็นการแพ้แบบช่องว่างระยะห่างเริ่มแคบเข้ามามากกว่าน่ะ</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: คนการเมือง</span><br />
<br />
ปชป. สุขุมพันธุ์ ปี 2552 ได้ 934,602 คะแนน<br />
พท. ยุรนันท์ ปี 2552 ได้ 611,669 คะแนน<br />
ห่างกัน 322,933 คะแนน<br />
<br />
ปชป. สุขุมพันธุ์ ปี 2556 ได้ 1,256,231 คะแนน<br />
พท. พงศพัศ ปี 2556 ได้ 1,077,899 คะแนน<br />
ห่างกัน 178,332 คะแนน<br />
<br />
เป็นที่ทราบกันแล้วว่า ในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ฐานเสียงเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ เขตกรุงเทพฯชั้นนอกฐานเสียงเป็นของพรรคเพื่อไทย และเขตกรุงเทพฯชั้นกลาง จะเป็นพลังเงียบที่สามารถโอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งได้<br />
<br />
เคยแพ้มา เมื่อปี 2552 ไม่น้อยเกือบ 40% หรือ 322,933 คะแนน เลยทีเดียว แต่ คราวนี้มันไม่ใช่ เป็นการแพ้แบบช่องว่างระยะห่างเริ่มแคบเข้ามา ห่างกันแค่ 14% หรือ 178,332 คะแนน<br />
<br />
พท. ยุรนันท์ ปี 2552 ได้ 611,669 คะแนน<br />
พท. พงศพัศ ปี 2556 ได้ 1,077,899 คะแนน<br />
คะแนนเพิ่มขึ้น 466,230 คะแนน<br />
<br />
ครั้งนี้ พท. ได้คะแนนเพิ่มขึ้นมา 76.22% หรือ 466,230 คะแนน มากขนาดนี้ ต้องยกนิ้วให้กระแสช่วย ของ ท่านนายกฯปู และทีมงานผู้วางแผนการเลือกตั้งทั้งหมด อย่างน้อย ทำให้ได้บทเรียนว่า ต้องทำงานหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า เมื่อเทียบกับคะแนนที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างฮวบฮาบ จึงจะประสบชัยชนะ!!<br />
<br />
กรุงเทพฯเขตชั้นใน ประกอบด้วย 21 เขตปกครอง คือ พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ปทุมวัน บางรัก ยานนาวา สาทร บางคอแหลม ดุสิต บางซื่อ พญาไท ราชเทวี ห้วยขวาง คลองเตย จตุจักร ธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ดินแดง และ วัฒนา<br />
<br />
กรุงเทพฯเขตชั้นกลาง ประกอบด้วย 18 เขตปกครอง คือ พระโขนง ประเวศ บางเขน บางกะปิ ลาดพร้าว บึงกุ่ม บางพลัด ภาษีเจริญ จอมทอง ราษฎร์บูรณะ สวนหลวง บางนา ทุ่งครุ บางแค วังทองหลาง คันนายาว สะพานสูง สายไหม<br />
<br />
กรุงเทพฯเขตชั้นนอก ประกอบด้วย 11 เขตปกครอง คือ มีนบุรี ดอนเมือง หนองจอก ลาดกระบัง ตลิ่งชัน หนองแขม บางขุนเทียน หลักสี่ คลองสามวา บางบอน ทวีวัฒนา<br />
<br />
ก่อนอื่น ต้องให้ นักคณิตศาสตร์ ทำ statistics สถิติ ตามหลักวิชาการออกมาว่า แต่ละเขต แต่ละพื้นที่ แพ้ชนะกันกี่เปอร์เซ็นต์ เก็บเป็นข้อมูลถึงฐานเสียง เพื่อต่อยอด เพื่อใช้เป็นตัวเลข ที่นำมาปรับปรุงวางแผนหาวิธีที่ดีสุด ในโอกาสต่อไป<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://prachatai.com/journal/2013/03/45611" target="_blank">เทียบคะแนน กทม. ปชป.&พท. รอบ 5 ปี</a><br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/LENUbDtk5w0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
อิอิ.. รายงานซะหน่อย ทั้ง 2 หน่วยนี่เขาตั้งเต๊นท์ที่สนามหน้าบ้านน่ะ...<br />
<br />
เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. วันที่ 3 มี.ค.2556 หน่วยเลือกตั้งที่ 9 และหน่วยเลือกตั้งที่ 10 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร<br />
<br />
สรุป.. หน่วยเลือกตั้งที่ 9 เบอร์ 9 ได้ 197 คะแนน, เบอร์ 16 ได้ 78 คะแนน<br />
<br />
สรุป.. หน่วยเลือกตั้งที่ 10 เบอร์ 9 ได้ 236 คะแนน, เบอร์ 16 ได้ 87 คะแนน<br />
<br />
หมู่บ้านที่เราอยู่ชนะก็ดีใจแย้ว...อิอิ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/ln/2013-01-18_01.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำให้ได้คิดอะไรบางอย่าง</strong></span><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: metung</span> : ผมคิดว่าผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้แปลกใจหรือพลิกอะไรนัก ได้คนละเกินล้านเสียงก็สมเหตุสมผลดี<br />
<br />
แต่ผมคิดว่า รัฐบาลเพื่อไทยมีปัญหากับวิธีคิดแนวทางที่ทำอยู่ โดยการเกี้ยเซียะกับข้างบน ปรองดองกับภาคส่วนกลุ่มต่างๆ โดยไม่ได้ตรึกตรองจริงๆว่าเขาเหล่านั้นต้องการมั้ย...<br />
<br />
การที่พรรคการเมืองหนึ่งไม่ได้ชูประเด็นเรื่องผลงานหรือนโยบาย แต่กลับชูวาทกรรม ชูความขัดแย้งแตกแยกเกลียดชัง ถึงขั้นเราจะไม่มีแผ่นดินอยู่ถ้าข้าศึกชิงเมืองได้ แล้วได้รับการยอมรับได้รับเสียงสนับสนุนร่วมล้านสองไม่ธรรมดานะครับ<br />
<br />
มันได้สะท้อนแสดงถึงความคิดของคนในสังคมนี้ ว่ารู้สึกนึกคิดอย่างไรพร้อมที่จะก้าวข้ามหรือสมัครใจที่จะคงอยู่กับเรื่องใดๆ<br />
<br />
การอ่อนข้อการปรองดองหรือเกี้ยเซียะมันได้กลายเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลเพื่อไทยเอง<br />
<br />
ผมไม่ได้อยากให้นายกฯปูลุกมาตีฝีปากกับนักการเมืองอย่างนายอภิสิทธิ์นะครับ การวางตัวที่เป็นอยู่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องที่ต้องทำต้องแก้กลับไม่ได้ทำไม่ได้แก้อะไรเลย อย่างการแก้ รธน. การนิรโทษกรรม การลบล้างผลจากรัฐประหาร หรือแม้แต่จะอยากเอาทักษิณกลับบ้านมาดำเนินคดีใหม่ตามกระบวนปกติ<br />
<br />
สิ่งเหล่านี้รัฐบาลทำได้ถ้ารัฐบาลกล้าพอ จะมีช่วงที่ทำได้ในสามเดือนแรกที่ชนะเลือกตั้งเท่านั้น(ซึ่งได้เลยมาไกลแล้ว) มัวแต่เอาเวลาไปเกี้ยเซียะไปกราบคนนั้นคนนี้ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอยู่มาปีกว่ายิ่งนานวันโอกาสทำเรื่องที่ถูกต้องควรทำยิ่งยากเต็มทีอาจถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ<br />
<br />
แล้วถ้าถามว่า ประเทศนี้จะไม่ต้องปรองดองกันเลยเหรอ? ผมเห็นว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นเองถ้าทุกคนพร้อม ความจริงความถูกต้องหลักการบรรทัดฐานที่ถูกต้องจะนำมาซึ่งความปรองดองในที่สุด ผมกลับมองว่าสิ่งที่ควรทำในช่วงแรกแต่รัฐบาลกลับไม่ทำนั้น จะนำมาซึ่งความปรองดองของคนในชาติอย่างยั่งยืน<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: peejim</span> : เราเองก็เลือกเบอร์ 9 แต่ในใจส่วนลึกๆแล้วบอกได้เลยก็ยังไม่ถูกใจท่านนัก เพราะชอบคุณสมบัติคนอย่างคุณประพัฒน์ จงสงวน มากกว่า หรือถ้าคุณปลื้มจะถูกใจเรามากๆ ได้แต่เสียดายที่ พท.ส่งท่านพงศพัศ ไม่ได้บอกว่าท่านไม่ดีแต่ยังไม่ค่อยถูกใจ แล้วหากเปรียบกับคุณชายเราก็จะเลือกพงศพัศ ได้หรือไม่ไม่ว่ากัน เข้าใจระบอบประชาธิปไตยดี<br />
<br />
ส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุ ที่เราพอจะมองออกและเป็นความเห็นส่วนตัวของเราเอง วัดจากคนรอบข้างเราเองซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด อยู่กรุงเทพฯเกือบจะครบ 60 ปีแล้วขาดไปแค่ 3 ปี <br />
<br />
คนกรุงไม่ค่อยสนใจจริงจังกับความเป็นไปของสังคมโดยรวม สนใจแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเองมากกว่าอะไรที่เป็นผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ เลือกที่จะเสพข่าวจากทีวีโดยการดูและฟังเป็นส่วนใหญ่ อาจเพราะไม่ค่อยมีเวลา สนใจแต่กระแส อะไรที่เป็นกระแสที่ออกสื่อมักจะมะรุมมะตุ้มไปทางนั้น ภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างจึงได้รับความนิยมมากกว่าจะมาแยกแยะวิเคราะห์เอาความจริง<br />
<br />
บางครั้งการอยู่ในเมืองหลวงที่เจริญสูงสุดในประเทศทำให้คิดไปว่าตนนั้นดีกว่าเลิศกว่าใครๆ จากการขยันรายงานข่าวของทีวีหลายๆช่อง จำไม่ได้แน่ว่าช่องไหนบ้าง แยกแยะประเภทคนทั้งวัยวุฒิคุณวุฒิต่างๆที่จะเลือกใครเบอร์อะไร มีอยู่ข้อหนึ่งที่เราฟังแล้วจี๊ดในใจเลย คือบอกว่าคนวุฒิตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปส่วนใหญ่จะเลือก ปชป.เลือกเบอร์ 16 ถ้าต่ำกว่านั้นจะเลือก พท.เบอร์ 9 เหมือนจะเป็นการชี้นำสังคมกลายๆ คนกรุงซึ่งเสพสื่อทีวีอย่างเดียวโดยไม่คิดวิเคราะห์ก็มี ส่วนคนที่ไม่สนใจการเมืองจะคิดว่านักการเมืองเลวทั้งนั้น ได้ใครมาก็ไม่ต่างกันจึงเลือกเบอร์อื่นๆ ไม่ก็งดออกเสียงหรือไม่ไปออกเสียงซะงั้น<br />
<br />
อีกส่วนหนึ่งเรื่องความเด็ดขาดของพรรครัฐบาลเสียงข้างมาก แต่กลับทำอะไรมากไม่ได้ ติดโน่นติดนี่ไปหมดและกลัวการถูกล้มกลัวการสูญเสียอำนาจการเป็นรัฐบาลมากไป หลายสิ่งหลายอย่างควรรีบทำกลับเพิกเฉยหรือยอมๆเพื่อความปรองดอง (ซึ่งดูยังไงก็ไม่มีความจริงใจจากอีกฝ่ายเลย) ทำให้คนส่วนหนึ่งเบื่อ กับความไม่ค่อยเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างพรรคกับคนเสื้อแดงหรือคนเสื้อแดงด้วยกันทำให้สับสนไม่ค่อยเป็นเอกภาพ อย่าทำให้คนที่เลือกท่านเพราะหวังในสิ่งดีๆที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปในทางที่ดีขึ้นได้แต่เฝ้ารอ กำลังใจมันจะถูกทอนลง และอย่าฮึกเหิมคะนองในอำนาจวาสนาที่ได้มาจนลืมอุดมการณ์แต่แรก<br />
<br />
เข้าใจว่า พท.และเสื้อแดงมาจากหลายกลุ่ม แต่เมื่อมาถึงจุดนี้พวกท่านต้องรวมตัวกันให้ได้ ขจัดจุดต่างรักษาจุดร่วมให้ได้ดีกว่านี้ เหมือนอีกฝ่ายที่ไม่ว่าจะอย่างไรอุดมการณ์เดียวกันได้ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องป้ายสี ใส่ร้าย บีบน้ำตา สารพัด ทำกันได้ถ้วนหน้ายอมรับในความแน่นเหนียวพร้อมเพรียงจริงๆ<br />
<br />
อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับคนกรุงอย่างยิ่งคือ การเล่นเรื่องสถาบัน จะยังคงชี้นำสังคมคนกรุงเทพฯได้ตลอดไป กับเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ดูง่ายๆ คนร้องไห้เพราะห้างถูกเผามากกว่าคนที่ร้องไห้เพราะ ปชช.ถูกสังหาร ถูกล้อมปราบอย่างกับอยู่ท่ามกลางสงครามกลางเมือง ยังนึกถึงวันบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ได้ไหม กระแสสังคมเมืองกรุงยังฉาบฉวยอยู่ดี ระหว่างแก่นกับกระพี้จะเลือกอะไรดี<br />
<br />
สุดท้ายคำว่าทักษิณ กับยึดบ้านยึดเมือง คำพูดเด็ดๆจากพรรคที่ดีแต่พูดก็ยังใช้ได้ผลกับคนกรุงเทพฯของเราอยู่ดี เก่งจริงๆ ยอมเขาเลย<br />
<br />
ยอมรับผลการเลือกตั้งได้ เพราะนั่นคือวิถีแห่งประชาธิปไตย ผลต่อมาก็คงต้องยอมรับสภาพกันไป (ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่เคยหวังผลประโยชน์อันใดได้เลยกับผู้ว่าฯ กทม.ตลอดแปดปีมานี้แถวบ้านเราก็เหมือนเดิมไม่เคยลอกท่อไม่เคยมีใครมาใส่ใจดูแลเช่นเดิม) แต่อุดมการณ์และความรู้สึกในจิตใจมิมีใครมาเปลี่ยนเราได้เช่นกัน<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แบมบี้</span> : มันจะไม่ชนะได้ไง บ้านร้าง คอนโดร้าง อาคารชุดที่ยังไม่มีคนอยู่ มันก็เอาชื่อผีเข้าไปสิง เพราะถ้ามันเอาไปใส่บ้านที่มีคนอยู่จะมีร้องเรียน มันก็เลยเอาไปยัดบ้านที่ไม่มีคนอยู่ไง บ้านบางหลัง เป็นบ้านร้าง แต่มีชื่อคนในทะเบียนบ้านเกือบร้อยคน มันรู้ว่าต้องย้ายเข้ากี่วันถึงจะมีสิทธิ์เลือกตั้ง มันเตรียมการไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: เพื่อนกันนะ</span> : อันนี้เป็นวิธีที่พรรคเพื่อไทยต้องไปคิดทำเป็นการบ้าน แค่ 2-3 ล้านเสียงเพิ่มกับที่มีอยู่ใน กทม. ไม่ยากเลย...<br />
<br />
คนเหนือ คนอีสาน...มีญาติพี่น้องมาทำมาหากินใน กทม.ก็เยอะ ย้ายสำมโนครัวเข้ากรุงไว้เป็นฐานเสียงให้ในเขต กทม. จะเอากี่แสน? โดยการแบ่งเสียงที่กินขาดจากต่างจังหวัดเข้า กทม. ย้ายไปแล้วตัวไม่ต้องย้าย ทำมาหากินในถิ่นเดิมก็ได้...เลือกตั้งทีก็เข้า กทม.ที ว่ามะ?<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: butiq</span> : คุณว่ามาอย่างนี้ก็ดีละ...ผมอยากจะรู้ว่าทำไมคนในพรรคเพื่อไทยถึงคิดอย่างนี้ไม่ได้...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แบมบี้</span> : จะวิแคะให้ฟัง แบบกระจ่างๆ น่ะ... วิธีโกงแบบเนียนสุดๆ การเลือก ส.ส.ทั่วประเทศ มันใช้วิธีนี้ไม่ได้ เพราะเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศไง 1 คน 1 เสียง แต่ถ้าเลือกตั้ง เป็นหย่อมๆแบบนี้ ย้ายเข้าย้ายออกได้สบาย มันมีการเตรียมการกันไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะวันหมดวาระใครๆก็รู้ วันเลือกตั้งใครๆก็รู้ใช่ไหม เห็นหรือยังวิธีการนี้แนบเนียนมาก หาเสียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ มันเอารายชื่อคนต่างจังหวัดย้ายเข้าทะเบียนบ้านกลางบ้าง ทะเบียนบ้านร้าง คอนโดร้าง ห้องชุดที่เจ๊งแล้วบ้าง เพราะไม่มีเจ้าบ้าน ไม่มีคนร้องเรียน ย้ายก่อนเลือกตั้งตามเวลาที่กฎหมายกำหนด แค่นี้ก็มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ได้แล้ว เห็นวิธีหรือยัง ตาสว่างกันหรือยังล่ะ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ทุ่งหอมแดง</span> : เลือกผู้ใหญ่บ้าน ที่บ้านผมก็ใช้วิธีนี้ครับ โอนคนมาเข้าทะเบียนบ้านก่อนการเลือกตั้ง แต่คนยังอยู่ที่หมู่บ้านของตัวเอง ถึงเวลาเลือกก็มาเลือก พอเลือกเสร็จโอนกลับภูมิลำเนาเดิม ถึงกับเป็นเรื่องเป็นราวเพราะฝ่ายเจ้าถิ่นแท้ๆไม่ยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มีจริงครับทำแบบนี้ ไม่รู้ฝ่ายรัฐมีการตรวจสอบข้อมูลการย้ายบ้านที่มันผิดปกติบ้างหรือเปล่า<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดงจริงๆ</span> : รายชื่อผีสิงในบ้านร้าง คอนโดร้าง ในกรุงเทพฯ ตั้งเท่าไหร่ล่ะ บางบ้านที่ปล่อยร้าง หลังเดียวมีคนในทะเบียนบ้านเกือบร้อยคน เขาเตรียมตัวมาแล้วเป็นอย่างดี เสร็จภารกิจ ก็ย้ายกลับภูมิลำเนาเดิม แล้วอีกอย่าง กทม.มีทะเบียนบ้านกลาง ที่ใครๆก็ไปสิงสถิตได้...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: คนเมืองหนาว</span> : ผมเห็นด้วยกับคุณแบมบี้มากที่สุดครับและตรงกับความคิดของผม สังเกตดู การเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับการเลือกตั้งใหญ่ใน กทม.เลือกทีไรแพ้คนของประชาธิปัตย์ทุกครั้งเพราะมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคะแนนผี จริงๆ เพราะไม่มีใครไปตรวจสอบบ้านร้าง ทะเบียนบ้านกลาง ซึ่งความจริงกระทรวงมหาดไทยสามารถเช็คได้จากบัญชีรายชื่อจริงที่มีการเคลื่อนไหวทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีร่องรอยอยู่เป็นหลักฐานมันตบตาเซียนคอมพิวเตอร์ไปไม่ได้หรอก อยู่ที่คนกระทรวงมหาดไทยจะซื่อบื้อเอง รู้ทั้งต้นทาง ปลายทาง ได้สบายๆ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: Ballmakoto2</span> : ควรแก้กฎหมายสิทธิ์ในการเลือกตั้ง มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตเลือกตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง ควรจะเปลี่ยนเป็น 5-10 ปีครับ<br />
<br />
เดิมทีถ้าเป็นคนไทย หรือคนในพื้นที่อยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่งั้น การเลือกตั้ง กทม. ครั้งต่อๆไป วุ่นแน่ ขอคอนเฟิร์มว่า มีการโอนชื่อเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อเลือกตั้งใน กทม. จริง ตั้งแต่ก่อน ปี 2554 แล้ว แต่กฎหมายสามารถเอาผิดได้ไหม ผมว่าไม่น่าได้เพราะเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายชัดเจน คือยังสามารถย้ายกลับไปเลือกตั้งใหญ่ได้อีกด้วย คือมันเกิดช่องโหว่ขึ้นตอนฟันอภิรักษ์แล้ว เพื่อให้ การเลือกตั้ง กทม. เกิดขึ้น 2 ปีหลังจากเลือกตั้งใหญ่ ผมว่าเป็นเรื่องจงใจทางแทคติกมากกว่า เพราะคดีอภิรักษ์ ตอนนี้ก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหน<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: Fantomas</span> : เรื่องนี้ต่างจังหวัดเขาทำกันมานานแล้ว เพียงแต่คนกรุงเทพฯ(ที่แท้จริง)ไม่รู้เท่านั้นเอง และแมลงสาปก็เอามาใช้ในกรุงเทพฯตั้งแต่เลือกตั้งใหญ่หลายปีแล้ว และใช้วิธีการนี้มาตลอด นี่คือคำตอบข้อสงสัยที่ว่า ทำไมโพลสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯให้การสนับสนุนเบอร์ 9 แต่ทำไมเบอร์ 16 ถึงชนะ แล้วคิดหรือว่าคะแนนเสียงที่ชนะนั้นเป็นเสียงคนกรุงเทพฯที่แท้จริง ความจริงโพลไม่ได้ผิดพลาดอะไรหรอก โพลแม่นยำถูกต้อง เพียงแต่โพลไม่รู้จักคำว่า "ประชากรแฝง" เท่านั้นเอง<br />
<br />
ผลคะแนนแยกเขต ระหว่าง ปชป.&พท. (คลิกที่ภาพ...ดูขนาดใหญ่)<br />
<center><a href="http://upic.me/i/y1/860204_10151350081411699_1467899716_o.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/81/860204_10151350081411699_1467899716_o1.jpg" /></a></center><br />
<span style="color: #ff9900;">By: member741147</span> : ปี 2558 เลือก สส. ทั้งประเทศเสร็จแล้ว ก็จะมีคน ตจว. (ของพรรคใครพรรคมัน) ย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ใน กทม. กันเยอะแน่ๆครับ เพราะจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯในปี 2560 เวลาพอดีกัน..พร้อมๆกับเลือก สก./สข. ไปด้วย (คงจะเลือกหลังเลือกผู้ว่าฯประมาณปี 2561) เสร็จแล้วก็ย้ายกลับไปบ้านเดิมของตัวเอง เพื่อเลือก อบต. และ สส. ในปี 2562 --------สนุกพิลึกครับแบบนี้ และตอนนี้ก็มีพรรคหนึ่งทำแล้ว... เมื่อเมิงทำได้ ตรูก็ทำได้..อิอิ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: ปลายอ้อกอแขม</span> : ขอแสดงความยินดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร สมัยที่ 2 ด้วยคะแนน 1,256,349 ล้านคะแนน<br />
<br />
ขอแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ดร.พงศพัศ พงษ์เจริญ แห่งพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับคะแนนเสียงความไว้วางใจจากชาว กทม.ด้วยคะแนนเสียง 1,077,899 คะแนน<br />
<br />
ตลอดเวลาการหาเสียง 48 วัน ทั้งสองพรรค งัดกลยุทธ์ต่างๆมาใช้หาเสียง เพื่อเรียกคะแนน และต่างก็ประสบความสำเร็จด้วยกัน ทั้งคนชนะและคนแพ้ มีคะแนนเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน<br />
<br />
ในฐานะคนเชียร์ฝ่ายแพ้ ขอยอมรับผลการเลือกตั้งที่เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ที่คนส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯยังให้การยอมรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และพรรคประชาธิปัตย์<br />
<br />
แพ้เพราะอะไร? ชนะเพราะอะไร? คิดว่าทุกคนคงน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจ เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏออกมาอย่างนี้ คงทายถูกกันหมด<br />
<br />
อย่างไรก็ตาม หวังไว้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว คงจะไม่ทำให้คน กทม.ผิดหวัง เพราะคน กทม.เลือกท่านจากนโยบายที่นำเสนอ เนื่องจากเห็นว่านโยบายของท่าน ดีที่สุด!<br />
<br />
ส่วนผู้แพ้ เมื่อเห็นคะแนนนิยม ก็คงชื่นใจในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ทำให้เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้ง แต่ทำให้เห็นว่ามีคนนับล้านคน สนับสนุนและเป็นกำลังใจให้<br />
<br />
ขอให้คุณพงศพัศ เก็บกำลังใจนี้ไว้ และพยายามสร้างสมความดีเพื่อเอาชนะใจคนกรุงเทพฯให้มากขึ้น รอโอกาสเลือกตั้งอีกครั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า หลังจากได้เกษียณจากตำแหน่ง ผบ.ตร.แล้ว<br />
<br />
4 ปี ยังไม่สายครับ คุณพงศพัศ พงษ์เจริญ พวกเรา..จะไม่ลืมคุณ!!!<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.facebook.com/media/set/?set=a.616360008378025.1073741827.100000120933242&type=1&l=e36f6511ea" target="_blank">เฮ้อ!! ณ นาทีนี้..บอกได้คำเดียว เสียดาย..เสียดายครับ...นโยบายดีๆที่คน กทม. ไม่เอ๊า..ไม่เอา...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: คนการเมือง</span> : เสนอ นายกฯปู ในภาคเหนือให้ท่านยกฐานะจังหวัดเชียงใหม่ให้มีฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษเหมือนกรุงเทพมหานคร แล้วเอานโยบายทั้งหมดนี้ที่คน กทม. ไม่เอานี่แหละ เอาไปบริหารจัดการที่จังหวัดเชียงใหม่แทน เพื่อเป็นการนำร่องจังหวัดใหญ่ๆใน ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ที่จะต้องยกฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษในโอกาสต่อไปเช่นกัน<br />
<br />
ปัจจุบันเรามีเขตปกครองพิเศษอยู่แล้ว 1. เขตปกครองพิเศษกรุงเทพมหานคร 2. เขตปกครองพิเศษพัทยา (ภาคตะวันออก)<br />
<br />
บลา บลา บลา บลา บลา............... (คลิกที่ภาพ...ดูขนาดใหญ่)<br />
<center><a href="http://upic.me/i/xt/380992_137362643105343_1681464908_n.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/pe/380992_137362643105343_1681464908_n1.jpg" /></a></center><br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/bDEWXdfbr5s" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #ff9900;">By: บุญอนันต์</span> : ในอนาคตประเทศไทย การใส่ร้ายป้ายสีกัน เป็นเรื่องไม่ผิด???<br />
<br />
จากเหตุการณ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าผู้ใหญ่ได้สรุปออกมาว่า การใส่ร้ายป้ายสีเป็นเรื่องไม่ผิด ที่สามารถทำกันได้ ในอนาคตข้างหน้า ประเทศไทยเมืองพุทธของเราก็คงเต็มไปด้วย คนเลวๆ ที่หาความจริงไม่ได้ แล้วลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร<br />
<br />
ในเมื่อคนกรุงเทพฯ ซึ่งเราคิดว่าส่วนมากเป็นผู้ฉลาด กลับเลือกคนของพรรคที่หาเสียงด้วยการโจมตี ใส่ร้ายป้ายสี สร้างความแตกแยก ก็คิดว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมของกรุงเทพฯ แล้วละครับ<br />
<br />
ดีนะครับ ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศไทยไม่ได้มีความคิดเหมือนคนกรุงเทพฯ ไม่งั้นประเทศไทยคงจมปลักอยู่กับอดีตและความขัดแย้งอย่างไม่ต้องสงสัย<br />
<br />
มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายทำ เพราะจะมีฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ไม่ผิด<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
กกต.ให้ใบแดง 'เก่ง การุณ' พ้น ส.ส.<br />
<br />
คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเสียงข้างมากให้ใบแดง นายการุณ โหสกุล ฐานปราศรัยใส่ร้าย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้ง ด้านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับคำตัดสิน แต่เชื่อว่าคดีดังกล่าวจะไม่ส่งผลถึงขั้นยุบ<br />
<br />
คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติเสียงข้างมากให้ใบแดง นายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กรณี ปราศรัยใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ด้วยการกล่าวหา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตเดียวกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 และวันที่ 12 มิถุนายน ระหว่างขึ้นปราศรัย ที่ตลาดนัดบุญอนันต์ และตลาดโกสุม โดยใส่ร้าย นายแทนคุณ และพรรคประชาธิปัตย์ ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งขั้นตอนจากนี้ กกต. จะทำหนังสือถึงศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ต่อไป พร้อมเตรียมจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยให้ นายการุณ ชดใช้ค่าเสียหาย ในการจัดการเลือกตั้งด้วย<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
ถ้า พท. ทำ ผิดเต็มๆ ยังไงก็ต้องผิด ห้ามเถียง<br />
<br />
ส่วนถ้าพรรคอื่น ทำ ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อน เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจ เป็นความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆThanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-9911791942354303242013-01-18T22:02:00.000+07:002013-03-07T16:25:59.830+07:0030 เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.539876712693022.136110.100000120933242&type=3&l=062f44209a" target="_blank">ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/105.html" target="_blank">ความผิดพลาดของ ปชป. ที่หวังเล่นงาน นายกฯปู</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/12/71.html" target="_blank">ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/blog-post_24.html" target="_blank">อย่า"ฟูมฟาย"ให้เพื่อนๆ"เสียขวัญ" ... อย่า"กดดัน"จนคนทำงานต้อง"เสียกำลังใจ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/12/101-2556.html" target="_blank">เฉียบ!! นายกฯปูอยากให้ปี 2556 เป็นปีของการคิดบวก ...+</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/01/102.html" target="_blank">แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2013/01/72-click.html" target="_blank">ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/01/103.html" target="_blank">เพิ่งเคยเห็นนายกฯคนแรกนี่แหละ ที่สนับสนุนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/1-01.html" target="_blank">ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่สามารถวางเพลิงได้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/1-01.html" target="_blank">หึหึ ปวดตับละทีนี้ จะรุกเขมิบม้า เจอสวนรุกฆาต โบราณว่า..เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/03.html" target="_blank">โถ..โถ..โถ..น่าสมเพชเวทนา เอา"ข้าวนึ่ง"จากไหนไม่รู้ จัดฉากใส่ร้ายเขาเป็นตุเป็นตะ หวัง"ตีกิน"ตามสันดาน!!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/02/104.html" target="_blank">มือหยาบกร้านคู่นั้น มีแต่เส้นเอ็นปูดโปน...ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2013/02/73.html" target="_blank">สาระน่ารู้... เขาซื้อทองคำ ขายทองคำ กันอย่างไร?????</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://2555crisis.blogspot.com/2013/02/04.html" target="_blank">พี่สาวผมเคยถามผมว่า ทำไมผมจึงฝักใฝ่อยู่กับคุณทักษิณ?????</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/xq/2013-01-18_10_1.jpg"></center><br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/videoseries?list=PL8mrsD819IjvLyXPAqnZOh7g0CHkatRDb" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>เปิดใจ "พงศพัศ พงษ์เจริญ" ว่าที่ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (ย่อมรับคนนี้เก่งจริง)</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: คนการเมือง</span><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/ln/2013-01-18_01.jpg"></center><br />
...เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ชาวกรุงเทพฯ อยากเห็นผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ดูแล้วมีความหวัง สามารถเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ และชีวิตความเป็นอยู่ให้พวกเขา...<br />
<br />
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งจะเร่งดำเนินการเรื่องขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถเมล์ไม่ปรับอากาศฟรี ส่วนรถปรับอากาศจะคิดราคา 10 บาทตลอดสาย เรือข้ามฟากเรือคลองแสนแสบให้บริการฟรีหมด ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่วนป้ายรถเมล์หลายพันจุดก็จะจัดระเบียบใหม่ ไม่ให้วิ่งทับซ้อนกัน จะเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุโดย กทม.จ่ายส่วนต่างที่เพิ่มขึ้น<br />
<br />
<a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.587001641313862.144308.100000120933242&type=3&l=4f8aeb1d7f" target="_blank">ดูภาพใหญ่ คลิกที่นี่...</a><br />
<center><img src="http://upic.me/i/rm/2013-01-18_02.jpg"></center><br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น<br />
<center><a href="http://upic.me/i/1v/2013-01-26_101656.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/6k/2013-01-26_101657.jpg" /></a></center><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://upic.me/i/z9/2013-01-16_08lll.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; cssfloat: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="329" q6="true" src="http://upic.me/i/z9/2013-01-16_08lll.jpg" width="130" /></a></div><span style="color: #FFFFFF;">ผมขอมอบความไว้วางใจ ฝาก กทม.ไว้กับนายตำรวจท่านนี้ครับ<br />
<br />
ต้องให้โอกาสพรรคเพื่อไทยในรอบ 10 ปี ได้ดูแล กทม.สักครั้ง<br />
<br />
30ม.ค.56 'พงศพัศ' เปิด 8 นโยบาย ซึ่งประกอบด้วย...<br />
<br />
นโยบายที่ 1 ซื้อสินค้าราคาถูก ลดหนี้นอกระบบ ใช้กองทุนชุมชนเมือง ลดรายจ่าย สร้างรายได้<br />
<br />
นโยบายที่ 2 วางโครงข่ายจราจร และระบบขนส่งมวลชนใหม่ คืนเวลาให้ภาคธุรกิจ คืนความสุขให้ครอบครัว<br />
<br />
นโยบายที่ 3 แก้ปัญหาอาชญากรรม อัคคีภัย เฝ้าระวังความปลอดภัย 24 ชม<br />
<br />
นโยบายที่ 4 ขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากชุมชน คืนลูกหลานให้พ่อแม่<br />
<br />
นโยบายที่ 5 บริหารจัดการน้ำไม่ท่วม ไม่เอ่อ ไม่ขัง ท่อไม่ตันอีกต่อไป<br />
<br />
นโยบายที่ 6 ขยะหน้าบ้านเก็บทั้งวัน กทม.สะอาดสดใสไร้มลพิษ<br />
<br />
นโยบายที่ 7 ทางเลียบริมเจ้าพระยาให้คน กทม.ขี่จักรยาน เดิน วิ่ง เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ<br />
<br />
นโยบายที่ 8 จัดทางเท้าใหม่ สวนสาธารณะใหม่สายไฟฟ้าลงดิน สร้าง Green City<br />
<br />
พล.ต.อ.พงศพัศ ยังกล่าวด้วยว่า นโยบาย 8 ข้อนี้เป็นเพียงนโยบายขั้นพื้นฐานเท่านั้น หลังจากนี้จะมีการทยอยเปิดตัวนโยบายอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้อง กทม.มากขึ้น</span><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/uf/2013-01-18_03.jpg"></center><br />
16 มกราคม 2556 : พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นเอกสารเกี่ยวกับผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีเคยถูกกล่าวหาว่าต้องคดีขโมยวิทยุ ที่สหรัฐอเมริกา เอกสารเกี่ยวกับการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต. รวมทั้งเอกสารการเปลี่ยนชื่อจาก "ไพรัช" เป็น "พงศพัศ" ต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ปธ.กกต.กทม.)<br />
<br />
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวว่าตนมีปัญหาในเรื่องของคุณสมบัติการลงสมัครจาก 2 ประเด็นดังกล่าวนั้นเห็นว่าเป็นการคาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยในเรื่องที่กล่าวหาว่าเคยต้องคดีขโมยวิทยุนั้น ข้อเท็จจริงมีการกล่าวหาเรื่องนี้เมื่อปี 41 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จในปี 43 โดยสั่งให้ยุติเรื่องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 ก.ย.43 ซึ่งผลสรุปว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศ พล.ต.ต.นั้น ตนติดยศ พ.ต.อ. ตั้งแต่ปี 38 ในชื่อ พ.ต.อ.ไพรัช พงษ์เจริญ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง พล.ต.ต.ในปี 40 ซึ่งก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ จนปี 41 แต่เมื่อก่อนหน้านั้นก็มีเรื่องร้ายๆมา และเมื่อเห็นว่าเรื่องร้ายที่เจอได้ผ่านพ้นไปแล้วจึงได้ปรึกษาภรรยาขอเปลี่ยนชื่อ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ "พงศพัศ" ดังนั้นที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศ พล.ต.ต. จึงไม่เป็นความจริง<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/lg/2013-01-18_04.jpg"></center><br />
"ผมถูกให้ร้ายมานับสิบๆปี แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก ถือว่าให้มันผ่านๆไป แต่เผอิญขณะนี้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พิจารณาอยู่ว่ามีจุดอยู่บ้างที่เป็นปัญหา และเป็นห่วงสื่อมวลชน และน้องๆที่ไปโพสต์ข้อความในโชเชียลเน็ตเวิร์คโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าอาจจะถูกดำเนินคดีได้ เพราะมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้คำว่าห้าม"ผู้ใด"กระทำการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อีกทั้งขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แล้วเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทุกคนมีความผิด ผมก็ขอว่า จะนำขอมูลมาให้ กกต.เอง เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นห่วง" พล.ต.ต.พงศพัศ กล่าว และว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องใคร เพราะคิดว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และไม่มีมูล อีกทั้งแนวนโยบายการหาเสียงก็เป็นเชิงบวก ไม่อยากใส่ร้ายใคร แต่หลังจากนี้หากมีผู้นำเรื่องนี้มาพูด หรือเขียนถึง ก็จะรวบรวมไว้ เพราะพรรคก็ถือว่ามีส่วนเสียหาย<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/o1/2013-01-18_05.jpg"></center><br />
ด้าน พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า หลังปิดรับสมัครแล้วทาง กกต.ท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานคร ก็จะทำการตรวจสอบ คุณสมบัติของผู้สมัครให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันดังนั้นไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. ปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครก็ จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นขออย่าได้กังวล เพราะจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติทั่วๆไป<br />
<br />
เมื่อถามว่า หากมีผู้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นมากล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ อีก จะถือเป็นความผิดตามมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ ประธาน กกต.กทม. กล่าวว่า ถือว่าผิดแล้วเพราะขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดรับสมัครแต่ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ได้เปิดตัวแล้ว อีกทั้งมีผลสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ยุติเรื่องนี้<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/b9/2013-01-18_06.jpg"></center><br />
เมื่อถามต่อว่าหากมีข้อมูลว่าศาลสหรัฐมีคำพิพากษาลงโทษ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ก็เอาข้อมูลมา และต้องมาดูว่ามีผลกับกฎหมายไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตามถ้าดู พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา 44 ประกอบ 45 (5) ที่ระบุเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง (5) บัญญัติห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปและพ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีจนถึงวันรับเลือกตั้งเป็นผู้มีสิทธิลงสมัคร เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ดังนั้นถ้าใครจะนำเรื่องนี้มากล่าวหา พล.ต.อ.พงศพัศ ว่ามีปัญหาคุณสมบัติในการรับสมัคร ไม่มีประโยชน์ และผู้กล่าวหาอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 57 เสียเองด้วย<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/b6/2013-01-18_08.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/6u/2013-01-18_07.jpg"></center><br />
<span style="color: #ff9900;">By : พล.ต.อ. ดร.พงศพัศ พงษ์เจริญ</span><br />
<br />
ผมไม่ใช่ชาวกรุงเทพมหานครโดยกำเนิดครับ ผมเป็นลูกกำนัน เกิดที่จังหวัดจันทบุรี ต่อมาได้เติบโต เรียน และเริ่มต้นชีวิตการทำงาน รับราชการตำรวจที่กรุงเทพมหานคร<br />
<br />
ผมก็เหมือนกับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานครจำนวนหนึ่ง ที่ออกจากจังหวัดบ้านเกิดของตัวเอง มุ่งสู่เมืองหลวงเพื่อแสวงหาโอกาสในการศึกษา โอกาสในการประกอบอาชีพ เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว บางคนกลับภูมิลำเนาในช่วงปลายของชีวิต บางคนก็เลือกตั้งหลักปักฐานมาเป็นชาวกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน<br />
<br />
กรุงเทพมหานครจึงเป็นเมืองแห่งโอกาส<br />
<br />
กรุงเทพมหานครได้ให้โอกาสคนรุ่นผม และผมเชื่อมั่นว่าในอนาคต กรุงเทพมหานครจะต้องให้โอกาสในการแสวงหาชีวิตที่ดี ความเป็นอยู่ที่ดี อาชีพที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป<br />
<br />
ผมเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจที่ผ่านการประสานงานกับทุกฝ่าย สิ่งนี้จะทำให้คนรุ่นใหม่สามารถตั้งตัวได้และประสบความสำเร็จในชีวิต<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/2k/i5owgs.jpg"></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-73914482025470401762013-01-01T17:30:00.001+07:002013-01-20T11:35:31.971+07:0029 ภาพชุดพิเศษ...นายกฯปู รณรงค์"ประชามติ"<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.539876712693022.136110.100000120933242&type=3&l=062f44209a" target="_blank">ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/105.html" target="_blank">ความผิดพลาดของ ปชป. ที่หวังเล่นงาน นายกฯปู</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/12/71.html" target="_blank">ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/blog-post_24.html" target="_blank">อย่า"ฟูมฟาย"ให้เพื่อนๆ"เสียขวัญ" ... อย่า"กดดัน"จนคนทำงานต้อง"เสียกำลังใจ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/12/101-2556.html" target="_blank">เฉียบ!! นายกฯปูอยากให้ปี 2556 เป็นปีของการคิดบวก ...+</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2013/01/102.html" target="_blank">แด่..มนุษย์เงินเดือน "อันความรู้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2013/01/blog-post.html" target="_blank">ฮู้ยยยย...สติแตกกันไปหมดแย้วทั้งคนเล่นและกองเชียร์แนวร่วม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2013/01/72-click.html" target="_blank">ผมไม่ได้แหล!!! แต่เรื่องดีๆอย่างนี้..clickดูเองเหอะ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><iframe width="480" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/hzUFvXeIbeI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/bqNvlN9kfqI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ภาพชุดพิเศษ... นายกฯปู รณรงค์ "ประชามติ"<br />
77จังหวัดทั่วไทย : รณรงค์ให้ได้ 26 ล้านเสียง</strong></span><br />
<br />
<font color=#ff9900><b>ปูลู: ภาพชุดนี้ Print ด้วยกระดาษ A4, ถ้าใช้โปรแกรม ACDSee ให้ตั้งค่า Format: ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง Fit to page, และช่อง Page Settings ให้ตั้งค่า Margins: Top 8.89 Bottom 8.89 Left 0.00 Right 0.00 นะครับ</b></font><br />
<br />
คำปราศรัยนายกฯปู เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๕๖<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/TsKcKjo_A5w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/12/107-46.html" target="_blank">ทำไมต้องแก้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ???</a><br />
<br />
<font color=#ff9900><b>คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ save ภาพใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึงกัน</b></font><br />
<center><a href="http://upic.me/i/9l/2013-01-01_123931.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/i1/2013-01-01_123932.jpg" /></a></center><br />
นายกฯปู ร้องเพลง รัก ส่งท้ายปีเก่า<br />
<center><iframe width="480" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/pu16POrkqbI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<font color=#ff9900><b>คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ save ภาพใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึงกัน</b></font><br />
<center><a href="http://upic.me/i/zq/2013-01-01_144953.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/c6/2013-01-01_144954.jpg" /></a></center><br />
นายกฯปูอ้อน มีกำลังใจเยอะเลยค่ะ<br />
<center><iframe width="480" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/7tlmWClKCL4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<font color=#ff9900><b>คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ save ภาพใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึงกัน</b></font><br />
<center><a href="http://upic.me/i/xs/2013-01-01_150246.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/br/2013-01-01_150247.jpg" /></a></center><br />
นายกฯปูอยากให้ปี 2556 เป็นปีของการคิดบวก ...+<br />
<center><iframe width="480" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/nOBQYn_nfjg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/12/101-2556.html" target="_blank">เฉียบ!! นายกฯปูอยากให้ปี 2556 เป็นปีของการคิดบวก ...+</a><br />
<br />
<font color=#ff9900><b>คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ save ภาพใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึงกัน</b></font><br />
<center><a href="http://upic.me/i/gj/2013-01-01_153443.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/n0/2013-01-01_153444.jpg" /></a></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/AEpRWKP2Dd8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<font color=#ff9900><b>คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ save ภาพใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึงกัน</b></font><br />
<center><a href="http://upic.me/i/hc/2013-01-01_154301.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/qw/2013-01-01_154302.jpg" /></a></center><br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/r8Juv4W0PdE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>คนที่ออกมาสำรากกล่าวหาผู้รู้ทันแผนของตัวเองว่า "โง่" นั่นแหละคือ "ไอ้งั่ง"</strong></span><br />
<br />
<font color=#ff9900><b>By Bugbunny:</b></font> เขารู้ทันว่า พวกมันรวมหัวกันเขียนคำตอบแบบเอ๋อๆ ไว้ให้คลุมเครือเล่น ไม่ยอมฟันธงว่าจะให้ทำอย่างไร จะต้องมีประชามติก่อนหรือหลังแก้ไข จะลงมติวาระสามได้หรือไม่ ทั้งๆที่เวลาพรรคพวกมันกันเองในพรรคแมลงสาปมาขอให้พิจารณานั้น ชาวบ้านเขารู้กันทั่วว่าต้องการให้บอกออกมาว่าขัด จะได้หาเรื่องยุบพรรคไปเลย ซึ่งพวกมันก็รู้ว่าชาวบ้านเขารู้ และเตรียมตอบโต้เอาไว้กันหลายดอกอยู่แล้ว เลยเล่นเกมทำเป็นว่าพวกกูก็มีหลักการ แล้วใช้วิธีตอบแบบคลุมเครือ ไม่ชัวร์ ตีความได้สารพัดแบบ จะลงมติวาระสามก็ต้องรับผิดชอบเอง ควรทำประชามติ แต่ก็ไม่บอกว่า "ต้อง" ทำประชามติหรือเปล่า อะไรทำนองนี้ ตีความแบบนี้ก็ได้ แบบนั้นก็ได้ ตีกรรเชียงเอาตัวรอดว่าพวกกูก็มีหลักการนะ จนคนทั้งประเทศเขาไม่มั่นใจและงงกันไปหมดว่าพวกมันจะให้ทำอย่างไรกันแน่ การที่มีคนเขาไปสอบถามนั้น เพราะเขารู้ทันเกมของพวกมันดี ว่าไอ้ที่เขียนแบบไม่แน่ไม่นอนนั้น ที่จริงเป็นแผนของพวกมันเองทั้งนั้น เพื่อจะสร้างความอึมครึมเอาไว้ ทำให้คนเขาไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร<br />
<br />
แล้วพวกมันจะได้ลอยตัวว่าตอบเรียบร้อยแล้วเท่านั้น จากนั้นก็นั่งตูดติดเก้าอี้หนึบ ลอยหน้าลอยตาแดกเงินเดือนจากภาษีประชาชนรวมกันหลายล้านบาทต่อเดือน รถประจำตำแหน่ง E Class สบายใจเฉิบไปอีกคนละหลายๆปี ได้ใช้อำนาจที่ไม่ได้มีที่มาจากประชาชนไปเรื่อยๆ ใครเขาก็รู้ทันมัน อย่าว่าแต่คนที่เขาไปขอให้ตีความเลย เด็กส่งเอกสารในออฟฟิศของพวกมันเองยังพูดแบบนี้เลย พอได้ยินคำตอบเอ๋อๆ แบบที่พวกมันตอบคราวนั้น<br />
<br />
เอา ป. วิ แพ่ง มาอ้างว่าคู่ความเท่านั้นที่มีสิทธิขอให้อธิบายคำวินิจฉัย นี่มันก็แค่เอาตัวบทมาสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองเท่านั้น นี่ไม่ใช่ความแพ่งระหว่างบุคคลสองฝ่าย แต่เป็นเรื่องการเมือง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไม่ได้มีแค่คู่ความสองฝ่ายเท่านั้น แต่มันรวมประชาชนทั้งประเทศด้วย แยกกฎหมายเอกชนกับกฎหมายมหาชนไม่ออกหรือ จบกฎหมายมาได้อย่างไร ประชาชนหรือมหาชนทุกคนทุกฝ่ายเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าตกลงจะเอาอย่างไรกันแน่ ตอบเขาไม่ได้ว่าจะเอาอย่างไรนั่นเอง ก็เลยแถไปใช้เทคนิคทางกฎหมายมาอ้างไปโน่น นี่มันวิธีแบบทนายโจรชัดๆ ข้อเท็จจริงนำสืบเท่าไหร่ก็แพ้ ก็หันไปใช้เรื่องเทคนิคกฎหมายทันที เหมือน กกต.ยื่นคดี ปชป. แล้วขาดอายุความเปี้ยบ<br />
<br />
เรื่องจริงก็คือคนทั้งชาติเขารู้ทันพวกมันดีว่า พวกนี้มันไม่ต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะพวกมันทั้งโขยงจะต้องโดนกวาดลงถังขยะเรียบหมดแน่นอน ทั้ง ไอ้พวก สวะ..สารพัดองค์กรอำมาตย์พวกนี้แหละ ที่แน่นอนว่า ประชาชนเขาก็ตั้งธงไว้เหมือนกับเวลาพวกมันตั้งธงตัดสินแบบไม่สนใจความยุติธรรมนั่นแหละ ว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญแล้วกวาดล้างพวกเห็บเหาหมัดโลนของระบอบประชาธิปไตยพวกนี้ไปให้หมดสิ้นไม่ให้เหลือหรอ เพราะตลอดเวลาที่พวกนี้มันเกาะกินประเทศชาติอยู่อย่างนี้ พวกมันนอกจากจะอาศัยเลือดหรือภาษีจากเจ้าของประเทศเสวยสุขกันแล้วยังไม่พอ แต่ยังทำร้ายให้ประเทศต้องเจ็บป่วยไม่มีวันสิ้นสุดอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย<br />
<br />
ประชาชนเขารู้ทันพวกมันดีว่า ต้องการอะไร มีแต่พวกมันเองเท่านั้นที่ไม่เคยรู้ หรือทั้งๆที่ความจริงก็รู้ แต่แกล้งโง่ คิดว่าประชาชนไม่รู้ แกล้งโง่ และทำเรื่องโง่ๆ ที่ขัดกับหลักการความบริสุทธิ์ ยุติธรรม กันหน้าด้านๆ มาตลอด โดยคิดไปเองว่าประชาชนเขาไม่รู้<br />
<br />
คนประเภทนี้เขาเรียกว่า "โง่..งั่ง..งี่เง่า" ไม่ใช่แค่โง่เฉยๆ กรุณากวนโอ๊ยชาวบ้านเขาไปเรื่อยๆเถิด อีกไม่นาน พอไม่มีแบ็คอัพ ซึ่งก็คงไม่นานจากนี้นักหรอก รับรองได้เจอ "นรกบนดิน" กันถ้วนทั่วทุกตัวไปแน่นอน<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/videoseries?list=PLEBD5A93F2D8F13FE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
ความน่ารังเกียจ ของไอ้คนที่อยู่ในขบวนการด้าน "การยุติความเป็นธรรม" และ "องค์กรที่ไม่อิสระจริง" ที่มี ที่เป็นอยู่ใน "ตอแหลแลนด์" ... ดินแดนที่ "เหล่าอำมาตย์ศักดินาไดโนเสาร์" มันแทรกซึมบงการและคอยตักตวงผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปีนี่...<br />
<br />
- พูดถึงเรื่องนี้ ผมนึกไปถึง อมตะนวนิยายเรื่อง "สามก๊ก" ตอนที่เล่าปี่ได้พบกับอีก 2 พี่น้องร่วมน้ำสาบาน กวนอูและเตียวหุย ทั้งสามได้รวบรวมผู้คนเข้าร่วมปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลือง แล้วต่อมาเล่าปี่ ก็ได้มารับตำแหน่งเป็นนายอำเภอเล็กๆ ชื่อ อานสี่ แต่กลับถูก "ไอ้ข้าราชการกังฉินชั่วจากราชสำนัก" ที่มันมาเป็นผู้ตรวจการ เรียกร้องเอาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง จนเตียวหุย น้องสามผู้มีความมุทะลุดุดัน เฆี่ยนเอาจนปางตาย สุดท้ายคนดีดีทั้งสามคน...ก็จำต้องยอมต้องสละยศฐาบรรดาศักดิ์ จากการเป็นข้าราชการตำแหน่งน้อยๆ สละอำเภออานสี่ ออกไปผจญกับนานาอุปสรรคในภายภาคหน้าต่อไป<br />
<br />
คลิปวิดีโอเรื่องสามก๊ก ตอนที่ "ไอ้ข้าราชการราชสำนักกังฉินโฉดชั่ว" ที่มันมา รีดนาทาเร้นกับเล่าปี่ ที่ผมหยิบเอามาให้พวกเราได้ทบทวนความทรงจำกันนั้น "ไคลแม็กซ์ อยู่ในนาทีที่ 30.30" เป็นต้นไป นะครับ ...<br />
<br />
ดูแล้วผมอยากจะเอา "ไอ้อำมาตย์ชั่วๆ" ในบ้านนี้เมืองนี้ มา "เฆี่ยน" ให้สาสม...ให้มัน "ตายห่าคามือ" ไปซะเลยจริงๆ!!!" ...<br />
<br />
(PlayList นี้ ดูได้ 1,6,13,14,53,54,63,76,80 นอกนั้นให้คลิกไปดูหน้าเพจยูทูป)<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/videoseries?list=PLBF9882905BFB4B61" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-82601076850665010932012-12-28T20:37:00.000+07:002012-12-30T19:26:11.643+07:0028 อ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว เห็นได้ชัดเลยครับว่า... นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่ โง่มาก โง่มากจริงๆ ครับ<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.539876712693022.136110.100000120933242&type=3&l=062f44209a" target="_blank">ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/105.html" target="_blank">ความผิดพลาดของ ปชป. ที่หวังเล่นงาน นายกฯปู</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/12/71.html" target="_blank">ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/309.html" target="_blank">หึหึ.. ทำไม ????? มาร์คบอกว่า แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อคนๆเดียว</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/12/107-46.html" target="_blank">'ประชามติ'เกมวัดใจผู้มีสิทธิ 46 ล้าน ต้องการ รธน.เผด็จการหรือประชาธิปไตย ???</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/blog-post_24.html" target="_blank">อย่า"ฟูมฟาย"ให้เพื่อนๆ"เสียขวัญ" ... อย่า"กดดัน"จนคนทำงานต้อง"เสียกำลังใจ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/12/101-2556.html" target="_blank">เฉียบ!! นายกฯปูอยากให้ปี 2556 เป็นปีของการคิดบวก ...+</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<font size=4 color=#0000ff><b>คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือ save ภาพใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้ทั่วถึงกัน</b></font><br />
<center><a href="http://upic.me/i/3r/2012-12-27_120633.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/al/2012-12-27_120634.jpg" /></a></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/pu16POrkqbI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/t4/2012-12-28_16081.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/gb/2012-12-28_16011.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>แลไปข้างหน้ากับ"นายกฯปู" แนวโน้มการเมืองไทยปี"56</strong></span><br />
<a href="http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1356658503&grpid=01&catid=&subcatid=" target="_blank">By: น.ส.พ.มติชน วันที่ 28 ธันวาคม 2555</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/py/2012-12-28_16021.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/6h/2012-12-28_16031.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/4m/2012-12-28_16041.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/zi/2012-12-28_16051.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/db/2012-12-28_16061.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/69/2012-12-28_16071.jpg"></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-2231025709674709132012-12-08T16:39:00.003+07:002012-12-24T18:17:24.165+07:0027 คุณอภิสิทธิ์ครับ ผมเคยบอกแล้วไงครับ ไม่พูดดีกว่านะครับ<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/09/68.html" target="_blank">มาร์คครับ หยุดเถิดครับ อย่าออกมาพูดเรื่องจริยธรรมให้มากกว่านี้เลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/69.html" target="_blank">เฉลิมจี้ ปชป.บอกโกงจำนำข้าวให้หาหลักฐานมาแจง ไม่ใช่พูดไปเรื่อยแต่ไม่มีข้อมูล</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.539876712693022.136110.100000120933242&type=3&l=062f44209a" target="_blank">ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/70.html" target="_blank">นานาคอมเม้นท์ ถึง..คุณจตุพร พรหมพันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/11/6-3-2544.html" target="_blank">6 ปีแล้วหรือ...คนไทยได้อะไร ???? ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/104.html" target="_blank">ทักษิณคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน...เพื่อประเทศและประชาชน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/105.html" target="_blank">ความผิดพลาดของ ปชป. ที่หวังเล่นงาน นายกฯปู</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/12/71.html" target="_blank">ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/12/106-bbc-world-news.html" target="_blank">แถได้ใจจริงๆ... บทสัมภาษณ์ อภิสิทธิ์ ในรายการ BBC World News</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/309.html" target="_blank">หึหึ.. ทำไม ????? มาร์คบอกว่า แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อคนๆเดียว</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/12/107-46.html" target="_blank">'ประชามติ'เกมวัดใจผู้มีสิทธิ 46 ล้าน ต้องการ รธน.เผด็จการหรือประชาธิปไตย ???</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/blog-post_24.html" target="_blank">อย่า"ฟูมฟาย"ให้เพื่อนๆ"เสียขวัญ" ... อย่า"กดดัน"จนคนทำงานต้อง"เสียกำลังใจ"</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">New!! แจกปฏิทินนายกฯปู พ.ศ.2556 คลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/rl/fb01510.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>คุณอภิสิทธิ์ครับ ผมเคยบอกแล้วไงครับ ไม่พูดดีกว่านะครับ</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: ทวดเอง</span><br />
<br />
ประเทศไทยตอนนี้ มันหมดยุคของพวก "ดีแต่พูด" แล้วนะครับ มันเข้าสู่ช่วงอยากได้ต้อง "ทำเอา" ครับ ไม่ใช่อยากได้แล้ว "พูดเอา" อย่างแต่ก่อนแล้วครับ ยังตามกระแสสังคมไม่ทันจริงๆเลยนะครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ ประเทศไทยเป็นของคนไทยทั้งชาตินะครับ ไม่ใช่ของใครคนหนึ่งคนใด และประเทศไทยยังคงปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ถึงแม้จะไม่เต็มใบ แต่ก็เป็นประชาธิปไตยที่ต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสินอยู่ดี ไม่ใช่ให้ใครต่อใครมาตัดสินใจแทนก็ได้นะครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณอภิสิทธิ์พูดอยู่เสมอไม่ใช่หรือครับ ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย จะให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ เพราะเหตุนี้ไงครับ ในยุคของคุณอภิสิทธิ์จึงมีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บเกือบสองพัน นั่นก็มาจากเหตุผลข้อนี้ไม่ใช่หรือครับ แล้วทำไมตอนนี้คุณอภิสิทธิ์กลับพยายามที่จะให้รัฐบาลยอมรับกับพวกนิยมกฎหมู่ล่ะครับ จุดยืนหายไปไหนแล้วครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณอภิสิทธิ์อาจไม่เข้าใจถึงการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ หลายนโยบายของรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์จึงมีแต่นามธรรม หารูปธรรมค่อนข้างยาก ดังนั้นคุณอภิสิทธิ์จึงไม่เคยครองใจคนส่วนใหญ่ได้ไงครับ<br />
<br />
แต่ไม่ว่าจะเป็นไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นคุณทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นคุณยิ่งลักษณ์ พยายามที่จะทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในทุกเรื่อง แม้ต้องลำบากยากเข็ญกับพวกมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ ซึ่งมีอยู่มากมายในประเทศนี้ที่คอยทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง นี่จึงเป็นจุดเด่นของนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่นักการเมืองอย่างคุณอภิสิทธิ์ไม่มีวันเข้าใจ ดังนั้นจึงต้องพ่ายแพ้ซ้ำซากไงครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้นะครับ คุณอภิสิทธิ์จะนำไปเปรียบเทียบกับการชั่งไข่ขาย ที่เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการก็ยกเลิกกันไปไม่ได้นะครับ เพราะนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญมันเป็นนโยบายที่ได้แถลงกับสภา มันจึงเป็นสัญญาประชาคมที่มีต่อประชาชนนะครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
ถ้าไม่ทำตามสัญญา มันจึงหมายถึงการโกหกประชาชนนั่นเอง และนั่นจะทำให้ความนิยมพรรคตกลงได้นะครับ คุณอภิสิทธิ์ที่พยายามขัดขวางนโยบายที่รัฐบาลหาเสียงไว้ คงไม่ได้หวังให้คะแนนความนิยมของรัฐบาลตกเพราะเหตุนี้กระมังครับ ผมก็มั่นใจว่าคงไม่ใช่เหตุนี้อย่างแน่นอน เพราะคุณอภิสิทธิ์ไม่เคยคิดไกลได้ขนาดนั้นหรอกครับ ผมรู้<br />
<br />
ดังนั้นคุณอภิสิทธิ์จึงต้องรู้ให้ได้นะครับ เพราะความยึดมั่นในนโยบาย ความนิยมในตัวคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์จึงไม่เสื่อมคลายเลย ท่ามกลางการใส่ร้ายป้ายสีต่างๆนานา พอจะเห็นภาพหรือยังครับคุณอภิสิทธิ์ มันไม่ใช่เพราะโชคช่วย มันไม่ใช่เพราะซื้อเสียงและมันก็ไม่ใช่เพราะประชาชนด้อยคุณภาพนะครับ แต่มันเป็นเพราะผลจากการกระทำต่างหากเล่าครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณอภิสิทธิ์เคยพูดไว้ว่า ยึดมั่นในระบบรัฐสภาไม่ใช่หรือครับ คุณอภิสิทธิ์เคยพูดไว้ว่า ความขัดแย้งทั้งหมดทั้งปวง ควรให้สภาแก้ปัญหาไม่ใช่หรือครับ ตอนนี้จึงควรเป็นโอกาสเหมาะที่จะอาศัยสภาในการแก้ปัญหาแล้วครับ แล้วคุณอภิสิทธิ์ยังจะให้รีรออะไรอีกล่ะครับ<br />
<br />
หรือว่า คุณอภิสิทธิ์จะยึดมั่นในระบบสภาก็ต่อเมื่อได้เป็นเสียงส่วนใหญ่ หรือคุณอภิสิทธิ์อยากใช้สภาแก้ปัญหาก็ตอนที่ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น เฮ้อ ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ต้องจบอ๊อกฟอร์ตก็ได้กระมังครับ แค่จบมหาวิทยาลัยราชดำเนิน วิทยาเขต มัฆวานที่มีคุณสนธิ คุณจำลองเป็นอธิการบดีก็น่าจะเพียงพอนะครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ ที่คุณอภิสิทธิ์พยายามบอกให้ชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน เพราะจะเป็นชนวนเร่งให้เกิดความขัดแย้ง นี่เป็นสิ่งเดียวที่คุณอภิสิทธิ์รู้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เมื่อไหร่ก็ตาม ก็จะเป็นชนวนความขัดแย้งอยู่ร่ำไปแหละครับ มันไม่ใช่มาจากปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะอย่างไรเสียพวกนั้นก็เป็นเพียงเสียงข้างน้อย แต่ปัจจัยสำคัญมันอยู่ที่นักการเมือง พรรคการเมืองที่ดันไปเห็นดีเห็นงามกับพวกนี้ต่างหากครับ ที่จะพาประเทศไปสู่สงครามมวลชนดังที่คุณอภิสิทธิ์ได้ติติงมา คุณอภิสิทธิ์คงมองไม่เห็นปัญหาข้อนี้สิท่า จึงได้ขยันออกมาแสดงความคิดเห็นจัง<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ คุณอภิสิทธิ์คิดหรือว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นปากท้องของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนภาคใต้ และเหนืออื่นใดรัฐบาลชุดนี้ก็ต้องการแก้ไขความขัดแย้งของคนในชาติให้ลุล่วง ไม่ใช่สักแต่พูด แต่อยู่มาสองปี ไม่ทำอะไรนอกจากแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของพรรคสองมาตราอย่างใครบางคนหรอกครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณอภิสิทธิ์น่าจะมองออกนะครับ อุปสรรคของรัฐบาลที่ทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆไม่ราบรื่น นั่นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้คอยเป็นตัวถ่วงไงล่ะครับ คุณอภิสิทธิ์คงรู้เช่นเห็นชาติกับพรรคบางพรรคที่ไม่สามารถชนะด้วยการเลือกตั้ง จึงต้องอาศัยวิธีการพิเศษเพื่อล้มฝ่ายตรงข้าม แล้วหวังส้มหล่นเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งคงไม่ง่ายอีกแล้วกระมังครับ<br />
<br />
จะอาศัยกองทัพออกมาทำรัฐประหาร กองทัพเขาก็ไม่เล่นด้วย<br />
<br />
จะอาศัยการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีก ประชาชนก็รู้แกวไปหมด<br />
<br />
ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะทำได้ ก็ต้องอาศัยองค์กรอิสระต่างๆที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจมากเหลือเกินในการเป็นตัวช่วยให้ได้ผลตามสมประสงค์ เราจึงได้เห็น เดี๋ยวก็ไปฟ้อง กกต. เดี๋ยวก็ไปฟ้อง ผู้ตรวจการแผ่นดิน เดี๋ยวก็ไปฟ้อง ปปช. เดี๋ยวก็ไปฟ้อง ตลก. ซึ่งเคยสำเร็จไปแล้ว จึงคงคาดหวังจะสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง นี่ไงครับที่เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และเรื่องเหล่านี้ต่างหากครับที่สร้างความกังวลใจให้กับรัฐบาล จนทำงานได้ไม่สะดวกนัก ทำให้การแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองเต็มไปด้วยขวากหนาม รู้หรือยังครับว่า ทำไมคนส่วนใหญ่เขาจึงต้องการให้รัฐบาลชุดนี้มาแก้รัฐธรรมนูญ<br />
<br />
เพราะทุกครั้งที่ผลการตัดสินขององค์กรต่างๆเหล่านั้นออกมา ความเสื่อมศรัทธาในองค์กรนั้นๆก็จะบังเกิดขึ้นตามมา จนทุกวันนี้ ไม่เหลือองค์กรอิสระแม้แต่องค์กรเดียวที่จะสร้างความศรัทธาให้กับประชาชนเลยนะครับ ดังนั้นถ้าจะกู้วิกฤติศรัทธาขององค์กรอิสระเหล่านั้น จึงมีทางเดียวครับ ต้องแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้นครับ<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์ครับ กรุณาหยุดเถิดครับ หยุดโยงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคนๆเดียว หยุดโยงการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคุณทักษิณเลยนะครับ ผมอยากเตือนด้วยความหวังดีนะครับ หยุดตัวเองแล้วมองดูความจริงที่เกิดขึ้นสิครับ<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์พยายามพูดถึงความทุจริตมากมายของคุณทักษิณ ประชาชนก็ยังไม่ลืมคุณทักษิณ<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์พยายามพูดถึงผู้ร้ายที่หนีคดีอย่างคุณทักษิณ ประชาชนก็ยังรักคุณทักษิณ<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์พยายามพูดถึงการขายชาติหรือซื้อประเทศของคุณทักษิณ ประชาชนก็ยังคงเลือกพรรคคุณทักษิณ<br />
<br />
คุณอภิสิทธิ์พยายามพูดถึงการเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง คุณอภิสิทธิ์กลับยิ่งแพ้ยับเยินกว่าเก่า<br />
<br />
ดังนั้นคำพูดที่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนๆเดียว จึงไม่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรอกครับคุณอภิสิทธิ์ นอกจากสร้างความรำคาญใจให้กับประชาชนเท่านั้นเองครับ<br />
<br />
ข้อสำคัญนะครับคุณอภิสิทธิ์ ฟังผมให้ดีนะครับ ในเมื่อการเอาผิดคุณทักษิณเพียงคนเดียว ทำให้ประเทศต้องประสบกับความขัดแย้งล่ะก้อ ทำไมเราจะนิรโทษกรรมคนๆเดียว เพื่อความปรองดองจึงไม่ได้ล่ะครับ<br />
<br />
ถ้าเป็นหนทางแห่งการปรองดอง มันก็น่าลองไม่ใช่หรือครับ หรือว่า จะเป็นอย่างที่ผมแอบได้ยินมา มีบางพรรคหวังผลประโยชน์จากความขัดแย้งของคนในชาติ หวังว่าคงไม่จริง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก้อ คงไม่ใช่คนไทยแล้วกระมังครับ ต้องตรวจสอบสัญชาติกันหน่อยแล้วล่ะครับ คุณอภิสิทธิ์เห็นด้วยกับผมหรือเปล่าครับ<br />
<br />
ส่วนคุณอภิสิทธิ์เอง ก็ลองพิจารณาตัวเองดูสิครับ อะไรทำให้คะแนนนิยมของคุณอภิสิทธิ์จึงตกลงอย่างน่าใจหาย<br />
<br />
ทั้งๆที่เป็นฝ่ายใช้กองทัพปราบปรามผู้ก่อการร้ายในกรุงเทพฯสำเร็จ<br />
<br />
ทั้งๆที่อยู่ตรงข้ามกับพวกเผาบ้านเผาเมือง<br />
<br />
ทั้งๆที่เปิดอภิปรายถึงการทุจริตมากมายของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์<br />
<br />
ทั้งๆที่บอกถึงความล้มเหลวในทุกด้านของนายกฯยิ่งลักษณ์<br />
<br />
และทั้งๆที่พยายามจะบอกว่า คุณยิ่งลักษณ์เป็นเพียงรัฐบาลหุ่นเชิดของผู้ร้ายที่หนีคดี<br />
<br />
แต่ผลสำรวจทุกๆครั้ง กลับเป็นคุณยิ่งลักษณ์มีคะแนนนิยมทิ้งห่างคุณอภิสิทธิ์ และก็ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ<br />
<br />
แต่ผลสำรวจทุกๆครั้ง ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังอยากให้รัฐบาลชุดนี้บริหารต่อไปจนครบวาระ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/nt/p13037172-2.jpg"></center><br />
และล่าสุดแม้แต่โพลสำรวจคนกรุงเทพฯ ยังให้ความซื่อสัตย์สุจริตของคุณยิ่งลักษณ์เหนือกว่า ถ้าลำพังแค่คุณอภิสิทธิ์ยังพอทำเนา แต่ยังเหนือกว่าเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์อย่างคุณชวนนี้สิครับ อีกทั้งโพลสำรวจยังเป็นนิด้าโพลของคุณสมบัติอีกด้วย ดังนั้นคุณอภิสิทธิ์ต้องตระหนักให้ได้ว่า คนกรุงเทพฯกำลังจะบอกอะไรคุณอภิสิทธิ์หรือเปล่า? ไม่อย่างนั้นไล่รัฐบาลชุดนี้ไป คุณอภิสิทธิ์ก็คงนำพรรคไปสู่ความพ่ายแพ้และคงต้องบอบช้ำกว่าเก่าแน่ๆเลยนะครับคุณอภิสิทธิ์<br />
<br />
กลับมาเถิดครับ ก่อนจะเลยเถิดจนกลับตัวไม่ไหวเลยนะครับคุณอภิสิทธิ์ กลับมาสู่เวทีการเมือง ที่ใช้รัฐสภาในการแก้ปัญหา คุณอภิสิทธิ์มีสิทธิที่จะโหวตไม่ให้รัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ได้ครับ และถึงแม้จะพ่ายแพ้ เพราะเสียงน้อยกว่า แต่ก็เป็นไปตามวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย ดูอย่างไรก็สง่างามกว่าที่จะมาสนับสนุนคนกลุ่มน้อย ที่ต้องการล้มรัฐบาล แล้วแช่แข็งนักการเมืองเลยนะครับ นอกเสียจากสาเหตุอื่น ที่ทำให้คุณอภิสิทธิ์จำเป็นต้องล้มรัฐบาลชุดนี้ให้ได้ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ประชาชนรู้ได้ แต่ยอมรับไม่ได้นะครับคุณอภิสิทธิ์ ขอบอก<br />
<br />
3 คลิป ยืนยันทหารฆ่าคุณวสันต์ ภู่ทอง 10 เมษายน 2553 ความจริงวันนี้ <br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/1jS07TnQWiM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
DSI แจ้งข้อหา อภิสิทธิ์ สุเทพ สั่งฆ่า ปชช.<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/CCzCLdDKVw0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
DSI เรียก อภิสิทธิ์ สุเทพ รับทราบคดีสั่งฆ่า ปชช.<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/iY8h11eCaO0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
DNN สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ ธาริต เพ็งดิษฐู 'ดีเอสไอแจง ตั้งข้อหา<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/cQKovdvKkOo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
DNN คอลัมน์อัพเดท ฆ่าคนตายโดยเจตนา ชนักปักหลัง 'อภิสิทธิ์ สุเทพ'<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/QOhGjQrPLgo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
DNN คอลัมน์อัพเดท ผู้ต้องหาคดีประวัติศาสตร์<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/HP8zbGGxvt4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-49425356362191239382012-11-26T10:52:00.000+07:002013-11-26T12:00:10.522+07:0026 ถ่ายทอดสด... วิทยุรัฐสภา & โทรทัศน์รัฐสภา<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/09/68.html" target="_blank">มาร์คครับ หยุดเถิดครับ อย่าออกมาพูดเรื่องจริยธรรมให้มากกว่านี้เลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/69.html" target="_blank">เฉลิมจี้ ปชป.บอกโกงจำนำข้าวให้หาหลักฐานมาแจง ไม่ใช่พูดไปเรื่อยแต่ไม่มีข้อมูล</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.539876712693022.136110.100000120933242&type=3&l=062f44209a" target="_blank">ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/70.html" target="_blank">นานาคอมเม้นท์ ถึง..คุณจตุพร พรหมพันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/11/6-3-2544.html" target="_blank">6 ปีแล้วหรือ...คนไทยได้อะไร ???? ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/104.html" target="_blank">ทักษิณคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน...เพื่อประเทศและประชาชน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/105.html" target="_blank">ความผิดพลาดของ ปชป. ที่หวังเล่นงาน นายกฯปู</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/12/blog-post.html" target="_blank">แผนชั่วๆ สร้างความรำคาญให้ต่างชาติ เลิกซื้อข้าวไทย!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/12/71.html" target="_blank">ปลื้มปีตี"ในหลวง"เสด็จออก ณ สีหบัญชร เปล่งเสียง"ทรงพระเจริญ"กึกก้อง</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
คลิปชุดนี้มันส์... ตอบโต้ฝ่ายค้าน 25-11-2555<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/videoseries?list=PL3XWjPnsAEO93SG17CtQb3QofTtqZAn9L&hl=en_US" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
สู้..สู้..ครับ ท่านนายกฯปู.......<br />
<center><img src="http://upic.me/i/k7/toon21.jpg"></center><br />
<div align="center"><h1 class="style1">วิทยุรัฐสภา </br>สื่อกลางการมีส่วนร่วมการเมืองไทย</h1><iframe src=http://myradio5.plathong.net/port.php?port=8764&fontcolor=&bgcolor=000000&dj=no&dj=no&listener=no&bitrate=no&song=no&link=no&player=flash width=280 height=45 frameborder=0 scrolling=no></iframe><br />
</div><br />
คลิกที่นี่...<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.radioparliament.net/parliament/viewLive.php?live_id=3" target="_blank">วิทยุรัฐสภา (496k)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.radioparliament.net/parliament/viewLive.php?live_id=5" target="_blank">วิทยุรัฐสภา (64k)</a><br />
<br />
<center><h1 class="style1">หน่วงเวลา 1-2 นาที นะครับ</h1></center><br />
<div align="center"><h1 class="style1">สื่อนิติบัญญัติ โทรทัศน์รัฐสภา</h1><embed src='http://www.plathong.net/player.swf' height='390' width='480' allowscriptaccess='always' allowfullscreen='true' flashvars='&falestart=true&file=tvparliament&plugins=viral-2d&streamer=rtmp://flash.plathong.net/tvparliament&stretching=uniform'/><br />
</div><br />
คลิกที่นี่...<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.radioparliament.net/parliament/viewLive.php?live_id=4" target="_blank">โทรทัศน์รัฐสภา (64k)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.radioparliament.net/parliament/viewLive.php?live_id=2" target="_blank">โทรทัศน์รัฐสภา (496k)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.radioparliament.net/parliament/viewLive.php?live_id=8" target="_blank">โทรทัศน์รัฐสภา (s2,128k)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.radioparliament.net/parliament/viewLive.php?live_id=6" target="_blank">โทรทัศน์รัฐสภา (s3,64k)</a><br />
<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/Pz0aXK-ou3w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/MedyOfpscc4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/ONoRO8nveCo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/bwrRC3DE5C8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
คลิปนี้มันส์ ตอบโต้ฝ่ายค้าน 25-11-2555<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/QPcYYofFb_0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
ดูคลิปเต็มที่นี่...<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/n2u9XMVvJrQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/eRByz27TW6w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/Zg7DawIel38" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/K6UMj3BhtTM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-6978381039237358222012-10-09T14:05:00.000+07:002013-02-09T16:27:11.733+07:0025 มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/1.html " target="_blank">โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/blog-post.html" target="_blank">ข้อเท็จจริงเรื่องน้ำท่วมสุโขทัย จากคนสุโขทัยตัวจริง & มติชนสัมภาษณ์"หม่อมเต่านา"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.528683410479019.133466.100000120933242&type=3&l=e21cddc2e6">โอ้กรุงเทพเมืองฟ้าอมร สมเป็นนครมหานที...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/blog-post_22.html" target="_blank">อยากจะบอกคน กทม. ฝั่งตะวันออก ว่า รัฐบาลเขาเตรียมยังไง เรื่องน้ำ พร้อมภาพประกอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/09/68.html" target="_blank">มาร์คครับ หยุดเถิดครับ อย่าออกมาพูดเรื่องจริยธรรมให้มากกว่านี้เลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/69.html" target="_blank">เฉลิมจี้ ปชป.บอกโกงจำนำข้าวให้หาหลักฐานมาแจง ไม่ใช่พูดไปเรื่อยแต่ไม่มีข้อมูล</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.539876712693022.136110.100000120933242&type=3&l=062f44209a" target="_blank">ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/10/100-30.html" target="_blank">สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/10/103-3.html" target="_blank">ดร.ถวิล อธิการบดี"สจล." เปิดเบื้องหลังค่ายมือถือไม่เคาะราคา 3จี แฉใกล้หมดยุค ระบุล้มประมูล รัฐฯพังยับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/10/blog-post.html" target="_blank">นายกฯปูตั้งใจบริหารงานประเทศให้เต็มกำลัง... เรื่องเห็บเหาไม่ต้องพะวง ..ประชาชนจัดการให้..</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/70.html" target="_blank">นานาคอมเม้นท์ ถึง..คุณจตุพร พรหมพันธุ์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/11/6-3-2544.html" target="_blank">6 ปีแล้วหรือ...คนไทยได้อะไร ???? ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/11/104.html" target="_blank">ทักษิณคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน...เพื่อประเทศและประชาชน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.556629037684456.139430.100000120933242&type=3&l=512ae14f72" target="_blank">Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<center><object width="480" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/p/3XWjPnsAEO-x_1hXKrMMB5wU-Wfb_dQU?hl=th_TH&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/p/3XWjPnsAEO-x_1hXKrMMB5wU-Wfb_dQU?hl=th_TH&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" width="480" height="390" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/xm/p12738067-510.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: ถือแถน</span> เว็บบ้านราษฎร์<br />
<br />
ผมติดตามการให้ข่าวและชี้ข้อเสียมากมายของโครงการนี้ ของนักวิชาการและผู้ค้าข้าว โหมกระหน่ำผ่านสื่อ ชี้ว่าประเทศจะล่มจมเพราะโครงการนี้เพราะใช้เงินมหาศาล แต่ไม่เห็นมีใครออกมาพูดในมุมของชาวนา และชี้ให้สังคมเห็นว่า การจำนำข้าวเป็นเพียงการเริ่มของการปรับโครงสร้างของการบริหารจัดการข้าว เริ่มตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ การขาย และกระจายรายได้พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนา ยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร ความสัมพันธ์ของการบริหารจัดการน้ำ 25 ลุ่มน้ำกับการทำนา และอื่นๆอีกมาก ผมจะเสนอความคิดและมุมมองในฐานะชาวนาคนหนึ่งต่อเรื่องดังกล่าว<br />
<br />
ชาวนา มีอยู่ สองประเภทครับแบ่งโดยความคุ้นชินและเห็นอยู่ในสังคมของชาวนาเอง<br />
<br />
ประเภทแรก เป็นชาวนาที่เป็นเจ้าของที่ดิน และเป็นที่ดินที่ทำเกษตรอย่างอื่นไม่ได้หรือไม่เหมาะ เหมาะที่จะทำนา กลุ่มนี้มีทั้งทำนาเพื่อกิน แล้วเหลือกินก็ขายเป็นรายได้ บางส่วนมีรายได้หลักจากการทำนา แต่บางส่วนมีรายได้หลักมาจากอาชีพอื่นหรือทำการเกษตรอย่างอื่น เช่น ทำสวนผัก สวนผลไม้ อย่างตัวผมเองก็มีรายได้หลักมาจากอาชีพอื่นและทำสวนผลไม้ แต่ทำนาเพราะต้องการที่จะทำข้าวกินและพื้นที่ตรงที่ทำนาเป็นที่ลุ่มทำอย่างอื่นน้ำจะท่วมก็เลยทำนา และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำนาเพราะไม่ต้องการให้ลูกลืมกำพืดของบรรพบุรุษที่เคยทำนา ผมจัดตัวเองไว้อยู่ในกลุ่มชาวนากลุ่มแรกนี้<br />
<br />
ชาวนากลุ่มที่สอง เป็นชาวนาที่ทำนาเพื่อเป็นรายได้หลัก ไม่ได้มีอาชีพอื่นเป็นที่มาของรายได้ อาจจะมีที่นาของตัวเอง หรือเช่านาของผู้อื่นทำ การทำจะเป็นการลงทุนเพื่อหวังผลกำไร ราคาข้าวคือ อนาคตและชีวิตที่จะฝากความหวังไว้ เพราะต้นทุนที่ลงไปนับวันจะสูงขึ้น ผลกระทบต่อชาวนาของโครงการประกันราคา และรับจำนำข้าว จะมีผลกระทบต่อชาวนาในแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน<br />
<br />
โครงการรับจำนำข้าวในความรับรู้ของชาวนาเป็นอย่างไร ส่งผลต่อชีวิตชาวนาอย่างไร ผมจะมาเล่าต่อตอนเย็นครับ พอดีมีงานเข้ามาให้ต้องไปทำ จะมาเล่าต่อให้จบนะครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/f7/p12738068-510.jpg"></center><br />
ชาวนาทางภาคเหนือและภาคอีสานจะมีวิถีที่ทำนาแบบชาวนากลุ่มที่หนึ่ง ทำนาเพื่อเอาข้าวไว้กิน ข้าวเหลือกินค่อยเอามาขายหรือเอามาจำนำ ในสมัยก่อนข้าวเป็นสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันของครอบครัว เพราะถึงจะไม่มีเงินสังคมชนบทก็ยังอยู่ได้ขอให้มีข้าว อาหารอื่นที่เป็นกับข้าวสามารถหาได้จากธรรมชาติ ข้าวจึงเปรียบเสมือนทรัพย์สินที่เขาหวงแหน วิถีชีวิตชาวนาอีสานสมัยก่อนเรื่อยมาจนทุกวันนี้ ทุกบ้านจะมียุ้งฉางสำหรับเก็บข้าว ใต้ถุนยุ้งข้าวก็จะเลี้ยงหมูหรือเป็นเล้าไก่ ทรัพยากรข้าวไม่ใช่เพียงอาหารสำหรับคน หากแต่เผื่อแผ่ไปหาสัตว์เลี้ยงหลักประกันอาหารเหล่านี้ด้วย<br />
<br />
ข้าวนอกจากจะเป็นอาหารหลัก อาหารรองสารพัดก็มาจากข้าวโดยภูมิปัญญาการดัดแปลงข้าวและการถนอมอาหาร ข้าวหนมหรือขนมสารพัดอย่างมาจากข้าวหรือแป้งของข้าวกว่าครึ่ง ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นก๋วยจั๊บเหล่านี้คือ ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากข้าว ที่สาธยายมาเพื่อให้เห็นว่า ข้าวเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเพียงใดนะครับ<br />
<br />
หากวิถีชีวิตของชาวนายังคงเดิมเหมือนเมื่อยี่สิบหรือสามสิบปีก่อน ก็คงไม่มีปัญหาเกิดขึ้นเพราะชาวบ้านดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติ กระนั้นข้าวก็ยังแสดงคุณค่าของความเป็นทรัพย์สินในชุมชนอยู่อย่างต่อเนื่อง อะไรเป็นตัวบ่งชี้เช่นนั้น ผมมองกลับไปในวัยเด็ก ข้าวถึงกับเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้าหลากชนิด อย่างที่คนในสังคมเมืองไม่อาจที่จะเคยเห็น หมู่บ้านที่ทำเกลือเอาเกลือมาแลกข้าว มีผัก มีปลาแห้งเอามาแลกข้าว บ้านไหนใกล้แหล่งน้ำทำนาไม่ได้ผลก็จับปลา ทำปลาแดก ปลาร้ามาแลกข้าว เลยไปจนถึงแลกความบันเทิงที่ท่านอาจจะไม่เคยได้ยิน หรือไม่อาจคาดไปถึงว่ามันมีอยู่จริง อย่างหมอลำขอข้าว หรือหนังขอข้าว นี่คือการตอกย้ำความสำคัญของข้าวในสังคมบ้านเรา<br />
<br />
การทำนาเมื่อก่อนเป็นการใช้แรงงานในครอบครัว คนทำไม่เคยคิดต้นทุนค่าแรงเพราะ ถ้าไม่ทำนาเขาก็ไม่มีอย่างอื่นทำ ทำให้ต้นทุนการทำนาต่ำ และการทำนาที่อาศัยแรงงานคนและสัตว์เลี้ยงประเภทวัวควายทำให้ได้ปุ๋ยมาใช้ในนาโดยที่ไม่มีต้นทุนค่าปุ๋ย ยิ่งทำให้ต้นทุนทุกด้านต่ำไปอีก และไม่มีใครไปเร่งการผลิตและเร่งผลการผลิตเพราะ ไม่ได้ทำข้าวเพื่อการค้าสักเท่าใด จนกระทั่งวัฒนธรรมการทำนาเปลี่ยนไปเมื่อสักยี่สิบปีมานี้ โดยมีโครงสร้างผลประโยชน์การค้าข้าวมาเป็นตัวทำให้ชีวิตชาวนาเปลี่ยนไป เข้าไปอยู่ในวังวนของการค้าที่ตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดราคาข้าวที่ตนจะขาย การไม่รู้ชะตาว่าปุ๋ยปีนี้จะขึ้นราคาไปเท่าไหร่ โรคระบาดจะมีไหม และฝนฟ้าเทวดาจะเมตตาชาวนา ชาวดินเช่นไร<br />
<br />
พอตกหล่มเข้าไปในวงเวียน เพื่อทำข้าวขายก็ถอนตัวไม่ขึ้นเพราะการผลิตสินค้าหรือบริการใดก็ตามที่ไม่สามารถควบคุมต้นทุนและปัจจัยแวดล้อมได้แบบนี้ ก็สามารถมองเห็นอนาคตได้อย่างแน่นอนว่า ต้องขาดทุนพอขาดทุนก็ต้องแก้ตัว ด้วยความหวังว่า ปีหน้า ราคาข้าวอาจจะดีขึ้น โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า การที่ข้าวจะขึ้นหรือไม่ขึ้นราคามันอยู่ที่กลุ่มพ่อค้าข้าวไม่กี่ตระกูลว่า เขาจะเมตตาแบ่งเศษกำไรให้หรือไม่ การที่จะแก้ตัวเพราะทำนาขาดทุนเพื่อให้ได้ทำนาในรอบใหม่ ก็ต้องเกิดการกู้หนี้ยืมสิน พลัดหล่มเข้าไปในอีกวงจรหนึ่งที่เรียกว่า หนี้สินหมุนเวียน ซึ่งผมจะพูดถึงเรื่องนี้ภายหลัง<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/qq/iogjjq510.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/j6/jntitkjhl510.jpg"></center><br />
ธรรมชาติของผู้ค้าไม่ว่าจะค้าขายอะไร การขายถูกเป็นสิ่งที่พ่อค้าชอบ พ่อค้าชอบการขายของถูกเพราะการขายของถูกมันขายง่าย และขายสบายและขายได้จำนวนเยอะ ตราบใดที่เขายังกำหนดราคาซื้อที่ต่ำได้ เรื่องอะไรที่เขาจะไปกำหนดซื้อของมาขายในราคาสูง เพราะซื้อมาราคาสูงการไปขายมันก็ขายยาก ตราบใดที่ยังกดให้ชาวนาทำข้าวมาขายให้ในราคาถูกได้ เรื่องอะไรที่จะไปขึ้นราคา พ่อค้าจึงชอบนโยบายการประกันราคามาก เพราะสามารถที่จะสามารถกดซื้อข้าวในราคาต่ำ แล้วก็ให้ชาวนาไปรับส่วนต่างจากรัฐบาล พ่อค้าได้ข้าวไปขายในราคาถูก ชาวบ้านได้เงินจากค่าข้าวและเงินส่วนต่างจำนวนหนึ่งตามที่รัฐฯกำหนด ส่วนรัฐบาลจ่ายส่วนต่างอย่างเดียวและไม่ได้ข้าวสักเมล็ด และนับวันจะต้องจ่ายมากขึ้น เพราะชาวนามีทั้งจริงและเก๊มาเอาส่วนต่าง บางรายชาวนาแท้ๆนี่แหละครับ แต่ไม่ทำนาเพราะเมื่อรวมราคาข้าวที่ขายได้พร้อมเงินส่วนต่างแล้วเขายังขาดทุน อย่ากระนั้นเลยจะไปทำให้มันเหนื่อยไปทำไม รอรับเงินส่วนต่างเสียอย่างเดียวไม่ดีกว่าหรือ ถ้าเป็นแบบนี้พอจะเห็นภาพไหมครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับอนาคตอาชีพชาวนา<br />
<br />
ผลิตภาพของชาวนาจะลดลง การพัฒนาเพื่อการเพิ่มผลผลิตหรือเพิ่มคุณภาพข้าวก็จะไม่มี เพราะราคาซื้อขายในตลาดก็ไม่เอื้อ ด้วยพ่อค้ากดราคาไว้ ไม่ต้องซื้อแพงก็ได้เพราะรัฐบาลจ่ายส่วนต่าง ชาวนาก็ไม่ขวนขวายที่จะผลิตข้าวให้ได้มากและคุณภาพดี เพราะทำไปก็เท่านั้น<br />
<br />
มาดูต้นทุนการทำนาข้าวแบบทั่วๆไปที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ ผมจะแจงให้ฟังโดยละเอียด ต้นทุนการทำนาทุกวันนี้ประกอบด้วย<br />
<br />
1. ค่าพันธุ์ข้าว ใช้โดยเฉลี่ย 5 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาเฉลี่ยต้นทุนประมาณ 300 บาท<br />
<br />
2. ค่าไถนา ไร่ละ 900 บาท<br />
<br />
3. ค่าปักดำ ไร่ละ 1,200 บาท<br />
<br />
4. ค่าปุ๋ยใช้ 50 กิโลกรัม/ไร่ สองครั้ง 2,000 บาท<br />
<br />
5. ค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 600 บาท<br />
<br />
นี่คือต้นทุนดิบในการทำนาหนึ่งไร่ สมมติว่าไม่มีโรคระบาดและแมลงรบกวนจะเป็นต้นทุนดิบอยู่ที่ไร่ละ 5,000 บาทถ้วน แต่ในความเป็นจริงยังมีค่ายาคุมหญ้า และยากำจัดหอยเชอรี่และอื่นๆ อีกประมาณไร่ละ 500 บาท หากชาวนาทำนาได้ไร่ละ 800 กิโลกรัม ต้องขายข้าวกิโลละเท่าไหร่ดีเขาจึงจะอยู่ได้ เอาหัวใจเราตรองดูครับ<br />
<br />
ผมจะมาว่าต่อในเรื่องจำนำข้าวในวันพรุ่งนี้เพราะวันนี้มีประชุมกรรมการหมู่บ้าน เรื่องงบ เอสเอ็มแอล ที่ได้มาครับ ท่านใดมีคำเสนอแนะและอยากได้ข้อมูลมุมไหนจากชาวนา อย่าช้าครับร่วมมาเสวนากันครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/lb/p12738069-510.jpg"></center><br />
มาดูคุณูปการอันยิ่งใหญ่อีกอย่างที่โครงการประกันราคาได้ให้กับชาวนาไว้อย่างใหญ่หลวง ดูเหมือนจะดีและเลอเลิศ เพราะชาวนาในกลุ่มที่หนึ่งและชาวนานอกเขตชลประทานที่ทำนาข้าวได้ข้าวน้อยแต่พอกิน ไม่มีข้าวไปเข้าโครงการรับจำนำ แต่ได้รับเงินส่วนต่างมาไร่ละพันกว่าบาท เลยเหมือนได้รับประโยชน์เพราะมีเงินมาถึงมืออย่างที่เคยไม่ได้รับ แต่ถ้ามองอย่างลึกๆเงินที่ได้รับนั้นเหมือนขนมหวานที่เอามาล่อ แต่ไม่บอกถึงยาพิษที่ซ่อนอยู่ภายใน ใครจะมองอย่างไรไม่รู้และไม่มีใครมาชี้ให้สังคมเห็น ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการผู้เลอเลิศ นักการเมืองผู้ประเสริฐ และ ทีดีอาร์ไอ สุดวิเศษ ไม่รู้ไปอยู่เสียที่ไหน<br />
<br />
ยาพิษที่ร้ายแรงนั้นก็คือ การทำให้สินทรัพย์ในมือชาวนา ลดค่าลงเกือบเท่าตัว ทำไมถึงบอกเช่นนั้น ก็เพราะว่า ราคาข้าวที่พ่อค้าในตลาดกดราคาซื้อให้ลดเหลือเพียงแค่ หกพันถึงเจ็ดพันบาท ในสมัยประกันราคาข้าวนั่นไงครับ ทำให้สินทรัพย์ที่อยู่ในมือชาวนาจากที่เคยขายในสมัยนายกฯสมัคร 13,000-14,000 บาท ราคาหายไปเป็นครึ่ง นั่นก็คือข้าวที่เขาถือไว้ในมือมีมูลค่าลดลงไปครึ่งหนึ่ง งบดุลชีวิตของเขาติดลบทันทีในจำนวนที่ไม่น้อย แล้วแบบนี้เศษเงินส่วนต่างที่ให้มาเมื่อเทียบกับอัตราส่วนนี้ ยิ่งเป็นเศษเงินหนักยิ่งเข้าไปอีก เกิดวันหนึ่งเขามีความจำเป็นต้องใช้เงิน เอาข้าวไปขายสักสองเกวียน ราคาที่เขาควรจะได้แล้วหดหายไปเพราะการนี้ เท่ากับเงินชดเชยส่วนต่างที่ได้มาหายไปแล้วนับสิบไร่ ช่างเป็นน้ำผึ้งเคลือบยาพิษ ที่หอมหวานและเลือดเย็นเหลือเกินครับท่านนักวิชาการ และ ทีดีอาร์ไอ ผู้ประเสริฐ<br />
<br />
แต่สิ่งที่ท่านให้ตอบแทนกับประเทศและสังคมก็คือ การเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก ช่างเป็นถ้วยรางวัลที่สวยงาม วาววับและน่าภาคภูมิใจ ใส่ตู้โชว์ไว้ให้แขกไปไทยมาได้เห็นว่า ช่างมากด้วยสามารถที่คว้าถ้วยรางวัลมาได้ แต่ให้ตายเถอะ ถ้วยรางวัลที่สวยงามนี้ มีนักวิชาการหรือนักการเมืองท่านใดพอจะชี้ให้ชาวนาผู้โง่เขลาอย่างผมเห็นได้ไหมว่า เกิดประโยชน์โภชน์ผลใดกับชาวนาบ้าง เอาให้เห็นชัดๆว่าชาวนาได้ประโยชน์อะไรจากตำแหน่งที่หนึ่งของโลกนี้ และผู้คนในสังคมได้ประโยชน์อะไร ในเมื่อผู้ทำนายังต้องทำนาอย่างหนักเพื่อผลิตข้าวไปส่งออกให้ตัวชาวนาขาดทุน เพียงเพราะเพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์ แล้วสังคมส่วนรวมมีความเป็นอยู่ดีขึ้นอยู่หรอกหรือครับ กับตำแหน่งแชมป์นี้ ท่านนอนหลับสบายขึ้น กินข้าวได้น้อยลงใช่ไหมครับหลังจากเป็นแชมป์ส่งออกข้าวแล้ว ก็เปล่าเลย แต่คนที่ทุกข์ทนเหมือนเดิมหรือมากขึ้น กลับเป็นชาวนา<br />
<br />
คำถามที่ตามมาอีก และไม่ได้รับคำตอบจากนักวิชาการที่มากระหน่ำโครงการรับจำนำข้าว ก็คือ ประเทศที่ชาวนาเป็นสุขอย่างญี่ปุ่น ทำไมเขาไม่ดิ้นรนเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกอย่างของไทย หรือป่านนี้คนญี่ปุ่นตายหมดแล้วเพราะช้ำใจตายที่ไม่ได้ครองแชมป์ส่งออกข้าว ก็เปล่าเลย แต่ชาวนาเขากลับสมบูรณ์พูนสุขเสียด้วยซ้ำ แล้วเคยหาคำตอบมาให้ชาวนาเราไหมครับท่านนักวิชาการว่าเป็นเพราะอะไร<br />
<br />
อีกสิ่งที่ผู้คนในสังคมไม่มีใครไปให้ความสนใจและสูบเลือดชาวนาอยู่อย่างเลือดเย็นเงียบๆ ก็คือการผูกขาดการค้าปุ๋ยอยู่ในมือของบุคคลเพียงไม่กี่คนเหมือนกันกับผู้ค้าข้าวและดูเหมือนจะสัมพันธ์กันด้วยซ้ำ ช่างโหดร้ายไหมครับที่คนกลุ่มเดียวกันนี้ช่วยกันสูบเลือดชาวนาทั้งต้นทางและปลายทางของข้าว จนสุดท้ายชาวนาจะเหลือเพียงซังข้าวและชีวิตที่ผอมแห้งเพราะเลือดโดนสูบไปไม่มีเหลือ มีใครพูดและชี้ให้สังคมเห็นไหม นักวิชาการที่บอกว่าราคาจำนำข้าวควรอยู่ที่เกวียนละ 8,000 บาทลองเอาหัวแม่ตีนตรองดูว่า จะให้ชาวนาอยู่อย่างไรถ้าไปดูต้นทุนที่ผมบอกไว้<br />
<br />
มามองดูโครงการจำนำข้าวเท่าที่ผมรู้และติดตามแนวคิดที่อยู่ลึกๆในโครงการนี้ เป็นแนวคิดที่อยู่ลึกมากจริงๆครับ ผมออกจะขัดใจกับรัฐบาลว่าทำไมไม่ใครหน้าไหนในรัฐบาลที่มีความสามารถเลยหรือที่จะอธิบายความ ในสิ่งที่ต้องการของโครงการนี้ให้ชาวบ้านได้เข้าใจ ไปติดหล่มอยู่เพียงแค่ คำว่า"รับจำนำ"ที่เขาโหมใส่ทั้งที่แก่นแกนของโครงการนี้ไม่ใช่การรับจำนำ ชาวนาบ้านนอกอย่างผมต้องมาลำบากจิ้มแป้นอยู่อย่างนี้เพราะกลัวแก่นของโครงการนี้จะล้มไปเพราะความไม่ประสาของฝ่ายรัฐบาลที่ไม่สามารถอธิบายต่อสังคมได้ เพราะสังคมนี้โดนลวงมาด้วยสื่อ และนักวิชาการบนหอคอยงาช้างมากันค่อนชีวิต ซึ่งตอนนี้ก็พากันกระหน่ำจุดอ่อนโครงการที่มีการทุจริต ซึ่งสามารถจัดการได้ ที่เขาต้องการกำจัดที่แท้จริงคือแก่นแกนของโครงการนี้ต่างหาก แต่ไม่มีใครพูดชาวนาคนนี้จะพูดครับ อาจจะผิดหรือถูก ก็บอกไว้แต่ต้นแล้วว่าเป็นมุมมองของชาวนา<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/pm/p12738070-510.jpg"></center><br />
โครงการนี้เท่าที่ผมติดตามแนวคิดอย่างตามติดและสนใจพอจะสรุปออกมาได้ดังนี้<br />
<br />
โครงการนี้ถ้าจะเรียกให้ถูกต้อง คือโครงการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการข้าว แต่มันคงจะยากที่จะเรียกเช่นนั้นในการเมืองที่ต้องเอาการตลาดมาจับให้มันเข้าถึงชาวบ้าน ก็เลยมาลงที่"การรับจำนำ"เป็นหัวเรื่องเพื่อให้จำง่ายและติดตา แต่แก่นของโครงการไม่เคยเปลี่ยนยังคงมั่นอยู่ที่การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของการบริหารจัดการข้าว ให้ทุกส่วนได้รับความเป็นธรรมในสายธารของข้าวแห่งนี้ ปรับโครงสร้างอย่างไร จัดการข้าวอย่างไร กระจายความเป็นธรรมอย่างไรนี่เป็นสิ่งที่รัฐควรจะอธิบายต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง และผมก็เฝ้าจับตาดูว่ามีใครจะออกมาอธิบายไหม ได้แต่รอแล้วรอเล่า และรอเปล่า เลยอึดอัดขัดใจขออธิบายเองดังต่อไปนี้<br />
<br />
การปรับโครงสร้างครั้งนี้เกี่ยวกับต้นธารไปจนถึงปลายธารของข้าว เริ่มตั้งแต่ผู้ผลิตคือชาวนา การเอาโครงการรับจำนำข้าวเข้ามาก็เพื่อ ยกระดับรายได้ของชาวนาให้ขึ้นมาลืมตาอ้าปากได้ โดยคำนึงถึงต้นทุนที่แท้จริงและให้ชาวนาอยู่ได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่พอยืนอยู่ได้ในสังคม แล้วทำไมต้องอยู่ที่ 15,000 บาท ผมพอจะอนุมานและเห็นแนวคิดนี้อย่างเท่าทันผู้คิดนโยบายว่า ต้องการไปเปรียบกับผู้จบปริญญาตรี ที่จะให้ได้รับค่าจ้างพื้นฐานที่ หมื่นห้า ให้เป็นค่าความพากเพียรที่เล่าเรียนมาจนจบด้วยค่าตอบแทนที่ได้รับ ย่อมเท่าเทียมกันกับของชาวนาผู้พากเพียรทำข้าวให้ได้หนึ่งตัน เป็นค่าความเหนื่อยยากและทักษะการทำนาที่ชาญเชี่ยว และเป็นแรงจูงใจให้พัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิต และหาวิธีลดต้นทุนเพื่อนำไปสู่กำไรที่มากขึ้น ไม่มีคนของรับบาลคนใดเลยที่ออกมาชี้ตรงจุดนี้<br />
<br />
คุณูประการนี้จะส่งผลต่อโครงสร้างการผลิตข้าว ให้ชาวนากระตือรือร้นที่จะเพิ่มผลผลิต และพัฒนาวิธีการเพื่อลดต้นทุน ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มรู้จักการใช้ทรัพยากรร่วมในการลงทุนทำนา อย่างเช่น เอาเงิน เอสเอ็มแอล มาซื้อรถไถนา รถเกี่ยวข้าว เพื่อใช้ร่วมกันในหมู่บ้านและตำบลเป็นการลดต้นทุนและต่อยอดไปหารายได้ได้อีก มีเอาท์ซอสซิ่งเหมือนอุตสาหกรรมเหมือนกันนะครับ เพราะด้วยที่หาแรงงานทำนายาก ก็มีชาวนาหัวใสเอาแรงงานที่มีทักษะการดำนาชั้นยอดมารวมตัวกัน 20-30 คนรับดำนาในราคาเหมาเป็นไร่ ไร่ละ 1,200 บาทนายี่สิบไร่นี่วันหนึ่งดำเสร็จสบายๆ และถูกกว่าค่าจ้างรายวัน คำนวณต้นทุนได้แน่นอนด้วย คนรับจ้างก็พอใจเพราะถ้ายี่สิบคนดำได้ยี่สิบไร่ต่อวันค่าจ้างต่อคนตกนับพันบาทต่อคน เห็นพัฒนาการของเขาไหมครับ หากราคาที่รัฐยกระดับรายได้เช่นนี้จะเห็นพัฒนาการที่มากกว่านี้ เพราะทำแล้วคุ้ม<br />
<br />
อีกอย่างที่เห็นภาพชัดใกล้ตัว คือที่ที่ถูกทิ้งร้างไว้ไม่ทำประโยชน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปีนี้ถูกบุกเบิกแผ้วถางมาทำนาหากชาวนามองไม่เห็นผลตอบแทนที่อยู่เบื้องหน้าคงไม่มีใครมาลงทุนเช่นนี้ ซึ่งจะส่งผลทำให้มีการใช้ทรัพยากรที่ถูกทิ้งเอาไว้เปล่าๆไม่เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้เกิดประโยชน์ขึ้นและคงจะเป็นแบบนี้ไปอย่างทั่วถึง สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำในส่วนนี้และทำไปแล้วบ้างก็คือการจัดการปัจจัยการผลิต พวกปุ๋ยและเคมีเกษตรที่อยู่ในมือนายทุนอย่างเบ็ดเสร็จ การให้ทุนซึ่งรัฐให้ในเรื่องบัตรเครดิตเกษตรกร แต่มีปัญหาอยู่ที่ต้องแก้ก็คือการเข้าถึงในโครงการนี้ของเกษตรกร โดยเฉพาะรายใหม่ที่ไม่เคยเป็นลูกค้า ธกส. และอีกอย่างที่ควรจะไปรื้อแก้ก็คือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรในระดับต่างๆว่ามีส่วนในการส่งเสริมการผลิตของเกษตรกรชาวนาอย่างไร ไม่ใช่อยู่ในสภาพเลี้ยงเสียข้าวสุก<br />
<br />
ผลที่ส่งไปหาชาวนาอีกอย่างอันเป็นตรงกันข้ามกับโครงการประกันราคา และเป็นผลที่ส่งในวงกว้างและตัวชาวนาเองก็ไม่รู้สึก ก็คือข้าวอันเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในมือชาวนา มันมีมูลค่าทางเศรษฐกิจในงบดุลชีวิตของเขามันมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ถึงแม้เขาจะทำนาได้ข้าวน้อยไม่มีข้าวมาเข้าโครงการจำนำ แต่ข้าวที่เขาเก็บไว้มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยมีจากสมัยประกันราคา เกิดวันหนึ่งเขามีความจำเป็นต้องขายข้าว อาจจะจากที่ต้องซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้ลูก หรือขายไปหมั้นสาวเป็นสินสอดให้ลูกชาย ข้าวในมือเขามันก็มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่เคยเป็นอยู่เพราะราคาถูกยกระดับขึ้นมา อันนี้เป็นสิ่งที่ชาวนาได้รับกันถ้วนหน้าโดยที่ไม่ต้องลุกจากที่นอน<br />
<br />
ยังมีอีก ในเรื่องโครงสร้างการจัดเก็บ การขายข้าว และข้อเสนอของชาวนาอย่างผมไปให้รัฐบาลครับ แต่มาต่อกันตอนเย็นนะครับเพราะต้องไปเอาน้ำเข้านาแล้วครับ ข้าวกำลังตั้งท้องและออกรวง ท่านใดมีความคิดเห็นเช่นไรมาแลกเปลี่ยนกันครับยินดีอ่านและน้อมรับโดยพลัน<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/6h/p12738071-510.jpg"></center><br />
เสร็จงานแล้วครับ มาเล่าต่อถึงเรื่องข้าวและชาวนาครับ<br />
<br />
หลายคนบอกสถานการณ์ตอนนี้ระหว่างชาวนากับชนชั้นสูงเป็นเหมือนสงครามชนชั้น ผมว่ากำลังเข้าใจผิด การที่จะทำสงครามกันได้นั้น คู่สงครามต้องมีกำลังไพร่พลสูสีกัน พอที่จะเข้าประจันและทำสงครามกัน แต่สภาพที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการเหยียบปาก และถุยน้ำลายซ้ำใส่ชาวนาผู้ที่ด้อยกว่าทุกอย่าง ด้อยที่ไม่มีภูมิรู้ที่จะอธิบายความด้อยด้วยภาพพจน์ความน่าเชื่อถือ เป็นเพียงชาวนาหน้าดำ ไม่มีสื่อที่เป็นตัวแทน ที่จะเป็นปากเสียงให้หรือมีใจแบ่งพื้นที่ให้สักนิด นักการเมืองที่เป็นตัวแทนก็เป็นแค่แถวสาม อธิบายความไม่ได้ แล้วมองอย่างไรที่ว่า เป็นสงครามชนชั้น ผมกลับมองว่า นายทุน ขุนศึก ศักดินา และพ่อค้าหน้าเลือด กำลังรังแกคนไม่มีทางสู้ โครงการนี้จะไปได้หรือไม่อยู่ที่ คนที่พอมีศักยภาพช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงให้กว้างขวาง สร้างความเข้าใจให้สังคมเป็นพลังหนุนให้ชาวนาได้ลืมตาอ้าปาก<br />
<br />
ด้วยสถานะความอ่อนแอด้านรายได้ของการทำนา ตลอดระยะเวลายี่สิบปีคืนหลังไปนั้นจึงเกิดสภาพของแรงงานย้ายถิ่นเพื่อไปหาอาชีพที่รายได้มากกว่าการทำนา ย้ำนะครับว่า เป็นอาชีพที่รายได้มากกว่าการทำนา ไม่ใช่ว่าเป็นอาชีพที่ดีกว่าหรือมีความสุขกว่า หากแต่เป็นอาชีพที่รายได้ดีกว่า อาจจะทุกข์ยาก และเหน็ดเหนื่อยกว่าการทำนา แต่เป็นอาชีพที่มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัวได้มากกว่าการทำนา ก่อให้เกิดปัญหากับสังคมเมือง เกี่ยวเนื่องกันไป สังคมชนบทก็เปลี่ยวร้างเหลือเพียงคนแก่และเด็กที่ว้าเหว่ และโหยไออุ่นจากพ่อแม่ สังคมเมืองมีปัญหาเพราะความแออัด โจรผู้ร้ายจากคนร้อยพ่อพันแม่ บ้านนอกเริ่มมีปัญหายาเสพติดเพราะเด็กขาดไออุ่นและพ่อแม่คอยดูแล<br />
<br />
สภาพนี้จะได้รับการแก้ไขแม้จะไม่ทันใดแต่ก็จะมีการแก้ หากการทำนานำรายได้ที่พอเลี้ยงครอบครัว ชาวนาจะคืนถิ่น เคยมีให้ได้เห็นบ้างในสมัยนายกฯสมัคร และกำลังเห็นอีกในสมัยนี้ คนงานในโรงงาน คนที่เป็นแม่บ้าน เป็น รปภ.เริ่มหายากใช่ไหมครับ กลุ่มคนเหล่านี้กำลังกลับมาทำนาในปีนี้ ข้างหลังบ้านผมเป็นที่รกร้างมานับสิบปีจำนวนเกือบสี่สิบไร่ ถูกแปรสภาพเป็นนาข้าว ทำมาแล้วสองรอบ จนได้ค่าแผ้วถางคืน นี่คือสิ่งที่ได้มาอีกอย่างของการปรับโครงสร้างครั้งนี้ พ่อได้กลับมาอยู่กับลูก แม่ได้มาทำกับข้าวให้ครอบครัว สังคมชนบทที่อบอุ่นคงจะกลับคืนมา หากโครงการยังดำเนินต่อไป<br />
<br />
ซึ่งหากไปสู่จุดหมายได้ครบวงจรของการจัดการข้าว สังคมเมืองก็คงลดความแออัดลง ปัญหาของเมืองใหญ่ที่แย่งกันกินแย่งกันใช้ ก็คงจะน้อยลง สภาพที่รถติดทางขึ้นเหนือหรืออีสานในเทศกาลหยุดยาวก็คงเกิดขึ้นน้อย หรือไม่เกิดขึ้นเลย การจัดการและปันส่วนของกำไรที่มีประสิทธิภาพ ไม่ให้การค้าข้าวอยู่ในมือคนเพียงบางกลุ่ม ผลดีที่จะส่งถึงคนเมืองอีกอย่างก็คือ การจะได้กินข้าวคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม ไม่ตกอยู่ในอำนาจของพ่อค้าข้าวที่จะโขกเอาราคาเท่าใดก็ได้อีกต่อไป<br />
<br />
การรับจำนำข้าวทุกเม็ดย่อมสร้างอำนาจต่อรองให้ชาวนาที่จะเลือกว่า เขาจะส่งต่อข้าวให้กับใคร ระหว่างรัฐฯกับพ่อค้า หากพ่อค้าอยากแย่งสินค้าจากรัฐฯก็ย่อมมีสิทธิขาดที่จะให้ราคาที่ดีกว่า ย่อมดีกว่าที่จะไม่มีทางเลือก ที่ต้องขายข้าวในราคาที่พ่อค้ากำหนดอย่างโครงการประกัน นี่เอาภาพต่อการผลิตและผู้ผลิตพอสังเขปนะครับ<br />
<br />
การที่มาบอกว่า การทำแบบนี้เท่ากับเป็นการทำลายการค้าข้าวของภาคเอกชน ผมกลับมองว่า ไม่มีใครเขาทำลายได้หรอกครับ เพียงแต่ลดกำไรลงมาหน่อยมาแบ่งให้ลูกจ้างทำนาที่คุณกดขี่มาทั้งชีวิตจะได้ไหม หรือหากคุณจะล้ม คุณก็ยังมีทางไปเพราะสั่งสมความรวยมาแล้วทั้งชีวิต แต่หากชาวนาล้ม เขาไม่มีทางไป ท่านจะเลือกประคองใคร<br />
<br />
อีกอย่างที่เหมือนเป็นปัญหาที่สุดของการรับจำนำที่รัฐฯควรจะต้องคิดอ่านหาวิธีแก้ไข นั่นคือการจัดเก็บข้าว และผมแน่ใจว่ามีการคิดอ่านไว้แล้ว เพราะเห็นนายกฯปูไปดูงานไซโลเก็บสินค้าเกษตรที่ไหนสักแห่ง<br />
<br />
การจัดเก็บข้าวทุกวันนี้ เหมือนเอาปลาย่างไปฝากไว้กับแมว ผมย้ำอยู่ตลอดว่า ข้าวเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าอยู่ในตัว การฝากข้าวไว้กับโรงสีจึงเป็นจุดหนึ่งที่ถ้าแก้ไขได้ก็ควรจะแก้ไข เพราะอาจเกิดปัญหาการเอาข้าวที่มาจำนำแล้วไปสีขาย แล้วไปซื้อข้าวคุณภาพต่ำจากเพื่อนบ้านมาใส่ไว้แทน ขายข้าวไทยที่คุณภาพดีออกไป ตรงจุดนี้คือที่น่ากลัวกว่าข้าวมาสวมสิทธิ์<br />
<br />
ถ้าเป็นไปได้ในระยะต่อไป รัฐฯควรจะจัดให้มียุ้งฉางรวมของหมู่บ้านหรือตำบลเพื่อให้เป็นที่เก็บข้าวที่รับจำนำ มีกรรมการระดับหมู่บ้าน หรือตำบลเป็นผู้ดูแล รวมทั้งเป็นผู้รับจำนำและออกใบประทวน ให้ผู้จำนำไปรับเงินที่ ธกส.หรือ สหกรณ์ ตรงนี้จะมีข้อดีตรงที่การตรวจสอบการสวมสิทธิ์ของชาวนา จะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะชาวบ้านเขารู้จักกันจนถึงโคตรเหง้าศักราช และการที่ข้าวอยู่ในมือชาวบ้านส่วนรวม การที่จะแอบเอาไปสีขายเหมือนโรงสี ก็เกิดขึ้นไม่ได้ หลายคนอาจจะแย้งว่า แบบนั้นก็ต้องลงทุนสร้างยุ้งฉางจำนวนมาก คำตอบก็คือ ในเมื่อจำเป็นก็ต้องสร้างครับ ใช้เงินไม่มากมายเท่าเศษเสี้ยวของการไปอุ้มธนาคารหรอกครับ<br />
<br />
ข้อดีอีกประการของการมียุ้งฉางอยู่ในมือชาวบ้านแบบนี้ก็คือ หากเกิดปัญหาอุทกภัย ภัยแล้งหรือทุุพภิกขภัย ก็ให้รัฐฯสามารถให้ชาวบ้านร่วมกับส่วนท้องถิ่นสามารถเปิดยุ้งฉางเอาข้าวที่เก็บไว้ออกมาแจกจ่ายแก้ไขทุกข์ชาวบ้านได้ โดยไม่ต้องรอการขนส่งมาแจกจ่ายที่เสียทั้งเงินและเวลา หากไม่มีก็เก็บไว้รอเวลาที่รัฐฯจะให้เอามาส่งไปสีขาย และสามารถเอายุ้งฉางนี้เก็บสำรองเมล็ดพันธุ์และต่อยอดไปถึงการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเป็นอีกปัญหาใหญ่ของเกษตรกรที่ไม่มีใครพูดไปถึงอีกเช่นกัน<br />
<br />
จะเห็นว่านี่คืออีกห่วงโซ่ที่รัฐฯน่าจะทำอย่างแน่นอนในการจัดการข้าว ส่วนอีกหนึ่งในขบวนการคือการปรับกระบวนการค้าข้าวจะมาเล่าต่อในตอนเย็นครับ ขอสมาชิกชี้แนะและเพิ่มเติมครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/c0/p12738072-510.jpg"></center><br />
มาเข้าเรื่อง การจัดการการตลาดข้าวของรัฐบาลนะครับ รัฐบาลนี้เป็นนักการตลาดครับ ความจริงข้อนี้ไม่อาจปฏิเสธ การกักตุนสินค้าเป็นไม้หนึ่งของการทำการค้า ผมมองว่า รัฐบาลกำลังเล่นไม้นี้อยู่ เพราะยังไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องรีบขายข้าวในตอนนี้<br />
<br />
หากสามารถรอราคาได้ก็รอไปก่อน แม้จะมีค่าใช้จ่ายในการจัดการก็ต้องยอมเพื่อผลในวันข้างหน้า การที่รัฐฯเอาข้าวมาไว้ในมือทั้งหมดคือยุทธศาสตร์การเพิ่มอำนาจต่อรองให้ชาวนา ถ้ารัฐบาลไม่ทำ มองไปทั้งแผ่นดินนี้ใครมันจะทำได้ครับ<br />
<br />
เมื่อทำผลกระทบมันก็ตามมา เพราะเป็นสัญญาณการรื้อโครงสร้างข้าวที่ส่งออกมาอย่างชัดเจน ตรงนี้ต่างหากที่นายทุนค้าข้าวกลัวลาน เพราะจะหมดโอกาสมากำหนดราคาข้าวอีกต่อไป พอหมดโอกาสกำหนดราคา ก็มองเห็นอนาคตกำไรที่ไม่สามารถกำหนดได้เหมือนเดิม<br />
<br />
คนที่คิดเรื่องนี้อาจจะคิดลึกซึ้งไปกว่านั้น ว่าจะทำอย่างไรต่อยอดโครงการนี้ ข้าวซื้อมาทำไมต้องรีบขายครับ มันเก็บได้ เอามาเพิ่มมูลค่าได้ หากขายส่งออกไม่ได้ราคา ถ้าเป็นผมไม่ส่งออก แต่จะเอามาเพิ่มมูลค่า อุตสาหกรรมแอลกอฮอร์เพื่อดื่ม เพิ่มมูลค่าได้เท่าไหร่ รู้ไหมว่าไทยส่งข้าวให้ญี่ปุ่นทำสาเกปีละเท่าไหร่ ทำไมไม่ส่งสาเกน้ำแทนข้าว แอลกอฮอร์ทางการแพทย์ราคาเท่าไหร่ ส่งออกได้ไหม<br />
<br />
ผมถึงบอกว่าข้าวเป็นทรัพย์สินที่มีค่าอยู่อีกฟากของงบดุลชาติ ใช่มีแต่หนี้สิน ช่วยกันบอกสังคมครับในจุดนี้ เพราะโดนตีเหลือเกิน ผมเชื่อแน่ว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาลหลายๆคนไม่ได้มองข้ามสิ่งเหล่านี้ และยืนยันว่าโครงการจำนำเป็นเพียงจุดเริ่มของการปรับโครงสร้างข้าวครั้งใหญ่ครับ<br />
<br />
อีกอย่างที่รัฐบาลพูดชัดเจนก็คือ ข้าวไทยไม่จำเป็นต้องขายถูกอีกต่อไป นี่คือการวางตำแหน่งของสินค้าข้าวไทยอย่างชัดเจนในตลาด คือต้องเป็นสินค้าคุณภาพดี ราคาสูงในตลาดโลก นั่นคือการปฏิวัติตลาดข้าวของไทยครั้งใหญ่ในตลาดโลก เป็นยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายชัดเจน ไม่จำเป็นต้องขายมากก็ได้เงินมากเท่าเดิม<br />
<br />
หากไม่สามารถส่งออกในปริมาณที่เท่าเดิม ข้าวจะเหลือในประเทศมากขึ้นรัฐฯสามารถเข้ามาจัดการกลไกในประเทศให้ผู้บริโภคในประเทศได้บริโภคข้าวในราคาที่เป็นธรรม สิ่งเหล่านี้เราจะได้เห็นและคาดหวังไว้ครับ ผมเชื่อแน่ว่า รัฐฯไม่หยุดแค่การรับจำนำครับ เพราะแผนทั้งด้านการบริหารจัดการน้ำที่จะต้องสอดรับกับการทำนาและการทำการเกษตรก็กำลังเดิน เครือข่ายการขนส่งทางรางที่จะเริ่มต้นสิ่งเหล่านี้จะสอดประสานกัน<br />
<br />
คำถามและอุปสรรคที่เราทุกคนต้องก้าวข้ามให้ได้ก็คือ รัฐบาลนี้จะอยู่ถึงวันนั้นหรือเปล่า และใครจะเป็นคนให้คำตอบ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/vu/g57rc1.jpg"></center>สำหรับท่านที่อยากเห็นภาพนาที่ผมทำนะครับ ผมทำนาข้าวไรส์เบอรี่ 1 ไร่, ข้าวหอมมะลิแดง 1 ไร่ ภาพนี้..ต้นกล้าข้าวไรส์เบอรี่ครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/lf/xuqv9n.jpg"></center>ต้นกล้าข้าวหอมมะลิแดงครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/01/tjjo0n.jpg"></center>ปักดำใหม่ๆครับ ข้าวที่ปลูกใหม่ต้องปล่อยให้น้ำแห้งบ้างครับ เพราะถ้าขังน้ำไว้ในระยะนี้หอยเชอรี่จะมากัดกินต้นอ่อนครับ เราปล่อยให้น้ำแห้งแต่ความชื้นยังมีข้าวไม่ตายครับ และธรรมชาติของข้าวหอมต้องให้แห้งสลับน้ำครับ ไม่เช่นนั้นข้าวจะไม่หอมครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/wc/tkshkj.jpg"></center>ที่งามแล้วครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/ni/10lclf.jpg"></center>ข้าวไรส์เบอรี่ ถ่ายเมือสองอาทิตย์ที่แล้วครับ<br />
<br />
<center><object width="480" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/VEINAV5KzuU&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/VEINAV5KzuU&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="390"></embed></object></center><br />
สิ่งที่อยากสื่อไปถึงรัฐบาลก็คือ... จำนำข้าว แม้ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชียร์ ทว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ รัฐมนตรี รวมถึงกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง ต้อง สร้างความเชื่อมั่น ทำความเข้าใจ กับประชาชนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ลำพังสัมภาษณ์สั้นๆ ตอบคำถามคำสองคำ ไม่เพียงพอ ตีฝ่าวงล้อม ฝ่ายตรงข้าม<br />
<br />
รัฐบาลจำเป็นต้องจัดเวที ถ่ายทอดทีวี ชี้แจงจำนำข้าว ทุกเรื่อง ทุกมิติ ทุกข้อข้องใจ โดยกูรู ผู้รู้ ผู้ปฏิบัติที่พูดเป็น สื่อสารเก่ง นั่นจึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมและเต็มใจที่จะช่วยชาวนาด้วยภาษีที่เสียไป ผมคิดว่า หากสังคมเข้าใจ พลังหนุนจะมากกว่านี้ และผู้ที่คอยจ้องที่จะให้ล้ม และเหยียบซ้ำ คงจะเกรงใจประชาชนบ้าง<br />
<br />
<center><object width="480" height="390"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/IgAW8JUeOrM&hl=en_US&fs=1&"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/IgAW8JUeOrM&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="480" height="390"></embed></object></center><br />
ส่วนเรื่องการทำนาข้าวของผมว่าลงทุนเท่าไหร่เพราะเป็นข้าวราคาแพง เอาผมเป็นกรณีไปเปรียบเทียบกับชาวนาอื่นไม่ได้ครับ เพราะผมทำนาเพียงนิดเดียว และไม่ได้ใส่ปุ๋ย ต้นทุนของผมจึงถูก มีเฉพาะค่ารถมาไถนาให้ 2 ไร่เขาคิด 1,800 บาท เมล็ดพันธุ์ผมก็ไม่ได้ซื้อเพราะน้องชายเอามาให้ แต่ถ้าซื้อขายกันก็ตกกิโลละ 90 บาท ใช้ไป 10 กิโล เท่ากับ 900 บาท รวมเป็นเงิน 2,700 บาท<br />
<br />
ส่วนการทำนา ผมหว่านกล้า ดำนาเองกับลูกสองคนและภรรยา ทำสองวันเสาร์อาทิตย์ก็เสร็จ แต่ถ้าจะคิดค่าแรงเข้าไป ผมคงขาดทุน เพราะค่าแรงผมแพงมากครับ ถ้าเทียบกับชาวนาทั่วไป ปีที่แล้วผมได้ข้าว 1,700 กิโลกรัม ตอนนี้ยังกินไม่หมดครับ<br />
<br />
ชาวนาแบบผมจะ ประกัน หรือ จำนำ ราคาก็ไม่มีผลกระทบกับผมครับ แต่ที่ทำให้ออกมาเขียนเพราะทนกับความไม่ประสาของรัฐบาลที่ไม่สามารถที่จะชี้แจงให้สังคมเข้าใจได้ครับ<br />
<br />
และย้ำให้ท่านผู้อ่านทราบอีกครั้งว่า ผมชาวนาตัวจริงมาแต่บรรพบุรุษครับ และจะให้ลูกๆสืบทอดทักษะและสำนึกของชาวนาไว้ในสายเลือดตลอดไปครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/78/yksmme.jpg"></center>แถมภาพสวนที่ทำครับ<br />
<br />
ประสบการณ์ส่วนตัวผมเคยทำโครงการโรงสีชุมชนกับชาวบ้านที่บ้านเกิด ฝ่าอุปสรรคแทบเอาชีวิตไม่รอดจึงฝ่าด่านนายทุนมาได้ ผมใฝ่ฝันอยากให้มียุ้งฉางกลางสำหรับเก็บข้าว และโรงสีของชุมชน ที่บริหารโดยชาวนา รวมกลุ่มกันปลูกข้าวคุณภาพและปลอดสารพิษ จำหน่ายข้าวราคายุติธรรมสำหรับผู้บริโภค ชาวนาอยู่ได้ด้วยตัวเอง ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ครับและมีชาวนากลุ่มหนึ่งทำได้มาตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันโรงสีกลุ่มนั้นมีเงินหมุนเวียนนับร้อยล้านบาทต่อปี ชาวบ้านสมาชิกของกลุ่ม มีสวัสดิการอย่างเยี่ยมจากผลประกอบการของโรงสี เจ็บป่วยเขานอนห้องพิเศษ โดยมีกองทุนสวัสดิการของเขาเป็นคนจ่าย<br />
<br />
แต่ทำไมโครงการดีๆแบบนี้ยังไม่ขยายไปไหน ยังถูกบอนไซไว้ไม่ให้ขยายเติบโต ผมนึกถึงการปลุกปั้นมาคราใดได้แต่สะท้อนอยู่ในอก<br />
<br />
อีกปัญหาที่อยากบอกผ่านสาธารณะไปยังรัฐบาลและผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง คือการผูกขาดเมล็ดพันธุ์ในที่นี้ไม่ใช่เฉพาะข้าว หากแต่รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ทุกชนิด ผลกระทบกับเกษตรกรคือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา และที่กระทบอย่างใหญ่หลวงก็คือ เมล็ดพันธุ์พื้นเมืองที่นับวันจะหมดหายทั้งข้าว และพืชผักต่างๆ เพราะพันธุ์พื้นเมืองมันไม่สวย หรือผลผลิตไม่มาก การทำออกไปขายก็ไม่มีคนซื้อเพราะไม่สวยเหมือนพันธุ์ที่เขาพัฒนาแล้ว<br />
<br />
ชาวนาหรือชาวสวนก็ทิ้งสายพันธุ์ดั้งเดิม กระโดดเข้าไปในบ่วงทาสเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีวันสลัดหลุด เพราะพอนำมาปลูกแล้ว เก็บทำพันธุ์ในฤดูต่อไปไม่ได้ ก็ต้องกลับไปซื้อเขาใหม่ ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ พ่อค้าข้าว ต่างช่วยกันรุมแทะเหยื่ออันโอชะ แล้วยังมีนักวิชาการ และนักการเมืองที่ไม่เคยมองประชาชนอยู่ในสายตากระทืบซ้ำ<br />
<br />
ถ้าคนที่พอมีกำลังและปากเสียงในบ้านเมือง ไม่มาช่วยกันประคองคงเห็นชะตากรรมอันสยดสยอง ของชาวนาในไม่ช้า หรือในทางกลับกันหากชาวนาเหลืออดกับชะตากรรม ชนชั้นสูงที่ขี่หลังสังคมสูบเลือดจากชาวนา ก็อาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/5o/tootan510.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/bp/6a269e.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ครม.เห็นชอบในหลักการเพิ่มรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 เป็น 14.70 ล้านตัน</strong></span><br />
<br />
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 และเห็นชอบในหลักการการขยายปริมาณและกรอบการใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 กรณีพิเศษ<br />
<br />
วันนี้(15ต.ค.55) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 และเห็นชอบในหลักการการขยายปริมาณและกรอบการใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 กรณีพิเศษ (เพิ่มเติม) จากเดิม ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไว้แล้ว จำนวน 13.31 ล้านตัน ปรับเพิ่มเติมอีกจำนวน 1.39 ล้านตัน รวมเป็นปริมาณโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 (กรณีพิเศษ) จำนวนทั้งสิ้น 14.70 ล้านตัน โดยให้ใช้จากวงเงินรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในส่วนที่เป็นเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 90,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ยังอยู่ภายในกรอบวงเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งระบายข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และนำเงินที่ได้ชำระคืน ธ.ก.ส. เพื่อให้ ธ.ก.ส. นำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังส่วนที่เพิ่มเติม<br />
<br />
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ (ต้นทุนเงินและค่าบริหารโครงการ) ให้ใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการระบายและขายผลผลิตให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี ทราบอย่างต่อเนื่องตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/w9/2012-11-04_163510.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/rb/gtg510.jpg"></center><br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำคุณถือแถน ให้ใส่น้ำหมักชีวภาพสูตรนี้ครับ<br />
<center><img src="http://upic.me/i/y7/2012-10-10_510.jpg"></center><br />
<span style="color: #ff9900;">By ดวงจันทร์:</span> พ่อค้าเขาไม่เอามาคิดหรอกค่ะตราบใดที่ชาวนาต้องเอามาขายให้เขา เพราะเขารู้ว่าจะอย่างไรชาวนาก็ต้องขายถึงไม่ได้กำไรแต่ได้ทุนชาวนาก็ต้องทำ คนใจดำก็ยังใจดำเช่นนี้เปลี่ยนไม่ได้ ก็หวังว่ารัฐบาลนี้จะเดินหน้าต่อไปเพื่อชาวนาไทยสักครั้ง<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By วอน:</span> เห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนา ที่คุณถือแถนโพสท์แล้ว ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ........ การรับจำนำข้าว รัฐบาลหลายรัฐบาลได้ดำเนินการมาตั้งแต่สมัย ท่านทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านสมัคร สุนทรเวช และ จนถึงสมัยรัฐบาลท่านปู นโยบายรับจำนำข้าวนี้ดำเนินการมา 10 กว่าปีมาแล้ว ......<br />
<br />
ข้อสงสัยที่อยากให้คุณถือแถน ผู้คลุกคลีกับชาวนาที่แท้จริง อธิบายสักนิด ว่า "ในเมื่อรัฐบาล ได้ทุ่มเทความช่วยเหลือรับซื้อผลผลิตข้าว ในราคาแพงๆ (รับจำนำข้าวทุกเม็ด) มาเป็นเวลาถึง สิบกว่า ปีแล้ว ...............<br />
<br />
*********** ทำไมชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวนารายย่อยๆเหล่านี้ จึงยังยากไร้ อยู่เช่นเดิม (ตามภาพที่คุณ ถือแถนนำมาโพสท์) ? ? ? ?<br />
<br />
ในเมื่อ 1 ปี ที่ผ่านไปแล้ว ปรากฏชัดแก่ประชานทุกคนชัดเจนว่า รัฐบาลขายข้าวที่รับจำนำไว้ ขาดทุนไป ไม่ต่ำกว่า หนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาทแล้ว ประเทศไทยซึ่ง งบประมาณประจำปี ขาดดุลเป็นประจำ และ ปีนี้ การเก็บภาษี ยังเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายอีกด้วย ดังนั้น จึงสงสัยว่ารัฐบาลจะทนต่อ การขาดทุนปีละไม่น้อยนี้ ไปได้นานสักกี่ปี<br />
<br />
ที่ผมเองกลัวคือ การเสียตลาดข้าวโลก ให้แก่เวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน ไม่ใช่เพียงการเสีย champ อันดับ#1หรอกครับ แต่ที่เราจะต้องเสียโดยไม่รู้สึกตัวคือ "ความเคยชินในรสชาดข้าวไทย" จากที่เคยติดลิ้น ติดใจประชากรโลก จะเรียกคืนกลับมา หรือสร้างขึ้นใหม่ได้ยาก<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">ตอบ พี่ดวงจันทร์:</span> อย่างที่ความเห็นของพี่ที่แสดงไว้ข้างบน จะเห็นว่าชาวนาถูกมัดมือชกอย่างไม่มีหนทางสู้อย่างน่าสงสารทีเดียว แถมต้นทุนที่ผมยกเอามาให้ดูเป็นเพียงต้นทุนดิบในการทำนาเท่านั้นนะครับ เพราะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายของตัวชาวนาเอง ในทางธุรกิจเขาเรียกว่าค่าใช้จ่ายในการบริหาร แต่ในการทำนามันเป็นเพียงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ชีวิตของชาวนาที่ต้องกินต้องใช้ ลูกต้องเรียนหนังสือ มีภาษีสังคม ญาติตาย คนในหมู่บ้านแต่งงานและอีกสารพัดเหมือนอาชีพอื่นๆที่มีความเป็นคนเหมือนกัน<br />
<br />
คำถามที่ชาวนาแบบผมพร่ำถามตัวเองก็คือ ทำไมชาวนาจะอยู่ดีกินดีเหมือนคนอื่นเขาไม่ได้ หรือเป็นเพราะเป็นชาวนาแล้วต้องเป็นชนชั้นที่ต้องแบกแอกงานหนัก เพื่อหล่อเลี้ยงผู้อื่นเท่านั้น หากท่านไปตีโพยตีพายเยี่ยงนั้น ก็จะถูกชี้หน้าว่า ถ้ามันลำบากไม่พอกินก็ไปทำอาชีพอื่น หรืออย่ามาทวงบุญคุณฉันไม่เคยขอข้าวใครกินเปล่าๆต้องซื้อทุกเม็ด ชาวนาก็ต้องก้มหน้ารับคำบริภาษเหล่านี้กระนั้นหรือ? มีใครมองบ้างไหมว่า สิ่งที่ชาวนาเรียกร้องแก่นมันอยู่ที่ตรงไหน ชาวนาไม่ต้องการให้ใครมาสงสารและสมเพช หากแต่อยากให้จัดสรรและกระจายรายได้และกำไรจากการค้าข้าวที่มาจากหยาดเหงื่อของเขาอย่างเป็นธรรมเท่านั้นเอง แต่เสียงของเขาไม่อาจสะท้อนออกมาได้เพราะ อำนาจต่อรองของเขาไม่มีเพียงสักกระผีก<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">ตอบ คุณวอน:</span> ทำไมชาวนายังยากจนอยู่ ถ้าโครงการรับจำนำได้ผล และทำมานานแล้ว คำตอบคือ การทำโครงการเพิ่งได้ทำแค่เพียงการเริ่มต้นครับ คือเพียงแค่รับจำนำ แต่ยังไม่ได้ทำการปรับโครงสร้างของการจัดการข้าว เพียงแค่ยกระดับราคาขึ้นมาได้นิดหน่อย แต่ประเทศก็หยุดชะงักไปกับการรัฐประหาร คนที่คิดเรื่องโครงสร้างนี้ก็ไม่ได้ทำต่อ ประเทศนี้ติดหล่มมา 6 ปีแล้วครับ กำลังจะเดินเข้าแนวคิดที่เคยวางไว้เรื่องการจัดการข้าว ตัวประกอบเก่าก็เริ่มออกโรง หากยอมในครั้งนี้อีก ก็คงติดหล่มอีก ชาวนาก็แบกแอกไว้บนคอต่อไปครับ<br />
<br />
ที่ว่ารัฐฯขาดทุน ประเด็นนี้ยังไม่ชัดเจนหรอกครับว่า รัฐฯขาดทุนไปหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาทแล้วจากการรับจำนำข้าว เพราะการประกอบการของรัฐฯยังไม่สิ้นสุด ข้าวก็ยังไม่ขายที่ขายไปก็ส่วนน้อยไม่รู้ว่าจะขาดทุนอย่างไรในเมื่อยังไม่เก็บแผงเลย ตัวเลขที่ว่าไม่ใช่เงินที่ใช้ไปรับจำนำหรอกหรือ หรือคิดว่ารับจำนำไปแล้วก็คือขาดทุนสูญหายไปหมด ก็ข้าวนั่นไงครับที่เป็นสินค้าที่มีราคาอยู่ในมือ พอขายก็นำมาคืนเงินรัฐฯที่ลงไปก่อน มันไม่เหมือนประกันราคานะครับที่จ่ายไปเท่าไหร่ก็ขาดทุนไปเท่านั้น (การประกันราคารัฐฯจ่ายเงินให้ไปฟรีๆ และไม่มีทางได้คืน ข้าวก็ไม่ได้สักเมล็ด)<br />
<br />
มีแต่คาดเดา คิดว่า น่าจะ หรือฝันว่า จะขาดทุน เอ้า..ถึงจะขาดทุนจริงเมื่อสิ้นสุดในปีนี้ ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น ถ้าเป็นผมเป็นรัฐบาล แม้จะขาดทุนในช่วงแรกๆก็จะยอมครับเพื่อรีเอ็นจิเนียริ่งใหม่ มันต้องพร้อมที่จะเจ็บตัวบ้างครับ<br />
<br />
แต่นี่เดินทางยังไม่สุดเส้นทางเลย แต่มีแต่มีคนมาชี้และคาดเดาไปต่างๆนานา เพื่อให้เขาหยุดเดิน ไม่ผิดครับที่ทักท้วง แต่ก็ต้องคำนึงถึงกติกาและให้เกียรติประชาชนผู้เลือกมาครับ เพราะการไปร้องศาลโดยระบุในคำร้องชัดเจนว่า ให้หยุดการรับจำนำเพราะขัดกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อันนี้เขาไม่เรียกว่าท้วงติงครับ หากแต่เป็นการเตะตัดขาเพื่อให้ล้มไปต่อไม่ได้อย่างชัดเจนครับ ถ้าเกิดวันนี้(10ต.ค.)ศาลตัดสินว่า ทำต่อไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปครับ<br />
<br />
ตัวเลขขาดทุนที่ยกมา หนึ่งแสนห้าหมื่นล้าน นั่นเท่ากับขายข้าวขาดทุนตันละ 15,000 บาทถึงสิบล้านตันเลยนะครับ แสดงว่ารัฐฯไปขายข้าวตันละเท่าไหร่ครับจึงมีความสามารถทำให้ขาดทุนได้ถึงตันละ 15,000 บาท เพราะความสามารถและตัวเลขการส่งออกข้าวของไทยก็อยู่ประมาณนี้ หรือไทยส่งข้าวให้เขาแล้วแถมเงินให้ไปด้วยถึงจะขาดทุนตันละ หมื่นห้า (ต้องขายข้าวขาว ตันละ 1,500 บาท ขายข้าวหอมมะลิตันละ 18,660 บาทครับ ถึงจะสามารถขาดทุน 1 แสน 5 หมื่นล้านได้)<br />
<br />
ราคาข้าวในตลาดโลกตอนนี้ ข้าวขาว 100% อยู่ที่ 588 เหรียญ คิดตัวเลขกลมๆคือ 18,100 บาท ข้าวหอมมะลิ ราคา 1,143 เหรียญ หรือ 35,260 บาท<br />
<br />
ส่วนเรื่องการเสียโอกาส ในความเคยชินรสข้าวไทยนั้น ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพราะไม่ใช่ว่าข้าวไทยหายไปจากตลาดเสียทุกเม็ดซะเมื่อไหร่ ยังมีข้าวส่งออกไปอยู่และรัฐบาลก็ยืนยันว่าจะส่งออกข้าวต่อไป เพียงแต่จะไม่ขายราคาถูก วางตำแหน่งทางการตลาดไว้เป็นข้าวราคาสูงอย่างชัดเจน ผมยังได้ข้อมูลเรื่อง การเป็นผู้สำรองข้าวของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง นั่นคือ การทำตลาดที่ยั่งยืนต่อไปครับ<br />
<br />
อีกอย่าง ข้าวเป็นสินค้าที่ไม่เหมือนอย่างอื่นครับ คนกินเคยกินแบบไหนมักจะกินแบบนั้นครับ แม้แต่ชาวนาเองแท้ๆ ยังปลูกข้าวแบบหนึ่งขายเพราะให้ผลผลิตมาก แต่ไปซื้อข้าวหอมจากที่อื่นมากิน หรือปลูกข้าวจ้าวขาย แต่ซื้อข้าวเหนียวกิน เยอะแยะครับ<br />
<br />
และไม่ใช่ว่า เราส่งออกข้าวได้อันดับหนึ่งหรือมากๆ คนจะมากินข้าวไทยกันหมด คนเคยกินข้าวอินเดีย เขาก็กินข้าวอินเดีย แต่จะให้คนกินข้าวไทยไปกินข้าวเวียดนามตามที่ผมเคยกินมาแล้ว ความรู้สึกส่วนตัวก็กินไม่ลงครับ อย่างที่บรูไนข้าวไทยนี่แหละครับที่เขายกนิ้วให้ ข้าวอย่างอื่นเขาก็ไม่กิน แต่รัฐฯก็ไม่น่ามองข้าม ไม่ประมาทไว้ก็ดีครับ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By RedVW:</span> ตั้งแต่ผมเด็กๆ เมื่อสาม-สี่สิบปีก่อน ผมฟังรายการวิทยุรายการหนึ่ง "คุยขโมงหกโมงเช้า" เขาจะพูดเรื่องปัญหาราคาข้าวและการแก้ไขอยู่เสมอ สิ่งหนึ่งที่ผมแปลกใจก็คือ ผ่านไป 40 ปีแล้วทำไมรัฐบาลยังไม่มีไซโลเก็บข้าวกระจายไปในทุกท้องที่ที่มีการทำนา สงสัยตายไปก็คงยังไม่เกิด คงไม่ได้เห็น<br />
<br />
ลองดูตัวอย่าง การเสนอโครงการและการพิจารณาโครงการเมื่อประมาณ สิบกว่าปีก่อน<br />
<br />
อ้างอิง: โครงการสร้างไซโลเก็บข้าวเปลือกระดับประเทศ<br />
<br />
ความเป็นมาและสาระสำคัญ<br />
<br />
1) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเสนอโครงการสร้างไซโลเก็บข้าวเปลือกระดับประเทศ ต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งสำนักงานฯ ได้นำเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี<br />
<br />
2) คณะกรรมการนโยบายข้าวได้มีการประชุม 3 ครั้ง คือ วันที่ 25 เมษายน 2543 วันที่ 22 พฤษภาคม 2543 และวันที่ 20 มิถุนายน 2543 มีมติโดยสรุปเห็นชอบในหลักการมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบดำเนินการโครงการสร้างไซโลเก็บข้าวเปลือก โดยให้จัดทำรายละเอียดลักษณะของไซโล ปริมาณความจุของไซโล สถานที่ที่จะสร้างไซโล และระบบการเงินในการดำเนินโครงการฯ<br />
<br />
3) โครงการสร้างไซโลเก็บข้าวเปลือกระดับประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาและชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือก โดยเฉพาะในช่วงต้นปีที่มีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดมาก เพื่อปรับปรุงคุณภาพข้าวนาปรังที่มีความชื้นสูง มีคุณภาพต่ำ เพื่อเพิ่มมูลค่า ตลอดจนเป็นการรักษาเสถียรภาพของระดับราคาข้าว<br />
<br />
4) โครงการฯ มีเป้าหมายการสร้างไซโล 67 แห่ง ทั้ง 4 ภาคของประเทศ ในพื้นที่ 25 จังหวัด แบ่งเป็นเขตภาคเหนือตอนล่าง 8 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ภาคกลาง 10 จังหวัด และภาคใต้ 1 จังหวัด โดยมีวิธีการดำเนินงาน คือ การคัดเลือกพื้นที่สร้างไซโลในแหล่งปลูกข้าว และมีผลผลิตเกิน 100,000 ตัน การสร้างไซโลขนาด 30,000 ตัน 67 แห่ง รวมความจุ 2 ล้านตัน และการรับดำเนินการปรับปรุงคุณภาพข้าว รับฝาก รับจำนำ ทำธุรกิจการค้าข้าวเปลือก<br />
<br />
5) สำหรับการบริหารโครงการ มอบหมายให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการฯ ด้านการบริหารงานไซโลให้อยู่ภายใต้การกำหนดนโยบายและกำกับการดูแลของคณะกรรมการนโยบายข้าว ธุรกิจไซโล ประกอบด้วย รับจำนำ ซื้อขายข้าว และให้เช่า เก็บข้าวเปลือกจากเกษตรกร และจัดจ้างพนักงานประจำไซโล 67 แห่ง แห่งละ 6 คน โดยมีค่าใช้จ่ายประจำสำหรับบุคลากรประมาณปีละ 49 ล้านบาท ซึ่งใช้ระยะเวลาการก่อสร้างประมาณ 1 ปี มีวงเงินลงทุนรวมประมาณ 10,800 ล้านบาท เฉลี่ยแห่งละประมาณ 162 ล้านบาท โดยเสนอทางเลือกให้ 2 กรณี คือ กรณีใช้เงินกู้ให้รัฐบาลรับภาระส่วนต่างดอกเบี้ยที่เกินกว่าร้อยละ 3 ต่อปี และกรณีเอกชนเป็นผู้ลงทุนและโอนให้รัฐ (Build and Transfer) แล้วรัฐบาลชำระคืนภายหลัง<br />
<br />
ความเห็นคณะกรรมการฯ (7 สิงหาคม 2543)<br />
<br />
คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาข้อเสนอของสำนักงานฯแล้ว มีความเห็นดังนี้<br />
<br />
1. โครงการสร้างไซโลเก็บข้าวเปลือกของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เสนอมานี้ เป็นโครงการที่ต้องลงทุนสูง ต้องการระบบบริหารจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพ ตลอดจนต้องแข่งขันกับภาคเอกชนด้วย ซึ่งหากรัฐฯจะดำเนินการเองก็มีความเสี่ยงสูงต่อความสำเร็จและเป็นภาระทางการเงินของรัฐฯมาก นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงประเด็น ดังต่อไปนี้<br />
<br />
1) การนำข้าวเปลือกเข้าเก็บในไซโลโดยเฉพาะข้าวนาปรังเพื่ออบแห้งจะทำให้ข้าวเปลือกมีต้นทุนสูง และหากต้องทำการอบหลายครั้งต้นทุนก็สูงขึ้นอีก หากราคาข้าวเปลือกปลายฤดูไม่สูงมากพอเมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการอบและเก็บรักษาจะทำให้ไม่คุ้มทุนโดยเฉพาะข้าวคุณภาพต่ำ<br />
<br />
2) การประกอบกิจการไซโลเพียงอย่างเดียวมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดทุน ซึ่งหากรัฐฯจะดำเนินการให้ครบวงจร ก็มีประเด็นว่ารัฐฯจะดำเนินกิจการค้าข้าวแข่งขันกับภาคเอกชนที่ดำเนินการอยู่แล้วหรือไม่ มากน้อยเพียงใด<br />
<br />
3) การบริหารจัดการไซโลข้าวเปลือกขนาดใหญ่ที่ทันสมัยและครบวงจรจำเป็นจะต้องอาศัยบุคลากร ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถสูงเพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐยังมีข้อจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจภาคเอกชน<br />
<br />
4) โครงการที่เสนอมานี้ยังมีสัดส่วนเงินลงทุนไม่ชัดเจนระหว่างเงินกู้ เงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินที่ภาคเอกชนจะลงทุนให้ก่อน นอกจากนั้นยังจะต้องมีการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศสูงมาก<br />
<br />
2. ไซโลเก็บข้าวเปลือกเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพข้าว หากรัฐบาลเห็นว่ามีความจำเป็น แนวทางที่ควรดำเนินการ คือ ส่งเสริมและสนับสนุนให้สถาบันเกษตรกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรและสหกรณ์ ภาคธุรกิจเอกชนและชุมชน เป็นผู้ดำเนินการและลงทุนในขนาดที่เหมาะสมให้สอดคล้องกับปริมาณข้าวเปลือกในแต่ละพื้นที่ โดยรัฐฯพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ<br />
<br />
3. การแก้ไขปัญหาในระยะยาว ในเรื่องเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก รัฐบาลควรพิจารณาให้มีการวางแผนร่วมกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง ในด้านปริมาณผลผลิตให้สอดคล้องกับการตลาดและการใช้ทรัพยากรน้ำ รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับราคาข้าวด้วย<br />
<br />
มติคณะกรรมการฯ<br />
<br />
มอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำความเห็นคณะกรรมการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป<br />
<br />
มติตั้งแต่ 2543 ผ่านมาถึงปัจจุบันยังไม่มีไซโลของรัฐฯสักหลังเลยกระมัง<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By วอน:</span> นิยมชมชอบการนำเสนอความคิดเห็นในการช่วยเหลือชาวนาของคุณถือแถน แม้คุณถือแถนจะลืมไปว่าเกษตรกรของไทยเรามิได้มีแต่เพียงชาวนา หากแต่มีเกษตรกรภาคพืชอื่นๆหลากหลาย ที่รัฐฯจำต้องระลึกถึง และช่วยเหลือพร้อมกันไปด้วย<br />
<br />
การอ้าง รัฐประหาร ปฏิวัติ เพื่อแก้ตัวในความไม่รอบคอบของนโยบาย ไม่พอหรอกครับ ผมยังยืนยันว่า นโยบายรับจำนำ ต้องทำ<br />
<br />
แต่ ต้องมีข้อจำกัดและภายใต้เงื่อนไข ไม่ใช่ดำเนินการไปโดยไม่กำหนดเวลาจบสิ้นเช่นนี้ ด้วยความไม่แน่ใจว่า รัฐบาลไทยเราจะทนการขาดทุนปีละกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาทเช่นนี้ไปได้นานสักกี่ปี (วันนี้ เงินกู้ ถึง 43% ของ GDP เกือบเต็มเพดานแล้ว ดุลการค้าขาดดุล แล้ว ยังจะต้องกู้เพื่อน้องน้ำ และกู้มาปิดงบประมาณ ที่เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมายอีกด้วย.....วาว)<br />
<br />
เมื่อวิธีการรับจำนำได้เคยดำเนินการโดยรัฐบาลเครือพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว นโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ใหม่เอี่ยมนี้ ทีมเศรษฐกิจ ก่อนวางนโยบายรับจำนำข้าวทุกเม็ด น่าจะได้นำข้อดีข้อเสียของวิธีการรับจำนำมาคิด และวางแผนให้ถี่ถ้วนและรอบคอบกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ (แม้จะมีปฏิวัติ มาคั่นเวลา แต่ความรู้ไม่หายตามไปกับการปฏิวัตินี่ขอรับ คนล่ะเรื่อง ไม่เกี่ยวกันเลย)<br />
<br />
ต้องขอบคุณ คุณ RedVW อีกครั้ง ที่ให้ความรู้เรื่อง ไซโลตำบล มาอย่างละเอียด ทั้งๆที่ใจนึกห่วงเรื่องการบริหารจัดการไซโลตำบล-หมู่บ้าน ตามที่คุณถือแถนเสนอมา<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">ตอบ คุณวอน:</span> เรื่องที่มองว่าการจำนำข้าวจะทำให้ประเทศขาดทุนนับแสนล้าน เป็นการมองงบดุลของประเทศเพียงด้านเดียว อาจจะไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้ เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง อย่างที่นักการเมืองฝ่ายค้านและนักวิชาการบางกลุ่มทำอยู่ ทำไมผมจึงพูดเช่นนั้น พูดว่ามองงบดุลด้านเดียวของประเทศ งบดุลมีทั้งหนี้สินและทรัพย์สิน ตอนนี้พูดแต่ เงินที่ไปรับจำนำ ซึ่งเป็นหนี้สิน ในขณะเดียวกันรัฐก็มีทรัพย์สิน มาเติมอีกฝั่งของบัญชี อธิบายแบบนี้คงเห็นภาพชัดนะครับ งบดุลของประเทศไม่ได้ทำให้ตัวเลขทางบัญชีเปลี่ยนไปหรอกครับ แต่ผลประกอบการของรัฐบาลจะขาดทุนหรือกำไรก็ขึ้นกับการบริหารจัดการการตลาดข้าว ที่ผมกำลังจะพูดต่อไป<br />
<br />
แต่การประกันราคาข้าว มีแต่ตัวเลขฝั่งหนี้สินที่เพิ่มขึ้น เพราะไม่มีทรัพย์สินในอีกฝั่งของบัญชี ไปแปรเป็นรายได้ คุณวอนพอจะมองเห็นภาพมั้ยครับ ว่าต่างกันอย่างไร<br />
<br />
ผมไม่เถียงคุณวอนว่า เกษตรกรกลุ่มอื่นก็มีความจำเป็นที่รัฐฯจะต้องช่วยเหลือ แต่คุณวอนทราบเรื่องลำดับความสำคัญมั้ยครับ รัฐบาลคงต้องทำแน่ แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญเพราะไม่อาจทำไปพร้อมกันได้ แต่ก็ไม่ได้ละเลยนี่ครับ ต้องให้เวลาเขาในการทำงานเพราะเพิ่งมาเป็นรัฐบาลปีกว่าๆ และปัญหาก็ไม่ใช่ว่าเพิ่งมีมาสมัยนี้ สมัยที่แล้วก็มีและยังไม่ได้รับการจัดการ จนทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายเลือกรัฐบาลปัจจุบันเข้ามาแก้ปัญหา เราต้องศรัทธาประชาชนครับ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By ดาวราย:</span> ตามอ่านอยู่ค่ะ เรื่องนี้น่ากระจายให้กว้าง รัฐบาลน่าจะมีฝ่ายติดตามข้อมูลที่มีประโยชน์จากเว็บบอร์ดต่างๆ แล้วจัดการเผยแพร่ทั้งแก่ชาวนาและสังคมทั่วไป โดยเฉพาะนักวิชาการในหอคอย<br />
<br />
เกรงว่าเขาจะเชิญคุณแถนไปเป็นที่ปรึกษา รมต.เกษตร และ รมต.พาณิชย์ น่ะสิ เดี๋ยวไม่มีเวลาปลูกเมล่อน อิ อิ(อ่านจาก ปชท.) ล้อเล่นค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็วิเศษ<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">ภาพที่หาดูไม่ได้ ในรัฐบาลชุดก่อนๆ...ใครหนอยืนตรงกลาง ช่างงามสง่า... อ้อ..คนที่เราเลือกเข้าไปดูแลประเทศไปอีกหลายๆปี อิอิ..</span><br />
<center><img src="http://upic.me/i/lu/p1278.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>โครงการรับจำนำข้าว จุดตายของเผด็จการไทย?</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์</span> ที่มา: "โลกวันนี้วันสุข" ฉบับวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2555<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> สำหรับท่านที่ชอบอ่านสั้นๆ...<br />
<br />
* * * * * การจำนำข้าวทำให้ข้าวมีราคาสูงขึ้น ถึงแม้ผู้ที่ไม่ได้ร่วมโครงการก็ได้อานิสงค์นี้เพราะว่าพ่อค้าต้องซื้อข้าวจากชาวนาในราคาใกล้เคียงกับราคาจำนำ<br />
<br />
ราคาข้าวเปลือกปีนี้ชาวนาจึงได้ราคาดีกว่าประกันถึงตันละ 3,000- 6,000 บาท/ตัน<br />
<br />
การจำนำข้าวยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ เพราะยังไม่สิ้นสุดโครงการ แต่พวกเล่นหาว่าเสียหาย 2 แสนล้าน นั่นคือรัฐฯเก็บข้าวไว้ไม่ขายและเน่าเสียทั้งหมดทุกเม็ด (จะบ้าตาย)<br />
<br />
แต่การประกันของประชาธิปัตย์ รัฐฯเสียหายไป 90,000 ล้านบาท (เก้าหมื่นล้านบาท)<br />
<br />
มีชาวนาได้ประโยชน์จากโครงการจำนำ 2 ล้านครัวเรือน (หลายล้านคะแนนเสียง)<br />
<br />
สุดท้ายพวกขบวนการเผด็จการที่คิดจะล้มโครงการและหวังไปถึงล้มรัฐบาลอาจต้องถึงจุดจบเพราะเรื่องนี้ครับ * * * * *<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> สำหรับท่านที่ชอบอ่านยาวๆ...<br />
<br />
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การปลุกกระแสคัดค้านโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินไปอย่างเต็มที่ เริ่มต้นจากพรรคประชาธิปัตย์ พ่อค้าและผู้ส่งออกข้าว องค์กรพัฒนาเอกชน ช่วยโหมกระพือด้วยสื่อมวลชนกระแสหลัก รุมกระหน่ำโครงการรับจำข้าวของรัฐบาลด้วยข้อบกพร่องและข้อมูลทุจริตที่ขยายเกินจริง ไปจนถึงข้อมูลเท็จและข่าวลือต่างๆ<br />
<br />
ท้ายสุดคือ การเคลื่อนไหวของนักวิชาการและนักศึกษากว่า 140 คนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกันลงชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 84(1) นี่อาจเป็น "การข้ามเส้น" เพราะการคัดค้านก่อนหน้านี้เป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์ แต่การที่นักวิชาการกลุ่มนี้จงใจ "เปิดประตู" เชิญให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา เป็นการแสดงเจตนาชัดเจนว่า ต้องการล้มโครงการรับจำนำข้าว เพื่อให้มีผลกระทบต่อเนื่องเป็นการล้มรัฐบาลในขั้นต่อไป<br />
<br />
โครงการรับจำนำข้าวมีเป้าหมายที่เพิ่มรายได้ให้กับชาวนาไทยผ่านการแทรกแซงกลไกตลาดด้วยการพยุงราคาขั้นต่ำ ถึงแม้รัฐบาลจะใช้วิธีการ "รับจำนำ" คือให้ชาวนาสามารถกลับมาไถ่ถอนคืนได้ในเงื่อนไขที่กำหนด แต่รัฐบาลตั้งราคารับจำนำไว้สูง ผลก็คือ ชาวนาไม่มาไถ่ถอนคืน ข้าวในโครงการจึงตกอยู่ในมือรัฐบาล เท่ากับว่า รัฐบาลเป็นผู้รับซื้อข้าวโดยตรงจากชาวนาโดยไม่จำกัดจำนวนในราคาที่ประกาศไว้นั่นเอง นี่คือมาตรการพยุงราคาสินค้าเกษตร ที่มีอยู่ในตำราหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐานทุกเล่มและก็ปฏิบัติกันมานานแล้วในกลุ่มสินค้าเกษตรทั้งในประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลก<br />
<br />
โครงการนี้มีผลให้ราคาตลาดปรับตัวสูงขึ้นเพราะรัฐบาลกลายเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ ข้าวจำนวนมากไปอยู่ในมือรัฐบาล บีบให้พ่อค้าต้องเสนอราคารับซื้อสูงตามไปด้วย ผลก็คือ ชาวนาทั่วไปแม้จะไม่ได้เข้าร่วมโครงการก็จะขายข้าวในราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย ดังจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน ข้าวเปลือกในตลาดเอกชนมีราคาสูงถึงตันละ 11,500-12,500 บาท เทียบกับสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งราคาอยู่ที่ตันละ 8,000-9,000 บาท และเหลือเพียงตันละ 6,000-7,000 บาทในช่วงเก็บเกี่ยว<br />
<br />
ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์เองแสดงว่า การรับจำนำข้าวปีการเพาะปลูก 2554/55 มีชาวนาได้รับประโยชน์โดยตรงประมาณสองล้านครัวเรือน เป็นเงิน 142,200 ล้านบาท และชาวนาที่ไม่ได้เข้าโครงการก็ได้ประโยชน์ด้วยประมาณ 57,000 ล้านบาท<br />
<br />
นักวิชาการที่ออกมาคัดค้านโครงการนี้อ้างเหตุผลว่า "นี่เป็นการรับจำนำ" ก็ต้องทำเหมือนโรงจำนำในเมืองคือ ต้องตั้งราคาจำนำที่ต่ำกว่าราคาตลาด เพื่อบังคับให้ชาวนากลับมาไถ่ถอนคืน นักวิชาการพวกนี้แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจว่า การจำนำสิ่งของมีค่าในเมืองมีจุดมุ่งหมาย "แก้ปัญหาขาดสภาพคล่องชั่วคราว" ในยามเงินขาดมือ เช่น โรงเรียนเปิดภาคการศึกษา คนงานตกงาน เป็นต้น เมื่อผู้จำนำมีสภาพคล่องดีขึ้น (เช่น ได้รับเงินเดือน หรือได้งานทำ) ก็นำเงินมาไถ่ถอนสิ่งของกลับไป ส่วนโครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่ใช่การ "แก้ปัญหาขาดสภาพคล่องชั่วคราวของชาวนา" หากแต่เป็นการเพิ่มรายได้ในปีการเพาะปลูกนั้นๆโดยตรง ถึงแม้จะเป็นรูปแบบจำนำ แต่ในทางปฏิบัติคือ การพยุงราคาให้สูง<br />
<br />
หากรัฐบาลตั้งราคารับจำนำให้ต่ำกว่าราคาตลาดตามที่นักวิชาการพวกนี้เรียกร้อง ก็จะเป็นการทำร้ายชาวนาและเอื้อประโยชน์แก่พ่อค้าและผู้ส่งออกโดยตรง เพราะราคาตลาดจะตกต่ำลงมาใกล้เคียงกับราคาจำนำ เนื่องจากพ่อค้ารู้ว่า ชาวนาไม่มีทางเลือกอื่นและต้องขายให้พ่อค้าเท่านั้น<br />
<br />
ส่วนข้อกล่าวหาว่า โครงการมีทุจริตนั้น ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะยุติโครงการ เพราะถ้ายึดหลักการว่า โครงการใดมีทุจริต ก็ต้องยกเลิกให้หมด ก็เท่ากับว่า รัฐบาลต้องยกเลิกหมดเกือบทุกโครงการในประเทศไทย เพราะโครงการอีกมากมายก็อาจมีทุจริตได้ ไม่เว้นแม้แต่การจัดซื้อจัดจ้างและโครงการวิจัยพัฒนาของพวกนักวิชาการในมหาวิทยาลัยของรัฐฯด้วย ทางออกจึงไม่ใช่เลิกโครงการ แต่เป็นการปรับปรุงการดำเนินการให้รัดกุม โปร่งใส มีรั่วไหลให้น้อยที่สุด ปราบปรามจับกุมและลงโทษผู้ที่ทุจริตอย่างเด็ดขาด<br />
<br />
ส่วนการขาดทุนของโครงการรับจำนำอันเกิดจากข้าวเสื่อมคุณภาพและการระบายข้าวออกในราคาต่ำนั้น อยู่ที่ฝีมือการบริหารสต็อกข้าวของกระทรวงพาณิชย์ว่า จะสามารถระบายข้าวออกไปได้อย่างรวดเร็วและในราคาที่ไม่ต่ำจนเกินไปได้หรือไม่ ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ระบายออกจำนวนเพียงเล็กน้อยให้กับตลาดภายในประเทศ และมีข้อผูกพันขายข้าวผ่านรัฐบาล (จีทูจี) อีก 7 ล้านตันในช่วงปี 2555/56 สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำคือ เร่งระบายข้าวออกไปเพื่อเปิดสถานที่เก็บให้กับข้าวฤดูใหม่ปี 2555/56 และให้ได้เงินหมุนเวียนกลับมาบริหารโครงการต่อ<br />
<br />
ตัวเลขการขาดทุนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2554/55 นั้น หลายฝ่ายคำนวณได้ใกล้เคียงกัน ตั้งแต่ตัวเลขขั้นต่ำ 50,000 ล้านบาทโดยกระทรวงการคลัง ไปจนถึง 80,000 ล้านบาทโดยสมาคมโรงสีข้าวไทย ซึ่งไม่ได้เกินกว่าความเสียหาย 90,000 ล้านบาทในโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวเลขขาดทุนถึงกว่าสองแสนล้านบาทที่นักวิชาการบางค่ายกล่าวหากันนั้น ก็คือตัวเลข "ยกเมฆ" ที่สมมติว่า สต็อกข้าวปัจจุบันของรัฐบาลนั้นเน่าเสียทั้งหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้<br />
<br />
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ การที่นักวิชาการกลุ่มนี้ไม่ได้เพียงแค่แสดงความคิดเห็นต่างทางวิชาการเท่านั้น แต่ถึงกับใช้วิธีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่รู้ดีว่า ศาลรัฐธรรมนูญก็คือกลไกของพวกเผด็จการที่ใช้ทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและมีท่าทีชัดเจนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยปัจจุบัน การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการเปิดช่องให้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญใช้ตุลาการเข้ามาแทรกแซงอำนาจบริหารอีกครั้ง และอาจนำไปสู่การทำลายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ชนะเลือกตั้งมาอย่างชอบธรรม ดังเช่นที่ได้ทำลายรัฐบาลพรรคพลังประชาชนไปแล้วนั่นเอง<br />
<br />
การที่ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ สื่อมวลชนกระแสหลัก พ่อค้าผู้ส่งออกข้าว องค์กรพัฒนาเอกชน และนักวิชาการปัญญาชนที่บูชาเผด็จการจารีตนิยมต้องเคลื่อนไหวอย่างหนักก็เพราะ หากนิ่งเฉยปล่อยให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำโครงการนี้ต่อเนื่องได้สำเร็จ พรรคเพื่อไทยก็จะชนะเลือกตั้งรอบหน้าด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเพิ่มขึ้นอีกมากนั่นเอง<br />
<br />
แต่การที่คนพวกนี้อ้างเอาโครงการรับจำนำข้าวเพื่อดึงศาลรัฐธรรมนูญเข้ามานั้น และหากศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยทั้งที่ไม่มีอำนาจ พวกเขาก็กำลังเร่งนำความพินาศมาสู่พวกเผด็จการไทยให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก คือการผลักให้ชาวนาทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวนาในภาคกลาง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ให้หันมาสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและเป็นแนวร่วมของคนเสื้อแดงอย่างรวดเร็วและได้ผลที่สุด<br />
<br />
หรือว่า เราใกล้จะได้เห็นภาคจบของมหากาพย์เรื่องนี้กันเสียที!<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/7i/p12825746-0510.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>รมช.ณัฐวุฒิ ตอบกระทู้โครงการรับจำนำข้าว ประชุมสภา 07 2 56</strong></span><br />
- ตอบคำถามแรก นาที 1.58 ถึง นาที 5.30<br />
- ตอบคำถามที่สอง นาที 13.08 ถึง นาที 17.00<br />
- ตอบคำถามที่สาม นาที 26.28 ถึง นาที 29.32<br />
- ใช้สิทธิ์พาดพิงตบท้าย นาที 34.07 ถึง นาที 35.46<br />
"ผมได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ขององค์การคลังสินค้าซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบข้าวในโกดังเดินทางมารับมอบข้าวกระสอบนี้ และนำไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ....."<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="385" src="http://www.youtube.com/embed/6PS00heLTAQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ข่าวรอยเตอร์มาจากข่าวนี้นี่เอง อ่านไปอ่านมาก็มาจากไทย</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: this is thailand</span> เว็บ pantip<br />
<br />
ทำไมพวกแปลข่าว:-)ชอบตัดต่อข่าว ไม่เอาเนื้อหาลงให้ครบ น่าเอาส้นเท้าลูบหน้าจริง<br />
<br />
IMF เค้าพูดตั้งแต่เดือน june<br />
<br />
เนื้อหาในข่าวก็มาจากข่าวในไทยทั้งนั้น เอาข่าวไทยไปเขียนเป็นภาษาอังกฤษ<br />
<br />
(Reuters) - Thailand's government is under growing pressure to cut its guaranteed price for rice which is so high exports have slumped, and even some farmers accept a cut might be needed, but it may find it politically hard to back down.<br />
<br />
The government is paying farmers 15,000 baht ($490) per metric ton (1.1023 tons) for their rice and, since exporters are unable to find buyers at that level, it has ended up with about 12 million metric tons in state stockpiles, more than it exports in a good year.<br />
<br />
(Reuters) - Thailand's government is under growing pressure to cut its guaranteed price for rice which is so high exports have slumped, and even some farmers accept a cut might be needed, but it may find it politically hard to back down.<br />
<br />
The government is paying farmers 15,000 baht ($490) per metric ton (1.1023 tons) for their rice and, since exporters are unable to find buyers at that level, it has ended up with about 12 million metric tons in state stockpiles, more than it exports in a good year.<br />
<br />
<a href="http://www.reuters.com/article/2012/10/09/us-thailand-rice-idUSBRE8981DS20121009" target="_blank">http://www.reuters.com/article/2012/10/09/us-thailand-rice-idUSBRE8981DS20121009</a><br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-35652679208361485542012-10-02T22:32:00.001+07:002013-09-02T13:46:58.999+07:0024 สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/07/19-1972-8000-8-2-job.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/1.html " target="_blank">โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/blog-post.html" target="_blank">ข้อเท็จจริงเรื่องน้ำท่วมสุโขทัย จากคนสุโขทัยตัวจริง & มติชนสัมภาษณ์"หม่อมเต่านา"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.528683410479019.133466.100000120933242&type=3&l=e21cddc2e6">โอ้กรุงเทพเมืองฟ้าอมร สมเป็นนครมหานที...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/blog-post_22.html" target="_blank">อยากจะบอกคน กทม. ฝั่งตะวันออก ว่า รัฐบาลเขาเตรียมยังไง เรื่องน้ำ พร้อมภาพประกอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/09/68.html" target="_blank">มาร์คครับ หยุดเถิดครับ อย่าออกมาพูดเรื่องจริยธรรมให้มากกว่านี้เลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/10/69.html" target="_blank">เฉลิมจี้ ปชป.บอกโกงจำนำข้าวให้หาหลักฐานมาแจง ไม่ใช่พูดไปเรื่อยแต่ไม่มีข้อมูล</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/47/hj384507.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: Marketing Hub</span><br />
<br />
มุมมองของผมต่อไปนี้ อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปนะครับ เพราะเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ทั้งในฐานะที่เคยเรียน MBA และในฐานะคนที่เคยไปบรรยายในหลักสูตร MBA มาบ้าง คิดว่าอาจจะพอแชร์มุมมองต่างๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดนี้ ผมเผยแพร่ไปทาง Twitter @worawisut และพบว่ามีผู้ที่สนใจจำนวนมาก จึงอยากจะรวบรวมไว้ เผื่อง่ายต่อการแบ่งปันต่อครับ<br />
<br />
ประสบการณ์หนึ่งที่เคยเจอในคลาส ตั้งแต่ ตรี-โท ทั้งหลักสูตร MBA, Mini MBA หลักสูตรผู้ประกอบการต่างๆ พบว่า "ยิ่งโต ยิ่งแชร์" ชอบพูดยาวๆ มีมุมมองที่ดี ทั้งในภาพกว้างและในเชิงลึก ช่วยให้คลาสเรียนมีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น<br />
<br />
แม้ว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อย มองการเรียน MBA เป็นเรื่องของแฟชั่นและใช้ปริญญาไต่เต้าหาความก้าวหน้าในอาชีพเพียงอย่างเดียว ซึ่งผมก็คิดว่าไม่ผิด เพียงแต่จะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่เท่าที่ควร แต่สำหรับคนที่คิดว่า อยากจะเรียน MBA ให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไปหลายๆแสน (ทั้งเก็บเงินเองหรือจะขอจากพ่อแม่ก็ตาม) มีอะไรที่ควรคิดบ้าง ก่อนที่จะตัดสินใจ<br />
<br />
เริ่มต้น ต้องขอบอกว่า การเรียน MBA ที่คุ้มที่สุด ต้องเรียนกับคนแก่ๆ ครับ เพราะการเรียนกับเด็ก จะไม่ได้มุมมองและประสบการณ์เพิ่มเติมมากเท่าที่ควร เพราะประสบการณ์ทำงานน้อย จะไม่ค่อยมีอะไรมาแชร์ให้เพื่อนร่วมชั้นฟังซักเท่าไหร่<br />
<br />
เพราะคลาสเรียนที่มีแต่เด็ก<br />
<br />
1. คุณไม่มีอะไรจะไปแชร์เค้า<br />
<br />
2. เค้าก็ไม่มีอะไรจะแชร์คุณ เวลา discuss กลุ่มก็จะได้มุมมองไม่ที่แหลมคมอย่างที่ควร บางทีอาจจะออกแนวจับกลุ่มนั่งเม้าท์เรื่องละคร กอสซิบต่างๆ<br />
<br />
ทำให้หลายๆคนที่เคยเรียน MBA ตอนเด็ก ซักพักเมื่ออายุมากขึ้นก็อยากจะไปเรียนโทอีกใบ เพื่อเอา Connection เพราะการทำธุรกิจสำคัญที่สุดคือ "Know Who" ไม่ใช่ "Know How"<br />
<br />
คุณสมบัติของผู้ที่เหมาะสมที่จะเรียน MBA ควรทำงานไปอย่างน้อย 3-5 ปี แล้วค่อยเรียน<br />
<br />
ซึ่งถ้าจะให้ดีที่สุด ให้ไปเรียนหลักสูตรระดับ Executive เลย เพราะจะได้รับประสบการณ์และเครือข่าย (Networking) ที่ดีกว่าหลักสูตรอื่นๆแบบเทียบไม่ติด<br />
<br />
เนื่องจาก "MBA เด็กจบใหม่" (หลายๆที่จะเรียกว่า "Regular MBA") ที่มักจะเรียนภาคกลางวัน มักจะไม่ได้จำกัดประสบการณ์ของผู้เรียน (หรือจำกัดอย่างมากก็ 1 ปี) ก็จะกลายเป็นคลาสที่รวมเด็ก (อาจจะมีระดับโตขึ้นมาบ้าง แต่ส่วนน้อยมากๆ) ทำให้ความรู้ที่ได้จากการเรียน มาจากห้องเรียน มาจากอาจารย์ซะเป็นส่วนใหญ่<br />
<br />
สำหรับข้อดีของ "Regular MBA" คือ การเรียนในเวลาราชการ ค่าเรียนจะถูกกว่าภาคพิเศษมาก และผู้เรียนจะเรียนแบบสบายๆชิลล์ๆหน่อย ไม่ต้องมาเหนื่อยจากการทำงาน เพราะมีโฟกัสอยู่อย่างเดียว คือ "เรียน" จึงมีเวลาได้ศึกษาวิชาการอย่างเต็มที่<br />
<br />
ผู้ที่เรียนจบหลักสูตร "Regular MBA" ถ้าเป็นลูกจ้าง ความรู้ที่เรียนมา จะได้ใช้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหัวหน้างาน ผู้ที่กำหนดชะตาชีวิตการทำงานของเรา สามารถสั่งให้เราทำอะไรก็ได้ โดยที่เราไม่มีสิทธิ์เลือก แผนการตลาดที่เราซ้อมเขียนมาตอนเรียน อาจจะไม่ได้ใช้อีกเลย รวมไปถึงความรู้อื่นๆที่มีโอกาสจะลืมเพราะไม่ได้ใช้<br />
<br />
แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการ กิจการของท่านก็จะกลายเป็นห้องทดลองในสิ่งที่เรียนมา<br />
<br />
ในระดับที่โตขึ้นมาอีกหน่อย มักจะเรียกหลักสูตรนี้ว่า "Young Executive MBA" ที่จะรับคนมีประสบการณ์ 3 ปีขึ้นไป (ซึ่งมักจะเป็นพนักงานที่ Senior ขึ้นมาหน่อยจาก Staff ธรรมดา ไปจนถึง Middle Manager) ซึ่งความรู้ที่ได้จากการเรียนในหลักสูตรนี้ จะมีประสบการณ์ของคนระดับปฏิบัติการ เพิ่มขึ้นมา เช่น ปัญหาภายในบริษัทในแง่มุมทางการตลาด ทรัพยากรบุคคล การเงิน หรือ ปัญหาการผลิตในโรงงาน บางครั้งอาจจะไม่รู้สึกว่าได้อะไรมากนัก เพราะระดับความรู้ใกล้เคียงกัน อายุก็อยู่ในวัยเดียวกัน (25-35 ปี)<br />
<br />
มาถึงระดับ "Executive MBA" (มักจะรับคนที่มีประสบการณ์ 5-10 ปี ขึ้นไป) สิ่งที่เราจะได้ คือ มุมมองของคนที่อยู่ในระดับบริหารขององค์กร ที่จะผ่านปัญหามามากมาย จนเคี่ยวกรำให้เค้าเหล่านั้น มีความคิดในการมองปัญหาในมุมกว้าง มีมุมมองด้านยุทธศาสตร์ขององค์กร เพราะเค้าอาจจะมีส่วนร่วมกับทีมผู้บริหารเพื่อผลักดันแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ และที่สำคัญ เรื่องของการสร้าง Network และ Connection ต่างๆ และอาจจะมีการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) การเป็นพาร์ทเนอร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นมา<br />
<br />
ในระดับบริหาร ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ เพียงแค่การพูดคุยบนโต๊ะอาหารเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นพนักงานระดับปฏิบัติการและ Middle Manager แทบไม่มีโอกาสเช่นนี้เลย<br />
<br />
ทั้งในระดับ "Young Executive" และ "Executive" จะเรียนเวลานอกราชการ ไม่หลังเลิกงานก็เสาร์อาทิตย์ ทำให้ตัวคนเรียน แทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น วันหยุดเสาร์อาทิตย์ของเราจะหายไป 2 ปี หรือเวลาช่วงเย็นของเราก็จะหายไป 2 ปีเช่นกัน ดังนั้นคนที่มีแฟน ถ้าใจไม่แข็งจริง เลิกกันแน่ๆครับ เพราะคุณจะไม่เหลือเวลาให้แฟนคุณอีกเลย จนนำพามาซึ่งการงอนกัน ทะเลาะกัน เลิกกัน และจับคู่กันเองในคลาส:)<br />
<br />
แต่อย่าคิดนะครับว่า เราไม่ได้เรียนทุกวัน ก็จะมีเวลาว่าง เพราะเวลาว่างที่เหลือ คุณจะต้องเอามาทำรายงาน ทำงานกลุ่ม ที่อาจารย์ผู้สอน มักจะให้มาทำ โดยที่ไม่สนใจว่าเราจะงานยุ่งหรือมีเวลาน้อยแค่ไหน ถ้าเคี่ยวจริงๆ ในทุกๆสัปดาห์ จะต้องมีรายงานส่ง ซึ่งแน่นอน มีหลายวิชา เราก็จะต้องทำงานกับกลุ่มเพื่อนหลายกลุ่ม แทบจะแยกร่างเลยทีเดียว<br />
<br />
ดังนั้น ถ้าไม่รีบ การเรียน MBA เมื่อเรามีประสบการณ์ซัก 5-10 ปี (Executive MBA) จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด แต่ถ้าอยากเรียนเร็วๆ ระดับ "Young Executive" ก็จะทำให้เราได้ทั้งความรู้ในชั้นเรียน และได้ประสบการณ์ในเชิงของการทำงานปฏิบัติการ ส่วนเรื่อง Connection ก็อาจจะได้เพื่อน ที่ทำงานอยู่ในระดับใกล้ๆกัน (ไม่มีใครรู้ว่า คนเหล่านี้จะเติบโตในเส้นทางอาชีพไปยังระดับบริหารได้หรือไม่ ซึ่งถ้าเวลานั้น ยังคบกันอยู่ ก็ถือว่าดี แต่เนื่องจากระยะเวลายาวนาน การรักษาความสัมพันธ์อาจจะไม่ยั่งยืน)<br />
<br />
ผมเคยอยู่ในคลาสที่ชั้นเรียนมีแต่ SME พบว่าประสบการณ์ที่แต่ละคนเล่า มีคุณค่ามาก อาจารย์ไม่มีทางถ่ายทอดได้เหมือนกับคนที่ลุยมาเอง เจอมาเอง รู้ว่าทฤษฏีไหน เอาไปใช้ได้ หรือเอาไปใช้ไม่ได้บ้าง<br />
<br />
สิ่งสำคัญที่สุดของ MBA คือ ประสบการณ์ของเพื่อนร่วมชั้นและ Connection<br />
<br />
ส่วนความรู้ก็อ่านเองได้ตามตำรา (แม้ว่าการอ่านเอง จะยากและใช้เวลามาก แต่ก็อยู่ในวิสัยที่ไม่น่าจะเกินความพยายาม) ส่วนเคสที่ใช้เรียนก็มักจะไม่ลึกเท่าประสบการณ์จริง<br />
<br />
แต่สิ่งที่ทุกคลาสเรียน MBA สอนเราเหมือนกัน คือ การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการทำงานกับคนหลากหลายอาชีพ ที่มี character ต่างกัน เพื่อเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับคนเหล่านี้<br />
<br />
ส่วนตัว ถ้ามีคนมาถามว่าควรเรียน MBA มั้ย ตอบว่าควร แต่ต้องเลือกหลักสูตร ถ้ามีแต่เด็ก อย่าไปเรียน เพราะเราจะได้แค่สิ่งที่อยู่ในตำราเท่านั้น คุณค่าด้านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ Connection เป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล จนไม่สามารถตีมูลค่าได้ครับ:)<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/vn/hj384508.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>MBA เค้าเรียนอะไรกันบ้าง?????</strong></span><br />
<br />
แม้ว่าหลายๆคนที่เรียน MBA จะพยายามศึกษาหาข้อมูลก่อนเรียนมามากมาย จากเว็บไซต์ หรือการไปร่วมงาน Open House ที่ทางเจ้าของหลักสูตรจัด บางครั้ง ก็ไม่ได้ทำคลายข้อสงสัยของเรา เกี่ยวกับเนื้อหา วิชาที่สอน ได้<br />
<br />
ผมขอเล่าแบบคร่าวๆนะครับ<br />
<br />
วิชารากฐานที่สำคัญที่สุดของ MBA คือ "บัญชี" ทั้งบัญชีการเงิน (Financial Accounting) และ และ บัญชีต้นทุน (Cost Accounting)<br />
<br />
1. บัญชีการเงิน เป็นรากฐานของการอ่านงบการเงิน เป็นการเรียนเพื่อไปต่อยอดสู่วิชาการเงินทุกอย่าง<br />
<br />
2. บัญชีต้นทุน เป็นรากฐานไปสู่ การตลาด และ Operation<br />
<br />
จะเกลียดบัญชี หรือ ตัวเลข ถ้าอยากเรียน MBA แบบไม่มีปัญหา ต้องเข้าใจมันให้ได้ ดีที่สุดคือ หาเพื่อนที่จบบัญชี ช่วยตอบคำถามได้หมด เด็กสายศิลป์จะกลัววิชานี้มาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับกันหมด แต่สุดท้ายอยู่ที่ความขยัน ถึงเวลาจะเอาตัวรอด ก็ทำได้ดีกันทุกคน:)<br />
<br />
มีคนถามว่า MBA จำเป็นมั้ย ความเห็นส่วนตัว คิดว่า ไม่ได้เรียนก็ไม่ถึงกับทำให้เราทำธุรกิจไม่สำเร็จ แต่เรียนเอาไว้เสริมเขี้ยวเล็บดีกว่า<br />
<br />
และการเรียน MBA ก็ไม่ได้มีอะไรรับประกันว่าจะทำธุรกิจสำเร็จ จะเก่งการตลาด หรือ การเงิน คงไม่ใช่แบบนั้น<br />
<br />
หลักการง่ายๆของการเรียน MBA คือ เมื่อเรียนเข้าใจ เวลาพลิก นสพ.ไปอ่านข่าวหน้าธุรกิจ เศรษฐกิจ คุณจะอ่านเข้าใจ สามารถวิเคราะห์ที่มาที่ไปได้<br />
<br />
อย่างเช่น เวลาราคาทองพุ่ง คนที่เข้าใจจะรู้ได้ทันทีว่าเกิดจากอะไร เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกยังไงบ้าง เพราะพื้นฐานหนึ่งของ MBA คือ เศรษฐศาสตร์<br />
<br />
จากที่เคยได้แต่นั่งงง ว่า สิ่งที่ รมต.คลัง ผู้ว่าแบงค์ชาติพูด คืออะไร ต่อไป เราจะเริ่มเข้าใจมันมากขึ้นครับ:)<br />
<br />
เทอมแรกของการเรียน MBA ส่วนใหญ่ จึงมีวิชาพื้นฐาน คือ เศรษฐศาสตร์ บัญชี สถิติ และภาพรวมของการบริหารทั่วไป<br />
<br />
เศรษฐศาสตร์ เป็นวิชาที่แตกตัว กลายมาเป็นการตลาด จึงเป็นรากฐานสำคัญของหลักการตลาดทั้งหมด เป็นวิชาหลักที่ต้องเรียนเป็นตัวแรกๆ<br />
<br />
เศรษฐศาสตร์ก็จะแบ่งเป็น มหภาค (Macroeconomics) และ จุลภาค (Microeconomics) ซึ่งตัวหลังสำคัญมากๆสำหรับธุรกิจ และหลายคนบอกว่ายากกว่าตัวแรก<br />
<br />
Macro จะเรียนพวก GDP เรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจ เราฟังข่าว อาจจะเข้าใจว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นเรื่องดี แต่ถ้าประเทศต้องก่อหนี้เพื่อการขยายตัวอาจจะไม่ดีแล้วก็ได้ (โตบนกองหนี้) ซึ่งจะช่วยให้เรามองผลกระทบกับธุรกิจที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับภูมิภาค ว่ามันกระทบกับธุรกิจเรายังไง<br />
<br />
อย่าคิดว่า Macroeconomics ไกลตัวนะครับ ขายกล้วยทอด ก็เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน ราคาพืชผลเกษตร ถุงกระดาษทำนองนี้ มันเชื่อมโยงกันไปหมด<br />
<br />
ส่วนพวก Microeconomics จะเกี่ยวกับพวก Demand/Supply การตั้งราคาต่างๆ ซึ่งใช้กับ Marketing ทั้งนั้น<br />
<br />
แต่อย่าเพิ่งกังวลว่าจะต้องเรียนจนรู้เรื่องแบบ รมต.คลัง จริงๆเอาแค่พอรู้ก็พอ เพราะมันยากพอสมควร<br />
<br />
วิชาต่อมา บัญชีการเงิน (Financial Accounting) วิชานี้เป็นหัวใจของ Finance เรียนจบจะอ่านงบการเงินเป็น พวก Annual Report ต่างๆ<br />
<br />
ถ้าท่านอยากเป็นเจ้าของกิจการ หนีไม่พ้นเรื่องบัญชีและการเงิน แม้ว่าอาจจะไม่ต้องทำเอง แต่ควรอ่านเป็นและเข้าใจที่มาที่ไป ไม่ให้คนอื่นมาหลอกได้<br />
<br />
วิชาบัญชีการเงินนี้ ถ้าผู้สอน ชำนาญ จะสามารถสอนเรื่องการตกแต่งบัญชีและการตรวจสอบ จะได้เรียนเคสดังๆพวก Enron และอื่นๆ สนุกมาก<br />
<br />
โชคดี อาจารย์ที่สอน Financial Accounting ผม เป็น ประธานคณะกรรมการมาตรฐานบัญชี เลยมีเคสของไทยมาเล่าบ้าง เช่น จุดไหน ที่บัญชีมักจะตกแต่ง<br />
<br />
วิชา Financial Accounting เป็นวิชาที่เชื่อมโยงกับ Finance ที่จะได้เรียนเทอมต่อๆไป พวกสูตรทางการเงินต่างๆ ที่พวกนักการเงิน นักเล่นหุ้น ควรรู้ ตัวเลขที่คำนวณต่างๆก็ดึงมาจากการอ่านงบการเงินทั้งสิ้น<br />
<br />
เมื่อเรียนจนเข้าใจมันจริงๆ แค่เห็น Financial statement ขององค์กร ก็รู้ทันทีว่าองค์กรดีหรือไม่ดี มีจุดอ่อน จุดแข็งยังไง ทะลุปรุโปร่ง ที่สำคัญ คนที่คิดจะเล่นหุ้น วิชานี้ ต้องตั้งใจเรียนดีๆครับ:)<br />
<br />
วิชาสุดท้ายของเทอมแรก ที่มักจะเรียน คือ การวิเคราะห์ทางสถิติ (ชื่อเล่นว่า stat) ซึ่งเป็นวิชาที่เด็กสายศิลป์ เกลียดมากๆ :)<br />
<br />
วิชา stat นี้ จะได้เรียนหลักการนำไปใช้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญมาก ของวิชา Marketing Research (วิจัยตลาด) ใครจะเรียนการตลาด หนีไม่พ้นเช่นกัน:)<br />
<br />
วิชา stat จะได้เห็นว่า โพลล์บ้านเราที่ออกข่าวอยู่ทุกวัน ไม่มีมาตรฐานยังไงบ้าง คนสอนเก่งๆ จะแผ่ให้ท่านเห็นได้เลย<br />
<br />
จบวิชา stat สิ่งที่เราจะได้ คือ 1. อ่านโพลล์เป็น 2. รู้วิธีทำโพลล์คร่าวๆ 3. การใช้โปรแกรม SPSS ซึ่งเป็นยาขมอย่างมาก :)<br />
<br />
เทอมต่อมา สำหรับหลักสูตร MBA ก็จะได้เรียน การจัดการการตลาด (Marketing Management) ซึ่งท่านสามารถขอตำราจากเพื่อน ป.ตรี ที่เรียนได้<br />
<br />
Marketing Management จะเป็นวิชาพื้นฐานที่โคตรจะสำคัญ เพราะจะเรียนหลักการตลาดทั้งหมด หนังสือที่ใช้กันทั่งโลก คือ หนังสือของ Kotler (Marketing Management)<br />
<br />
หลักการของการตลาด มีให้จับไม่กี่อย่าง (แต่สำคัญและต่อยอดได้เยอะ) คือ<br />
<br />
1. Marketing Mix (4P) 2. STP (Segmentation ,Targeting และ Positioning) 3. Branding<br />
<br />
จบวิชา Marketing Management ท่านจะเขียน แผนการตลาด (Marketing Plan) เป็น วิเคราะห์กลยุทธการตลาดได้ รู้ศัพท์แสงต่างๆที่มักใช้กันในวงการ<br />
<br />
คนที่บอกว่าคุณตัน เก่ง ไม่เห็นต้องเรียนการตลาดเลย ขอบอกว่า เพราะคุณตัน แม่นเรื่อง 4P และ STP มาก สามารถหยิบจับ Mix แต่ละตัวมาใช้โดย sense<br />
<br />
ไม่มีใครที่สำเร็จ ร่ำรวย ขายของได้เยอะ โดยไม่รู้หลักการตลาด จริงๆคือ เอามาใช้ตามหลักน่ะแหล่ะ อาจจะไม่รู้มาก่อน เพราะมี Sense ดี ขายเก่ง<br />
<br />
Marketing สำหรับธุรกิจ อาจจะเรียกได้ว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเกี่ยวข้องกับสินค้า ลูกค้า ความพึงพอใจ ถ้าเก่ง Marketing ทำอะไรก็รุ่ง<br />
<br />
ส่วน อีกวิชาที่สำคัญสำหรับเจ้าของกิจการ คือ การเงิน ที่นอกจากจะช่วยให้อ่านงบการเงินเป็น ยังช่วยให้เข้าใจการบริหารจัดการงบด้วย<br />
<br />
หลักการสำคัญที่สุดที่ได้จากวิชา Financial Management คือ ต้นทุนของเงิน (Cost of Capital) และ 'งบลงทุน (Capital Budgeting)<br />
<br />
ข้อแรก ต้นทุนของเงินทุน (Cost of Capital) เป็นหลักสำคัญของการดำเนินและขยายกิจการ ว่าจะต้องใช้ "เงินกู้" หรือ "เงินกู"<br />
<br />
เพราะต้นทุนของเงินทุน จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของกิจการ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ถ้าตัดสินใจผิด กิจการจะลำบาก<br />
<br />
ส่วนเรื่อง งบลงทุน (Capital Budgeting) จะสำคัญอยู่ที่ การเลือกลงทุนในโปรเจคต์ไหน ที่จะได้ผลตอบแทนสูงสุดและเสี่ยงน้อยที่สุด<br />
<br />
อีกวิชาที่เป็นฐานรากสำคัญของ MBA โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการผลิตหรือโรงงาน คือ Operation Management ที่น่าจะได้เรียนแน่ๆคือเรื่อง Lean และ TPS (Toyota Production System)<br />
<br />
วิชา Operation Management ท่านอาจจะมีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองว่า Toyota Vios ใช้เวลาประกอบแค่ 1 นาทีกว่าๆ ออกมาเป็นรถยนต์ 1 คัน เค้าทำยังไง<br />
<br />
หลักการที่สำคัญของวิชานี้คือ การทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (เช่น ผลิตได้เยอะตามความต้องการ ด้วยจำนวนชั่วโมงที่ลดลง ใช้คนงานน้อยลง เป็นต้น)<br />
<br />
วิชาที่เป็นหัวใจของแผนก HR คือ วิชา Organization Behavior เรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาและพฤติกรรมของคนในองค์กร เมื่อคนจำนวนมากมาอยู่ด้วยกัน พฤติกรรมกลุ่ม การตอบสนองต่อแรงจูงใจต่างๆ จะเกิดผลทั้งในแง่บวกและลบ เช่น การตำหนิลูกน้องเมื่อทำผิด หรือให้รางวัลเมื่อทำดี จะส่งผลอย่างไรกำลังใจของคนนั้น<br />
<br />
คนประสบการณ์น้อย ไม่เคยเจอปัญหา อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าจะเอาทฤษฎีมาจับของจริงได้ยังไง เรียนไปก็งงไป<br />
<br />
ถ้าคนมีประสบการณ์ หรือเคยเป็นหัวหน้า จะนึกภาพออก เทียบกับสิ่งที่ตัวเองเจอมา หรือสิ่งที่ตัวเองเคยทำ สะกิดใจได้ทันทีว่าที่เราเคยทำมาถูกหรือผิด<br />
<br />
จากนั้นก็จะเป็นพวกวิชาเลือก ถ้าเรียน Marketing ก็อาจจะมีเรียน IMC (ที่ไหนมีแนะนำเรียน เพราะเป็นวิชาที่สนุกที่สุดของ Marketing)<br />
<br />
วิชาของ Marketing อันนึงที่น่าสนใจมาก คือ วิจัยตลาด (Marketing Research) วิชานี้เรียนจบแล้วหัวหงอก หน้าแก่ เพราะงานหนักมาก ทำเอาหลายคนท้อใจ<br />
<br />
วิชา Marketing Research จะได้เรียนสิ่งที่เรียกว่า Quantitative Research หรือการวิจัยเชิงปริมาณ ทำแบบสอบถามเป็นร้อยๆชุดเพื่อตอบโจทย์การตลาด<br />
<br />
หลายคนอาจจะคิดว่า Marketing เป็นวิชาที่ใช้ Sense แต่ถ้ามาเรียน Research จะรู้ว่า มันอธิบายได้เป็นตัวเลขเลย เช่น ยอดขายตกหรือเพิ่มมาจากอะไร<br />
<br />
ในวิชา Research การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จะไม่ถูกให้ความสนใจมากนัก ในทางวิชาการไม่ได้เชื่อถือ แต่ธุรกิจกลับนิยมใช้<br />
<br />
ส่วนวิชาเลือกอื่นๆก็แล้วแต่ว่าเราจะเลือกเรียน Major ไหนเป็นหลัก แต่วิชาสุดท้ายที่จะได้เรียนเหมือนกันทุกที่ คือ Strategic Management<br />
<br />
วิชาที่สำคัญที่สุดของ MBA ทุกคลาส คือ Business Policy หรือ Strategic Management จะสอนให้รู้จักวิเคราะห์ธุรกิจ มองทิศทาง กลยุทธ์ โดยภาพรวม ในช่วงใดของธุรกิจ ควรดำเนินกลยุทธ์แบบไหน เรียกได้ว่า แทบจะดึงเอาสรรพวิชาที่เรียนกันมาตั้งแต่เทอมแรก มาใช้เมื่อดูภาพของธุรกิจ<br />
<br />
จบท้าย บางมหาวิทยาลัยอาจจะมีเรียน คือ วิชา "Business Audit" วิชานี้ จะเป็นการมององค์กรแบบภาพใหญ่ โดยใช้หลักการทุกอย่างที่เรียนมา เข้ามาจับเป็นส่วนๆ จบไปจะต้องมองภาพธุรกิจออกว่ากำลังรุ่งหรือมีปัญหา<br />
<br />
ข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆ ถ้าคิดจะเรียน MBA คือ<br />
<br />
1. รู้จักเพื่อนให้เยอะที่สุด Know Who สำคัญกว่า Know How เรารู้จักเพื่อนเยอะ เอาปัญหาขององค์กรเค้ามาเรียนรู้ สุดท้ายอาจจะได้งาน ได้ทำอะไรกัน<br />
<br />
2. เข้าหาอาจารย์ มีอะไรจะได้สอบถามได้ อย่าอาย อย่ากลัว และหัดยกมือถามอาจารย์ในห้องบ่อยๆ เค้าจะได้จำเราได้ ทำให้เข้าหาได้ง่ายขึ้น<br />
<br />
3. งานกลุ่มเป็นโอกาสลับสมอง ฝึกวิชาที่เรียน ถ้าเป็นไปได้ "อย่ากินแรงเพื่อน" แบ่งอะไรมาก็ต้องทำให้เสร็จตามกำหนด เพื่อนจะได้ไม่ลำบาก<br />
<br />
4. ก่อนเลือกเรียน MBA ที่ไหน ต้องสำรวจก่อนเลยว่า 1. อายุเพื่อนร่วมคลาสเป็นยังไง สัดส่วน เด็ก คนมี ปสก.มากๆเป็นยังไง เราจะได้เรียนรู้จากเพื่อน สัดส่วนของคนเรียนจบอะไรมา ทำงานอะไรมา เพราะเราจะได้ความหลากหลายทางความคิด จากความหลากหลายของอาชีพ ประสบการณ์ข้ามธุรกิจและอุตสาหกรรมสำคัญ<br />
<br />
เกร็ด MBA ข้อสุดท้าย :<br />
<br />
1. คนที่มีแฟน มากกว่า 80% ในคลาส จะเลิกกับแฟนเพราะมาเรียน MBA<br />
<br />
2. คนในคลาส MBA จะจับคู่กันเอง จบมาแต่งงานหลายคู่เลย<br />
<br />
ขอให้ทุกท่าน โชคดีในการเรียน MBA และ อย่าลืม ติดตามคอลัมน์ Marketing Hub ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ทุกวัน พฤหัสฯ ครับ:)<br />
<br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ...ทั้งในระดับ "Young Executive" และ "Executive" จะเรียนเวลานอกราชการ ไม่หลังเลิกงานก็เสาร์อาทิตย์ ทำให้ตัวคนเรียน แทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น วันหยุดเสาร์อาทิตย์ของเราจะหายไป 2 ปี หรือเวลาช่วงเย็นของเราก็จะหายไป 2 ปีเช่นกัน ดังนั้นคนที่มีแฟน ถ้าใจไม่แข็งจริง เลิกกันแน่ๆครับ เพราะคุณจะไม่เหลือเวลาให้แฟนคุณอีกเลย จนนำพามาซึ่งการงอนกัน ทะเลาะกัน เลิกกัน และจับคู่กันเองในคลาส:)...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ...แต่อย่าคิดนะครับว่า เราไม่ได้เรียนทุกวัน ก็จะมีเวลาว่าง เพราะเวลาว่างที่เหลือ คุณจะต้องเอามาทำรายงาน ทำงานกลุ่ม ที่อาจารย์ผู้สอน มักจะให้มาทำ โดยที่ไม่สนใจว่าเราจะงานยุ่งหรือมีเวลาน้อยแค่ไหน ถ้าเคี่ยวจริงๆ ในทุกๆสัปดาห์ จะต้องมีรายงานส่ง ซึ่งแน่นอน มีหลายวิชา เราก็จะต้องทำงานกับกลุ่มเพื่อนหลายกลุ่ม แทบจะแยกร่างเลยทีเดียว...<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/3d/2013-02-23_130741.jpg"></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.mmm.ru.ac.th/images/mba-sps/1-2556/sun12/sun12-p1.html" target="_blank">รายละเอียดอื่นๆ คลิกดูที่นี่...</a><br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำให้เรียน MBA ที่นี่ ดีที่สุด... <a href="http://www.mmm.ru.ac.th/application/login/contactus.asp" target="_blank"><img src="http://www.kr.ac.th/webresource/ani1/ani121.gif"></a><br />
อย่าได้หลงเข้าไปเรียนบางสถาบันที่ชาวนาทั่วประเทศกำลังสรรเสริญกันอยู่นะครับ<br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-78193963925974294162012-09-02T00:15:00.001+07:002015-09-17T14:29:51.625+07:0023 ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่.........<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/94.html" target="_blank">ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/95.html" target="_blank">"ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post.html" target="_blank">ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/61.html" target="_blank">ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/96.html" target="_blank">นกแก้วตัวนั้น?</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/62.html" target="_blank">มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html" target="_blank">"มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/97.html" target="_blank">หัวเชือกวัวชน...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/63.html" target="_blank">แชมป์’กินไม่ได้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/free-wifi-355.html" target="_blank">Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/99-clip.html" target="_blank">Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/blog-post.html" target="_blank">อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/1.html " target="_blank">โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/65-1.html" target="_blank">กะเทาะหัวใจ "ยิ่งลักษณ์" 1 ขวบปีกับบทบาทผู้นำประเทศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/100.html" target="_blank">ไป ๆ มา ๆ ชักจะออกอาการ "สุนัขจนตรอก"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/101.html" target="_blank">หนึ่งปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ทุกข์ประชาชนหรือฝ่ายค้าน"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/66-1.html" target="_blank">1ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้คืนความสุขกับผมมากมายเลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/blog-post_30.html" target="_blank">อีกปีสองปี สถานการณ์เปลี่ยน..มึงซวยทั้งชีวิตแน่ๆ...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/5-7-2555.html" target="_blank">ยืนยันทดสอบการระบายน้ำใน กทม. วันที่ 5 และ 7 กันยายน 2555</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/09/102.html" target="_blank">ไม่รีบเค้นออกมาจะเสียใจ...พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเด็กๆ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/blog-post.html" target="_blank">ข้อเท็จจริงเรื่องน้ำท่วมสุโขทัย จากคนสุโขทัยตัวจริง & มติชนสัมภาษณ์"หม่อมเต่านา"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/09/67.html" target="_blank">ภาพ "เจ้าหน้าที่" ยืนคู่กับ "ชายชุดดำ" คอป.เห็นหรือยัง?</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.528683410479019.133466.100000120933242&type=3&l=e21cddc2e6">โอ้กรุงเทพเมืองฟ้าอมร สมเป็นนครมหานที...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/09/blog-post_22.html" target="_blank">อยากจะบอกคน กทม. ฝั่งตะวันออก ว่า รัฐบาลเขาเตรียมยังไง เรื่องน้ำ พร้อมภาพประกอบ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/09/99.html" target="_blank">พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.529947637019263.133881.100000120933242&type=1&l=1665871f0d" target="_blank">ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/09/68.html" target="_blank">มาร์คครับ หยุดเถิดครับ อย่าออกมาพูดเรื่องจริยธรรมให้มากกว่านี้เลยครับ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/fj/m920791.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่.........</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: ไม่ทราบนามผู้แต่ง</span> (จาก forward mail ที่เพื่อนๆส่งมาให้)<br />
<br />
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด<br />
<br />
'อย่าหนีนะ เจ้าเด็กขี้ขโมย' เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่น พร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งผ่านฉันกับแม่ที่กำลังซื้อเนื้อหมูในตลาดไปอย่างรวดเร็ว ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น แค่แวบเดียว แม่ถามฉันว่า<br />
<br />
'อ้าวนั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ'<br />
<br />
'ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ'<br />
<br />
ป้าคนนั้นชื่อว่า 'ป้าหนอม' เป็นแม่ค้าขายของชำ สารพัดอย่างในตัวตลาดในอำเภอที่ฉันอยู่ มีฐานะจัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆในละแวกเดียวกัน<br />
<br />
และเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจ แถมปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของมากเกินไปหรือถามราคาแล้วไม่ซื้อป้าแกจะโวยวาย ชนิดต้องรีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียว<br />
<br />
เสียงเอะอะดังมากขึ้นฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อมือเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบไล่เลี่ยกับฉันซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้าแกกำลังจะลงไม้ลงมือ แม่จึงเดินเข้าไปถาม<br />
<br />
'พี่หนอม มีไรหรอคะ'<br />
<br />
'ก็คุณเด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ พอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย'<br />
<br />
พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งที และคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้<br />
<br />
'ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ'<br />
<br />
แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่<br />
<br />
'เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัย พ่อแม่ไม่สั่งสอนยังเด็กตัวแค่นี้ก็รึจะเป็นขโมยซะแล้ว ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินหละ'<br />
<br />
ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่ายหัวน้อยๆทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่า แม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้<br />
<br />
แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า<br />
<br />
'อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอมเด็กมันคงอยากซื้อยา แต่ไม่มีเงินนะ เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะกี่บาทกันล่ะ'<br />
<br />
ในที่สุดเรื่องก็จบลงโดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายาแก้ปวดกับยาธาตุแล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมาจากตลาด<br />
<br />
แต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่<br />
<br />
'ใจดีกับเด็กขี้ขโมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ'<br />
<br />
แม่ไม่ได้ตอบอะไรแต่พอเดินห่างจากร้านพอสมควรแล้วก็ถามว่า 'ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ'<br />
<br />
เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่ แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า<br />
<br />
'แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอผมก็เลยต้อง...'<br />
<br />
แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยืนผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็กคนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า<br />
<br />
'ทีหลังอย่าขโมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะ น้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆนี่เองถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้าแทบทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอาส้มไปฝากคุณแม่ซิคนป่วยนะต้องกินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย' แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม<br />
<br />
เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับส้มพร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดินจากไป<br />
<br />
หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที 'ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนั้นด้วยละ รู้จักกันหรอจ้ะ' แม่ยิ้มแล้วตอบฉันว่า<br />
<br />
'ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขายอยู่แถวบ้านเรานะลูก แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอก แม่ซื้อขนมแกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง'<br />
<br />
'แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่แม่' ฉันถามต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า<br />
<br />
'แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆกับลูก จะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบรู้คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ว่ากว่าจะได้มามันเหนื่อยยากขนาดไหนและคนที่มีความรับผิดชอบนะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆ เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วเท่านั้น'<br />
<br />
ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า 'แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า'<br />
<br />
'ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร'<br />
<br />
'แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนบ้านป้าหนอมเขานะแม่'<br />
<br />
'ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนักแต่การที่ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุขแล้วยังได้บุญอีกด้วยนะ แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก'<br />
<br />
แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า 'จำไว้นะลูก คนเรานะต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคนอื่นแก้ตัวเสมอ อย่างเด็กคนนั้น..แม่มั่นใจว่าแกทำไปเพราะรักคุณแม่ของแกจริงๆ แม่ถึงช่วยแกเอาไว้'<br />
<br />
แล้วแม่ก็พูดต่อว่า 'ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งทีผิด ใช่...แม่ไม่เถียงแต่บางครั้งคนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆบ้าง อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ตอนนี้ลูกอาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ'<br />
<br />
หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆกันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆ<br />
<br />
ลิ้งค์หนังสือ... <a href="http://www.ebooks.in.th/download/794/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88_%5B%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8D%5D" target="_blank"><img src="http://www.jackpresentation.com/Image/click.gif"></a><br />
<center><img src="http://upic.me/i/3p/coverl1.jpg"></center><br />
หลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งานทำในโรงงานในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้าเพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้างหลังจากทำงานหนักมาเกือบ 20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน<br />
<br />
แม่ยอมปิดร้าน แต่ก็ยังรับงานเล็กๆน้อยๆของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงิน แม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะรู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้องยอมตามใจแม่<br />
<br />
ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเริ่มจากปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆไม่กี่วันก็หายหลังจากนั้นก็เริ่มเป็นนานขึ้นเรื่อยๆ<br />
<br />
ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอ แล้วฉันก็พาแม่ไปหาหมอในเมือง หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ทำงานหนักมากเกินไป หมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆ จะได้หายเร็วๆ<br />
<br />
หลังจากกินยาตามที่หมอสั่งอาการปวดหัวของแม่ก็หายไป ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ่งเดือน แม่ก็เริ่มกลับมาปวดหัวอีกคราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที่แล้ว ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม่ได้ผลเลย<br />
<br />
ฉันกังวลใจมากพอถามหมอหมอก็บอกว่าต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯเพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่าโรงพยาบาลต่างจังหวัด<br />
<br />
หลังจากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯทันที ไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่ามีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดโดยด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต<br />
<br />
ฉันตกใจมากขอให้หมอผ่าตัดให้ทันทีแต่หมอบอกว่า โรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมองที่มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอกในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่า ดังนั้นหมอจึงต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลง<br />
<br />
หลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว แม่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจอยู่ด้านนอก ทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่และจากคำพูดของหมอที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้<br />
<br />
หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมาก โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมองค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับค่ายาระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท<br />
<br />
ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหน ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้าหมื่นบาทเลย แต่ยังไงฉันก็ต้องรักษาแม่ให้หายส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง<br />
<br />
หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลงเป็นโชคดีของแม่ที่การผ่าตัดประสบผลสำเร็จและไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ทางโรงพยาบาลบอกให้พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถไปพักฟื้นที่บ้านได้<br />
<br />
ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน ปรากฏว่าเป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ่งพันบาทเป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น<br />
<br />
ฉันแปลกใจมากจึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่า คุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเป็นเจ้าของไข้ บอกไม่ให้คิดเงินกับฉันและแม่ โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเหตุ<br />
<br />
ฉันจึงขอพบคุณหมอคนนั้นเพื่อขอบคุณ นางพยาบาลบอกว่า หลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัวไปต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดสมองที่อเมริกา แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่ โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให้ฝากให้ฉัน พร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้<br />
<br />
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้น เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน<br />
<br />
เนื้อความในจดหมายมีดังนี้...<br />
<br />
ข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์ ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดดังนี้<br />
<br />
ค่าผ่าตัด 0 บาท<br />
ค่ายาทั้งหมด 0 บาท<br />
ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท<br />
รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท<br />
<br />
ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยยาแก้ปวดยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง<br />
<br />
ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า<br />
<br />
นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/qj/n20110110154207_30414.jpg"></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/r7IvdweANJg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
...ดูเรื่องนี้พร้อมลูกสาวตอนลูกอยู่อนุบาล สมัยนั้นเป็นวิดีโอเทป ลูกชอบดูมากจนร้องเพลงตามได้ ดูทุกวันไม่เบื่อ ตอนนี้ลูกเรียนหมอปี 1 แล้ว สงสัยถ้ารู้ว่ามีเวอร์ชั่นนี้คงเปิดเข้ามาดูแน่ เพลงเพราะมากทั้งการประสานเสียง-และบทประพันธ์ภาษาไทย...<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://www.youtube.com/watch?v=H8o9iPIrSSo" target="_blank">ดูบน YouTube เจ้าหญิงนิทรา พากย์ไทย คลิปเดียวจบ HD1080 </a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่... ศาสตร์เลี้ยงลูกให้ได้อย่างใจ... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> For...Friends&Friends <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/share/NDYyM3w4M2VhYTY3MjI3OThhNzczZGQ1NWU4ZmM3NDQzYWEwOXwzMDQ2Mg==" target="_blank"><img src="http://www.jackpresentation.com/Image/click.gif"></a><br />
<br />
E-Bookโหลดทั้ง2part แตกไฟล์คลิกขวาpart1 คลิกซ้ายExtract Here <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4ODJ8ODM4NmQ3ZGNmZTJmYjc2ZWI1ZjVlOTliOTNmOGRkMjN8MzA0NjI=" target="_blank">Part1</a> & <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4Nzl8YjYxYjVmY2M4NDQ0MGFjNDBlODFjYTE5NmQ5YjBiNmV8MzA0NjI=" target="_blank">Part2</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> เป็นพ่อเป็นแม่คน...เรื่องนี้ให้เก็บเอาไปคิดเป็นการบ้าน... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/hna-xan-hna-suksa-7" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตต้องสู้...Jimbo นักธุรกิจใหญ่ที่ชะตาผกผัน...มาเป็นคนขายปลาทู...สู่คนขับแท็กซี่...ลีมูซีน และอีกหลายๆๆ... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ลองอ่านๆดู ผมว่ามันฮามาก... ชีวิตท.ทหารเกณฑ์...รันทดยิ่งกว่านวนิยายน้ำเน่าอีกว่ะ!... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa0" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> โฉมฉาย อรุณฉาน...สาวสวยร้องเพลงไพเราะที่ผมขอเขียนถึงสักครั้ง <a href="http://redbkk.blogspot.com/2010/05/13.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> การเมืองเร่อะ...อย่า"อิน"ให้มากนัก เพลาๆกันไว้มั่ง <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/08/67.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ห้องนอนใครเหม็นอับมาทางนี้... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/khxkhid-di-di" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<center>กะลังมันส์!! รอหน่อยนะตะเอง...อิอิ<br />
<img src="http://image.ohozaa.com/i/651/pYkn1r.gif"></center>Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-17910251649387437482012-08-20T14:10:00.003+07:002015-11-08T11:59:04.592+07:0022 เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/94.html" target="_blank">ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/95.html" target="_blank">"ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post.html" target="_blank">ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/61.html" target="_blank">ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/96.html" target="_blank">นกแก้วตัวนั้น?</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/62.html" target="_blank">มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html" target="_blank">"มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/97.html" target="_blank">หัวเชือกวัวชน...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/63.html" target="_blank">แชมป์’กินไม่ได้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/free-wifi-355.html" target="_blank">Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/99-clip.html" target="_blank">Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/blog-post.html" target="_blank">อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/1.html " target="_blank">โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/65-1.html" target="_blank">กะเทาะหัวใจ "ยิ่งลักษณ์" 1 ขวบปีกับบทบาทผู้นำประเทศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/100.html" target="_blank">ไป ๆ มา ๆ ชักจะออกอาการ "สุนัขจนตรอก"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/101.html" target="_blank">หนึ่งปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ทุกข์ประชาชนหรือฝ่ายค้าน"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/66-1.html" target="_blank">1ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้คืนความสุขกับผมมากมายเลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/blog-post_30.html" target="_blank">อีกปีสองปี สถานการณ์เปลี่ยน..มึงซวยทั้งชีวิตแน่ๆ...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">รมว.ศธ. ให้โอวาทแก่นักเรียนโครงการ ๑ อำเภอ ๑ ทุน รุ่นที่ ๓</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/oq/see11.jpg"></center><center><img src="http://upic.me/i/7z/see12.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"</strong></span><br />
<br />
<a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.504750626205631.126817.100000120933242&type=3&l=957ba0b4ff" target="_blank">ดูหลักฐาน 27 ภาพ คลิกที่นี่...</a> & <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html" target="_blank">ดูรายละเอียด คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/FMsSTWTyknQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ศาลแพ่งสั่งกองทุนฟื้นฟูฯคืนเงินค่าที่ดินรัชดาฯ ให้คุณหญิงพจมาน 772 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี</strong></span><br />
<br />
24ก.ย.2553 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกจำนวน 33 ไร่เศษ ระหว่างกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกับคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโมฆะตามคำร้องของพนักงานอัยการ หลังศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นิติกรรมดังกล่าวเป็นโมฆะ จึงมีคำสั่งให้คุณหญิงพจมานคืนที่ดินดังกล่าวจำนวน 4 แปลง จำนวน 33 ไร่ให้แก่กองทุนฟื้นฟูฯ และให้กองทุนฟื้นฟูฯคืนเงินจำนวน 772 ล้าน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้แก่คุณหญิงพจมานด้วย<br />
<br />
7ต.ค.2553 ธปท.คืนเงินซื้อที่ดินรัชดาฯ 823 ล้านบาท ให้ 'คุณหญิงพจมาน' หลังปรึกษาอัยการบอกไม่คุ้มหากแพ้อุทธรณ์ ต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 1 แสนบาท<br />
<br />
นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า<br />
<br />
ธปท.ได้คืนเงินให้กับคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร กรณีที่ดินรัชดาฯ เรียบร้อยแล้ว รวมเป็นเงินต้นบวกดอกเบี้ยจำนวน 823 ล้านบาท หลังได้รับคำตอบจากอัยการสูงสุด ว่าหากกองทุนฟื้นฟูฯยื่นอุทธรณ์ หากแพ้คดีต้องจ่ายค่าปรับสูงถึงวันละ 1 แสนบาทกรณีศาลแพ่งมีคำสั่งให้กองทุนฟื้นฟูฯคืนเงินซื้อที่ดินรัชดาฯ ให้คุณหญิงพจมาน<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/6s/1ss20.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>คดีที่ดินรัชดา คดีสะเทือนโลก</strong></span><br />
<br />
1. กฎหมาย ปปช. มาตรา 100 (1) บอกว่าห้ามนายกฯ และรัฐมนตรี เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ กฎหมายนี้มีมาเมื่อปี พ.ศ. 2542 กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ อยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ประกาศขายที่ดินโดยการประมูลในปี 2546<br />
<br />
หมายเหตุ: ปี 2546 ธนาคารแห่งประเทศไทย และกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐ<br />
<br />
๑... <a href="http://www.baanjomyut.com/library/law/225.html" target="_blank">พระราชบัญญัติ ธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2485 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี</a><br />
<br />
๒... <a href="http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=Category&file=categoryview&categoryID=CAT0000332" target="_blank">พระราชบัญญัติ ธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2485 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี</a><br />
<br />
คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ประมูลได้และชำระเงินเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม 2546 โดย พ.ต.ท.ทักษิณเซ็นชื่อรับรองในฐานะคู่สมรสของผู้ซื้อ ตามหลักการปกติของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป<br />
<br />
วันที่ 19 กันยายน 2549 พวกกบฏยึดอำนาจนายกฯทักษิณ<br />
<br />
ปี 2550 พวกกบฏสั่งให้ สนช. แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานของรัฐ สภาทาสเผด็จการ แก้ไขสำเร็จเมื่อ พ.ศ. 2551 ห่างจากวันซื้อขายถึง 5 ปีเต็มๆ<br />
<br />
๓... <a href=" http://law.longdo.com/law/335/rev535" target="_blank">พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย(ฉบับที่ 4)พ.ศ.2551 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี</a><br />
<br />
แล้วก็สั่งให้ลิ่วล้อคือ คตส. ทำเรื่องฟ้องว่านายกทักษิณ เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ เป็นการออกกฎหมายย้อนหลังเพื่อกำจัดคนๆเดียว โดยยอมให้บ้านเมืองย่อยยับ ปกติศาลทั่วโลกจะไม่ยอมรับการออกกฎหมายย้อนหลังเพื่อเอาผิด ต่อบุคคลใดๆ<br />
<br />
แต่ ผู้พิพากษา 5 คน ของไทย ได้ยอมว่าทำได้ แต่อีก 4 ท่านบอกไม่ผิด เรื่องนี้ได้มีผู้พิพากษาอาวุโสคนหนึ่งออกมาขอโทษประชาชนทันที แต่ 5 คนนั้น เฉย<br />
<br />
นั้นคือความเป็นไป ที่ทำให้คนเสื้อแดงขยายตัวมากขึ้น เพราะทนดูการปฏิบัติที่ไร้มาตรฐานของพวกเผด็จการ และสมุนอำมาตย์ ที่หน้าด้านหน้าทน กล้าทำทุกอย่างเพื่อทำลายล้างคนๆเดียว<br />
<br />
2. คดีการซื้อขายนี้ ได้ถูกสั่งยกเลิก ให้ถือว่าการซื้อขายเป็นโมฆะ มีการคืนเงินค่าซื้อขายพร้อมดอกเบี้ย ให้คุณหญิงพจมานไปเป็นที่เรียบร้อย หากคำสั่งนี้มีผลก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง จะพิพากษาเสร็จ ก็จะเสมือนว่าไม่มีการกระทำผิดใดๆเกิดขึ้น<br />
<br />
โดยปกติ บทลงโทษที่มีต่อผู้ต้องคดีเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นผู้มีคุณูปการต่อบ้านเมืองมาก่อน และไม่เคยมีประวัติเคยถูกจำคุกมาก่อน ศาลจะสั่งให้มีเหตุให้บรรเทาโทษ หรือให้รอลงอาญาไว้ก่อน<br />
<br />
"แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับถูกสั่งลงโทษทันที"<br />
<br />
3. คดีดังกล่าวนี้ นานาชาติมองว่าเป็นคดีการกลั่นแกล้งทางการเมือง จึงไม่ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษร้ายแรง แต่ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กลับหลอกประชาชนคนไทยว่า ตำรวจสากลออกหมายแดงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะไล่ล่า บีบบังคับให้นานาชาติไม่ให้อนุญาตออกวีซ่าให้นายกทักษิณเข้าประเทศ ทั้งยังจะให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน จนก่อความอึดอัดรำคาญแก่นานาชาติเป็นที่สั่นสะเทือนอารมณ์ไปทั่วโลกที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไป ตลอดอายุของรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ผ่านมา<br />
<br />
คนไทยต้องทนอับอายต่อมิตรประเทศ กับการกระทำของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จนถึงวันประชาชนพิพากษาในวันที่ 3 ก.ค.2554 เลือกรัฐบาลใหม่นี่เอง<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/6s/1ss20.jpg"></center><br />
<span style="color: #ff9900;">By: ปีศาจValkyrie</span> : ผมไม่เคยคิดว่าทักกี้คือนักโทษ แต่เขาคืออดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกปฏิวัติยึดอำนาจ คดีที่ทักกี้โดนคือคดีที่ไม่ได้ขึ้นศาลปกติทั่วไป มันเป็นเรื่องที่น่าละอายที่อดีตนายกฯโดนคดีเพราะเซ็นชื่อให้ความยินยอมภรรยาในการประมูลที่ดินหรือจะทำนิติกรรมหลังประมูลที่ดินอะไรก็แล้วแต่ มันทุเรศ<br />
<br />
อีก 20 ปีข้างหน้านี้ คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างที่นักศึกษากฎหมายทุกคนต้องเรียน เรียนเพื่อให้รู้ว่าการเป็นนักกฎหมายที่ดีต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ควรเป็นเครื่องมือรับใช้อำนาจเผด็จการ<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2013/01/108.html" target="_blank">ความเป็นมาของ คดีสะเทือนโลก "ที่ดินรัชดา" ที่ทุกๆคนควรรู้!!!</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/np/qss01.jpg"></center><br />
<a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html" target="_blank">http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/m7/6ss02.jpg"></center><br />
<a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.504750626205631.126817.100000120933242&type=3&l=957ba0b4ff" target="_blank">http://www.facebook.com/media/set/?set=a.504750626205631.126817.100000120933242&type=3&l=957ba0b4ff</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/e5/qss03.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/ce/pss04.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/3i/kss05.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/7c/4ss06.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/e0/yss07.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/1e/lss08.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/jc/0ss09.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/jd/ass10.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/w7/vss11.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/t2/bss12.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/jr/rss13.jpg"></center><br />
<a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html" target="_blank">http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html</a><br />
<br />
<a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.504750626205631.126817.100000120933242&type=3&l=957ba0b4ff" target="_blank">http://www.facebook.com/media/set/?set=a.504750626205631.126817.100000120933242&type=3&l=957ba0b4ff</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/tt/wss14.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/hv/3ss15.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/22/oss16.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/j6/vss17.jpg"></center><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/63.html" target="_blank">แชมป์’กินไม่ได้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/64.html" target="_blank">นโยบายการจำนำข้าวเกวียนละหมื่นห้า ของนายกฯปู "นโยบายอัจฉริยะ อัดเม็ดเงินลงฐานรากกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2012/10/25.html">มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/blog-post.html" target="_blank">อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...</a><br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-19853538579416825832012-07-20T14:59:00.002+07:002012-09-13T22:12:39.843+07:0021 แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น...<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/94.html" target="_blank">ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/95.html" target="_blank">"ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post.html" target="_blank">ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/61.html" target="_blank">ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/96.html" target="_blank">นกแก้วตัวนั้น?</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/62.html" target="_blank">มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post_9315.html" target="_blank">"มาร์ค" ร้องสะอึก..สะอื้น ฟ้องสื่ออ้างแดงเชียงใหม่จงใจทำร้าย ทั้งทุบ ทั้งตี และปาหินใส่รถยนต์</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/97.html" target="_blank">หัวเชือกวัวชน...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/08/63.html" target="_blank">แชมป์’กินไม่ได้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/free-wifi-355.html" target="_blank">Free WiFi ทั่วประเทศ เปิดแล้ววันนี้ (3สิงหาคม2555)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/98.html" target="_blank">คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/08/99-clip.html" target="_blank">Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/blog-post.html" target="_blank">อึ๋ยส์!! ที่นั่นมันไม่ใช่ตอแหลแลนด์นะเฟ้ย...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/08/1.html " target="_blank">โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/nb/ezx02.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>แม่เฒ่า..แม่ของคน..คนนั้น...</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: อดีต นร.ช่างกล2516</span><br />
<br />
บ้านพักคนชราที่ผมไปเยี่ยมเยือนมาหลังวันเกิดในเดือนที่แล้ว เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวไม่ใหญ่โตนัก ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของวัดเล็กๆ ที่สมภารเจ้าอาวาสอดีตนักเรียนโรงเรียนเดียวกับผม ท่านเอาเงินที่ญาติโยมศรัทธาถวายท่าน มาปลูกสร้างเพื่อให้ผู้เฒ่าผู้ชราได้มาพักอาศัยยามเมื่อขาดที่พึ่งพิง<br />
<br />
มีโยมผู้หญิงวัยกลางคนไร้ญาติและสิ่งเกาะเกี่ยวทางโลกมาบำเพ็ญธรรมโดยไม่บวชชี ท่วงท่าเจรจาพาทีดูสำรวมราบเรียบ พร้อมเด็กวัดลูกชาวบ้านแถบนั้นแวะเวียนผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้ดูแลผู้ชราทั้งหญิงชายที่ถูกทอดทิ้งรวม 13 ชีวิต ค่าจ้างคนดูแล น้ำไฟ เสื้อผ้ายารักษาโรค ข้าวปลา อาหาร สมภารใจดีอดีตนักเรียนช่างกลที่รอดตายมาจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เหมาจ่ายคนเดียว โดยไม่เคยพิมพ์ฎีกาเรี่ยไรใคร<br />
<br />
พูดคุยกับท่านหลายเรื่องจนตอนจะลากลับ ผมควักเงิน 500 บาท ใส่ซองถวายท่านเป็นค่าใช้จ่าย ท่านจึงนึกอะไรขึ้นมาได้ ชวนผมเดินลงจากศาลาไปที่บ้านพักคนชราแห่งนั้น เปิดนรกบนดินอีกขุมหนึ่งให้คนบาปอย่างผมได้มีดวงตาเห็นธรรม โดยไม่ต้องฟังเทศน์เทียบชาดกบทใดๆ<br />
<br />
หญิงชรารูปร่างเล็กผิวสองสีบอบบาง ทอดกายเหยียดตรงบนเตียงเล็กๆ แต่สะอาด มีผ้าห่มผืนบางๆ ห่มปิดทรวงอกที่ยังกระเพื่อมเบาๆ ราวเครื่องยนต์ใกล้ดับอย่างเหนื่อยหน่าย แม่เฒ่าพยายามยกมือขึ้นประนมไหว้เมื่อท่านสมภารพาผมมานั่งอยู่ข้างขอบเตียง<br />
<br />
กังวานน้ำเสียงแห่งพุทธบุตรผู้เมตตาเปล่งวาจาถามไถ่อาการ และให้ศีลให้พรเบาๆ แต่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ หยาดน้ำตาแห่งความปีติท่วมท้นดวงตาสีขาวขุ่น แล้วค่อยๆ ซึมเซาะรินไหลไปตามร่องขอบตาที่เหี่ยวย่นบนใบหน้า เวทนาบังเกิดจนผมต้องเบือนหน้าหนี<br />
<br />
ผู้เฒ่าอายุ 91 ปี อาวุโสสูงสุดในจำนวน 13 คนชราของที่นี่ เรื่องราวทั้งหลายในอดีตยังเจิดจ้าอยู่ในความทรงจำ เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวาน...<br />
<br />
แม่เฒ่ามีลูกชายสองคนและหญิงหนึ่งคน 60 ปีที่ผ่านมาครอบครัวแม่เฒ่าจัดอยู่ในระดับผู้มีอันจะกินของจังหวัด สามีของแม่เฒ่ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ก่อร่างสร้างตัวจากกรรมกรกินค่าแรงรายวัน โดยแม่เฒ่ารับจ้างทอผ้าอยู่ในโรงงงานแห่งหนึ่ง อดออมสะสมจนฐานะดีขึ้น สามารถสร้างหลักฐานมีที่ดินบ้านช่องสมฐานะ<br />
<br />
แต่สามีก็ยังทำงานหนักไม่ยอมพักหวังจะฟูมฟักลูก 3 คน ให้อยู่อุ่นกินอิ่มโดยไม่ต้องลำบาก ช่วงนั้นแม่เฒ่าเลิกท้อผ้าแล้วอยู่บ้านเลี้ยงลูก 3 คนที่อยู่ในวัยซนไล่เรียงตามลำดับ<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
เช้าวันหนึ่งเมื่อลูกชายคนโตอายุได้ 6 ขวบ สามีของแม่เฒ่าก็หลับไปไม่ตื่นมาล่ำลา หมอที่โรงพยาบาลบอกว่าสามีตับแข็งตายทั้งๆที่ไม่เคยแตะเหล้าซักหยด<br />
<br />
แม่เฒ่าเปลี่ยนสภาพบ้านพักเปิดเป็นร้านค้าโชห่วย ขายของสารพัดชนิด อดทนอดออมเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนให้ร่ำเรียนจนจบปริญญา ครอบครัวอบอุ่น พี่น้องรักใคร่กันดี ไม่มีเค้าลางว่าจะแตกหัก ดั่งหนึ่งคนละสายเลือด<br />
<br />
ลูกชายคนโตแต่งงานไปกับลูกสาวเจ้าของร้านขายทองในตลาด ในชีวิตของแม่เฒ่าไม่เคยมีความสุขครั้งไหนเหมือนวันที่ลูกชายแต่งงาน สมบัติที่มีแม่เฒ่าจัดแบ่งเป็นสามส่วน ให้ลูกชายคนโตเปิดร้านขายทองตามที่สะใภ้ต้องการ<br />
<br />
ปีต่อมาลูกคนที่สองแต่งสาวเข้าบ้านอีกคน แม่เฒ่ายกบ้านและที่ดินที่เปิดร้านขายของสองคูหาสามชั้นให้เป็นสมบัติของลูกด้วยความยินดี โดยที่แม่เฒ่าขอสิทธิ์แค่อยู่อาศัย<br />
<br />
สองปีถัดมาลูกสาวคนสุดท้องแต่งกับข้าราชการระดับหัวหน้ากองในจังหวัด แม่เฒ่ายกที่ดินและเงินสดก้อนสุดท้ายของแม่เฒ่ารับขวัญลูกเขยด้วยความปรีดา<br />
<br />
และแล้ว สะใภ้คนที่สองเริ่มจุดประกายแห่งการแตกหัก ตั้งแต่แต่งเข้าบ้านไม่เคยแม้แต่เสียบปลั๊กหม้อหุงข้าว แม่เฒ่ากลายเป็นทาสในเรือน ซักผ้าทำกับข้าวจัดสำรับคับค้อนตั้งโต๊ะคอยท่าสองผัวเมียกินก่อนจนอิ่ม แม่เฒ่าจึงมีโอกาสได้กินของเหลือก่อนจะเก็บกวาดถ้วยชามไปล้าง กวาดเช็ดบ้านช่องเรียบร้อยแล้วจึงได้พักผ่อนด้วยการเดินออกไปคุยกับเพื่อนบ้านในวัยไล่เลี่ยกัน<br />
<br />
สะใภ้สองเข้มงวดแม้แต่ของสดทุกชนิดที่ซื้อมาทำกับข้าว ต้องถามราคาแล้วยกไปชั่งน้ำหนักราคาสินค้ากับเงินทอนที่เหลือต้องตรงกับเงินที่ให้ไปตลาด แต่แม่เฒ่าก็ไม่เคยเก็บมาเป็นอารมณ์<br />
<br />
แล้ววันหนึ่งสะใภ้สองก็จัดระเบียบการกินใหม่ หล่อนไปสั่งผูกปิ่นโต เพื่อกินกันแค่สองผัวเมีย แล้วสั่งให้ผัวจ่ายเงินให้แม่เฒ่าแค่วันละยี่สิบบาทไปหากินเอาเอง ด้วยเหตุผลโง่ๆ คือต้องการประหยัด แต่ลึกๆในใจไม่ต้องการให้แม่ผัวเม้มส่วนเกิน แม่เฒ่าคิดเอาเองว่าลูกๆ คงไม่อยากให้แม่เหนื่อยจึงน้อมรับประกาศิตลูกสะใภ้ด้วยดุษฎี สองสามวันต่อมาแม่เฒ่าก็ลืมสิ้นเพราะความรักลูก<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
หลายครั้งที่แม่เฒ่าคิดถึงลูกชายคนโตที่เปิดร้านขายทองในตลาด แม่เฒ่าจะเจียดเงินที่เก็บออมไว้ ซื้อผลไม้ที่ลูกชอบติดมือไปด้วย แต่ทุกครั้งที่แม่เฒ่าเดินเข้าไปในบ้านสะใภ้ใหญ่จะมองอย่างเหยียดๆ แล้วเดินหนีเข้าห้องแอร์ปิดประตูนอนดูโทรทัศน์ สั่งคนใช้ให้คอยสอดส่องเดินตามแม่เฒ่า เธอกลัวแม่ผัวขโมยของในบ้าน<br />
<br />
จะคุยกับลูกชายไอ้นั่นก็ออกอาการไม่ว่างถามคำตอบคำเหมือนหนามตำโดนโคนลิ้นจนอ้าปากลำบากลำบน อึดอัดแม่ เกรงใจเมีย แกล้งถอดสร้อยคอทองคำเส้นโตที่ห้อยแขวนพระเครื่องราคาแพงในกรอบทองฝังเพชรพวงใหญ่ ขึ้นมาส่องทีละองค์ด้วยความเลื่อมใส และไม่แม้แต่จะชายตามองแม่เฒ่าที่นั่งซึมอยู่ข้างตู้ทองอย่างเดียวดายเก้ๆกังๆ อยู่พักใหญ่ก็เดินออกจากบ้านลูกชายคนโตอย่างเหงาๆ โดยมีคนใช้ของลูกหิ้วถุงผลไม้ตามมายัดคืนใส่มือ ระหว่างทางก็แวะทักทายคนรู้จักเพื่อรักษามารยาท แต่ในใจของแม่เฒ่ามันวังเวงจนจำไม่ได้ว่าพูดคุยกับใครไปบ้างระหว่างทาง<br />
<br />
ลูกสาวคนเล็กที่แม่เฒ่าทั้งรักทั้งหวงนั่นแทบไม่ต้องพูดถึง เธอยื่นคำขาดกับแม่เฒ่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเยี่ยมเข้าพบผัวของเธอเพื่อขออำนวยความสะดวกในทางธุรกิจ และผัวของหล่อนก็ค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่าง ถ้าแม่เฒ่ารักลูกก็ควรจะต้องรักษาเกียรติรักษาหน้าตาของผัวลูกด้วย แม่เฒ่าไม่เข้าใจว่าการรักษาหน้าตาของลูกเขยนั้นต้องทำอย่างไร แม่เฒ่ายังเคยปลื้มกับคำชมของเพื่อนบ้าน เขาว่าแม่เฒ่าวาสนาดีลูกเขยเป็นเจ้าคนนายคน แม่เฒ่าก็ได้แต่แอบปลื้มทั้งๆที่ไม่เข้าใจว่าทำไมการเป็นเจ้าคนนายคน จึงเหมือนกำแพงชนชั้นปิดกั้นระหว่างความเป็นแม่ลูกจนหนักหนาสาหัสขนาดนั้น<br />
<br />
ร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าขนาดยักษ์โผล่ขึ้นมารายรอบร้านค้าของลูกชายคนที่สอง กระทบธุรกิจของสองผัวเมียจนซวดเซ ของขายไม่ได้มากเหมือนเก่าที่เอาอะไรมาวางก็ขายหมด ปัญหาและวิกฤติการเงินในบ้านส่งสัญญาณถึงขาลง สองผัวเมียเริ่มมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และแทบทุกครั้งลูกสะใภ้ก็จะฉวยโอกาสด่ากระทบแม่ผัวเป็นของแถมโดยไม่มีเหตุผล โดยที่ลูกชายก็ไม่ออกอาการปกป้องแม่เฒ่าแต่อย่างใด...<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
12 มิถุนายน 2530 ประมาณ 3 ทุ่มของคืนโลกาวินาศ ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยพยับเมฆสลับกับเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องเป็นระยะๆ ครู่ใหญ่ๆ ต่อมาสายฝนจึงโปรยปรายชุ่มฉ่ำน้ำนองไปทั่วเมือง<br />
<br />
ลูกชายลูกสะใภ้ออกไปกินข้าวนอกบ้านยังไม่กลับปล่อยแม่เฒ่าเฝ้าร้านค้าคนเดียว แม่เฒ่าจำได้ว่าวัยรุ่นสองคนขี่รถเครื่องฝ่าสายฝนมาจอดหน้าร้าน ขอซื้อเบียร์หนึ่งขวด แม่เฒ่ารับเงินแล้วเดินเข้าไปเก็บในลิ้นชักโดยไม่ระแวงว่าสองวัยรุ่นแอบยกลังใส่บุหรี่ที่ลูกชายสั่งมายังไม่แกะกล่องช่วยกันแบกขึ้นรถขี่หายไปกับความมืด<br />
<br />
ก่อนสี่ทุ่มเล็กน้อยสองผัวเมียจึงขับรถกลับเข้าถึงบ้านช่วยกันเก็บของเข้าร้าน วางของทุกชิ้นเข้าที่ที่เคยวาง เมื่อไม่เห็นลังบุหรี่จึงหันไปตะโกนถามแม่เฒ่าที่กำลังจุดธูปไหว้รูปสามีบนหิ้ง เพียงคำตอบที่แม่เฒ่าตอบว่าไม่เห็นก่อนปักธูปลงกระถาง เสียงสบถด้วยคำหยาบของลูกชายก็ดังสวนสนั่นบ้าน ครู่เดียวทั้งลูกสะใภ้กับลูกชาย ก็สลับปากจิกหัวด่าแม่กึกก้องประสานเสียงกับสายลมนอกบ้านก่อนที่ทั้งคู่จะขับรถไปโรงพักแจ้งจับแม่ลักทรัพย์<br />
<br />
ตำรวจพาแม่เฒ่าไปนั่งอยู่หน้าโต๊ะร้อยเวร แม่เฒ่าให้การไม่รู้ด้วยซื่อบริสุทธิ์ โดยไม่ตัดพ้อต่อว่าลูกชายแม้แต่คำเดียวกว่าชั่วโมงในห้องแอร์เย็นเฉียบ แต่ในอกในใจของร้อยเวรหนุ่มร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟนรกแผดเผา ที่ต้องวิงวอนสองผัวเมียให้เห็นบาปบุญคุณโทษ แต่สองผัวเมียกลับโยนภาระตอกย้ำให้ตำรวจอบรมแม่เฒ่า ก่อนที่จะสะบัดก้นกลับไปบ้าน โดยไม่ใส่ใจแม่เฒ่าที่เปียกฝนนั่งสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บ<br />
<br />
สายฝนยังสาดซัดกระหน่ำหนักเหมือนฟ้าแตก ตำรวจยศนายดาบขับรถร้อยเวรมาส่งแม่เฒ่าที่บ้าน บ้านซึ่งประตูเหล็กถูกปิดสนิท แม่เฒ่าลงจากรถเดินฝ่าฝนถึงหน้าบ้านแล้วแม่เฒ่าก็ตกใจสุดขีดกับภาพเบื้องหน้าที่พื้นหน้าบ้าน เสื้อผ้าเก่าๆ ยัดแน่นอยู่ในถุง ถูกโยนออกมากองเรี่ยราดเหมือนขยะ<br />
<br />
บนกองเสื้อผ้าของแม่เฒ่า กระถางธูปและรูปถ่ายของสามีแตกกระจายเกลื่อนกราด หยาดฝนสาดซัดรูปถ่ายขาวดำของสามีจนเปียกปอนขาดวิ่น แม่เฒ่าก้มลงหยิบรูปของสามีมากอดแนบอก น้ำตาแห่งความรันทดทะลักล้นปนน้ำฝน ปวดร้าวเหมือนถูกฟ้าผ่าเข้ากลางใจ แม่เฒ่ากอดรูปนั้นไว้เหมือนจะปกป้องจากสายฝนสุดชีวิต<br />
<br />
สองเท้าออกก้าวช้าๆ เหมือนร่างไร้วิญญาณเข้าตลาดไปหยุดนิ่งอยู่หน้าร้านขายทองของลูกชายคนโตเหมือนเป็นการบอกลา แล้วลัดเลาะฝ่าความมืดและสายฝนไปยืนอยู่หน้าบ้านลูกสาวคนเล็กเก็บภาพแห่งความรักความทรงจำสุดท้ายเป็นครู่ใหญ่ จึงเดินจากไปท่ามกลางเสียงกึกก้องของฟ้าร้องระงม สลับกับเสียงฟ้าผ่าแน่นหนักเป็นระยะ<br />
<br />
รถกระบะเก่าๆ คันนั้นวิ่งฝ่าสายฝนมาจอดสงบนิ่งอยู่หน้ากุฏิพระของสมภารเจ้าวัดตอนตีสามเศษๆ คนขับรถพบแม่เฒ่าเดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนนเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ด้วยใจเมตตา เมื่อแม่เฒ่าต้องการมาที่นี่ จึงขับรถมาส่งด้วยความสังเวช<br />
<br />
แม่เฒ่ามักคุ้นกับสมภารวัดนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์เก่ายังอยู่ นาทีสุดท้ายของการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต จึงไม่มีที่ไหนอบอุ่นให้พึ่งพิงเหมือนร่มเงาฉัตรแก้วกงธรรมแห่งรัตนทั้งสาม<br />
<br />
ฟ้าเริ่มขมุกขมัวใกล้ค่ำลงทุกขณะ ผมจำเป็นต้องบอกลาท่านสมภารและแม่เฒ่าเจ้าของเรื่องราวน่าสลด นับแต่นาทีแรกที่แม่เฒ่ามาถึงที่นี่จนวันนี้ แม่เฒ่าไม่เคยออกไปนอกวัดเหมือนๆกับที่ลูกทั้งสามคนก็ไม่เคยออกติดตามถามหา จะรู้หรือไม่ก็แล้วแต่ ว่าแม่ซมซานมาอยู่วัด แต่ก็ไม่เคยปรากฏแม้แต่เงาของสามลูกอกตัญญู<br />
<br />
* * * * *<br />
<br />
ผมจากลาออกมาทั้งที่น้ำตาเปื้อนหน้า ประโยคสุดท้ายของแม่เฒ่าที่ฝากมา...<br />
<br />
"แม่จำลูกได้ทุกอย่างตั้งแต่เกิดจนโต จะทุกข์จะสุขก็คือลูกของแม่ แม่ให้โดยไม่เคยวาดหวังจะได้จากลูกทุกคนเป็นการตอบแทน...<br />
<br />
ลูกเอ๋ย...เมื่อลูกยังเป็นทารกทุกครั้งที่แนบอกดูดดื่มน้ำนมจากเต้า สองมือน้อยๆของเจ้าไขว่คว้าอยู่ไหวๆ...<br />
<br />
วันนี้แม่สิ้นแรงแทบสิ้นใจ จะมีมือของลูกคนไหน เอื้อมมาปิดตาให้แม่ก่อนสิ้นลม..."<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/yu/z01510.jpg"></center><br />
วันนี้คุณทำอะไรให้เธอบ้าง? เธอหนาวไหม? หิวไหม? อยู่อย่างไร?...<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/c9/z02510.jpg"></center><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/hv/keeruen400.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น...</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: hondacrvclub.com</span><br />
<br />
เกิดอะไรขึ้น??? เมื่อคนใจร้ายใจดำเปี๊ยนไป๋...เอ่ยคำ "ขอโทษ" ต่อหน้า...............<br />
<br />
เรื่องมีอยู่ว่า พี่ชิตแกเป็นคนใจร้ายใจดำครับ ชอบยิงนกตกปลาไปเรื่อย แต่ที่หนักก็คงเป็นเนื้อหมา แกกินแหลกครับ แต่แม่แกบอกมันบาปนะลูก (ไม่สน)<br />
<br />
เมื่อราว 15 ปีก่อน มีเหตุการณ์ที่ทำให้แกเปลี่ยนไป...<br />
<br />
ครั้งนั้นมีหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งครับ มันมักวิ่งไปหาของกินแถวๆ บ้านแกบ่อย เพราะบ้านแกติดตลาด พี่แกกินหมาอยู่บ่อยๆ แต่กรณีหมาขี้เรื้อนแกบอก "กูกินไม่ลงว่ะ" แกทำอย่างเดียวคือไล่ฆ่า แต่มันรอดได้ทุกครั้ง มันไปหาของกินบางทีก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง<br />
<br />
คราวนั้น เนื้อแห้งที่แกตากไว้หายไป...พอมองไปก็เห็นแม่หมาขี้เรื้อนวิ่งหลุนๆไป แกเดือดทันทีครับวิ่งตามไป คราวนี้ทันครับ เพราะหมาขี้เรื้อนวิ่งช้ามาก แกทุบไปทีเดียวหมานั่นล้มลงชักทันที (แกบอกว่าหากตีตรงจุดแค่ไม้บรรทัดก็ตาย)<br />
<br />
แกทิ้งหมาขี้เรื้อนไว้ตรงนั้น...ไม่อยากจับแต่จะทำกินตรงนั้น จึงกลับบ้านไปเตรียมของ (แค้นจัดอยากกินหมาขี้เรื้อน) แกให้ผมเฝ้าไว้ (ยังเด็กอายุแค่ 12) ผมก็มัวแต่เก็บตะขบจนลืมดู (ในใจอยากให้มันรีบไปจะได้ไม่ตาย)<br />
<br />
มันไปจริงครับหายวับไป พี่ชิตแกโกรธมากคงอยากเตะผมเต็มแก่ แต่ลุงผมแกเป็นนักเลงใหญ่ และเป็นคนสอนวิธีฆ่าหมา ก็ต้องวิ่งตามอย่างเดียวพร้อมบ่น "ทำไมมันไม่ตายวะ"<br />
<br />
พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงหมาเห่า แกตามทันทีพอไปถึง ภาพที่เห็น หมาขี้เรื้อนกำลังจะตาย...มันมีลูกที่ต้องเลี้ยง 5 ตัวครับ วัยกำลังหย่านมบางตัวยังกินนมอยู่ บางตัวก็วิ่งไปคาบเนื้อที่แม่หมาขี้เรื้อนคาบไปฝาก (เห็นกับตา)<br />
<br />
ที่มันยังไม่ยอมตายเพราะต้องกลับไปให้นมลูก แม้น้ำนมแห้งกรัง เอาอาหารไปให้ลูก มันเรียกลูกๆเพื่อให้นม ให้อาหารเป็นครั้งสุดท้าย แม่หมาพยายามอย่างดีที่สุด มันมองผมกับพี่ชิตอย่างขอร้อง ขอให้มันให้นมลูกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย<br />
<br />
ไม่อยากเชื่อนั่นคือ น้ำตาของหมาขี้เรื้อน มันแค่ต้องการให้นมลูกก่อนตาย พี่ชิตไม้หล่นลงกับพื้น เดินเข้าไปดูแม่หมานั่น ในยามนั้นสิ่งที่แกเห็นไม่ใช่หมาขี้เรื้อน แต่แกเห็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ ที่ทนเจ็บกลับไปหาลูก แกไม่พูดอะไรทุกอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ สายตาอ่อนโยนลง<br />
<br />
ลูกหมาตัวหนึ่ง วิ่งไปหาแก กระดิกหางให้ แกอุ้มลูกหมาขึ้นพร้อมพูดว่า "ขอโทษ" พูดได้แค่นั้นแม่หมาก็ตาย<br />
<br />
เราช่วยกันฝังแม่หมา พี่ชิตรับเลี้ยงหมานั่นไว้ทั้ง 5 ตัว ตั้งแต่นั้นแกกลายเป็นคนใจดี ไม่ไล่ยิงนกยิงหมายิงแมวอีก แกบอก "มันอาจมีลูกรออยู่ก็ได้"<br />
<br />
วันแม่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แกเอามะลิร้อยเป็นพวงไปให้แม่ทั้งๆที่ไม่เคยทำ พูดกับแม่ว่า<br />
<br />
"ตอนผมอายุ 16 แม่สอนผมยังไงนะ…สอนอีกหนได้ไหมครับ"<br />
<br />
แม่แกน้ำตาคลอพูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อ แม่หมาขี้เรื้อนตายไป 1 ตัว กลับทำให้คนใจร้ายใจดำอย่างแกเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้...รักแม่...<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/as/5624430510.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/1l/pet510.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/vm/2010-07-15_510.jpg"></center><br />
<br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่... ศาสตร์เลี้ยงลูกให้ได้อย่างใจ... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> For...Friends&Friends <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/share/NDYyM3w4M2VhYTY3MjI3OThhNzczZGQ1NWU4ZmM3NDQzYWEwOXwzMDQ2Mg==" target="_blank"><img src="http://www.jackpresentation.com/Image/click.gif"></a><br />
<br />
E-Bookโหลดทั้ง2part แตกไฟล์คลิกขวาpart1 คลิกซ้ายExtract Here <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4ODJ8ODM4NmQ3ZGNmZTJmYjc2ZWI1ZjVlOTliOTNmOGRkMjN8MzA0NjI=" target="_blank">Part1</a> & <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4Nzl8YjYxYjVmY2M4NDQ0MGFjNDBlODFjYTE5NmQ5YjBiNmV8MzA0NjI=" target="_blank">Part2</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> เป็นพ่อเป็นแม่คน...เรื่องนี้ให้เก็บเอาไปคิดเป็นการบ้าน... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/hna-xan-hna-suksa-7" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตต้องสู้...Jimbo นักธุรกิจใหญ่ที่ชะตาผกผัน...มาเป็นคนขายปลาทู...สู่คนขับแท็กซี่...ลีมูซีน และอีกหลายๆๆ... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ลองอ่านๆดู ผมว่ามันฮามาก... ชีวิตท.ทหารเกณฑ์...รันทดยิ่งกว่านวนิยายน้ำเน่าอีกว่ะ!... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa0" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> โฉมฉาย อรุณฉาน...สาวสวยร้องเพลงไพเราะที่ผมขอเขียนถึงสักครั้ง <a href="http://redbkk.blogspot.com/2010/05/13.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> การเมืองเร่อะ...อย่า"อิน"ให้มากนัก เพลาๆกันไว้มั่ง <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/08/67.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ห้องนอนใครเหม็นอับมาทางนี้... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/khxkhid-di-di" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<center>กะลังมันส์!! รอหน่อยนะตะเอง...อิอิ<br />
<img src="http://upic.me/i/ar/pykn1r.gif"></center><br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-16847118321404080702012-07-19T21:06:00.001+07:002012-09-13T22:12:18.044+07:0020 สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/94.html" target="_blank">ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/95.html" target="_blank">"ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post.html" target="_blank">ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/61.html" target="_blank">ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/96.html" target="_blank">นกแก้วตัวนั้น?</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/62.html" target="_blank">มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<br />
เก็บหน้านี้ไว้ใน Favorites เพื่อสะดวกในการอ่านตอนต่อๆไป นะครับ<br />
<center><img src="http://upic.me/i/aa/samkok510.jpg"></center><br />
หมายเหตุ: ขอขอบคุณและขออนุญาตคุณ Jenovic นำข้อเขียนของท่านมาลงไว้เว็บนี้นะครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/v3/p12379505-3.jpg"></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/LDwhNtzZSdg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ตอน จูล่งคับข้องใจ</strong></span><br />
<br />
ในลานยุทธ์อันวางเปล่า มีขุนพลชราร่ายรำเพลงทวนอยู่เดียวดาย แม้กระบวนท่าดูหนักแน่น แต่จิตใจกลับเลื่อนลอยยิ่ง แววตาของมันคล้ายมีเรื่องหนักอึ้งเกาะกุมจิตใจ แม้ไม่ได้กล่าวออกมา แต่กลับแสดงออกด้วยเพลงทวน ที่แท้ขุนพลผู้นี้ เป็นยอดขุนแห่งจกก๊กพรรคเก่าแก่แห่งเสฉวน นามว่าจูล่ง<br />
<br />
ยามนั้นบังเกิดเสียงปรบมือชื่นชม พร้อมเสียงหัวเราะปลาบปลื้มให้ได้ยิน จูล่งจึงชะงักท่าร่าง หันไปเหลือบแลผู้มาเยือน จึงทราบว่าเป็นขงเบ้ง ที่ยืนแย้มยิ้มมองดูตน<br />
<br />
"ที่แท้ ท่านอาจารย์ขงเบ้ง มาเยี่ยม ไม่ทราบท่านมาเมื่อใด ข้าพเจ้าไม่ทันได้ตอนรับ ต้องขออภัยแล้ว ..ท่านอาจารย์เชิญนั่ง"<br />
<br />
ขงเบ้งหัวเราะอย่างกันเอง ในความใจลอยของ แม่ทัพจู ก่อนจะเชื้อเชิญให้มานั่งร่วมกัน ชั่วครู่ ขงเบ้งจึงเริ่มเอ่ยขึ้นว่า<br />
<br />
"เมื่อเช้า เราประชุมผู้นำจกก๊กแทนเล่าปี เห็นท่านมีความในใจ เพียงแต่ไม่กล่าวออกมา หรือท่านมีความไม่สบายใจ ที่เล่าปีแต่งตั้งให้อาเต๊าเป็นผู้สืบทอด ปกครองจกก๊ก"<br />
<br />
จู่ลง ชะงักงันเล็กน้อย นับว่าไม่มีสิ่งใดปิดบังขงเบ้งผู้นี้ได้จริงๆ พลางทอดถอนใจ จำต้องเอ่ยว่า<br />
<br />
"เซินเซียง(มหาอุปราช) กล่าวถูกต้องแล้ว ข้าพเจ้ามีความไม่สบายใจนัก ในการศึกข้างหน้าใหญ่หลวง วุยก๊กเต็มไปด้วยผู้มีความสามารถ 111ขุนพลของมันมิอาจดูแคลนได้ แม้ว่าอาเต๊าจะขึ้นเป็นผู้นำโดยชอบ แต่ความสามารถนั้นข้าพเจ้าเกรงว่า......"<br />
<br />
ขงเบ้งลูบเคราหัวเราะ ในความวิตกกังวลเกินเหตุของจูล่ง กล่าวตัดบทว่า<br />
<br />
"ท่านออกจะดูแคลน อาเต๊ามากไป เด็กคนนี้ดูไปมีแววฉลาดเฉลียว ภายภาคหน้าต้องเป็นผู้นำที่ดีได้คนหนึ่ง"<br />
<br />
จูล่งกล่าวแย้งว่า "เซินเซียง ท่านอย่าได้ดูแต่ภายนอก...." กล่าวถึงตอนนี้นับว่าพลั้งปาก พลันหยุดชะงักลง สร้างความประหลาดใจให้กับขงเบ้งยิ่ง คล้ายดังจูล่งมีอันใดปิดบังไม่ได้บอกกล่าวตน พลางใช้สายตาจับจ้อง รอคอยคำอธิบาย<br />
<br />
จู่ลงอึดอัดใจยิ่ง แต่เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงไม่มีทางอื่นนอกจากบอกความจริง พลางเริ่มกล่าวว่า<br />
<br />
"เมื่อครั้งเล่าปี พ่ายแพ้การศึกประชานิยมต่อโจโฉ อาเต๊ายังแบเบาะ ตกอยู่ในวงล้อม ข้าพเจ้าเสี่ยงชีวิตไปช่วยเหลือออกมา ครานั้นคิดว่าอาเต๊าปลอดภัยไร้ตำหนิ ที่ไหนได้ เกรงว่าได้รับความหวาดกลัวต่อโจโฉฝังใจ จนเป็นความผิดปกติทางสมอง"<br />
<br />
เรื่องนี้นับว่า สร้างความประหลาดใจให้ขงเบ้งยิ่ง กล่าวถามอย่างตั้งใจ ว่า<br />
<br />
"ผิดปกติ ผิดปกติอย่างไร"<br />
<br />
จูล่งอธิบายว่า<br />
<br />
"หากดูภายนอก อาเต๊าก็เหมือนคนทั่วไป อีกทั้งยังดูเฉลียวฉลาดช่างพูดช่างเจรจา แต่หากอยู่คนเดียวแล้วมักแสดงพฤติกรรมแปลกประหลาด บ้างบางทีก็พร่ำด่าโจโฉอยู่คนเดียว บางครา ก็เขียนกลศึกประชานิยมไว้ตรงบันไดแล้วเดินเหยียบย่ำ จากนั้นก็หัวเราะเย้ยหยัน หรือบ้างบางครั้งก็นำถุงยางมาสวมหัว...."<br />
<br />
ขงเบ้งฟังถึงตอนนี้พลันถามแทรกว่า "แล้วถุงยางใช้แล้วหรือไม่"<br />
<br />
จูล่งสะดุดเล็กน้อย ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดใจว่า<br />
<br />
"คือ ..จะใช้แล้วหรือไม่ได้ใช้มันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ไม่มีใครผู้ใดกระทำกัน เซินเซียงท่านเข้าใจข้าพเจ้าหรือไม่"<br />
<br />
ขงเบ้ง ร้อง ฮ่อ ฮ่อ พยักหน้ารับ ผายมือเป็นเชิงให้เล่าสืบต่อ<br />
<br />
"ต่อมาข้าพเจ้าพบว่า อาเต๊ายิ่งโตขึ้น ยิ่งมีพฤติกรรมสะท้อนให้แลเห็นภายนอก วันๆเอาแต่ขลุกอยู่กับขันทีแก๊งไอติม ..ท่านว่าชายชาติทหารอกสามศอก ยามจับจอกสุราต้องปฏิบัติเยี่ยงไร"<br />
<br />
ขงเบ้งตอบว่า<br />
<br />
"ชายอกสามศอก ยามยกจอกสุราต้องหนักแน่น นิ้วทั้งห้าต้องประคองจอกสุราอย่างมั่นคง ประดุจกรงเล็บมังกรเกาะกุมไข่มุก"<br />
<br />
จู่ลงกล่าวว่า<br />
<br />
"มิผิด แต่หากนิ้วก้อยมันเด่ขึ้นมาเล่า"<br />
<br />
ขงเบ้งพลันหัวเราะ กล่าวว่า<br />
<br />
"ท่านกล่าวกระไร ผู้ที่ยกจอกสุรา แล้วนิยมให้นิ้วก้อยเด่ออกมา ย่อมมีแต่อิสตรี..." <span style="color: #ff9900;"><i>อันที่จริง เราเองก็เริ่มสงสัยตั้งแต่ท่าร่างในการประลองลูกหนังยุทธจักรครานั้นแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อมโยงกับนิ้วก้อยเด่เพียงใด</i></span><br />
<br />
กล่าวถึงตอนนี้พลันฉุกคิดได้ โพล่งอย่างแตกตื่นว่า "หรืออาเต๊ามันเป็นแต๋ว" <span style="color: #ff9900;"><i>อิอิ.. หรืออาเต๊ามันเป็นบัณเฑาะก์</i></span><br />
<br />
จู่ลงพยักหน้ารับอย่างแช่มช้าแทนคำตอบ<br />
<br />
ขงเบ้ง แทบทรุดไหลลงจากเก้าอี้ เรื่องนี้นับว่า ร้ายแรงยิ่ง พลันเงียบงันไปเนิ่นนาน ก่อนกล่าวว่า<br />
<br />
"เรื่องนี้ ไม่ทราบว่า ท่านเล่าปี่ ได้รับรายงานแล้วหรือไม่"<br />
<br />
"ข้าพเจ้าไม่เคยรายงานขึ้นไป ย่อมไม่ได้รับรายงานเป็นแน่แท้"<br />
<br />
ขงเบ้งจึงว่า<br />
<br />
"เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ทางที่ดีท่านอย่าเพิ่งบอกกล่าวให้ผู้ใดทราบแม้แต่ท่านเล่าปีเอง เพราะอาจไม่เป็นผลดี เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้ว เล่าปี่ถึงจะได้รับรายงาน หรือไม่ได้รับรายงาน ก็คงต้องให้อาเต๊าเป็นผู้นำอยู่ดี เนื่องเพราะเป็นผู้สืบสายโดยตรง หากท่านขัดขวางเกรงว่าจะเกิดการแตกแยกในจกก๊ก ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายเรา ส่วนอาเต๊านั้นจะดีจะชั่ว เราก็ต้องประคับประคองไป จะอย่างไรก็คงต้องพึ่งแม่ทัพจูให้เป็นเสาหลักค้ำจุนอย่าได้ทอดทิ้งจกก๊ก หวังว่าท่านคงเห็นตามนี้"<br />
<br />
จูล่งสะท้อนใจเล็กน้อย ใจจริงอยากจะกลับบ้านเดิม ที่เขาบรรทัดฐานในเสียงสาน ใช้ชีวิตบั้นปลายทำไร่ไถ่นา แต่เมื่อขงเบ้งเอ่ยปากเช่นนี้ ก็ไม่อาจละเลยไปได้ จึงตกปากรับคำ ครุ่นคิดอยู่ในใจ...<br />
<br />
"จกก๊กเรา ต่อจากนี้ จะเป็นอย่างไรก็คงแล้วแต่สวรรค์แล้ว..."<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/videoseries?list=PLD39D720443BF7E7E&hl=th_TH" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ตอน ขงเบ้งขวางปรองดอง</strong></span><br />
<br />
เมื่อแผ่นดินแบ่งแยกออกเป็นสามก๊ก ศึกสงครามก็ยังไม่ได้ลดหย่อนลงไป ขงเบ้งยังเฝ้ารุกรานวุยก๊กอยู่เป็นเนืองนิตย์ พยายามจะตีฝ่าเข้าทางเขากิสานเสียหลายครั้งโดยมีง้อก๊กให้การสนับสนุน หากแต่ทหารธงแดงของวุยก๊กยังแข็งแกร่งสามารถต้านทานไว้ได้ เมื่อเนินนานไป ภัยจากสงครามส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อาณาประชาราชต่างเดือดร้อนกันถ้วนทั่ว หาความสุขมิได้<br />
<br />
เดือนร้อนถึงนักปราชญ์ราชบัณฑิต ต้องคิดหาทางสงบศึกลงเป็นการชั่วคราวเพื่อให้ประชาราชได้มีเวลาว่างเว้นจากภัยสงคราม นักปราชญ์ทั้งหลายจึงร่วมตัวเดินทางไปตามก๊กต่างๆ เพื่อเกลี่ยกล่อมให้เหล่าผู้นำของแต่ละก๊ก ได้เห็นพ้องในการสงบศึก เพื่อประโยชน์ของประชาชน<br />
<br />
ในที่นี้วุยก๊ก และง้อก๊ก ต่างเจรจาได้โดยง่าย เนื่องเพราะเห็นความทุกข์ยากของชาวประชาเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าวุยก๊กยังจดจำความแค้นเมื่อครั้งศึกผ่าแดงที่ต้องเสียไพร่พลไปจำนวนมาก แต่เหตุผลของนักปราชญ์เหล่านั้นก็อยากจะโต้แย้ง จำต้องกล้ำกลืนเลือดรับปากว่าจะสงบศึก ส่วนง้อก๊กไม่มีปัญหาแต่อย่างใด หากแต่มีข้อแม้ว่า วุยก๊กจะต้องไม่รื้อฟื้น เหตุการณ์ 19 เดือน 9 ที่ง้อก๊กตลบหลังโจโฉ บุกยึดไปถึงฮูโต๋ราชธานี<br />
<br />
คงมีแต่จกก๊ก ที่ไม่ยอมสงบศึก โดยให้เหตุผลว่า "ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกับโจโฉ" เหล่านักปราชญ์ ต้องพากันงุนงง เนื่องเพราะตอนนี้ผู้นำวุยก๊กคือโจยอย นับเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว แต่จกก๊กยังคงวนเวียนอยู่กับโจโฉไม่ว่างเว้น นับว่าถูกผีโจโฉตามหลอกตามหลอนจริงๆ<br />
<br />
เมื่อจนใจจะเกลี้ยกล่อม ก็ได้แต่ขอลา นำข่าวมารายงานให้หัวหน้านักปราชญ์นามซือหม่าเต็กโช ให้ทราบไว้ เพื่อหาวิธีแก้ไขต่อไป<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโช เมื่อได้รับทราบ ก็ตกอยู่ในพะวังครุ่นคิด ชั่วก้านธูปหมดไป จึงเอ่ยขึ้นว่า<br />
<br />
"หากจกก๊ก ไม่ปรารถนาจะปรองดอง ก็ไม่อาจไปบังคับข่มขืนจิตใจ ขอเพียงแต่เราสามารถให้วุยก๊กปรองดองกับง้อก๊กได้เท่านี้ก็เพียงพอ เพราะถ้าทำได้ดังนี้ จกก๊กที่โดดเดี่ยวเหลือก๊กเดียว ก็ไม่อาจหาญกล้าทำสงครามกับวุยก๊กอีก สันติสุขจะเกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว"<br />
<br />
บรรดาลูกศิษย์ได้ฟังก็เกิดความสว่างในปัญญา กล่าวชื่นชมว่า<br />
<br />
"แม้ชาวประชาบางคน มักกล่าวว่า อาจารย์ซือหม่าพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่แก่นแท้ของปัญญาแล้ว สมกับที่ได้รับฉายาโซ่ข้อกลางโดยแท้ ข้าพเจ้าจะน้อมไปปฏิบัติ"<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโช โบกมือให้มันรีบไป เกรงว่าหากมันรั้งอยู่เนินนานกว่านี้ คำกล่าวชมของมันอาจเป็นที่แสลงใจตนเองได้ บรรดานักปราชญ์จึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ โดยส่วนหนึ่งไปเกลี่ยกล่อมโจยอยแห่งวุยก๊ก ส่วนง้อก๊ก ซือหม่าเต็กโช ไปด้วยตนเอง เนื่องเพราะ ง้อก๊กไถ่ มารดาของซุนกวน ที่อยู่ยังตำหนักสี่เสาค้ำฟ้า มีความสนิทชิดเชื้อกันอยู่มาก หากสามารถเกลี่ยกล่อมง้อก๊กไถ้ได้ ตัวซุนกวนเองที่คุมกองทัพอยู่ก็ย่อมไม่เป็นปัญหาแต่ประการใด<br />
<br />
เมื่อไปถึงง้อก๊ก ซือหม่าเต็กโช ทราบว่า ง้อก๊กไถ้ยังไม่ทิ้งนิสัยกรุ่มกริ่ม หากคิดจะเจรจาให้ราบรื่นคงต้องมีของกำนัลติดมือไปเสียเล็กน้อย ดังนั้นไปซื้อเกี้ยวหลังหนึ่ง พร้อมคัดจ้างชายฉกรรจ์อย่างประณีต 4 คนมาหามเกี้ยว แต่ละคนหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างกำยำล่ำสัน จากนั้นให้คนหามเกี้ยวทั้ง 4 นำเกี้ยวไปส่งที่ตำหนักสี่เสาค้ำฟ้า กล่าวกำชับว่าเมื่อส่งเกี้ยวเสร็จแล้วให้รีบกลับมาอย่าได้รั้งอยู่แม้เพียงชั่วยาม<br />
<br />
คนทั้ง 4 รับคำ จากนั้นจึงไปส่งเกี้ยวยังตำหนักสี่เสาค้ำฟ้า แจ้งต่อนายประตูว่า ซือหม่าเต็กโช น้อมมอบของกำนัลต่อง้อก๊กไถ้ เมื่อง้อก๊กไถ้ได้เห็นของกำนัล ตาพลันเกิดเป็นประกาย รู้สึกกระชุมกระชวยขึ้นอักโข อันที่จริงตัวเกี้ยวนั้นไม่มีอันใดพิเศษ หากแต่คนหามเกี้ยวทั้ง 4 นั้นน่ารับประทานยิ่ง แต่แล้วต้องผิดหวัง เมื่อคนทั้งสี่ส่งเกี้ยวเสร็จ ก็ขอลากลับไปหาซือหม่าเต็กโช โดยอ้างว่าผู้เป็นนายให้ทำหน้าที่เพียงเท่านี้ แม้ง้อก๊กไถ้จะเลี้ยงน้ำชา คนทั้ง 4 ก็ไม่อยู่รับประทานสักครึ่งคำ ง้อก๊กไถ้รู้สึกคั่งค้างจิตใจยิ่ง จึงรีบส่งคนไปเชิญซือหม่าเต็กโชมาเข้าพบ โดยให้นำเกี้ยวที่ซือหม่าเต็กโชมอบให้มานี้นำกลับไปรับ แต่กำชับว่าให้คนห้ามเกี้ยวทั้ง 4 ของซือหม่าเต็กโช เป็นผู้หามกลับมา<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโช พอเห็นหัวร่อ กล่าวว่า<br />
<br />
"ง้อก๊กไถ้ ต้องอุบายเราแล้ว นี่เรียกว่าล่อให้อยากแล้วจากมา"<br />
<br />
จากนั้นก็ขึ้นเกี้ยวให้คนหามทั้ง 4 หามไปยังตำหนักสี่เสาคำฟ้า<br />
<br />
ง้อก๊กไถ้เมื่อทราบว่า ซือหม่าเต็กโชมาถึงก็ให้การต้อนรับอย่างดี โดยเฉพาะคนหามเกี้ยว พลางกล่าวถามซือหม่าเต็กโชว่า<br />
<br />
"ลมอันใดหอบท่านมาถึงนี่"<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโชกล่าวว่า<br />
<br />
"ลมร้อน ลมสงครามหอบข้าพเจ้ามา"<br />
<br />
ง้อก๊กไถ้หัวร่อ แล้วจึงว่า<br />
<br />
"ลมร้อน ลมสงครามพัดไปทุกที เหตุไฉนจึงพัดท่านมาที่นี่ได้เล่า"<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโช ตอบว่า<br />
<br />
"เพราะที่นี่มีผู้ดับลมร้อน ลมสงครามลงได้ ข้าพเจ้าถึงได้มา"<br />
<br />
ง้อก๊กไถ้เลิกคิ้วอย่างสงสัย กล่าวถามว่า "ท่านหมายถึงผู้ใด"<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโชกล่าวว่า<br />
<br />
"ยามนี้ทอดตาทั่วแผ่นดิน ตอนนี้เห็นมีเพียงท่านเท่านั้น"<br />
<br />
ง้อก๊กไถ้ สีหน้าเคร่งเครียดลง มิได้ตอบคำ เหลือบแลดูคนหามเกี้ยวทั้ง 4 ให้นึกเสียดาย หากไม่ฟังคำมันยามนี้เห็นทีมันต้องพากลับไปเป็นแน่แท้ ดังนั้นผายมือเชื้อเชิญ ให้ไปพูดคุยเป็นการภายใน ทั้งยังให้คนไปเรียกโลซกมาเป็นที่ปรึกษา<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโชใช้เวลาเนินนานกว่าจะสามารถกล่อม ง้อก๊กไถ้ได้ โลซกเองก็ให้การสนับสนุน ทั้งยังอาสาจะเป็นผู้ร่างหนังสือสัญญา และกำหนดวันนัดหมายเอง ซือหม่าเต็กโชปิติยินดียิ่ง จึงขอลาง้อก๊กไถ้ไปแจ้งข่าวให้ทางวุยก๊กได้ทราบ<br />
<br />
ขณะเดียวกัน ทางจกก๊กก็ทราบข่าวการไปง้อก๊กของซือหม่าเต็กโช เพื่อเป็นคนกลางสงบศึก ขงเบ้งเดือดเนื้อร้อนใจยิ่ง เพราะถ้าหากวุยก๊กกับง้อก๊ก สามารถปรองดองกันได้ จกก๊กก็จะขาดพลังสนับสนุนในการกำจัดโจโฉและกองทัพธงแดงของวุยก๊ก จึงให้ม้าเจ็กแต่งหนังสือนำไปให้ง้อก๊กไถ้ มีใจความว่า<br />
<br />
ด้วยซือหม่าเต็กโช มาเกลี่ยกล่อมให้ท่านปรองดองกับวุยก๊กนั้น เป็นกลลวง เนื่องจากซือหม่าเต็กโช ถูกโจโฉซื้อตัวไปแล้ว หากง้อก๊กลงกลปรองดองเมื่อใด วุยก๊กจะฉวยโอกาส ริบรอนอำนาจง้อก๊ก เข้ากุมกำลังทางทหารจนหมดสิ้น พร้อมทั้งแต่งจดหมายเท็จขึ้นมาอีกหนึ่งฉบับ เป็นข้อความโจโฉติดต่อกับซือหม่าเต็กโช มีใจความมุ่งทำลายง้อก๊ก<br />
<br />
ง้อก๊กไถ้เมื่อได้อ่าน พร้อมเห็นหลักฐานกระดาษหนึ่งแผ่นของขงเบ้งก็หลงเชื่อ พลันอุทานดังใจหาย กล่าวกับม้าเจ็กว่า<br />
<br />
"เห็นทีคราวนี้ ง้อก๊กต้องย่ำแย่แล้ว โลซกมีความตั้งใจสงบศึกหมายล้างบาป ศึก 19 เดือน 9 ตอนนี้ได้ยกทัพเจรจาออกจากกังตั๋งไปแล้ว เกรงว่าหากมีหนังสือไปตามทัพตอนนี้ โลซกอาจไม่เชื่อฟัง"<br />
<br />
ม้าเจ็กแย้มยิ้มกล่าวว่า<br />
<br />
"เรื่องนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าพเจ้าได้เตรียมการกับท่านขงเบ้งไว้แล้ว ขอเพียงท่านรับปากไม่เอนเอียงไปยังวุยก๊ก แผนการปรองดองครั้งนี้ของวุยก๊กก็ยากจะประสบผลสำเร็จ"<br />
<br />
ง้อก๊กไถ้ พลันเขียนหนังสือตอบกลับขงเบ้ง ให้ม้าเจ็กนำไปให้ ยืนยันว่า จะไม่ปรองดองกับวุยก๊กในครั้งนี้ ขงเบ้งเมื่อได้รับหนังสือก็ปีติยินดียิ่ง เร่งรุดนำทัพไปยังที่นัดหมายเจรจา<br />
<br />
ในวันนัดหมายเจรจาสงบศึก ที่ศาลาสิบลี้ ทั้งสองทัพวุยก๊กและง้อก๊ก ต่างมากันพร้อมพรรค โดยมีคณะปราชญ์ราชบัณฑิตเป็นสักขีพยาน โดยมีซือหม่าเต็กโชเป็นประธาน ง้อก๊กแสดงความมีไมตรีเป็นเริ่มต้น โดยส่งแม่ทัพโลซก กุนซือผู้วางแผนตลบหลังโจโฉยึดฮูโต๋ ในเหตุการณ์ 19 เดือน 9 ขึ้นกล่าวขอขมาต่อวุยก๊ก เพื่อแสดงความจริงใจ และได้นำเสนอ สัญญาสงบศึกขึ้นหนึ่งฉบับ<br />
<br />
ไม่ทันที่จะยืนส่งต่อ ซือหม่าเต็กโช ทหารนายหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมารายงานว่า พบกองทัพธงเหลืองของม้าเจ็กกำลังโอบล้อมที่นี่ ผู้คนยังไม่ทันหายแตกตื่นสงสัย ทหารอีกนายก็วิ่งเข้ามารายงานว่า ขงเบ้งแห่งจกก๊กยกทัพมาขอเข้าเสวนาเจรจาในครั้งนี้ด้วย<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโช ครุ่นคิดได้ในบัดดล การนี้ขงเบ้งย่อมไม่ได้มาดี ต้องมีแผนเป็นแน่แท้ แต่หากปฏิเสธไม่เชื้อเชิญเข้ามา ย่อมเป็นที่ครหาได้ ดังนั้นสั่งให้เชิญเข้ามา<br />
<br />
ขงเบ้งเมื่อมาถึงพลันร้องทัดทานโลซกว่า<br />
<br />
"ช้าก่อน อย่าเพิ่งยื่น"<br />
<br />
จากนั้นรีบลงจากหลังม้า ไปฉุดโลซกไว้ กล่าวตำหนิว่า<br />
<br />
"ท่านเองเคยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งง้อก๊ก เคยออกอุบายทำลายโจโฉ ในศึก 19 เดือน 9 นับเป็นวีรชนผู้หนึ่ง ไฉนวันนี้ จึงคิดเป็นไมตรีกับวุยก๊กเสียเล่า"<br />
<br />
โลซกจึงว่า<br />
<br />
"ครั้งนั้นเราทำผิดมหันต์ ศึก 19 เดือน 9 มิได้ทำให้สงครามจบลงโดยเร็วอย่างที่คาดคิด กลับเป็นตัวทำให้สงครามยืดเยื้อจนบัดนี้ยังหาที่สิ้นสุดมิได้ ดังนั้นจึงคิดแก้ไข ทำสิ่งที่ควรเพื่ออาณาประชาราช"<br />
<br />
"เฮอะ.. ท่านกล่าวได้สะดวกดายยิ่ง คิดหรือจะมีผู้คนเชื่อถือ"<br />
<br />
โลซกแย้งด้วยโทสะว่า<br />
<br />
"ผู้คนเชื่อถือหรือไม่ นั้นไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นเกิดประโยชน์มากน้อยเพียงใด"<br />
<br />
กล่าวจบพลันผลักขงเบ้งให้หลีกทาง ขงเบ้งเห็นโลซกไม่ฟังคำ จึงชูกระดาษหนึ่งแผ่น สั่งขุนพลฝ่ายตนว่า<br />
<br />
"ด้วยง้อก๊กไถ้ มีคำสั่ง หากโลซกไม่ฟังคำทัดทาน ให้จับประหารได้ทันที"<br />
<br />
สิ้นเสียงขงเบ้ง โลซกถึงกับชะงักงัน บรรดาขุนพลจกก๊ก กรูเข้าจับตัวโลซกในบัดดล ส่วนทหารที่มากับโลซก ก็ไม่กล้าช่วยเหลือเพราะ ข้งเบ้งอ้างคำสั่ง ง้อก๊กไถ้ ยามนั้น เตงงายขุนพลธงแดง เห็นเป็นที่ผิดปกติ ด้วยโลซกเป็นขุนพลเก่าแก่คู่บารมีง้อก๊กไถ้มาช้านาน เคยห้ำหั่นกันเสียหลายหน ต่อให้ทำผิดเยี่ยงไร ง้อก๊กไถ้ย่อมไม่อาจมีคำสั่งประหารทันทีเป็นแน่<br />
<br />
ดังนั้นรีบลุกขึ้นทัดทานว่า<br />
<br />
"ช้าก่อน คำสั่งง้อก๊กไถ้ ในกระดาษบนมือท่าน ให้พวกเราได้อ่านกันได้หรือไม่"<br />
<br />
ขงเบ้งสะดุดเล็กน้อย เหลือบตาดูผู้กล่าว เห็นเป็นอ้ายเตงงาย ขุนพลธงแดงของวุยก๊ก ก็แค่นหัวร่อ กล่าวว่า<br />
<br />
"นึกว่าผู้ใดยื่นมือช่วยเหลือโลซก ที่แท้ก็อ้ายเตงงาย คนเผาบ้านเผาเมือง"<br />
<br />
เตงงายกลับมิได้โกรธเคือง แย้มยิ้มอย่างใจเย็น กล่าวทั้งหัวร่อว่า<br />
<br />
"ขงเบ้งเอ๋ย ขงเบ้ง ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือน ท่านใช้วาทะกรรมเผาบ้านเผาเมืองโจมตีเรามาช้านาน จนบัดนี้หาคนเชื่อท่านได้หรือไม่ ในศึกเขากิสาน ครั้งก่อน ท่านก็ใช้วาทะกรรมนี้ โจมตีเรากับวุยก๊ก ทั้งยังท้าท้ายว่า หากพวกวุยก๊กได้ชัยชนะ ท่านจะยอมมุดลงรู ยกบ้านเมืองให้พวกเผาบ้านเผาเมืองไป แต่สุดท้ายท่านก็พ่ายแพ้ยับเยิน กับคำกล่าวที่ว่า จะยอมมุดลงรู จนบัดนี้ยังหารูลงไม่ได้อีกหรือ"<br />
<br />
ขงเบ้ง ฟังเตงงาย ยอกย้อนจนหนวดคิ้วกระตุก ยามกะทันหันยังหาคำโต้แย้งมิได้ เตียวยอดเห็นดังนั้นรีบเบี่ยงเบนว่า<br />
<br />
"เฮอะ..ท่านขงเบ้ง เป็นถึงมหาอุปราชของจกก๊ก อย่าได้ไปเสวนากับอ้ายคนชั้นต่ำ อย่างเตงงายเลย คนผู้นี้เมื่อครั้งศึก 19 เดือน 9 จงเกลียดจงชัง โลซกเป็นอย่างยิ่ง แต่บัดนี้กลับยืนมือเขาช่วยเหลือ คงมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับโลซกเป็นแน่ ถึงกับยอมเนรคุณกองทัพธงแดงของตนเอง"<br />
<br />
เตงงายได้ฟังก็หัวร่อ กล่าวว่า<br />
<br />
"อ้ายนี้หรือ คือ เตียวยอด ผู้เคยติดคณะงิ้ว ไปแสดงเรื่อง คณิกา 5 บาป กับคำกล่าวหาที่ว่า เรามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับโลซก จนยอมเนรคุณกองทัพธงแดง กล่าวไปก็ไร้น้ำหนัก ไม่ต่างจากกระดาษแผ่นเดียวในมือของขงเบ้ง การที่เราทัดทานช่วยเหลือโลซก เพราะเห็นแก่คุณธรรม คนทำผิดแล้วคิดแก้ไขล้วนน่าชื่นชม แต่กับคนที่ทำผิดแล้วไม่คิดแก้ไข ทั้งยังทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อให้ไปบีบน้ำตาร่ำไห้เพียงใดก็ไร้ผู้คนเหลียวแล เฮอะ...หากจะกล่าวถึงความเนรคุณนั้น พวกท่านต่างหากที่ชัดแจ้ง โลซกผู้นี้ เมื่อครั้งออกอุบายศึก 19 เดือน 9 ก็นำพาเล่าปี ไปเป็นพันธมิตรกับซุนกวน บุกทำลายวุยก๊กเราจนย่อยยับ จากนั้นเล่าปีจึงยึดได้เกงจิ๋ว และเสฉวน สามารถตั้งเป็นจกก๊กได้ทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่โลซกผู้นี้หรอกหรือ ............เอ๊า...ไหว้พี่เขาเสียสิ"<br />
<br />
เตียวยอดถึงกับอ้าปากไม่ออก ขยับกรามมิได้ รู้สึกเจ็บแค้นใจยิ่ง ขงเบ้งเห็นว่าหากยังถกเถียงต่อไปจะเป็นที่เพลี่ยงพล้ำ ดังนั้นยังยืนกรานคำสั่งให้จับโลซกประหาร โลซกนึกสงสัยใจตามเตงงาย ขอดูคำสั่งประหารตนของง้อก๊กไถ้ในมือขงเบ้ง ขงเบ้งมิยินยอมให้ดู ซุกเก็บไว้ในอกเสื้อ<br />
<br />
โลซกจึงทราบได้ว่า ขงเบ้งแอบอ้างคำสั่งประหารตน ดังนั้นมิฟังคำอีก ดึงดันจะยื่นสัญญาสงบศึกให้จงได้ แม่ทัพจกก๊กจึงเข้ารายล้อมโลซกไว้ สร้างความไม่พอใจให้กับแม่ทัพฝ่ายวุยก๊ก กับเหล่านักปราชญ์ราชบัณฑิตอย่างยิ่ง<br />
<br />
พลันบังเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น แม่ทัพวุยก๊ก ตรงเข้าไปช่วยโลซกออกจากวงล้อม บรรดาแม่ทัพจกก๊กก็มิพอใจ จะตามไปแย่งตัวกลับมา จนเกิดการกระทบกระทั้งกัน จูกัดเก๋อน้องชายขงเบ้งตรงเข้าไปบีบคอ เตียวเจ ฝ่ายวุยก๊ก เตียวคับขุนพลจอมถีบต้องไปช่วยเอาตัวออกมา<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโชเห็นเป็นที่วุ่นวายเหลือคณานับ ต้องลุกจากเก้าอี้นำคณะนักปราชญ์ไปห้ามปราม ทั้ง 2 ฝ่ายนับว่ายังเกรงใจนักปราชญ์อยู่มาก เพราะหากพลั้งมือทำร้ายนักปราชญ์ประชาชนย่อมไม่พอใจ ดังนั้นจึงยอมแยกออกจากกัน<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโชเหนื่อยหอบมองด้วยสายตาตำหนิไปยังทั้งสองฝ่าย คล้ายดังบอกว่า ต่อหน้านักปราชญ์ราชบัณฑิต พวกท่านยังกล้ากระทำตนเยี่ยงนี้ แล้วประชาชนผู้ใดจะเคารพรักศรัทธา<br />
<br />
ทันใดนั้นมีผู้หนึ่งผุดร้องขึ้นว่า<br />
<br />
"กรราบเรีรรยนท่าน ซือหม่า ที่เคารพ มีผู้แอบดูภาพปลุกกำหนัด"<br />
<br />
ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก ซือหม่าเต็กโช ถึงกับวุ่นวายในหัวสมอง ร้องสั่งว่า<br />
<br />
"มันผู้ใดช่างราคะ ไม่รู้จักกาลเทศะ ให้ลากมันออกไป"<br />
<br />
สิ้นเสียงคำสั่ง บรรดาแม่ทัพจกก๊ก มีสีหน้าเย้ยหยัน จับกลุ่มวิจารณ์ว่า<br />
<br />
"เรื่องต่ำช้าเช่นนี้ เห็นทีมีแต่แม่ทัพวุยก๊กเท่านั้นที่กล้ากระทำ"<br />
<br />
ไหนเลยคาดคิด ผู้ที่ผุดร้อง ชี้นิ้วไปยังบุตรชายของจูล่ง วีรบุรุษแห่งยอดเขาบรรทัด จูล่งหน้าหดเหลือ 2 นิ้ว นึกละอายใจยิ่งนัก สบถ ด่าในใจว่า "อ้ายเด็กเวร ราคะไม่เลือกที่"<br />
<br />
ขณะนั้นซือหม่าเต็กโชจะกลับไปนั่งที่ เพื่อสงบสติอารมณ์ ไม่คาดว่าเก้าอี้กลับหายไปอีก ครั้งนี้อารมณ์พลันระเบิดประทุ ร้องถามลั่นว่า<br />
<br />
"ใครขโมยเก้าอี้ กูกกกก"<br />
<br />
มีผู้ผุดร้องขึ้นอีกว่า<br />
<br />
"กราาบเรีรรยน ท่านซือหม่าที่เคารพ แม่นางจกหยงของจกก๊ก ลากเก้าอี้ท่านไปโน้นแล้ว"<br />
<br />
ซือหม่าเต็กโชถึงกับหลุดอุทานอย่างหัวเสีย<br />
<br />
"อุบ๊ะ _ _ ลาก" <span style="color: #ff9900;"><i>ปล. ตรงที่ขีดละไว้ให้เติมเองครับ</i></span><br />
<br />
การปรองดองครั้งนี้จึงล้มเหลวไม่เป็นท่า ท่านซือหม่าจึงเลิกการเจรจา เพราะไร้เก้าอี้นั่ง แผนการของขงเบ้ง จึงสัมฤทธิ์ผลในการขวางการปรองดอง<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/videoseries?list=PL2D457B61D8A2F506&hl=th_TH" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่... ศาสตร์เลี้ยงลูกให้ได้อย่างใจ... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> For...Friends&Friends <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/share/NDYyM3w4M2VhYTY3MjI3OThhNzczZGQ1NWU4ZmM3NDQzYWEwOXwzMDQ2Mg==" target="_blank"><img src="http://www.jackpresentation.com/Image/click.gif"></a><br />
<br />
E-Bookโหลดทั้ง2part แตกไฟล์คลิกขวาpart1 คลิกซ้ายExtract Here <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4ODJ8ODM4NmQ3ZGNmZTJmYjc2ZWI1ZjVlOTliOTNmOGRkMjN8MzA0NjI=" target="_blank">Part1</a> & <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4Nzl8YjYxYjVmY2M4NDQ0MGFjNDBlODFjYTE5NmQ5YjBiNmV8MzA0NjI=" target="_blank">Part2</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> เป็นพ่อเป็นแม่คน...เรื่องนี้ให้เก็บเอาไปคิดเป็นการบ้าน... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/hna-xan-hna-suksa-7" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตต้องสู้...Jimbo นักธุรกิจใหญ่ที่ชะตาผกผัน...มาเป็นคนขายปลาทู...สู่คนขับแท็กซี่...ลีมูซีน และอีกหลายๆๆ... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ลองอ่านๆดู ผมว่ามันฮามาก... ชีวิตท.ทหารเกณฑ์...รันทดยิ่งกว่านวนิยายน้ำเน่าอีกว่ะ!... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa0" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> โฉมฉาย อรุณฉาน...สาวสวยร้องเพลงไพเราะที่ผมขอเขียนถึงสักครั้ง <a href="http://redbkk.blogspot.com/2010/05/13.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> การเมืองเร่อะ...อย่า"อิน"ให้มากนัก เพลาๆกันไว้มั่ง <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/08/67.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ห้องนอนใครเหม็นอับมาทางนี้... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/khxkhid-di-di" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<center>กะลังมันส์!! รอหน่อยนะตะเอง...อิอิ<br />
<img src="http://upic.me/i/ar/pykn1r.gif"></center><br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-56328364086920030252012-07-01T01:37:00.001+07:002013-05-15T23:09:31.273+07:0019 เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/94.html" target="_blank">ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/95.html" target="_blank">"ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/07/blog-post.html" target="_blank">ภาพรวมในความคิดผม หนึ่งวันก่อนตัดสินจนถึงยกคำร้อง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/07/97.html" target="_blank">สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/61.html" target="_blank">ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/07/96.html" target="_blank">นกแก้วตัวนั้น?</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/07/62.html" target="_blank">มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>< < UpDate ถึงตอนที่ 14 > ></strong></span><br />
เก็บหน้านี้ไว้ใน Favorites เพื่อสะดวกในการอ่านตอนต่อๆไป นะครับ</center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/mv/00u.s.a..gif"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/11/logo515.jpg"></center><br />
หมายเหตุ: ขอขอบคุณและขออนุญาตคุณ akausa นำข้อเขียนของท่านมาลงไว้เว็บนี้นะครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/0k/chicagoohareairport.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: akausa เว็บประชาทอล์ค</span> (เริ่มตอนแรก 26 ธ.ค.2554)<br />
<br />
ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง<br />
<br />
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษท่านที่ติดตามอ่านที่ผมทิ้งช่วงไปเสียนานเนื่องจากไปติด "นิติราษฎร์ Fever" และก็ความร้อนแรงทางการเมือง ก็เลยไม่มีความตั้งใจเขียน มีแรงบันดาลใจอีกครั้งหนึ่งเพราะมีผู้อ่านหลายท่านทวงถามทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อนว่าอยากจะอ่านต่อ บางท่านถึงกับขอจองเลยถ้าจะเอาไปรวมเล่มขาย...55555 ผมก็เลยมาเขียนต่อและจะพยายามเขียนให้จบ<br />
<br />
<font color="#FF9900">หากท่านผู้อ่านอยากจะเท้าความตั้งแต่ตอนที่ 1-7</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2011/12/10-1972-8000.html">@ เชิญไปอ่านได้ที่นี่ครับ</a><br />
<br />
ขอขอบคุณเจ้าของเว็บที่กรุณาเอาข้อเขียนผมไปเผยแพร่และเก็บรักษาไว้<br />
<br />
เมื่อตั้งสติได้ผมก็กลับไปทำงานแบบ Full time อีก job หนึ่งที่โรงโบว์ลิ่งเหมือนกันโดยล้างมือจากการพนันและปลีกตัวออกจากสังคมไทยอยู่อย่างเงียบๆ จัดการเคลียร์หนี้สินต่างๆ (Bill Payments) ที่จ่ายไม่ตรงเวลารวมทั้งหนี้บัตรเครดิตต่างๆด้วยเกือบ 1 ปีเต็มผมก็สามารถ Catch Up หนี้สินที่มีอยู่ได้และยังมีเงินเหลือฝากธนาคารอีกเกือบ 5 พันเหรียญ ใจผมก็คิดที่จะหางานอย่างอื่นทำเพราะผมรู้สึกเบื่องานโบว์ลิ่งแล้ว อีกอย่างหนึ่งผมขึ้นไปถึงเพดานอัตราเงินเดือนของธุรกิจนี้แล้ว ถึงเขาจะชอบผมยังไงเขาก็จะจ่ายให้มากกว่านั้นไม่ได้แล้ว ผมจะไปทำงานอะไรถึงจะทำเงินได้ จะเปิดร้านอาหารไทยก็ไม่มีทุน ในที่สุดผมก็บอกภรรยาผมว่าผมอยากกลับเมืองไทยสักเดือนหนึ่งเพื่อไปพักผ่อนและหาลู่ทางค้าขายโดยจะหาของจากเมืองไทยมาขาย อีกอย่างหนึ่งผมจากประเทศไทยมาเก้าปีแล้วไม่เคยกลับเลยภรรยาผมเห็นดีด้วยพอดีตอนนั้นได้เงินค่าภาษีที่เสียไปคืนมาเกือบ 5 พันเหรียญ ผมก็มีเงินประมาณ 1 หมื่นเหรียญกลับเมืองไทย<br />
<br />
เกือบ 10 ปีที่จากไปกลับมาบ้านเราก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันโดยเฉพาะกรุงเทพฯผมไม่ได้มีธุระอะไรในกรุงเทพฯก็เลยไม่ได้อยู่ ก็กลับบ้านเกิดที่เชียงใหม่เลยพักผ่อนอยู่กับพ่อแม่ พอว่างผมก็ไปเดินแถวไนท์บาร์ซ่าร์สมัยนั้นยังเป็นเพิงขายอยู่ไม่เหมือนอย่างเดี๋ยวนี้มีตึกสามชั้นอยู่ตึกเดียวตอนนั้น ผมหาซื้อของอะไรที่สวยๆแปลกๆที่คิดว่าจะเอาไปขายได้ที่โน่นเป็นร้อยๆรายการซึ่งส่วนมากจะเป็น งานฝีมือ Gifts และ Home Decoration Items<br />
<br />
ผมอยู่เมืองไทยประมาณเกือบเดือนแล้วผมก็กลับอเมริกาในใจก็คิดว่าจะเอาไปขายอย่างไร ผมก็กลับไปทำงานที่โบวลิ่งเหมือนเดิมแต่วันเสาร์-อาทิตย์ผมจะเอาของที่ผมซื้อมาไปขายที่ Flea Market (ตลาดนัด) ทางเท็กซัสเขาเรียกอย่างนี้แต่ในแคลิฟอร์เนียจะเรียกว่า Swap Meet คือสมัยก่อนโน้นตลาดนัดมีไว้เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือสินค้ากัน ต่อมาจึงมีการพัฒนาแบบมีการขายสินค้าเอาเงินสดด้วย โรงหนังแบบ Drive in ซึ่งเคยรุ่งเรืองแต่ทีหลังก็ซบเซาลงก็ถูกดัดแปลงให้เป็น Swap Meet เพราะเนื้อที่กว้างขวาง<br />
<br />
ผมไปเช่าที่ใน In door Flea Market ซึ่งเป็นตึกกว้างใหญ่มีแอร์ด้วยและไม่ต้องกางเต๊นท์ ของที่เอาไปก็พอขายได้คนอเมริกันเขาชอบงานฝีมือหรือพวก Hand Made มาก<br />
<br />
ของที่ซื้อไปผมมีเสื้อผ้าแบบพื้นเมืองไปด้วยแล้วก็มีชุดอย่างที่ผมเอารูปมาให้ดูนี่ ชุดนี้แหละที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอีกครั้ง ชุดอย่างนี้จะทำด้วยผ้าฝ้ายสมัยนั้นจะมีขายกันเกร่อที่ไนท์บาร์ซ่าร์ สนนราคาก็ตัวละ 80-100 บาท ผมชอบชุดอย่างนี้มากเพราะมันสวยและก็มีหลากสีให้เลือก ผมซื้อไปเกือบสองร้อยตัวเอาไปแขวนขายที่ตลาดนัดก็ขายได้เหมือนกันผมขายตัวละ 30 เหรียญ พอดีผมมีคนรู้จักเป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อผ้าและทำ Alterations ด้วย เย็นวันหนึ่งผมก็เอาชุดไป 2 โหลเพื่อจะไปฝากเขาขายซึ่งได้ตกลงคุยกันไว้ก่อนแล้ว พอดีผมต้องรีบไปทำงานผมจึงบอกเขาว่าพรุ่งนี้เช้าผมจะไปรีดให้มันดูดีเรียบร้อยขึ้นแล้วเอาแขวนโชว์ที่ตู้หน้าร้าน ผมจะคิดเขาตัวละ $25.00 หากเขาขายเกินกว่านั้นก็ให้เป็นส่วนของเขาไป<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/6j/flax1u1510.jpg"></center><br />
รุ่งขึ้นอีกวันผมก็ไปที่ร้านเขาเพื่อที่จะไปจัดการตามที่บอกเขาไว้ก็ไปเห็นผู้หญิงฝรั่งคนหนึ่งเขากำลังตื่นเต้นกับชุดของผมมากคือเขาชอบทั้ง Style และสี จึงถามซื้อของผมหมดในราคาตัวละ $32.50 แล้วถามผมว่ายังมีอีกไหม ผมก็บอกว่ามีแล้วก็พาเขาไปที่บ้านเขาก็เหมาหมดอีกเกือบ 200 ตัวที่ผมมีอยู่ อย่าให้บอกเลยว่าผมดีใจขนาดไหน แล้วเขาก็พาผมไปด้วยคือจะเอาไปขายต่อให้กับร้านค้าเสื้อผ้าและร้าน Boutique ต่างๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาพาผมไปด้วยทำไม<br />
<br />
และแล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เขาพาผมเข้าไปสองสามร้านขายให้เจ้าของร้านในราคา $55.00 และเจ้าของร้านก็เอาไปขายต่อ (Retail) ในราคา $110.00 มีอยู่ร้านหนึ่งคนต้องรอคิวเพื่อเข้าห้องลองชุด (ร้าน boutique ส่วนมากจะมีห้องลองชุดอยู่ห้องเดียว จึงต้องรอคิว) ตกลงวันนั้นเธอขายไปได้กว่าครึ่งที่เธอซื้อของผมไป ทั้งเธอและผมต่างก็ตื่นเต้นมาก ผมตื่นเต้นที่ผมขายของที่ผมซื้อไปได้หมด เธอตื่นเต้นเพราะเธอเห็นแววที่เธอจะทำเงินได้จากชุดนี้<br />
<br />
ผมอยากจะบอกท่านผู้อ่านถึงผู้หญิงคนนี้สักนิดว่า เธอชื่อ Elizabeth (อลิซาเบ็ธ) เธอมีอาชีพอยู่ในวงการแฟชั่น ออกแบบและก็เอาไปขายให้กับร้านค้าต่างๆ เธอมีลูกค้ามากเธอไปที่ร้านที่พบผมเพราะเธอไปจ้างเขาเย็บแบบที่เธอออกให้ บางครั้งก็เอาแบบไปแก้ไข เขารู้จักกันมากว่า 4-5 ปีแล้ว ช่วงนั้นมันมีชุดอย่างหนึ่งของเม็กซิกัน Hit มาก ขายในร้านประมาณ $90-110.00 มันคล้ายกับชุดที่ผมเอาไป ต่อมาคนเริ่มเซ็งเพราะมันมีแขวนขายอยู่ตามสี่แยกข้างถนน ราคาไม่ถึง $30.00 ทั้งนี้เพราะคนที่ข้ามไปเม็กซิโกก็หอบหิ้วกลับมา ซื้อมาในราคาถูกก็เลยเอามาขายข้างถนนอย่างนั้นคนเลยไม่ค่อยอยากใส่อีกต่อไป ชุดที่ผมเอาไปมันจึงได้จังหวะแบบสวยกว่า Elizabeth เธอรู้และชำนาญการตลาดจึงมีความเชื่อมั่นว่าชุดของผมจะต้องดังแน่ๆ<br />
<br />
หลังจากเสร็จธุระแล้วเราจึงไปนั่งคุยกันต่อที่ร้านกาแฟ เธอบอกว่าเธอจะทำสัญญาสั่งซื้อจากผม Lot แรก 6,000 ตัวโดยจะจ่ายเงินให้ผมครึ่งหนึ่งก่อนเอาไปเป็นทุนทำ เมื่อเธอได้ของเธอก็จะจ่ายให้ทั้งหมด ผมตื่นเต้นและไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินมากับหูอะไรมันจะปานนั้น ถ้ามันจริงผมจะได้เงินเท่าไหร่ จาก ราคา $32.50 ผมจะเหลือ $25.00 เพราะจะต้องจ่ายให้เจ้าของร้านตัดผ้าด้วยเพราะผมรู้จัก Elizabeth ในร้านเขา ตีเสียว่าต้นทุนผมจะตกในราว $10.00 ผมก็ยังได้กำไรโขอยู่ แต่ผมจะต้องลาออกจากงานประจำซึ่งมีรายได้เกือบสามพันเหรียญ Elizabeth ให้เวลาผม 3 เดือนในการทำงานชิ้นนี้รวมทั้งเวลาขนส่งด้วยซึ่งหมายถึงว่าตั้งแต่วันทำสัญญาพอครบสามเดือนเธอต้องได้ของในสหรัฐ<br />
<br />
วันนั้นผมกลับบ้านด้วยความดีใจเพราะโอกาสทำไมมันถึงมาได้ง่ายๆอย่างนี้ ผมจะได้เงินประมาณ $90,000.00 ภายในสามเดือน (6,000x15=90,000.00) เจ้าของร้านเสื้อผ้าผมขอเรียกเธอว่า Nee ก็จะได้ $45,000.00 (6,000x7.5=45,000.00) โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย สมัยนั้นอย่าว่าแต่กะเหรี่ยงเลยแม้แต่คนขาวเองหาเงินได้อาทิตย์ละ $300.00 ก็นับว่าเก่งแล้ว ผมคุยให้แม่เด็กฟัง เธอทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจไปกับผม (ใจคงคิดว่าเลือกสามีได้ถูกแล้ว...55555) ตอนนั้นบ้าน 3-4 ห้องนอนสร้างใหม่เลย ราคา 5-6 หมื่นเหรียญเอง<br />
<br />
All Americans Dream ก็คือการที่ได้เป็นเจ้าของบ้านมีบ้านของตัวเอง<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... สิ่งที่ไม่คาดฝัน....</span><br />
<br />
Dallas , Texas , U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/3f/08dallastexasu.s.a..jpg"></center><br />
<br />
ตอนที่ 9...สิ่งที่ไม่คาดฝัน....<br />
<br />
รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งผมได้รับโทรศัพท์จาก Elizabeth ว่ามีปัญหาหน่อยอยากจะคุยด้วยแล้วเราก็นัดเจอกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ประโยคแรกเมื่อเธอเจอผมเธอถามผมว่า “ใครเป็นคน Import หรือนำชุดนี้เข้ามา” ผมเจอคำถามนี้ก็งงทำไมถึงถามแบบนี้ ผมเป็นคนขายของให้เธอ แล้วเธอก็ยังไปเอาของที่บ้านผม ผมก็ตอบเธอไปแบบนั้นยืนยันว่าผมเป็นคนเอามาจากเมืองไทย เธอก็บอกว่า เมื่อเช้านี้เธอไปที่ร้าน Nee มาและก็เล่าถึงเรื่องที่เราได้ตกลงกันไว้ให้ Nee และสามีฟัง ทั้งคู่บอกว่าเขาเป็นคน Import เข้ามา หากจะซื้อจะขายรายใหม่ก็ต้องตกลงกับเขาทั้งสอง เขาก็เลยมาถามผมนี่แหละ<br />
<br />
พอผมได้ยินอย่างนั้นผมงี้เศร้าเลยคิดในใจว่าอะไร(วะ) ทำไม Nee ถึงพูดอย่างนั้น ชุดที่ผมขายให้ Elizabeth ไปก่อนหน้านั้น ผมก็จ่ายให้เขาไปเกือบสองพันเหรียญตามที่เขาจะได้ $7.5/ตัว เรื่องที่ผมคุยกับ Elizabeth เมื่อวานนี้ผมยังไม่ได้ไปคุยกับเขาคิดว่าจะไปวันนี้แต่ Elizabeth คงตื่นเต้นไปคุยกับเขาก่อน ผมเองก็บอกกับ Elizabeth แต่วานนี้แล้วว่างานนี้ Nee จะได้อะไร เขาก็ยังบอกว่า That’s fair enough มาวันนี้เรื่องกับตาลปัด ในที่สุด Elizabeth ก็สรุปว่าเธอไม่รู้จะเชื่อใครดี เธอยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะสั่งซื้อ แต่เธอจะทำสัญญากับคนใดคนหนึ่งเท่านั้นและในเวลาเดียวกันเธอก็ต้องเห็นสัญญาระหว่างผมกับ Nee ว่าจะไม่ Import ชุดนี้เข้ามาขายแข่งกับเธอและให้เราทั้งสองไปตกลงกันก่อน เมื่อตกลงได้ตามที่เธอต้องการแล้วเธอถึงจะเซ็นสัญญา<br />
<br />
หลังที่บายกันแล้วผมก็รีบไปที่ร้าน Nee ถามเขาว่าเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมเป็นคนนำชุดนี้เข้ามาแล้วทำไมถึงไปบอก Elizabeth ว่านำเข้ามาเอง เขาก็แถไปหาว่าผมไปขโมยลูกค้าเขา ผมก็บอกว่าขโมยอะไรผมทำอะไรผมก็รวมเขาอยู่เพียงแต่เขารู้จากปาก Elizabeth ก่อนเท่านั้น Elizabeth เองก็รู้และเป็นพยานได้ว่าผมไม่ได้ Left Out เขาเลย ผม Include เขาอยู่ใน Deal ด้วย แล้วผมก็เสนอเขาตามที่ผมคิดไว้ให้เขาอีกครั้งหนึ่งและก็บอกข้อแม้ของ Elizabeth ให้เขาทราบด้วย เขาก็บอกว่าเขาไม่ตกลง แล้วผมก็ถามเขาว่าแล้วจะต้องทำยังไงถึงจะตกลงเขาบอกว่าให้ผมอยู่เฉยๆแล้วเขาจะเป็นคน Deal กับ Elizabeth เอง ผมก็ยอมไม่ได้เพราะเขาโกหกและจะฉวยโอกาสอย่างหน้าด้านๆ<br />
<br />
ผมก็เลยโทรกลับไปหา Elizabeth บอกเธอว่า Nee ไม่ตกลงตามข้อเสนอของผม เธอก็แนะนำผมว่างั้นลองเสนอว่าจะให้ 25% ของยอดขายทั้งหมดสิ ผมคำนวณดูแล้วก็จะเป็นในราวเกือบ 5 หมื่นเหรียญ ผมก็กลับไปเสนอเขาอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมอีก ในที่สุดผมก็บอกว่าเอาอย่างนี้ ผมขอแค่ 10%ของยอดขายแล้วผมจะทำสัญญาให้ว่าผมจะไม่ Import เข้ามาขายแข่งตามที่ Elizabeth ต้องการแต่เขาต้องไปจัดการเองทั้งหมดผมจะไม่ยุ่งอะไรผมก็จะได้เกือบ 2 หมื่นเหรียญ เขาก็ไม่ยอมอีก ผมก็ย้อนถามว่าแล้วจะให้ผมทำยังไงเขาถึงจะยอม เขาก็ตอบว่าให้อยู่เฉยๆทำตามที่เขาสั่ง เขาจะให้อะไรผมอย่างไรก็แล้วแต่เขา ถึงตอนนี้ผมก็พอจะเดาออกแล้วว่าโอกาสนั้นหมดแล้ว ความเห็นแก่เงินและความโลภทำให้คนทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างแม้จะได้มาด้วยความไม่ชอบธรรม ผมกลับบ้านแล้วโทรไปหาพี่สาวผมที่ชิคาโก้ บอกเรื่องให้เขาฟังทั้งหมดแล้วผมก็ร้องไห้ไปด้วยเพราะเสียดายโอกาส มันจะมีอย่างนี้อีกไหมในชีวิต อีกอย่างหนึ่งก็เสียใจที่ไม่คิดว่าเขาจะทำได้เพราะ Nee ก็เปรียบเสมือนญาติ พี่สาวผมก็รู้จัก<br />
<br />
เมื่อไม่มีทางตกลงกันได้ผมจึงเขียนจดหมายไปหา Elizabeth บอกเธอว่ารู้สึกเสียใจและเสียดายที่ไม่ได้ทำ Business ด้วยกัน God knew who told you the truth และผมก็ไม่ Blame เธอที่เธอมีแนวโน้มที่จะเชื่อ Nee มากกว่าผมเพราะเขารู้จักกันมานานแล้ว แต่อย่างไรก็ดีในกาลข้างหน้าหากทั้งเธอและผม Still in the same business อยู่เราคงได้เจอกัน<br />
<br />
ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายถึงคนอย่างคุณ Nee นี้ได้อย่างไร คิดยังไง ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น<br />
<br />
"ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น" ผมไม่ละความพยายามเพราะรู้ว่าชุดที่ผมนำเข้าไปนั้นมัน Hot คือหาตลาดเป็นมันต้องขายได้แน่ๆ แต่ผมก็ไม่มีประสบการณ์ในการขายเสื้อผ้ามาก่อนเลยตลาดเป็นอย่างไรก็ไม่รู้และผมก็ไม่ไปเสนอขายให้กับร้านที่ Elizabeth เคยพาผมไป ผมก็เลยค้นใน Yellow Page เสาะหา Wholesale Clothing ว่าอยู่ที่ไหนบ้างโทรศัพท์ไปถามขายหลายแห่งแต่ไม่มีใครสนใจ ในที่สุดก็ไปเจอบริษัทหนึ่งขายเสื้อผ้าจากเม็กซิโกเขาเห็นชุดตัวอย่าง เขาชอบ สั่งซื้อผม 500 ตัวในราคาตัวละ $30.00 แล้วให้ผมส่งให้ภายในสามเดือนถ้าหลังกำหนดนั้นแล้วยังไม่ได้รับของสัญญาจะเป็นโมฆะเลิกซื้อเลิกขาย ผมก็กลับบ้านเอา Order ให้แม่เด็กดู ผมบอกเธอว่าพระเจ้ายังเข้าข้างเราอยู่<br />
<br />
Wow..!!! นี่อาข่าทำได้ไง..รับออเดอร์มายังไม่รู้ว่าจะไปทำที่ไหน จะไปเลือกซื้อเอาอย่างแต่ก่อนไม่ได้เพราะเขาสั่งทั้ง Size ทั้งสี แล้วจะขนมาอย่างไรจะเอาเข้ามาอย่างครั้งก่อนก็ไม่ได้เพราะครั้งนี้จะเป็น "สินค้า" เอามาขาย ไม่ใช่ "สินค้า" ตัวอย่าง ครั้งที่แล้วกว่าจะเอาเข้ามาได้ทุลักทุเลเต็มทนเพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่พิธี "ศุลกากร" แม้แต่ศุลกากรที่สนามบินดอนเมืองยังจะเรียกเก็บภาษีขาออก "เถื่อน" จากผมแต่ผมไม่ยอมจ่ายเถียงกันจะไปถึงห้องหัวหน้าเขาก็บอกให้ปล่อยผม (ผมมีของไปประมาณ 6 กล่องใหญ่ จ่ายค่าระวางเพิ่มให้กับสายการบิน ดูเหมือนจะกิโลละร้อยบาทตอนนั้น) ปัญหาเท่านั้นยังไม่พอจะลางานประจำที่โบว์ลิ่ง อย่างไรลานานเขาคงไม่ยอมแน่ ก็ขอลา 3 อาทิตย์ เขายอมผมก็เลยเดินทางกลับเมืองไทย<br />
<br />
กลับมาถึงเมืองไทยก็ยังไม่รู้จะไปสั่งใครทำ ไม่มีความรู้เรื่องผ้าเลย ก็ไปเดินแถวไนท์บาร์ซ่าส์ไปคุยกับคนขายรายหนึ่งเขารับปากว่าทำให้ได้ พอดีผมได้ไอเดียมาจาก Elizabeth ว่าต้องปรับ Size ให้เข้ากับ Size ฝรั่ง ก็คุยกับคนทำไปหาซื้อหนังสือแฟชั่นมาเพื่อมาหาข้อมูลในที่สุดทุกอย่างก็ลงตัวเรื่อง Size เรื่องผ้า เรื่องราคาและเวลาที่จะทำ 500 ตัว เขาขอเวลา 2 อาทิตย์ เมื่อทำเสร็จส่งออกไม่ได้เพราะไปติดปัญหา โควตา (สมัยนั้นจะส่งส่งเสื้อผ้าไปขายที่อเมริกาต้องมีโควต้านะครับ) แถมยังไม่มีประวัติการส่งออกเจ้าหน้าที่ส่งออกก็ไม่ให้โควต้าด้วย แบบเขาจะให้กับคนที่มีประวัติส่งออกก่อน ถ้าโควตาหมดคุณก็ไม่มีโอกาสได้ส่งออก มีการโกงกินกันเรื่องโควต้านี่มากแล้วจะเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร สรุปแล้วผมเสียเวลาเกือบสองอาทิตย์กว่าจะได้โควต้าทำเรื่องส่งออกได้ เจ้าหน้าที่กรมส่งออกที่สนามบินเชียงใหม่ต้องทำเรื่องขอไปยังกรุงเทพฯก่อนขอโควต้ากลางมาเพราะโควต้าของเชียงใหม่จำหน่ายจ่ายแจกไปหมดแล้ว ได้โควตามาก็จัดการให้ Shipping ส่งของไปให้ผมไปที่สหรัฐทางเรือโดยจะใช้เวลาถึงที่โน่นประมาณ 22-30 วัน<br />
<br />
เมื่อจัดการส่งของเสร็จผมก็กลับสหรัฐไปรอรับของที่นั่น ของไปถึงแล้วใช่ว่าจะเอาออกได้เลยนะครับต้องมีพิธีศุลกากรอีก ต้องมี Broker ทำให้เพราะเราเองทำและเดินเรื่องไม่เป็น ต้องจ่ายค่าภาษีนำเข้าอีกผมจำไม่ได้ว่ากี่ % ในตอนนั้น<br />
<br />
ของไปถึงสหรัฐช้ากว่ากำหนดเพราะของไปตกค้างที่สิงคโปร์ในการถ่ายขึ้นเรือเดินสมุทรใหญ่ ผมได้ออเดอร์มาเกือบสองอาทิตย์ถึงจะกลับเมืองไทยได้ ไปติดค้างที่เมืองไทยก็เกือบเดือน ของมาถึงช้าแล้วยังไปช้าที่ Custom อีก ตกลงผมออกของส่งให้ลูกค้าไม่ทันกำหนดเขาก็ Canceled ไปโดยอัตโนมัติ โทรไปบอกถึงปัญหาให้เขาทราบเขาก็บอกว่าเลยกำหนดเขาก็ไม่เอา ไม่ Extend ให้ ผมก็เลยมาปวดหัวจะต้องไปเร่ขายที่ไหนเนี่ยตั้ง 500 ตัวเงินก็ไปจมอีกเพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างจ่ายเป็นเงินสดทั้งนั้น จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นราวๆใกล้ X’mas ผมก็กลับไปขายของที่ Flea Market ทุกเสาร์อาทิตย์เหมือนเดิม....<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... ประตูโอกาสเปิดให้อาข่าอีกครั้งหนึ่ง...</span><br />
<br />
Detroit , Michigan , U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/y5/09detroitmichiganu.s.a..jpg"></center><br />
<br />
ตอนที่ 10...ประตูโอกาสเปิดให้อาข่าอีกครั้งหนึ่ง...<br />
<br />
ช่วงนั้นจะเป็นช่วงคริสต์มาสพอดี ร้านค้า Retail ต่างก็โฆษณาขายของ กิจการซบเซามาทั้งปีก็จะมีโอกาสขายก็ในช่างนี้แหละ ผมก็คิดว่าผมจะทำยังไงดีกับ 500 ชุดที่มีอยู่จะแขวนขายในตลาดนัดเมื่อไหร่มันจะหมดและแล้วผมก็ทำตามโฆษณาของ Yellow Page ที่นั่นคือ "Let your finger do the walking" หมายถึงอยากรู้อะไรให้เปิดดูใน Yellow Page นั่นแหละ<br />
<br />
สมัยนั้น Internet Net Work มันยังไม่มีเหมือนสมัยนี้ Face Book Twitter หรือแม้แต่กูเกิ้ลยังไม่มี การสื่อสารตอนนั้น ก็เป็นโทรศัพท์(ยังไม่มีมือถือ) มีแต่เทเล็กส์ที่พอจะใช้ได้ระหว่างประเทศแต่ก็ต้องไปอาศัยบริการที่ร้าน เราไม่มีปัญญาซื้อมาใช้เองหรอกแม้แต่ Computer ก็เหมือนกัน<br />
<br />
ผมก็ค้นหาคำว่า Distributor กับ Wholesaler ที่ค้าขายเสื้อผ้า ก็เพราะคิดว่าธุรกิจอย่างนั้นแหละถึงจะซื้อเราทีละมากๆได้แล้วเอาไปจำหน่ายให้ฐานลูกค้าที่เขามีอยู่แล้ว และผมก็ไปเจอคำว่า Dallas Market Center อยู่ที่เมือง Dallas ที่ JFK ถูกลอบยิงตายนั่นแหละ จะอยู่ห่างจากที่เมือง Houston ผมอยู่ประมาณ 220 ไมล์หรืออาจจะกว่านั้นนิดหน่อยผมจำไม่ได้ แค่รู้ว่าถ้าจะขับรถไปก็จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ผมเปิดดู Listing ในนั้นอ่านอันไหนที่คิดว่าเขาจะสนใจของๆเราก็โทรไป พร้อมกับอธิบายถึงความเป็นมาของชุดนี้ให้เขาฟังและก็มี 5-6 รายที่สนใจอยากจะดูผมก็ Make Appointment ไว้ว่าจะไปเวลาไหนและไปเจอใครในเวลาไหนกะว่าชั่วโมงละคนเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป<br />
<br />
แล้วผมก็เตรียมตัวไป Dallas เตรียมเสื้อผ้าตัวอย่างไป แล้วไปซื้อกระเป๋าแบบเจมส์บอนด์มาใบหนึ่งเพื่อเอาใส่ตัวอย่างและเอกสารต่างๆ ใส่ชุดนอกผูกไทด์เต็มยศเหมือนนักธุรกิจเลย ผมขับรถออกจาก Houston ตีสี่กะว่าถึงที่นั่นแปดโมงเช้าพักหากินกาแฟสักครู่ก็จะไปพบ Appointment แรกได้เลย ถึงเวลา 8.30 น.ผมก็หาที่จอดรถแล้วเดินเช้าไปในตัวตึก จะผ่านเข้าไปเฉยๆไม่ได้ต้อง Register หรือลงทะเบียนก่อน เจ้าหน้าที่ถามว่าผมมีนามบัตรไหม Represent บริษัทอะไรผมก็บอกว่าไม่มีอะไรซักอย่างเรายังไม่มีธุรกิจจริงๆจังๆอะไรเลย เมื่อไม่มีเขาก็จะไม่ให้ผมเข้าไป<br />
<br />
ไวเท่าความคิดผมก็บอกว่าผมมาจากต่างประเทศพร้อมกับโชว์พาสปอร์ตไทยให้ดู ผมอยากจะมาดูงานอยากจะมาทำธุรกิจและวันนี้ผมก็มีนัดกับบุคคลดังกล่าวแล้วผมก็เอารายชื่อที่ผมนัดไว้ให้เขาดู เท่านี้แหละครับเจ้าหน้าที่ก็รีบกุลีกุจอให้ความสะดวกผม แต่ก็ไม่วายที่จะโทรไปเช็ดคนที่นัดผมไว้รายหนึ่งว่ามีนัดกับผมหรือเปล่า เมื่อได้รับตอบว่า Yes เขาก็รีบออกบัตร Visitor พร้อมสายให้ผมมาคล้องคอแล้วผมก็เดินผ่านเข้าไปได้ ผมจำไม่ได้ว่าตึกนี้มีทั้งหมดกี่ชั้นถ้าจำไม่ผิดคิดว่ามี 9 ชั้นและมีหลาย Wings เดินหาจะไปห้องโน้นห้องนี้ก็งงเหมือนกัน แต่มีทั้ง Lift และ Elevator ขึ้นลงถึงทุกชั้นทั้งด้านหน้าด้านหลัง<br />
<br />
สรุปเลยว่า Appointments ที่ผมนัดไว้นั้น Foul หมดเพราะที่ตลาดแห่งนี้ผมเรียนรู้ว่ามันเป็นแค่ Show room ของ Salesman ที่ Represent บริษัทต่างๆที่เขาผลิตเสื้อผ้าขาย บริษัทใหญ่ๆ อย่าง Guess , Levy ก็อาจจะมาเปิดโชว์รูมเอง แต่ละโชว์รูม เซลส์แมนก็จะเป็นตัวแทนขายให้โดยกินเป็น% บริษัทผลิตเสื้อผ้าเขาก็จะมา Line ของเขาซึ่งมีมากมายหลายแบบ บางโชว์รูม Represent เป็น สิบๆ Line ก็มี ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้ Volume ในการขายก็จะได้%เยอะๆ ดังนั้นชุดของผมที่หวังจะไปขายเอาเงินเลยนั้นก็หมดหวังไปหรือแม้แต่จะให้เซล์แมนพวกนั้นรับเอาไปขายให้เขาก็ไม่เอาเพราะมันเป็นแค่ Item line คือมีอยู่ แบบเดียวแถมยังผมไม่มีบริษัทหรือ Office อะไรอีก ก็เลยต้องเดินคอตกกลับมา ใจก็แห้งเหี่ยวหดหู่ อะไรมันจะปานนี้ จะค้าขายทีก็ต้องเจออุปสรรคนานัปการและที่สำคัญเราไม่มีประสบการณ์ด้วย<br />
<br />
ขณะกำลังจะเดินกลับไปที่บันไดลง ตอนนั้นผมอยู่ชั้นสองและก็เกือบบ่ายสี่โมงแล้วเดินผ่านโชว์รูมห้องหนึ่งเห็นฝรั่งผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งถอดไพ่อยู่ เหมือนมีอะไรไม่รู้บอกให้ผมเดินเลี้ยวเขาไป ผมพร้อมกับ Say Hello กับเขา เขาก็สวัสดีตอบและถามผมว่า "What can I do for you?" ผมก็เปิดกระเป๋าให้เขาดูตัวอย่างชุดพร้อมกับบอกว่า "I’ve got this, do you think you can do some with it?" และผมก็บอกความเป็นมาให้เขาฟัง ระหว่างที่เขาฟังผมพูดเขาก็ยืนกอดอกพร้อมกับมองไปที่ชุดและเขาถามผมว่าจะขายตัวละเท่าไหร่ อารามที่ผมอยากจะขายเอาเงินทุนคืนเพราะดูมันยากลำบากเหลือเกินที่คิดจะค้าขายนี่เพราะเราไม่รู้ ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีช่องทาง ผมก็บอกเขาไปว่า ถ้าขายได้ตัวละ 30 เหรียญแต่ต้องขายหมดผมจะจ่าย Commission ให้แกตัวละ $10.00 แล้วเขาก็ถามผมว่ามีกี่ตัวผมก็บอกว่าทั้งหมดมีเกือบ 500 ตัว เขาก็บอกว่าเอางี้ ..วันพุธแรกของเดือนมกราคมหลังปีใหม่ ให้ผมขนไปที่โชว์รูมเขาให้หมด ที่ Dallas Market Center เขาจะมี Market Week ซึ่งพวกเจ้าของร้านหรือห้างต่างๆจะไปสั่งของเข้าร้านกัน (แล้วผมจะอธิบายถึงระบบการค้าของเขาทีหลัง) ฝรั่งคนนี้ชื่อ Joe ครับ<br />
<br />
แล้วผมก็ขับรถกลับบ้านที่เมือง Houston ก็อีก 4 ชั่งโมงข้างหน้าถึงจะถึง ขับรถกลับด้วยความผิดหวังแต่ก็ไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว ยังมีให้ลุ้นอีกช่วง หลังจากฉลองคริสต์มาสแล้วผมก็เตรียมตัวไป Dallas อีกครั้งหนึ่งและได้ไปเช่ารถ Van ไว้เพื่อขนของไป พอถึงวันนั้นผมก็ไปถึงประมาณ 8 โมงเช้า รู้ทิศทางแล้วว่าจะเอาของเข้าไปได้ยังไงเพราะ Joe ได้อธิบายบอกไว้แล้วว่าต้องทำยังไง เมื่อจัดการเรื่องของเสร็จผมก็เข้าไปในตึก (วิธีเดียวกับครั้งแรก) ที่โชว์รูมของโจ ไปถึงก็เห็นเขาสาละวนเปิดกล่องเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในถุงพลาสติกมากองๆบนพื้นหลังโต๊ะนั่ง ผมก็เอาลิสต์ยื่นให้โจไปว่ามีทั้งหมดกี่ตัวกี่สีกี่ไซด์ ซึ่งก็หมายถึง Inventory Lists แล้วเขาก็เลือกมาตัวหนึ่งเป็นสีแดงเอามารีดให้ดูดีแล้วก็เอาไปใส่ให้ Manikin (หุ่น) ในตู้โชว์ติดประตูทางเข้าโชว์รูม ดูแล้วสวยมาก<br />
<br />
ลืมบอกไปว่าวันนี้คนมาเยอะมากไม่รู้มาจากไหนกัน ยืนเป็นแถวยาวรอเข้าแถวลงทะเบียน ตาม Parking Lot แม้จะกินบริเวณกว้างใหญ่ แต่ก็หาที่จอดลำบากเหมือนกันพวกที่มานี่ส่วนมากก็จะเป็นเจ้าของร้านหรือห้างตามเมืองเล็กเมืองน้อยต่างๆหรือไม่ก็พวก Buyer ของห้างร้าน พวกนี้มักจะมาตามนั้นแล้วรู้แล้วว่าจะไปสั่งซื้อหรือดูของที่ไหน อย่างเก่งก็อยู่ได้แค่ 2 วันต้องกลับเพราะจะทิ้งร้านไว้นานไม่ได้ เรื่องที่จะมีเวลามาดูหาของแปลกๆใหม่ๆนั้นพวกเขาไม่ค่อยมีเวลาหรอกครับนอกจากมีเวลาอยู่นานๆมีคนดูแลร้านให้อะไรทำนองนี้<br />
<br />
ประมาณ 10 โมงเช้าคนก็เริ่มเดินตาม Hall way ขวักไขว่ นายโจไปยืนอยู่ที่ หุ่นพร้อมโปรโมทว่างั้น ลูกค้าคนแรกเข้ามาอายุ 60 กว่าแล้วมาชมว่าชุดอะไรทำไมสวยอย่างนี้ นายโจก็อธิบายว่ากว่าจะมาเป็นชุดอย่างนี้ได้ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ เป็นงานฝีมือที่เอามาแปะตรงหน้าอกด้วย ทุกชุดจะเป็น Original มีตัวเดียวเพราะลายที่หน้าอกแม้จะคล้ายกันแต่จะไม่มีตัวใดลายเหมือนกันเป๊ะเลย ฝรั่งเขาชอบงานฝีมือ ยิ่งมี Story Behind แล้ว เขายิ่ง appreciate ตกลงยายซื้อไป 2 โหลโดยเลือกคละกันไป หิ้วไปเลย เป็น First Sale of the day ได้เช็คมา $720.00 พวกเราดีใจมาก....<br />
<br />
เอาไปเอามาผมชอบนายโจนี่แฮะผมเรียนรู้เทคนิคการพูดการขายจากนายโจได้มากๆเลยและชอบฟังเวลาเขาขาย รายไหนรายนั้นต้องซื้อ 6 ตัวบ้าง 12 ตัวบ้าง มีเจ้าหนึ่งซื้อไป 48 ตัวเขาบอกว่าเขามีอยู่ 4 ร้านจะเอาไปวางร้านละโหล พวกเราตื่นเต้นกันมากๆเลย นายโจก็บังคับให้ลูกค้าจ่ายเงินสดบอกว่าจะต้องให้ผมเอาไปเป็นทุนทำมาใหม่อีกอะไรทำนองนั้นแต่เขามีวิธีการพูดดีกว่านั้น สรุปแล้วพอวันศุกร์ตอนเที่ยงๆของหมด เราก็มานั่งคุยกันต่อ นายโจถามผมว่าจะมีปัญหาอะไรไหมถ้าจะไปทำมาขายต่อเขาคิดว่าเขาขายได้แล้วเขามีความเชื่อมั่นว่าชุดนี้จะ Hot ผมก็บอกเขาว่าจะไปทำมาใหม่ไม่มีปัญหาอะไรเขาจะเป็นคนขายหรือ Represent Item Line ของผมตลอดไปหรือเขาก็บอกว่าใช่ แล้วเขาจะหาเซลส์แมนที่รู้จักกันในต่างรัฐช่วยเอาไปขายให้โดยส่งแค่ตัวอย่างไปและเขา Guarantee ต่อเพื่อนของเขาว่าชุดนี้ Hot ซึ่งใครๆก็อยากได้ของ Hot ไปขายเพราะมันขายง่าย<br />
<br />
เราไปคุยต่อกันที่ร้านอาหารจีน นายโจถามผมว่าจะตั้งชื่อ Line ว่ายังไงดีผมก็บอกว่า จุดขายของชุดนี้คือแผ่นที่ชาวเขาเผ่าแม้วทำแล้วเขาก็เอามาแปะบนหน้าอก ฉะนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติงานของเขาเราจะตั้งชื่อว่า Meo(แม้ว)Fashions ดีไหม นายโจก็บอกว่าดี ดังนั้น Line และ Brand name Meo(ฝรั่งจะออกเสียงมีโอ)Fashions จึงเกิดขึ้น ต่อมานายโจได้ไปทำป้าย Meo Fashions ติดไว้ทางซีกหนึ่งของโชว์รูมเขาเพื่อแสดงว่าเขา Represent Line นี้ เราตกลงกันว่านายโจจะดำเนินการขายต่อไปหมายถึงรับ Order มาแล้วให้ระบุว่า ship as Ready หมายถึงไม่มีกำหนดเวลาส่งหากทำเสร็จของมาถึงก็จะส่งให้ Lot ต่อไปผมต้องทำมาสต๊อกไว้ 2,000 ตัวก่อนเผื่อลูกค้าสั่งมาจะได้มีให้เลย<br />
<br />
เมื่อคุยงานเสร็จแล้วก็เกือบ 3 ทุ่มผมขี้เกียจขับรถกลับ Houston ตอนนั้นเลยนอนค้างที่โรงแรมต่ออีกหนึ่งคืนแต่เช้า 6 โมงผมก็กลับ ระหว่างทางผมก็คิดไปต่างๆนานาหากเราจะเดินหน้าเราจำเป็นต้องมี Office มีอุปกรณ์เครื่องใช้ใน Office ทุกอย่างเช่นเครื่องพิมพ์ดีด โต๊ะนั่ง ชั้นวางของ ฯลฯ และต้องพิมพ์ Purchase Order มีโลโก้หรือชื่อ Line ของเราเองด้วย พอกลับถึง Houston ผมก็ไปหา Office เพื่อที่จะได้ Address มาพิมพ์ใส่ใน Purchase Order เมื่อหาได้แล้วอยู่ไม่ไกลจากบ้านนักขับรถประมาณ 15 นาทีถึง ที่จอดรถก็กว้างขวางสะดวกดี ผมบอกกับ Landlord ผมจะเช่าแต่ผมจะขอจองไว้ก่อนโดยการให้มัดจำไว้ อีก 6 อาทิตย์ผมจะ Move in แล้วก็ค่อยคิดค่าเช่าตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป Landlord ก็ตกลง ที่ผมทำอย่างนี้เพราะจะได้ใช้ที่อยู่ได้เลย ติดเบอร์โทรศัพท์ไว้ก่อนได้เลย เพื่อจะได้เดินหน้าพิมพ์ Purchase Order ของเราเองส่งไปให้โจใช้ แล้วผมไปหาแบบหรือตัวอย่าง Purchase Order มาจากไหน ก็เอามาจาก บริษัทอื่นที่โจ Represent เขาเหมือนกันนั่นแหละ กะเหรี่ยงอย่างผมหัวไวเรียนไวครับ....55555<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... ลาออกจากงานแล้วกลับเมืองไทยอีกครั้งไปผลิตชุด ต่อไปผมจะขอเรียกว่า "ชุดแม้ว" ตามภาพตอนที่ 8 นะครับ</span><br />
<br />
San Francisco , California , U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/zc/10sanfranciscocaliforniau.s.a..jpg"></center><br />
<br />
ตอนที่ 11...ลาออกจากงานแล้วกลับเมืองไทยอีกครั้งไปผลิตชุด ต่อไปผมจะขอเรียกว่า "ชุดแม้ว" ตามภาพตอนที่ 8 นะครับ<br />
<br />
ผมไปลาออกจากงานด้วยเหตุผลที่ว่าจำเป็นต้องกลับมาอยู่เมืองไทยสักพักและแนะนำเขาว่า นาย Keith ดูแลต่อได้ผมหมายถึงหากเครื่องโบว์ลิ่งมีปัญหาเขาแก้ไขได้แต่จะจัดการบริหารทั้งหมดนั้นก็ต้องลองดูเขาไปถึงไม่มีผมก็ใช่ว่าธุรกิจจะอยู่ไม่ได้เสียเมื่อไหร่ ผมสะสางงานต่ออีกสามวันแล้วผมก็กลับเมืองไทย<br />
<br />
มาถึงเมืองไทยก็คิดว่าจำเป็นจะต้องหาคนผลิตให้ใหม่แบบว่าผมไม่ต้องกลับมาบ่อยๆเพราะการกลับมาแต่ละครั้งก็เสียค่าใช้จ่ายเยอะ อยากได้แบบที่โทรมาสั่งได้เลยว่าจะเอาอย่างไหนเท่าไหร่ แล้วผมก็ได้ไปเดินสัมภาษณ์คนขายเสื้อผ้าอย่างนั้นที่ไนท์บาร์ซ่าส์คุยกับหลายคน แต่ผมตัดใจเลือกเอาผัวเมียจีนฮ่อคู่หนึ่งเพราะท่าทางดูซื่อดี อีกวันก็ไปดูงานที่บ้านเขาก็เห็นว่ามีคนมาทำงานตัดเย็บให้สิบกว่าคน เขาบอกว่า 2,000 ตัวนี่เขาทำให้ได้เสร็จภายในสามอาทิตย์ คือนับเอาจากความสามารถของคนงานว่าใครเย็บเสร็จต่อวันได้กี่ตัว เฉลี่ยออกมาแล้วเย็บได้ Complete คนละประมาณ 10 ตัว คนตัดผ้าคือสามีของเขาเอง ผมคิดแล้วก็น่าจะได้ตามที่เขาพูดก็เลยตกลงจ้าง โดยบอกเขาว่าหากทำเสร็จ 2-3 ร้อยตัวก็ให้เรียกพ่อผมไปรับเอาไปเก็บไว้ที่บริษัทคาร์โก้แล้วก็จะจ่ายให้ตามนั้นเป็นงวดๆไป<br />
<br />
ผมบอกเขาว่าผมรู้ราคาวัตถุดิบทุกอย่างรวมทั้งค่าแรงงานต่อวันต่อคนด้วย คิดเสร็จผมก็บอกเขาว่าผมต้นทุนเท่านี้ผมจะบวกให้ได้กำไรตัวละ 20 บาทแล้วผมก็จะมีงานมาป้อนให้อย่างสม่ำเสมอถ้าการตัดเย็บเขาดีไม่มีที่ติ เขาก็ตกลงตามที่ผมเสนอราคาซึ่งมันยังแพงกว่าตามที่เขาขายกันเกลื่อนในตลาด (ตัวละ 80-120 บาทแล้วแต่ชนิดของผ้า) ผมก็ให้ทุนเขาไปก้อนหนึ่งจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ คิดว่าประมาณ สามถึงสี่หมื่นบาทนี่แหละ (งานนี้ 2,000 ตัวเขาก็จะมีกำไร 40,000 บาทเห็นๆในเวลาสามอาทิตย์) หากทำเสร็จครั้งละสองสามร้อยตัวพ่อผมก็จะเป็นคนไปจัดการนับ ตรวจเช็คจ่ายเงินแล้วก็เรียกบริษัทคาร์โก้มารับเอาไป<br />
<br />
ตกลงผมก็เบาใจในเรื่องนี้แต่ก็ไปตรวจดูเขาทำงานแทบทุกวัน เจ๊แกเลือกจัดสีให้เข้ากันได้ดีมากแกละเอียดและก็พิถีพิถันจริงๆ ผมมีเวลาว่างตอนกลางคืนก็ไปหาซื้อแผ่นผ้าลายปักที่เอามาเย็บติดกับตัวชุดที่หน้าอกที่ชาวเขาทำในเวลาว่างแล้วนำมาขาย เพื่อเอามาสำรองไว้เผื่อเจ๊แกหาไม่ได้แต่แกก็มีคนเอามาส่งให้เลือกประจำ สนนราคาในตอนนั้นก็ผืนละประมาณ 15 บาทผมเก็บสต๊อกไว้เยอะเลย<br />
<br />
ผมบุกไปถึงแค้มป์อพยพชาวเขาที่แพร่หรือน่านนี่แหละผมจำไม่ได้แล้ว ไปหาซื้อถึงแหล่งมาเก็บไว้เลย ก็ได้มามากโขอยู่ ผมไปเห็นชาวเขาที่อยู่ในศูนย์อพยพแล้วไม่รู้เป็นไง ผมรู้สึกสงสารเขามากในชะตากรรมของเขาที่ต้องระหกระเหินมีชีวิตอยู่อย่างนั้น ผมเด็กบ้านนอกเหมือนกันชีวิตผกผันให้ได้ไปอยู่อเมริกาผมก็ต่อสู้กับชีวิตลำบากลำบนเหมือนกัน แต่สภาพความเป็นอยู่ของชาวเขาในศูนย์ต่างกับผมราวฟ้ากับดิน แต่ต่อมาผมก็ทราบว่าพวกเขาได้ย้ายไปอยู่ประเทศที่สามมากเหมือนกันโดยเฉพาะอเมริกาที่เป็นมิตรกับพวกเขาเมื่อครั้งสงครามในเวียดนาม<br />
<br />
เมื่อทุกอย่างที่เชียงใหม่เข้าที่เข้าทางผมก็กลับสหรัฐเพื่อจะไปรอรับของ งานครั้งนี้จะขนส่งโดยทางเครื่องบินถึงมันจะแพงหน่อยแต่ก็จำเป็นเพราะจะให้สินค้าไปค้างอยู่ในเรือเป็นเดือนๆไม่ได้ เงินทุนผมก็น้อยต้องรีบเอาไปแปรสภาพเป็นเงินสดจะได้มีทุนหมุนเวียน<br />
<br />
มาถึงตรงนี้ก็อยากจะเขียนอธิบายถึงการตลาดของสหรัฐว่าเขาซื้อขายกันยังไงในตอนนั้นหรือแม้แต่ในขณะนี้แต่ระบบการสื่อสารและซื้อขายกันได้ทางอินเตอร์เน็ตการตลาดก็คงเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ผมจะเล่าคร่าวๆถึงเรื่องตลาดเสื้อผ้านะครับเพราะหากได้อ่านเรื่องของผมตอนต่อๆไปจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น<br />
<br />
ศูนย์กลางแฟชั่นของโลกนอกจากจะมีที่ประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี่แล้ว New York ก็เป็นศูนย์กลางอันดับหนึ่งในสามรองจากสองแห่งที่กล่าวมา ร้านรวงต่างๆที่ขายเสื้อผ้าทั้งถูกและแพงไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ต่างก็ปรารถนาที่จะไปซื้อไปดูทั้งในอิตาลี่หรือฝรั่งเศส แต่ก็ไปไม่ได้เพราะค่าใช้จ่ายมันสูงแม้แต่ใน New York เองร้านรวงในสหรัฐเองก็ยังไปไม่ได้เพราะค่าใช้จ่ายอีกนั่นแหละ ประเทศสหรัฐใหญ่เป็น 18 เท่าประเทศไทยจากฝั่งทะเลถึงฝั่งทะเลห่างกันหลายพันกิโลเมตร ดังนั้นเขาจึงมีที่ซื้อที่ขายตามเมืองใหญ่ๆ (ต่อไปผมจะขอเรียกว่า Market นะครับ) เช่น Dallas, Atlanta, Chicago, Seattle Florida, Los Angeles, Denver, San Francisco และอีกหลายๆแห่ง ที่ Las Vegas ก็มีการจัดโชว์เหมือนกันแต่เขาไม่มี Market ที่ทำการถาวรคือไปจัดเอาตาม Convention ต่างๆ<br />
<br />
ดังนั้นเมืองที่กล่าวมาจะมี Market หรือ Fashion Center อยู่ ก็คงเหมือนตลาดโบ้เบ้หรือใบหยกของเรานั่นแหละ ที่นี่พวกร้านรวงที่ขายเสื้อผ้าก็จะไป Market อยู่ใกล้คือไปได้ง่ายสะดวกและเสียค่าใช้จ่ายน้อย ใน Market ก็จะมีพวก Representative หรือ Salesman ของบริษัทที่ผลิตเสื้อผ้าขายเช่าห้องทำโชว์รูมอยู่ จะใหญ่หรือเล็กก็แล้วแต่ความสามารถของ Salesman นั้นๆ บางทีบริษัทแบรนด์เนมใหญ่ก็มาเปิดโชว์รูมเองเลยขายแต่เฉพาะ Line ของตนเอง Representative ส่วนมากจะขายให้กับหลายๆบริษัทเพราะจะมีรายได้จากการขายคือ Commission เท่านั้น พวกเขาจะได้ประมาณ 3-10% ของยอดขายทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ Line ที่เขาขายว่ามีชื่อเสียงปานใด มีชื่อเสียงมากหน่อยก็ได้ % น้อยเพราะขายได้อยู่แล้วไม่ต้องออกแรง Push มาก<br />
<br />
ทีนี้คนที่จะไปสั่งซื้อที่ Market นี่เขาก็จะไปช่วงที่มี Market’s Week ซึ่งหมายถึงช่วงที่ทุกโชว์รูมจะเปิดเขาจะมีเป็นช่วงๆปีละ 4-5 ครั้งเรียกว่า Winter, Summer, Fall หรือ Holiday’s Market อะไรทำนองนี้ ตามชื่อของ Market ก็จะมีเสื้อผ้าของฤดูนั้นๆให้สั่งซื้อล่วงหน้า Market ช่วงที่คนจะไปสั่งซื้อมากที่สุดคือ Summer and Holiday’s Market ทั้งนี้เป็นเพราะ มันจะเป็นช่วงที่ขายดีที่สุด<br />
<br />
จะสั่งซื้อของเข้าร้านไปขายช่วงฤดูร้อนก็ต้องไป Market Week ที่เขาจัดในเดือนมกราคม จะสั่งไปขายช่วง Winter หรือ Holidays ก็ต้องไปสั่งช่วงเดือน กรกฎาหรือสิงหาคม ทั้งนี้เป็นเพราะ เดือนมกราคมเป็นเดือนต้นปี ร้านค้าจะขายดีช่วงเดือน November กับ December เลยมีเงินหรือ Budget ที่จะไปสั่งของเข้าร้านช่วง Summer ซึ่งจะเป็นระหว่างเดือน กรกฎาหรือสิงหาคมและก็ช่วง Summer ก็ขายดีมีเงินไปซื้อของเข้าร้านสำหรับ Holidays ต่อไป มันก็จะหมุนเวียนไปอย่างนี้ ไม่ทราบว่าผู้อ่านจะงงกับที่ผมอธิบายมาหรือเปล่า....55555 ถ้าไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรถามได้นะครับ<br />
<br />
ที่นี้มาว่ากันถึงนิสัยของคนซื้อ (Buyers) นี่ผมว่าแทบจะทุกๆแห่งในโลกเขาจะไปสั่งซื้อกับคนขายที่คุ้นเลยกัน ร้านค้าพวกนี้ก็เหมือนกันก่อนที่เขาจะไป Market เขาก็วางแพลนไว้แล้วว่าจะไปสั่งของที่โชว์รูมไหน ยิ่งถ้าเวลาจำกัดแล้วถึงกับต้อง Make Appointment ไว้เลยทีเดียวจะได้ไม่เสียเวลารอ ในร้านสั่งยี่ห้อไหนมาขายบ้างก็จะพยายามนัดยี่ห้อนั้นไว้เลย แบบที่จะมาเดินโทงๆหาของสวยไปขายนั้นมีน้อยครับ อีกอย่างหนึ่งมันมีเป็นพันๆ โชว์รูมให้ดูแล้วกี่วันถึงจะเดินหมด Market Week ส่วนมากเขาก็มีแค่ 5-6 วันเท่านั้น อีกอย่างหนึ่ง Buyers มีเวลาทิ้งร้านและงาน (ถ้าทำงานให้ห้างใหญ่ๆ) ไม่เกิน 3 วัน มิฉะนั้นแล้วก็จะมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นเช่นค่าเครื่องบิน ค่ารถ ค่าโรงแรม ค่ากินฯลฯ<br />
<br />
ฉะนั้น Buyers จึงรู้ว่าจะต้องไปที่ไหนบ้างส่วน Representative หรือ Salesman ก็พอจะรู้ว่าจะมีลูกค้าคนไหนมาบ้าง แบบที่จะหลงเข้ามาซื้อมีไม่เกิน 30% ของของที่ขายได้ทั้งหมด อีกอย่างหนึ่งโชว์รูมพวกนี้เขาจะมี Mailing Lists ของลูกค้าที่เคยมาซื้อก่อนจะมี Market Week เขาก็จะส่ง Post Card หรือ Newsletter ส่งไปให้ลูกค้าว่ามีของอะไรใหม่ๆที่นำเสนอบ้าง ถ้าลูกค้าชอบเขาก็จะแพลนที่จะไปดู<br />
<br />
ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับ Buyers ก็คือเวลาสั่งซื้อแล้วเขาจะได้เครดิตหลังจากที่ได้รับของแล้ว 30 วันถึงจ่าย ระบบเช็คเครดิตลูกค้านี่ในอเมริกาถือเป็นเรื่องสำคัญมากถ้าเครดิตไม่ดีก็ไม่มีใครส่งของให้นอกจากจะจ่ายเป็นเงินสดหรือ COD (Cash on Delivery หรือเก็บเงินปลายทางนั่นเอง)<br />
<br />
การจ่ายค่า Commission ให้ Salesman ก็เหมือนกัน ถ้าเราตัดสินใจส่งของให้ลูกค้าไปแล้วลูกค้าไม่จ่ายเราจะไม่จ่ายหรือหักเงินจาก Salesman จากค่าคอมไม่ได้ ในเมื่อเราตัดสินใจส่งเราก็ต้องจ่ายค่าคอมให้เขา ถ้าเราไม่ส่งก็ต้องมีเหตุผลเดียวคือเครดิตลูกค้าไม่ดีเท่านั้น ไม่ส่งเพราะว่าไม่มีของส่งให้ไม่ได้ ก่อนทำงานร่วมกันก็ต้องมีสัญญาผูกมัดกันไว้ก่อนระหว่างผู้ผลิตกับ Sales Representative<br />
<br />
ดังนั้นพวก Salesman นี่เขาก็ระวังไม่อยากเสียเวลา ถ้าเจอลูกค้าใหม่เขาก็จะถามมันมีในใบสั่งซื้อว่าจะจ่ายยังไง ตรงช่องคำว่า Terms ว่าจะกรอกยังไง เช่น 2/10 Net 30 หมายถึงถ้าจ่ายภายใน 10 วันให้หักออกจากบิลได้ 2% หรือไม่ก็จ่ายเต็มตามบิลหลังจาก 10 วันแต่ไม่เกิน 30 วัน หากครบ 30 วันยังไม่ได้จ่ายเงินเราก็จะมีใบเตือนหรือ Reminder แบบหวานๆไปก่อน ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ยังไม่ได้จ่าย ก็ส่งใบเตือนหนักขึ้นอีกนิด อาทิตย์ที่สามผ่านไปยังไม่จ่ายก็จะมีใบเตือนบอกว่าถ้าไม่จ่าย We have no choice but to turn your account to Collection’s Agency and report to The Credit Bureau about your late outstanding balance. หมายถึงถ้าไม่จ่ายก็ไม่มีทางเลือกจะส่งบัญชีไปให้บริษัททวงหนี้และรายงานสำนักงานเครดิตถึงการจ่ายบิลล่าช้าของคุณ<br />
<br />
ท่านผู้อ่านก็พอจะเข้าใจนะครับ...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... เอาชุดแม้วเข้าตลาดครั้งที่ สอง....ที่ Dallas Apparel’s Market</span><br />
<br />
Jacksonville , Florida , U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/4h/11jacksonvillefloridau.s.a..jpg"></center><br />
<br />
ตอนที่ 12...เอาชุดแม้วเข้าตลาดครั้งที่ สอง....ที่ Dallas Apparel’s Market<br />
<br />
หลังจากที่ชุดแม้วใกล้จะเสร็จพร้อมส่งผมก็จัดการเรื่องการจะส่งออกเตรียมเอกสารทุกอย่างให้บริษัทคาร์โก้ไปดำเนินการแล้วผมก็กลับ Houston Texas เพื่อจัดการเรื่อง Office และรอรับของ<br />
<br />
เมื่อถึงบ้านแล้วผมก็โทรไปหานาย Joe บอกเขาว่าทุกอย่างเรียบร้อยอีกไม่เกิน 10 วันของจะมาถึง เขาก็บอกผมว่าดีละและก็บอกข่าวดีให้ผมว่าตอนนี้เขามีออเดอร์จากลูกค้าใหม่และจากลูกค้าที่ซื้อไปแล้วและ Reorder ใหม่อีกเกือบ 400 ตัว ข่าวนี้ผมก็ดีใจจนเนื้อเต้นคิดว่าอนาคตไม่มืดเสียทีเดียวยังมีทางให้ลุ้นอยู่ แล้วผมก็รีบไปดำเนินการเรื่อง Office จัดหาโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานพร้อมอุปกรณ์ในการใช้ในสำนักงานเช่นเครื่องพิมพ์ดีด ฯลฯ ใช้เวลาสองวัน Office ก็เป็นรูปเป็นร่างพร้อมใช้งาน ผมก็มีโต๊ะทำงานผมในห้องเล็ก ห้องใหญ่ก็มีอีกโต๊ะหนึ่งสำหรับ Receptionist หรือ Secretary นั่งทำงาน มีโทรศัพท์วางไว้ได้ทั้งสองโต๊ะ แต่ขอโทษครับตอนนั้นยังไม่มีใครมานั่งทำงานด้วย One man show เลย...55555<br />
<br />
ผมได้รับเมล์จาก Joe เขาส่งใบออเดอร์มาให้ผมผมก็เปิดดู มีกว่า 20 ออเดอร์ เรา Set Minimum Order ไว้ที่ 6 ตัวขึ้นไปสำหรับร้านเล็กๆสั่งไปลองขาย ถ้าเขาขายได้เขาก็จะสั่งมาอีก รวมออเดอร์แล้วก็เกือบ 400 ตัวอย่างที่โจโทรมาบอกก่อนหน้านั้น<br />
<br />
และแล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อผมเห็นในช่อง Terms (การจ่าย) ใน Purchase Order ของเรา Joe เขียนว่า Net 30 ก็พอรู้ว่ามันคืออะไรเพราะเคย Take Course Accounting มาเหมือนกัน ที่เป็นปัญหาคือเรารอเก็บเงินนานอย่างนั้นไม่ได้เพราะทุนผมน้อยแล้วระหว่างที่รอจะเอาเงินที่ไหนมาใช้มาหมุน ผมก็นึกว่าจะได้ขายเป็นเงินสดอย่างคราวที่แล้วคือลูกค้าจ่ายเลย<br />
<br />
ผมก็เลยโทรไปหาโจบอกเขาถึงปัญหาของผมเขาก็บอกว่าเอาอย่างนี้เขาจะโทรไปหาลูกค้าร้านเล็กๆหมายถึงที่เป็นเจ้าของผู้จัดการหรือขายเองคนเดียวนั่นแหละให้เขียนเช็คส่งมาให้ผมก่อนเพื่อช่วยเหลือกันโดยอ้างว่าผมเป็นพ่อค้าเล็กๆมีเงินทุนหมุนเวียนน้อยแต่มี Hot Item (ของดี) อยู่ในมือ ส่วนร้านค้าขนาดปานกลางหรือที่มีหลายสาขาขึ้นไปเขาจะไม่เล่นด้วยเพราะเขามีระบบบัญชีของเขาอยู่ ถ้าไปถามเขาให้จ่ายอย่างนั้นเขาจะโมโหเอา ดีไม่ดี Cancel<br />
<br />
ผมได้ฟังนายโจพูดก็ตกลงตามนั้น นายโจนี่ก็หัวไวดีผมชอบมีปัญหาอะไรก็บอกกันตรงๆ มาถึงตรงนี้จะขอบอกเรื่องที่ผมลืมบอกไปว่าก่อนที่เราจะเปิดร้านนี้ผมบอกโจว่าผมจะจ่ายคอมให้เขาตัวละ 10 เหรียญมันจะหนักไปผมจะอยู่ไม่ได้ขอจ่ายแค่ 7 เหรียญพอ นายโจเขาก็ตกลง<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/qu/dallasapparelaccessoriesmarket.jpg"></center><br />
ปัญหาไม่จบลงแค่นี้ผมจะส่งของไปให้ลูกค้าผมจะต้องมีกล่องมีแบบฟอร์มหลายอย่างเช่น มี Invoice มี Packing List ที่ต้องส่งไปกับกล่อง มี Label สำหรับพิมพ์จ่าหน้าถึงลูกค้า มีเทป มีซองจดหมายที่มีชื่อยี่ห้อของเราอยู่ แล้วจะต้องหาบริษัทขนส่งด้วย ด้วยความที่ด้อยหรือไม่มีประสบการณ์เลยทำให้ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย จะคิดก็ไม่ได้เพราะไม่รู้ มารู้มาคิดได้ก็ต่อเมื่อจะต้องส่งของนี่แหละ<br />
<br />
เอ..แล้วเราจะไปพิมพ์แบบฟอร์มที่ไหนละเนี่ย จะออกแบบยังไง ก็เลยไปเปิดสมุดโทรศัพท์ดูก็เห็นมีหลายบริษัทที่เสนอสิ่งพิมพ์เหล่านี้ที่อยู่ใน Houston และก็ต่างรัฐผมก็โทรไปที่บริษัทต่างรัฐแห่งหนึ่งให้เขาส่ง Catalog มาให้เขามีแบบฟอร์มให้เลือกแล้วแต่ว่าเราจะจั่วหัวยังไง<br />
<br />
จัดการเรื่องนี้เสร็จพอดีชุดแม้วมาถึงแล้วก็ให้ Broker ไปจัดการออกของให้ เรื่องนี้รู้เพราะทำมาแล้วเมื่อครั้ง 500 ตัวนั่น ตอนนั้นเอาเสื้อผ้าเข้าสหรัฐหรือสินค้าอื่นๆต้องเสียภาษีด้วยนะครับ แต่ก็มีบ้างที่ยกเว้น จะรีบเอาของออกก็ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้ Custom เขานะครับอันนี้ก็มาเรียนรู้ทีหลัง จากนี้ผมก็ไปที่ UPS เพื่อไปขอเปิดบัญชีเพื่อที่จะสะดวกเวลาส่งของและก็รู้ว่าเราไม่ต้องขนไปส่งที่นั่นเปิดบัญชีแบบ Merchant เขาก็จะมารับเองแต่ก็ต้องโทรบอกเขารายวันนะครับถ้าวันไหนมี Pick Up<br />
<br />
เมื่อ Broker ออกของเสร็จเขาก็เอามาส่งให้...ปัญหาอีกแล้ว...จะเก็บของยังไงจะเอากองรวมกันไว้เวลาจะส่งให้ลูกค้าก็จะยุ่งและเสียเวลาตาย(ห่า) เพราะในแต่ละออเดอร์เขาจะระบุมาเลยว่าจะเอาสีนั้น Size นี้แล้วจะต้องไปขุดไปค้นเอาในกล่องตั้ง 60 กว่ากล่องๆหนึ่งใส่ได้ 30 ตัว ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ในกล่องไหนก็จะเสียเวลา<br />
<br />
ดังนั้นไวเท่าความคิดต้องทำชั้นวางของจัดระเบียบ ชั้นไม่ต้องซื้อหาเอาลังที่เขาตีใส่กล่องมานั่นแหละเอามาวางทับซ้อนๆกันให้สูงพอเอื้อมไปหยิบได้ เอากล่องกระดาษที่เขาใส่มานั่นแหละฉีกด้านฝากล่องออกแล้วก็เอาใส่ไปในชั้นลังไม้นั่นแหละ แบ่งเป็น 3 Section เพื่อเก็บตาม Size ก่อน ก็มี ขนาด S M L เอาชุดแม้วไปใส่ตาม Size ตามสีมันมันก็ง่ายแล้วทีนี้...งานพวกนี้ทำเองหมดครับยังไม่มีลูกจ้างยังจ้างไม่ไหว ทำเองได้ก็ทำไปก่อน...อาข่าเก่งมะ....<br />
<br />
แล้วผมก็ออกไปหาซื้อกล่องมาหลายขนาดต่างกันสำหรับใส่มากใส่น้อย ได้รับ Catalog จาก Nebs. มาแล้วก็เลือกเอาแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจเราที่สุด เพียงแต่บอกเขาว่าเราจะเอา Catalog เบอร์ไหนอย่างไร สมันนั้นธุรกิจมันไม่ได้ออนไลน์สะดวกสบายอย่างสมันนี้นะครับ อยากจะรู้ว่า Nebs. เป็นแบบไหน <a href="http://www.nebs.com/nebsEcat/index.jsp" target="_blank">เชิญไปคลิ๊กดูที่ลิงค์นี้ครับ...</a> ถ้าไปดูก็จะเห็นฟอร์มต่างๆที่ผมเล่ามานั้นแหละก็จะเข้าใจได้ง่ายขึ้นแต่ก็อีก High-Tech สมัยนี้มันมีโปรแกรมให้เราใช้แบบ Print ออกมาได้เลยก็จะสะดวกรวดเร็วขึ้น<br />
<br />
ระหว่างที่ทำงานพวกนี้อยู่ผมก็ได้รับเช็คที่ลูกค้าส่งมาให้ผมหลายใบอยู่...ปัญหาอีกแล้ว...จะเอาไป Deposit (ฝาก) ในบัญชีส่วนตัวก็ไม่ได้เพราะเขาสั่งจ่ายมาในนามบริษัทเราก็ต้องเปิดบัญชีในนามบริษัท ลูกค้าก็จะได้รู้ว่าเช็คมา Clear ถูกที่ ถ้าเอาไปเข้าบัญชีอาข่าธนาคารก็ไม่รับอยู่ดี ก็เลยเปิดบัญชีเป็น Merchant Account จะเปิดบัญชีอย่างนี้ก็ต้องมี ID (อเมริกาใช้ใบขับขี่นั่นแหละครับ) ของตัวเอง Business License (ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ) อันนี้ก็ต้องไปที่ City ไปกรอกฟอร์มขอเขา<br />
<br />
อยากจะบอกอย่างหนึ่งว่าเวลาเราไปติดต่องานที่ Government Office ต่างๆ เขาจะไม่มีการตุกติกเยิ่นเย้อหรือต้องให้ใต้โต๊ะเหมือนบ้านเรา ระเบียบเขาต้องการอะไรจัดหาให้ตามนั้นเขาจะบริการอย่างดีและที่สำคัญก็คือตามคิวเท่านั้นนะครับ<br />
<br />
เมื่อผมได้ License มาผมก็เอาไปเปิดบัญชีที่ธนาคารแล้วก็เอาไปใส่กรอบไปแขวนไว้ที่ Office หมายเลขใน License นั่นแหละจะเป็นหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของร้านค้าเท่านั้นไม่ใช่การเสียภาษีส่วนตัว อันนั้นมันจะมีอีกใบหนึ่งเรียกว่า Social Security Number ไม่ว่าใครถ้าไม่มีใบนี้จะไปสมัครรับจ้างทำงานที่ไหนไม่ได้นอกจากจะไปรับจ้างทำงานเป็นเงินสดแต่ก็ผิดกฎหมายทั้งนายจ้างลูกจ้างเพราะจะไม่มีการหักภาษีให้รัฐบาล คนไทยที่ไปรับจ้างทำงานเป็นพ่อครัวแม่ครัวอยู่ที่สหรัฐแล้วไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือว่าเป็น "โรบินฮู้ด" ต่างก็รู้ดีครับ...ว่าขมขื่นเพียงใดถ้าไปเจอนายจ้างที่เอารัดเอาเปรียบ<br />
<br />
เมื่อได้รับฟอร์มต่างๆมาแล้ว ผมก็จัดการส่งของไปตามออเดอร์ที่มีอยู่ทำเองทุกอย่างเพราะยังไม่มีคนช่วย ผมจัดการส่งรายละเอียดของที่เหลืออยู่ในสต๊อกว่ามีสีและ Size อะไรบ้างเพื่อที่จะขายได้ตามที่มีอยู่และก็ส่งได้ทันที<br />
<br />
ประมาณกลางเดือนเมษาก็มี Market Week ที่ Dallas อีก คราวนี้ผมก็เตรียมตัวที่จะไปเหมือนกันแต่จะไม่เอาของไปอย่างครั้งก่อนหากมีออเดอร์ก็จะส่งของตามที่เขาสั่งมา สรุปแล้ว 5 วันสนุกมากได้ออเดอร์มาเพียบพันกว่าตัวที่มีเหลืออยู่ส่งไม่พอต้องค้างออเดอร์ไว้สำหรับที่เขาระบุส่งให้ได้ตอนไหนมันจะมีอย่างนี้ตรงช่อง Ship When เราจะถามลูกค้าว่าจะให้ส่งเมื่อไหร่เช่น..<br />
<br />
As ready...หมายถึงพร้อมเมื่อไหร่ก็ส่งได้ ไม่มีกำหนด<br />
<br />
90 Days...หมายถึงส่งได้ภายใน 90 วันตั้งแต่วันที่สั่งหรือไม่ก็ระบุวันที่มาเลยว่าจะให้เริ่มส่งเมื่อไหร่<br />
<br />
ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากการไปตลาดครั้งที่สองนี้ นายโจนี่ผมถือว่าเป็นครูผมเรื่อง Sales เลย <br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... กลับเมืองไทยอีกครั้ง...มีออเดอร์อยู่ในมือเยอะ</span><br />
<br />
Las Vegas , Nevada , U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/ec/12lasvegasnevadau.s.a..jpg"></center><br />
ตอนที่ 13...กลับเมืองไทยอีกครั้ง...มีออเดอร์อยู่ในมือเยอะ<br />
<br />
การจะกลับเมืองไทยคราวนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆเพราะยังไม่มี Office ตอนนี้มีแล้วจะปิดก็ไม่ได้เพราะเริ่มมีลูกค้าติดต่อสื่อสารบ้างแล้ว จะปล่อยให้ Office ร้างอย่างนั้นไม่เป็นการดีแน่ๆจะต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาดูแลเพราะมันมีเงินที่ลูกค้าส่งมาเป็นเช็คก็ต้องเอาไป Deposit ที่ธนาคารทุกครั้งที่ได้มา ปรึกษาแม่เด็กดูแล้วเขาก็บอกว่ามีหลานอยู่ที่แคลิฟอร์เนียจะขอเขามาช่วยดูแลก่อนจนกว่าผมจะกลับมาจากเมืองไทย เมื่อติดต่อไปแล้วเขาก็ตกลงที่จะมาช่วยก็ให้พักอยู่ที่บ้านผมนั่นแหละ เมื่อมาแล้วผมก็สอนว่ามีอะไรที่จะต้องทำบ้าง การตอบโทรศัพท์จากลูกค้าหรือว่าใครที่โทรเข้ามา มีออเดอร์เข้ามาจะส่งของหรือแพคของยังไงก็ทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างหลังจากนั้นผมก็เดินทางกลับเมืองไทยกะว่าจะอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์<br />
<br />
กลับเมืองไทยคราวนี้ผมมีออเดอร์ที่จะส่งเกือบ สองพันตัว ที่เอามาครั้งที่แล้วเหลือไม่มาก เมื่อกลับถึงเมืองไทยผมก็ไปหาเจ๊พร้อมกับยื่นออเดอร์ให้แก 4,000 ตัวๆละ 140 บาทก็เป็นเงินห้าแสนกว่าบาท แต่ผมมีเงินติดตัวมาสามแสนเองผมก็เปิดอกคุยกับเจ๊เลยถึงสถานะของผมในตอนนั้น ผมบอกแกว่าผมจะจ่ายให้แก 30% ก่อนเพื่อเอาไปไว้จ่ายค่าแรงงานและจิปาถะอื่นๆก่อน เจ๊มีเครดิตกับร้านขายผ้าได้ถึง 1 เดือนก็ยังไม่ต้องจ่าย ตอนผมมารับของแต่ละครั้งก็จะจ่ายให้อีก 70% ตามจำนวนที่เอาไปจนกว่าเจ๊จะทำส่งได้หมด งานนี้ให้เวลาเจ๊แก 30 วันเจ๊แกก็ตกลง จะไม่ตกลงได้ยังไงครับหากงานนี้เสร็จแกจะได้กำไรตัวละ 20 บาท 4,000 ตัวก็ แปดหมื่นบาทภายใน 1 เดือนมันหาได้ง่ายๆที่ไหนสำหรับคนขายของตามแผงอย่างนั้น ผมแยกออเดอร์ให้ส่งเป็น 2 Lot Lot ละ 2,000 ตัวโดยจัดการเรื่อง Color และ Size ที่ผมจะต้องไป Fill Up order ก่อน<br />
<br />
หลังจากนั้นอีกวันต่อมาผมก็ไปเช็คกับเจ๊ว่ามีปัญหาอะไรไหมโดยเฉพาะเรื่องผ้าที่ต้องการว่าเขามีในสต๊อกให้เลยหรือเปล่า เจ๊แกก็บอกไม่มีปัญหาอะไรผมก็เบาใจ แต่ผมก็แวะไปดูความคืบหน้าทุกวัน จีนฮ่อสองผัวเมียคู่นี้ทำงานดีมากเลยต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเองแต่เรื่องเงินเมียเป็นคนจัดการและตัดสินใจ....55555<br />
<br />
ผมอยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์งาน 2,000 ตัวก็เกือบเสร็จ ผมก็เลยตัดสินใจกลับเพราะห่วงทางอเมริกาเหมือนกัน มอบหมายให้พ่อผมเป็นคนจัดการเอาไปให้ที่คาร์โก้หากเมื่อ Lot แรกเสร็จพร้อมกับบัญชีการจ่ายเงินที่ตกลงกับเจ๊ไว้ว่าจะจ่ายยังไงกลับถึงอเมริกาจะรีบโอนส่วนที่เหลือมาให้<br />
<br />
เมื่อกลับถึงอเมริกาปรากฏว่านายโจส่งออเดอร์มาอีกเยอะแยะ สี่พันตัวที่สั่งทำไว้ก็ไม่พอหนำซ้ำอีกเป็นเดือนกว่าของจะมาถึงแล้วระหว่างนั้นก็จะมีออเดอร์เพิ่มเข้ามาอีกจะทำยังไงดี(วะ)เนี่ย เอาของจากเมืองไทยมาต้องจ่ายเป็นเงินสดบวกค่าขนส่งค่า Custom อีก ของมาถึงแล้วก็ใช่ว่าจะขายเป็นเงินสดได้ทั้งหมด 70% ต้องให้เครดิตลูกค้ากว่าจะได้ก็ต้องอีกตั้ง 30วัน จะหมุนเงินอย่างไรทัน ทุนเราก็น้อย<br />
<br />
คิดแล้วผมก็โทรหานายโจให้มาหาผมที่ Houston เพราะมีเรื่องจะปรึกษา(แหะๆ ตอนนี้ผมเป็น Boss นายโจแล้วนะ) นายโจก็บินจาก Dallas มาหาผมที่ Houston ใช้เวลาบินก็ 1 ชั่วโมงเองผมก็ไปรับนายโจที่สนามบินพามาคุยกันที่ Office ผม เมื่อมาถึง Office ผมก็พูดกับนายโจอย่างเป็นการเป็นงานเลยผมถามนายโจว่า "Joe…What Do you think about this Meo dresses ?" นายโจก็บอกว่า "It’s great I think we can sell a lot of this besides we haven’t cover all the markets yet I believe we will do well…believe me" แปลเป็นไทยก็หมายถึงผมถามนายโจว่าคิดยังไงกับ "ชุดแม้ว" นี้ นายโจก็บอกว่ายอดเยี่ยมมากเราจะต้องขายได้อีกเยอะ เชื่อผมสิเพราะยังไม่ได้ไปโชว์ที่ตลาดอื่นๆเลย<br />
<br />
แล้วผมก็ท้าวความถึงความหลังให้นายโจทราบว่าเขาเองก็รู้ว่าทุนรอนผมน้อยเมื่อเขาเชื่อว่ามันจะโตเราก็จะโตด้วยกันแต่ผมขอความร่วมมือเขาสองอย่างคือ 1. พยายามเขียนออเดอร์ให้จ่ายเงินสดให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ 2. การจ่ายค่า Commissions เขา 2 อาทิตย์หลังจากที่ผมส่งของไปให้ลูกค้าตามที่ตกลงกันไว้ก่อนนั้น ผมขอจ่าย 50% ก่อน อีกสองอาทิตย์ค่อยจ่ายที่เหลือให้+กับ 50% ของค่าคอมงวดใหม่ให้และจะตั้งบัญชีจ่ายไว้อย่างนั้น นายโจก็ตกลง<br />
<br />
จะไม่ให้ตกลงได้ยังไงนายโจนี่ไม่ได้โง่นะเขาดีดลูกคิดรางแก้วไว้แล้วว่าเขาจะได้เงินจากผมเท่าไหร่ ยิ่งเขามาบอกตอนผมเกริ่น(ตามแผน)ว่าคิดยังไงกับ "ชุดแม้ว" นี้ เขาก็ตอบตรงกับที่ผมต้องการและเขาก็มองเห็นรายได้ที่จะตามมาจึงตอบตกลง มันก็เหมือนกับเจ๊ที่ตัดผ้าให้ผมนั่นแหละ โอกาสอย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆเขาจึงตอบตกลงกับเงื่อนไขที่ผมเสนอ คือถ้าไม่ช่วยกันก็ปิดโอกาสให้ตัวเอง ผมก็เปิดอกคุยแล้วเมื่อตกลงกันได้อย่างนี้งานมันก็ดำเนินต่อไปได้ ผมเองเสียอีกจะหนักกว่าเพื่อนที่จะต้องหมุนเงินไม่ให้ชะงักได้ จะไปกู้ยืมที่ไหนก็ไม่ได้ ต้องจัดการเท่าที่มีให้รัดกุม<br />
<br />
เมื่อคุยกับนายโจเสร็จแล้วผมก็ร่าง Agreement (สัญญา) สำหรับนายจ้างและลูกจ้างกับนายโจเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เลยว่าจะต้องทำยังไงกันบ้างพูดง่ายๆก็คือระเบียบนั่นแหละ การจ้างเซลส์แบบนี้ถือว่าเป็นการจ้างอิสระเราจะไม่มีการหักภาษีเขาแต่เราต้องแจ้งให้สรรพากรว่าเราได้จ่ายค่า Commissions ให้เขาไปเท่าไหร่เมื่อถึงสิ้นปี นายโจก็จะต้องไปแจ้งกับ Internal Revenue Service (IRS) ว่าเขามีรายได้เท่าไหร่จะต้องเสียภาษีเท่าไหร่เอาเอง เมื่อทำสัญญาเสร็จผมก็พานายโจไปกินอาหารจีนเสร็จแล้วก็ไปส่งเขาที่สนามบินเพื่อบินกลับบ้านที่ Dallas<br />
<br />
เป็นเดือนผ่านไปก็ได้ของ Lot แรก 2,000 ตัวมา ผมก็รีบจัดการส่งให้ลูกค้าทันที อ้อลืมบอกไปว่าพอผมกลับมาจากเมืองไทยผมก็คิดว่าต้องหาคนมาทำงานด้วยเพราะมันเริ่มยุ่งแล้วผมทำทุกอย่างไหวแต่มันไม่ทัน...55555 คุยกับหลานแม่เด็กความจริงเป็นลูกพี่ลูกน้องมากกว่าเขาว่าเขาสนใจอยากจะทำงานด้วยแต่จะขอกลับไปเคลียร์อะไรที่แคลิฟอร์เนียก่อนแล้วจะกลับมาแม่เด็กและผมก็ตกลงโดยเราจะให้เขาพักที่บ้านกินอยู่กับเราเสร็จจะจ่ายให้เขาอาทิตย์ละ 200 เหรียญซึ่งก็ถือเป็นรายได้ปกติสำหรับ Receptionist ในช่วงนั้นแถมยังไม่ต้องเสียค่าที่อยู่ที่กินอีก เมื่อมีคนช่วย งานผมก็เบาลงไม่ต้องมานั่งคอยรับโทรศัพท์หรือพิมพ์งานพิมพ์อะไรต่างๆอีกต่อไป<br />
<br />
ผมได้สั่งให้เจ๊ที่เมืองไทยทำชุดส่งมาให้ผม 2,000 ตัวทุกๆสองอาทิตย์โดยจะสั่งผ่านทางพ่อให้พ่อเป็นคนจัดการให้ ผมจะต้องไม่ต้องไปเมืองไทยบ่อยๆ ไปแต่ละทีค่าใช้จ่ายเยอะมาก งานเข้ารูปเข้ารอยแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปอีก<br />
<br />
ช่วงนี้ถึงไม่มีตลาดแต่ก็มีออเดอร์เข้ามาแทบทุกวัน นายโจนี่เก่งถึงเขาไม่เดินสาย On the road ไปหาลูกค้าตามเมืองเล็กเมืองน้อยต่างๆเหมือนเซลแมนส์คนอื่นๆเขาก็โทรไปหาลูกค้าที่เคยมาซื้อของที่โชว์รูมของเขา แนะนำว่าเขามี Hot Item คือ "ชุดแม้ว" ลูกค้าจะต้องขายได้ดีมีกำไรแน่นอนลูกค้าก็เชื่อเขาสั่ง 6 ตัวหรือ 12 ตัวไปลองดูก่อนบ้าง มีอยู่ร้านหนึ่งที่ San Antonio Texas ซื้อไปเมื่อครั้งแรกเลย 24 ตัวถึงตอนนี้สั่งไป ร้อยกว่าตัวแล้ว<br />
<br />
เมืองซานอันโตนีโอเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่ใกล้ชายแดนเม็กสิโก ชุดแม้วนี่เหมาะสำหรับตลาดที่นั่นเลย ผมมีเกือบ 20 ร้านที่สั่งไปขายในเมืองนี้และก็มี Repeat Order มาให้เรื่อยๆ ต่อมาเมืองนี้ก็เป็นเมืองสำหรับเดินสายของผมเลยคือออกจาก Houston ไป San Antonio ประมาณ 200 ไมล์แล้วก็ต่อไปยังเมือง Corpus Christi เมืองชายทะเลห่างออกไปอีก ประมาณ 90 ไมล์แล้วก็กลับ Houston อีกประมาณ 150 ไมล์ คือเดินทางเป็นรูปสามเหลี่ยมเลย<br />
<br />
ไปแต่ละทีจะใช้เวลา 3-4 วันแล้วแต่ว่าจะเจอลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดหรือไม่ ลูกค้าพวกนี้ไม่ต้องมีนัดละครับเพราะจะรู้จักกันแล้วเดินเข้าออกร้านเขาได้ทุกเวลา ไปแวะหาจะซื้อไม่ซื้อไม่เป็นไร เมือง San Antonio นี่มีเสน่ห์ตรงที่มี River Walk นี่แหละคือมีแม่น้ำไม่ใหญ่เท่าไหร่นักผ่านกลางเมือง ทั้งสองฝั่งจะมีร้านรวงนานาชนิดบริการนักท่องเที่ยว ตอนเย็นๆไปเดินเล่นแถวนี้ก็มีความสุขดียิ่งถ้าได้เดินเกี่ยวก้อยกับคนรู้ใจแล้วก็เหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ปานนั้น ที่เมืองนี้ผมก็มีแควนๆหลายคนอยู่นะ ไปทีไรงานเสร็จก็นัดกินข้าวกันแล้วก็ให้เขามานอนเป็นเพื่อนที่โรงแรมเพราะผมเป็นคนกลัวผีไม่กล้านอนคนเดียว<br />
<br />
แล้วก็ที่เมือง Corpus Christi ผมก็ไปมีตำนานรักกับสาวไทยคนหนึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย เป็นคนมีนามสกุลดังในเมืองไทยหากบอกทุกคนต้องรู้จัก เธอเป็นคนสวยมาก ฟันขาวเป็นเงางามเหมือนไข่มุก เคยมีแฟนเป็นถึงผู้พันทหารเรือแต่ทีหลังเลิกกันมีลูกสาวหนึ่งคนตอนนั้นลูกคงอายุ 11-12 ขวบนี่แหละเป็นลูกครึ่งหน้าตาสวยเหมือนแม่เลย<br />
<br />
ที่ไปรู้จักกันได้เพราะครั้งหนึ่งเมื่อไปที่นั่นผมก็ไปนอนที่โรงแรม วันนั้นนึกอยากกินอาหารไทยก็เลยเปิดสมุดโทรศัพท์ดูว่าจะมีร้านอาหารไทยไหมและก็มีจึงโทรไปถาม Direction แล้วผมก็ไป ก็ไม่ได้กินอะไรมากครับไม่รู้จะกินอะไรก็สั่งแค่ก๋วยเตี๋ยวราดหน้ามากิน เจ้าของร้านรู้ว่าเป็นคนไทยก็มานั่งคุยด้วย พอดีไปก็ดึกแระงานไม่ยุ่งก็เลยมานั่งคุยได้ และแล้วเราก็ถามไถ่ถึงความเป็นมากันตามธรรมเนียมคุยกันสนุกก็เลยเหมือนกับว่ารู้จักกันมานาน เธอบอกว่าทีหลังมาก็ไม่ต้องไปพักที่โรงแรมหรอก ไปพักที่บ้านเธอก็ได้เธออยู่กับลูกสองคนเองผมก็ตอบตกลงแล้วก็กลับโรงแรมรุ่งขึ้นอีกวันหลังจากธุระผมเสร็จแล้วก็ไปที่ร้านอาหารเธออีกครั้งเพื่อบอกลา<br />
<br />
ตั้งแต่นั้นมาผมไปที่เมือง Corpus Christi เมื่อไหร่ผมก็ไปพักที่บ้านของเธอบางทีนัดเจอกันที่ San Antonio นอนที่นั่นคืนหนึ่งรุ่งอีกวันถึงไป Corpus Christi อ้อเมืองนี้จะมีกุ้งสดๆที่เขาไปจับมาจากทะเลมาขึ้นที่ท่ามาขายตัวใหญ่ๆราคาถูกกว่าในตลาดมาก ผมจะซื้อที 10 ปอนค์ 20 ปอนด์เอาไปเก็บแช่แข็งไว้กินที่บ้าน<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">โปรดติดตามตอนต่อไปที่นี่... เข้า ตลาดครั้งที่ 3 Holiday’s Market ที่ Dallas และก็เปิดตัวที่ California Mart......</span><br />
<br />
Columbus ,Ohio ,U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/fo/13columbusohiou.s.a..jpg"></center><br />
ตอนที่ 14...เข้า ตลาดครั้งที่ 3 Holiday’s Market ที่ Dallas และก็เปิดตัวที่ California Mart......<br />
<br />
เอาชุดแม้วเข้าไปขายที่ตลาดแล้ว 2 ครั้งได้ผลดีเกินคาด ช่วง Holiday’s Market ที่ Dallasซึ่งจะเป็นครั้งที่สามที่จะออกโชว์จะเป็นประมาณเดือนสิงหาคมผมก็เตรียมตัวที่จะไปอีก ความจริงไม่ต้องไปก็ได้เพราะนายโจและภรรยาของเขาก็ขายให้ได้อยู่แล้วแต่ผมอยากไปรู้ไปเห็นไปเรียนรู้ประสบการณ์ในการขายถือโอกาสเรียนรู้โดยการไปดูโชว์รูมอื่นๆที่มีเป็นพันๆด้วย ไปดูตลาดเสื้อผ้าของเขา<br />
<br />
อีกสองอาทิตย์จะถึง Market Week นายโจก็โทรมาหาผมบอกว่าเขาได้ส่งตัวอย่างไปให้เพื่อนของเขาเป็นเซลส์ขายเสื้อผ้าเหมือนกันที่ California Mart ในแอลเอ ชื่อนาย Don และเขาก็ตกลงที่จะขายให้ในโชว์รูมของเขาเพราะนายโจได้บอกเขาว่าขุดแม้วนี้ Hot อย่างไร นายโจบอกให้ผมโทรไปคุยกับนาย Don ซึ่งผมก็โทรไปนาย Don บอกว่า "I am very happy to represent your line. It’s very beautiful dress and I think I will do well for you" นาย Don บอกว่าเขาดีใจที่ได้ขายชุดแม้วให้ผมและเขาคิดว่ามันจะขายได้ดี ผมก็ตอบว่า "I am also happy to have you, Mr. Joe have talk a lot of good things about you and how great you are." หมายถึงว่าผมก็ดีใจเหมือนกันที่ได้เขามาร่วมงาน นายโจได้บอกถึงเรื่องดีๆของเขาให้ผมฟังและบอกว่าคุณเก่งมาก<br />
<br />
ตกลงนาย Don จะเป็นเซลส์แมนคนที่สองที่จะมาขายชุดแม้วนี้ Territory (ขอบเขต) การขายของเขาจะมีรัฐ California, Seattle Washington และ Alaskaในรัฐเหล่านี้เราจะไปตั้งให้ใครขายซ้อนอีกไม่ได้<br />
<br />
เขตครอบคลุมของนายโจก็คือ Texas, Louisiana, Arizona, Arkansas และ New Mexico<br />
<br />
เมื่อผมตั้งให้นายโจเป็นผู้จัดการขายแล้วเราก็ตกลงกันว่าเขาจะเป็นคนตัดสินใจเลือกคนที่จะมาขายให้ตามรัฐหรือตลาดต่างๆแล้วกำหนดว่าใครจะขายในพื้นที่ไหน<br />
<br />
มาถึงเรื่อง Commissions ที่จะต้องจ่ายให้เซลส์เหล่านี้เราก็ตกลงกันว่าผมจะจ่ายให้เซลส์แมนตัวละ 5 เหรียญและจ่ายให้นายโจ 2 เหรียญ รวมเป็น ตัวละ 7 เหรียญเท่าที่ผมจ่ายให้นายโจหากเขาขายเอง<br />
<br />
ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่า ของขายในราคาตัวละ 30 เหรียญแล้วจ่าย Commission ตัวละ 7 เหรียญดูมันมากจัง เกือบ 25% มันมีเหตุผลอยู่คือ ผมเคยเสนอให้นายโจ ตัวละ 10 เหรียญอย่างที่บอกมาแล้ว เพื่อที่จะต้องการขายเอาเงินคืนจาก 500 ตัวครั้งแรกที่ติดมืออยู่ ต่อมาเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป ผมก็บอกลดลงมาเหลือตัวละ 7 เหรียญเขาก็ยอมเพราะเขาเห็นทางที่จะได้ในวันข้างหน้าจากปริมาณการขาย ผมเองคิดสาระตะแล้วก็จะมีกำไร Net ตัวละประมาณ 10 เหรียญซึ่งผมก็พอใจ การค้าถ้ากลัวเขาได้มากกว่าเราอิจฉาเขาธุรกิจมันก็เดินไม่ได้ "อดทั้งสองฝ่าย"<br />
<br />
ผมมารู้ทีหลังว่าในวงการนี้เขาจ่าย Com กันอยู่ในระดับ 3-10% ทั้งนี้ทั้งนั้นมันขึ้นอยู่กับ "Brand name" ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ยี่ห้อดังๆที่มันขายได้อยู่แล้วเขาก็จ่าย Com น้อย เซลส์แมนก็อยากขายให้เพราะมัน Easy to sale ขายได้อยู่แล้วไม่ต้องออกแรงดัน (Push)<br />
<br />
ที่นี้อย่าง Meo Fashions ของผมนี่คือมัน No Name ไม่มีใครรู้จักต้อง Push หรือเชียร์ ดังนั้นเมื่อเราจะเอาของใหม่ๆเข้าตลาดจะให้เซลส์แมนมาขายของให้เราก็ต้องล่อด้วย com สูงๆ และเซลส์แมนพวกนี้ถ้า 2 Season Market ผ่านไปหากเขาขายไม่ได้เขาก็ "บอกลา" เราเหมือนกัน เช่นกันเราก็จะคิดว่าไอ้นี่มันไม่มีความสามารถขายหรือไม่ก็ของๆเราไม่เป็นที่นิยม หากผ่านไป 3-5 Season แล้วขายได้น้อยคุณก็ต้องพับตัวเองไปโดยอัตโนมัติหรือไม่ก็ออกแบบหาอะไรใหม่ๆไปขาย<br />
<br />
และแล้ววัน Market Week ก็มาถึง ที่ Dallas Apparel’s Market นี่หากเขามีงานโชว์ 7 วันเขาจะเริ่มเอาวันพุธแล้วไปสิ้นสุดเอาวันอังคาร ผมกะว่าจะไปสัก 3 วันคือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะมันเป็น Weekend คนเยอะ ตอนเช้ามืดของวันศุกร์ประมาณ ตี 4 ผมก็ขับรถออกจาก Houston ไป Dallas ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงก็ถึง ผมชอบขับรถในตอนเช้าๆหรือไม่ก็ตอนพลบค่ำเพราะอากาศมันดี วิวก็จะสวยด้วย เมื่อไปถึงผมก็เช็คอินเข้าที่โรงแรมที่จองไว้ จัดการล้างหน้าล้างตาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กินกาแฟที่เขามีให้ในห้องแล้วลงมาที่ Lobby ตั้งใจว่าจะจอดรถไว้ที่โรงแรมแล้วเรียกแท็กซี่ไปเพราะขี้เกียจไปขับรถวนหาที่จอด<br />
<br />
เดินหิ้วกระเป๋าเจมส์บอนส์ผูกไทด์ใส่สูทออกมาข้างหน้าโรงแรมเพื่อจะขึ้นที่จอดรอคิวรับส่งผู้โดยสารอยู่ก็ไปเจอคนรู้จักกันที่เคยอยู่ Houston มาก่อนเขาเป็นเจ้าของร้านขายอาหาร ร้านขายของชำ ทั้งมันเมียเขาแต่ก่อนเคยซูฮกผม ไปอุดหนุนซื้อของร้านมันแบบไม่เคยตระหนี่ถี่เหนียวซื้อทีก็เยอะด้วย พอผม Down จากการพนันเขาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย แต่ผมก็ไม่แคร์ เอาตัวออกห่างสังคมไทยแล้วก็เริ่มทำมาอย่างที่เล่าให้ฟังนั่นแหละ<br />
<br />
กลายเป็นว่าคนที่ผมกล่าวถึงผมขอเรียกว่า "ไอ้แป๊ก" มันย้ายมาจาก Houston มาอยู่ที่ Dallas มารับจ้างขับแท็กซี่และเป็นคิวของมันพอดีที่จะรับผมไปส่ง ผมว่านะ...ถ้ามันเห็นผมก่อนมันคงจะหลบผมแน่ๆ...55555 แต่มันหลบไม่ได้ แล้วการถามไถ่ก็เกิดขึ้นว่าเป็นยังไงมายังไง มันถามผมว่าผมมาทำอะไรที่ Dallas ผมก็บอกว่ามาทำธุรกิจ มันคงจะแปลกใจมากว่าผมถีบตัวขึ้นมาอย่างนั้นได้ยังไง...ผมเองก็สะใจนิดๆที่มันเห็นผมในสถานะอย่างนี้ ที่คิดเพราะมันเคยดูถูกผมทั้งๆที่เคยคบหาเป็นเพื่อนกันมาก่อน ในที่สุดมันกลายมาเป็นคนขับรถแท็กซี่ แต่ผมก็ไม่ได้คิดดูถูกมันหรอก...เพียงแต่คิดถึงคำว่า "ไม้ล้ม...อย่าข้าม"<br />
<br />
อ้อ..ผมเคยเจอทักษิณที่ร้าน "ไอ้แป้ก" ครั้งหนึ่ง เจอกันก็ยังจำกันได้ทักทายกันอยู่ เพราะเคยเรียนที่มงฟอร์ตเชียงใหม่รุ่นเดียวกันแต่คนละห้อง ตอนนั้นทักษิณเขามาเรียนแต่อยู่อีกเมืองหนึ่งห่างออกไป เมืองอะไรจำไม่ได้ ถ้ารู้ว่าเขาจะได้เป็นนายกฯ มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้านผมจะชวนเขาไปที่บ้านไปเลี้ยงเขาสักมื้อ......55555<br />
<br />
เมื่อถึงที่หมายผมเห็นมิเตอร์ค่าโดยสาร 7 เหรียญกว่าๆผมก็เอาแบ็งค์ 20 ให้แล้วบอกว่า "ไม่ต้องทอน" คือให้ทิปมันด้วย...อ้อ..นั่งแท็กซี่เมืองนอกนี่เขาก็ให้ทิปกันนะ<br />
<br />
แล้วผมก็บอกลา "ไอ้แป๊ก" เดินหิ้วกระเป๋าเข้าไปในตึกอย่างสุขใจ<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <font color="#FF9900">ตอนที่ 15... สนุกสุดเหวี่ยงกับการขายและข่าวดีจาก California</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2013/05/32-1972-8000-15-california.html">@ เชิญอ่านได้ที่นี่ครับ</a><br />
<br />
Honolulu ,Hawaii ,U.S.A.<br />
<center><img src="http://upic.me/i/lb/14honoluluhawaiiu.s.a..jpg"></center><br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>จากไอ้หนุ่มซินตึ้ง......กลายมาเป็นอาจารย์.......</strong></span><br />
โพสต์เมื่อ: วันจันทร์ที่ 1 เมษายน 2556<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/lh/5td6jz510.jpg"></center><br />
ภาพที่เห็นเป็นภาพถ่ายของผมที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 1974 ขณะนั้นอยู่ที่เมือง Houston รัฐ Texas USA<br />
<br />
แม่เด็กมาเมืองไทยคราวนี้เอามาให้ผมดู.....มีอยู่ภาพเดียวนี่แหละที่เขาเก็บไว้....ถ้าจะชอบ...แหะๆ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/fv/hv1ciz510.jpg"></center><br />
ผ่านไปแล้ว 39 ปีผมก็ยังดูเหมือนเดิม....55555.....วันนี้มีคนบอกว่าผมน่าจะอายุ 50ต้นๆ..<br />
<br />
คนที่บอกคือนักเรียน กศน.ที่ผมกำลังไปสอนการพูดการฟังภาษาอังกฤษให้เขาเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ AEC<br />
<br />
คนที่มาเรียนเป็นระดับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยและผู้นำในชุมชน มีผู้หญิงเป็น "แม่หลวง" ด้วย<br />
<br />
เป็นรุ่นแรกของเทศบาลตำบลที่ผมไปสอน มีทั้งหมด 25 คน หลักสูตร 60 ชั่วโมง ทฤษฎี 30-ปฏิบัตินอกสถานที่ 30 ชั่วโมง<br />
<br />
ผมไปสอนมาได้ 1 อาทิตย์แล้วตั้งแต่เวลา 19.00 น.-22.00 น. วันละสามชั่วโมง จันทร์-ศุกร์(ถึงไม่ค่อยมีเวลามาโพสต์อะไร)<br />
<br />
ก็สนุกดีนะโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจอนักเรียนที่กระตือรือร้นสนใจที่อยากจะเรียน...ที่ว่าจะยาก..มันก็ดูง่ายขึ้น<br />
<br />
ผมรู้สึกเหนียมเอามากๆที่พวกเขามาเรียกผมว่า "อาจารย์" เพราะผมไม่ได้เป็นอาจารย์ผมบอกเขาให้เรียกผม "อาข่า" เฉยๆ...จะเติมคำว่า...พี่..ลุง..ป้า...น้า..ก็ได้....แต่เขาก็ยังเรียกผมว่า "อาจารย์" อยู่นั่นแหละ<br />
<br />
มีนักเรียนอยู่คนหนึ่ง...พูดภาษาอังกฤษได้จ้อๆ......แต่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้....หลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์เธออ่านบทสนทนาที่ผมเตรียมไปสอนได้และก็เข้าใจในความหมาย<br />
<br />
ผมดีใจที่พวกเขา Improve ขึ้นไม่เหมือนกับวันแรกที่ไปสอนเพราะดูพวกเขามืดตื้อมาก<br />
<br />
ตอนนี้รู้จักทักทายและล่ำลากันเป็นภาษาอังกฤษแล้ว.....ออกภาคสนามเมื่อไหร่ก็จะรู้ว่าการเรียนมีผลสำเร็จแค่ไหน<br />
<br />
จากรุ่นนี้ 25 คนต่อไปเขาก็จะไปเป็นพี่เลี้ยงให้คนในชุมชนของเขาที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษรุ่นต่อๆไป<br />
<br />
งานนี้ผมไม่ได้อาสาสมัครไปนะแต่คนริเริ่มโครงการเขามาขอผมไปช่วย นัยว่าจะมีค่าน้ำมันรถให้บ้าง<br />
<br />
ผมก็ดีใจที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือสังคม เขาไม่ให้ก็ไม่เป็นไร...แต่ถ้าให้ก็เอา.....55555<br />
<br />
วันหลังจะมาสาธยายต่อถึงความเป็นมาและจุดมุ่งหมายของโครงการนี้นะครับ<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/w7/ntqe9p510.jpg"></center><br />
ตบท้ายด้วยรูปผมอีกรูปที่ถ่ายไว้เมื่อปี 1983 เป็นวันครบรอบอายุ 1 ปีของลูกชายคนที่สอง<br />
<br />
ผู้หญิงคนที่เห็นเป็นคนเลี้ยงเขาตั้งแต่เกิดเลยครับเราเรียกเขาว่า "นาน่า" เป็นคนฟิลิปปินส์ มากินอยู่เลี้ยงดูแลลูกผมคนนี้ครับ<br />
<br />
สมัยนั้นผมจ่ายแม่บ้านเดือนละ 400 เหรียญกินอยู่เสร็จ ผมนับถือเขาเหมือนแม่...<br />
<br />
<span style="color: #ff9900; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>Comment...</strong></span><br />
<br />
อันตราย!!! คุณ"อ่านข้อความยาวๆ"ได้หรือไม่????? คุณพิสูจน์ได้...<br />
<br />
การที่เรียกว่า"สมาธิสั้น"นั้นเป็นการเรียกที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จริงๆแล้วต้องเรียกว่า"สมาธิบกพร่อง" ทั้งนี้เพราะบางคนที่เป็น ไม่ได้มีปัญหาตรงที่มีสมาธิในช่วงสั้นๆ แต่มีปัญหาในเรื่องของ การควบคุมสมาธิและการปรับเปลี่ยนสมาธิ (Selective Attention) มากกว่า<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> แนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่... ศาสตร์เลี้ยงลูกให้ได้อย่างใจ... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> For...Friends&Friends <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/share/NDYyM3w4M2VhYTY3MjI3OThhNzczZGQ1NWU4ZmM3NDQzYWEwOXwzMDQ2Mg==" target="_blank"><img src="http://www.jackpresentation.com/Image/click.gif"></a><br />
<br />
E-Bookโหลดทั้ง2part แตกไฟล์คลิกขวาpart1 คลิกซ้ายExtract Here <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4ODJ8ODM4NmQ3ZGNmZTJmYjc2ZWI1ZjVlOTliOTNmOGRkMjN8MzA0NjI=" target="_blank">Part1</a> & <a href="http://cloudbox.3bb.co.th/view/OTE4Nzl8YjYxYjVmY2M4NDQ0MGFjNDBlODFjYTE5NmQ5YjBiNmV8MzA0NjI=" target="_blank">Part2</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> เป็นพ่อเป็นแม่คน...เรื่องนี้ให้เก็บเอาไปคิดเป็นการบ้าน... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/hna-xan-hna-suksa-7" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ชีวิตต้องสู้...Jimbo นักธุรกิจใหญ่ที่ชะตาผกผัน...มาเป็นคนขายปลาทู...สู่คนขับแท็กซี่...ลีมูซีน และอีกหลายๆๆ... <a href="https://sites.google.com/site/eastnorthhh/hna-xan-hna-suksa-" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ลองอ่านๆดู ผมว่ามันฮามาก... ชีวิตท.ทหารเกณฑ์...รันทดยิ่งกว่านวนิยายน้ำเน่าอีกว่ะ!... <a href="http://northernfoodd.blogspot.com/2013/04/1-2.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> โฉมฉาย อรุณฉาน...สาวสวยร้องเพลงไพเราะที่ผมขอเขียนถึงสักครั้ง <a href="http://redbkk.blogspot.com/2010/05/13.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> การเมืองเร่อะ...อย่า"อิน"ให้มากนัก เพลาๆกันไว้มั่ง <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/08/67.html" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By Thanawut:</span> ห้องนอนใครเหม็นอับมาทางนี้... <a href="https://sites.google.com/site/northfoodd/khxkhid-di-di" target="_blank">คลิกที่นี่...</a><br />
<br />
<center>กะลังมันส์!! รอหน่อยนะตะเอง...อิอิ<br />
<img src="http://upic.me/i/ar/pykn1r.gif"></center><br />
Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-38177027515652222232012-06-21T15:13:00.000+07:002012-06-27T13:55:09.044+07:0018 ส่งเข้าสภาไปซะ อย่าเอาความมั่นคงของรัฐบาลเข้าไปเสี่ยง???<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2011/09/4-19.html" target="_blank">4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/02/80.html" target="_blank">"วรเจตน์" ฝ่าศึกสหบาทา: ร้องว่าผมเนรคุณ แต่คุณยืนให้สูงเพื่อบอกว่าจงรักภักดี โดยเหยียบหัวผมขึ้นไป</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/fasttfoodd/027-bangkok-underwater-26-october-2011" target="_blank">027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/fasttfoodd/029-chm-phaph-chud-na-yk-pu-lng-reux-yeiym-prachachn-khet-dxnmeuxng-thi-thuk-na-thwm-khang-du-sihna-bng-khwam-ni-ci" target="_blank">029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://sites.google.com/site/fasttfoodd/030-peid-chak-xaseiyn-sammith-khrang-thi-19-thi-bahli-prathes-xindoniseiy" target="_blank">ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.284528548227841.86799.100000120933242&type=1&l=2d6ae7cd96" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.328000970547265.96442.100000120933242&type=1&l=5a9719e527" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.334802079867154.97244.100000120933242&type=1&l=81eb6dc1ab" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.368199826527379.103888.100000120933242&type=3&l=a074f4a6ce" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.368195803194448.103887.100000120933242&type=3&l=088d56706f" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.370653919615303.104341.100000120933242&type=3&l=46c1cbdcc2" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.390402360973792.107596.100000120933242&type=3&l=399f30c380" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.401245353222826.109861.100000120933242&type=3&l=19bd24ac2e" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น ชุดที่8</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.414188955261799.112770.100000120933242&type=3&l=e20dc01751" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เกาหลีใต้ ชุดที่9</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.430952200252141.115943.100000120933242&type=3&l=b10e825fc0" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน จีน ชุดที่10</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.455520967795264.119214.100000120933242&type=3&l=5353058a29" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บาห์เรน-กาตาร์ ชุดที่11</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.367191246628237.103668.100000120933242&type=3&l=5b56cd1a74" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.334799796534049.97243.100000120933242&type=1&l=ecaf63ec52" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/zone1kongthun/nihlwng-sedc-xxk-mha-smakhm-n-mukh-dec-phrathinang-cakri-mha-prasath-ni-phrabrm-mharach-wang" target="_blank">ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/12/81.html" target="_blank">81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2011/12/10-1972-8000.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">82 ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/01/54.html" target="_blank">54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/01/blog-post_25.html" target="_blank">สถานีรถไฟจีน แล้วลองย้อนมาดูเรา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/03/55.html" target="_blank">55... มาร์คครับ หยุดใช้วาทกรรมแก้รัฐธรรมนูญทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post.html" target="_blank">สุดยอดไปเล้ย ก้อคุณพี่ทิศใต้นะสิคะ บอกไม่กลับบ้านก็ได้ทุกวันนี้สบายดี</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/84.html" target="_blank">84 คุณชวนนท์ครับ ออกมาดูโลกภายนอกบ้างเถอะครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://red-ratkrabang.blogspot.com/2012/03/80.html" target="_blank">80 สังคมไทยป่วย หรือเป็นผลผลิตจากการโฆษณาชวนเชื่อมาอย่างยาวนาน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post_13.html" target="_blank">นิก นอสติทซ์ "ผมมาทำตามหน้าที่ของความเป็นมนุษย์"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/03/90.html" target="_blank">สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในใจของคนเป็นหมอ...คือการได้ทำตามคำสั่งสุดท้ายของคนไข้นั่นเอง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/03/56.html" target="_blank">อาข่า...พาไปชมตลาด...มาดูว่าข้าวของไม่ได้แพงอย่างสลิ่มว่านะ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/86.html" target="_blank">ยาจีนโบราณ ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก กินแล้วหายหลายโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post_28.html" target="_blank">ตอแหล ตลบตะแลง กวนตีน สิ่งที่ไอ้ฟักและพรรคของมันคิดว่าเท่เหลือเกินในสภา</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/87-googlemap-360.html" target="_blank">ลูกเล่นใหม่ GoogleMap ดูได้รอบทิศทาง360องศาหน้าบ้านตัวเอง-คนอื่น</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/04/57.html" target="_blank">แม่ค้ารุมกรี๊ด! ภาพนายกฯปู กินก๋วยเตี๋ยว-เดินตลาดนางเลิ้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/04/88.html" target="_blank">ไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อย</a> <br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/91.html" target="_blank">ปี๋เก่าก็ล่วงไปแล้ว ปี๋ใหม่แก้วก็มาฮอดมาเติง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.426886667325361.115366.100000120933242&type=3&l=7497e3d4f3" target="_blank">คลิปและภาพนายกฯปูเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.youtube.com/playlist?list=PLD63435625E518CC1" target="_blank">คลิปนายกฯทักษิณร้องเพลงเวทีคนเสื้อแดงที่กัมพูชา</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/04/58-300.html" target="_blank">เปิดตัว "เอ็มแรป" โมเดล! สุดคุ้มขึ้นค่าแรง 300 บาทบริษัทโชว์กำไรพุ่ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/04/100.html" target="_blank">ขอยืนยัน ข้าวแกงจานละ 100 บาท หรือกว่า ร้อยบาท มีจริง แพงจริง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/04/89.html" target="_blank">เหอ เหอ... พณฯท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติในสภาฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/92-comment.html" target="_blank">นานาcomment...ให้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย รับเอาไปทำการบ้านก่อนจะสายเกินแก้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/blog-post.html" target="_blank">"เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อน" : ดร.สุนัย วิเคราะห์การพ่ายแพ้ที่ปทุมฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://red-ratkrabang.blogspot.com/2012/04/85.html" target="_blank">ผมเห็นรัฐบาลกำลังทำอะไรที่ไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว รู้สึกเหมือนถอยหลังไปอีกสิบปี</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/05/94-dream-shock-2.html" target="_blank">ฉายแล้ว จ้าาาาา หนังสั้น เรื่อง DREAM SHOCK หลับ...หลอน ฉบับเต็ม รำลึก 2 ปี ราชประสงค์ (ดูก่อนใคร)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/05/blog-post.html" target="_blank">ของดีราคาถูกหน้า พรรค ปชป. กรุงเทพฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/05/91-17-02-2551.html" target="_blank">สนทนาประสาสมัคร 17-02-2551 "แก้เศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/eastnorthhh/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">System Engineer วิศวกรระบบเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/92.html" target="_blank">สุดยอด ส.ส. ที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องบันทึกไว้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post.html" target="_blank">แถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/06/95.html" target="_blank">ถ้าไม่รู้จักสู้... เมิงก็จะต้อนทนอยู่ให้มันข่มเหงอยู่ร่ำไป</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/59.html" target="_blank">ถ้าไม่สู้ตอนนี้...แล้วจะไปสู้ตอนไหน?????????ฮึ!! ท่านประธานฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/93-16-06-2555.html" target="_blank">คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/06/96.html" target="_blank">ถอย!! ก่อนแพ้ฟาล์วซ้ำซาก "เหลิม"เหน็บประชาธิปัตย์ เหมือนเปลือยล่อนจ้อน?!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/94.html" target="_blank">ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/gg/2012-06-05_135234510.jpg"></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/k7/toon21.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ส่งเข้าสภาไปซะ อย่าเอาความมั่นคงของรัฐบาลเข้าไปเสี่ยง???</strong></span><br />
By: <a href="http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/269709" target="_blank">ไทยรัฐออนไลน์</a><br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/eg/2012-06-21_141101510.jpg"></center><br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดง ลาดพร้าว</span><br />
<br />
ฟังข่าววิทยุ อสมท. การแถลงของ รมต.ต่างประเทศ หัวเหม่ง บอกว่า ควรให้อเมริกามาตั้งฐานสำรวจเมฆ เพราะจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย<br />
<br />
อยู่เป็นประเทศมาตั้งร่วมพันปี ไม่เคยสำรวจ จะเป็นจะตายให้ได้ กล้าเอาความมั่นคงของรัฐบาลเข้าไปเสี่ยง...<br />
<br />
มันบอกว่าไม่เข้าข่าย มาตราร้อยเก้าสิบ ขอถามหน่อย รู้จัก ตลก ไทยไหม ทำเป็นลืมเรื่องเขาพระวิหาร เรื่องหวยบนดิน และเรื่อง..อีกร้อยแปดพันเก้า... พวกมิงทำอะไรก็ผิดไปหมดแหละ<br />
<br />
ทีเรื่องรัฐธรรมนูญ คนเชียร์กันทั้งแผ่นดิน เสือกมุดรูหนี แล้วเรื่องขี้ประติ๋วพันธุ์นี้ กลับจะเอารัฐบาลเข้าไปเสี่ยง???<br />
<br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/06/95.html" target="_blank">ถ้าไม่รู้จักสู้... เมิงก็จะต้อนทนอยู่ให้มันข่มเหงอยู่ร่ำไป</a><br />
<br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>26มิ.ย.55 ครม.มีมติให้นำกรณีนาซาขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เข้ารับฟังความเห็นในที่ประชุมสภาฯ ส.ค.นี้</strong></span><br />
<br />
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้นำกรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจสภาพอากาศและชั้นบรรยากาศ เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป ที่จะเปิดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)โดยไม่มีการลงมติ<br />
<br />
"เมื่อมีข้อกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ รวมถึงมีบางพรรคการเมืองคัดค้านการดำเนินการดังกล่าว โดยระบุว่า ครม.ไม่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ครม.จึงเห็นควรให้ส่งเรื่องนี้ ดำเนินการตามกลไกรัฐสภา เพื่อให้เกิดความชัดเจน และมีความเห็นร่วมกัน" นายชลิตรัตน์ กล่าว<br />
<br />
นายชลิตรัตน์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.ได้รับทราบว่า การดำเนินการของนาซา เป็นการศึกษาสภาพอากาศและวิทยาศาสตร์เท่านั้น และคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความแล้วว่ากรณีนี้ไม่เข้ากฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรคสอง ที่ต้องให้รัฐสภาเห็นชอบ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงให้ดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 179<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดง บางกะปิ</span><br />
<br />
มันไม่ได้ผิดกติกาอะไรหรอก แต่ที่ทำเพราะรู้ว่าหมาจะเห่า เลยหาไม้กันหมาไว้<br />
<br />
ส่วนประเทศจะเสียโอกาสไป ก็ไปโทษพวกที่ออกมาเห่าละกัน<br />
<br />
รัฐบาลรู้ว่าทำถูกต้อง แต่มีพวกถ่วงความเจริญ จ้องเล่นสกปรกกันอยู่ เขาจึงนำเข้าสภาเพื่อประจานให้ชาวบ้านได้รู้ จะได้ทำให้ผู้คนตาสว่างขึ้นมาได้บ้าง<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดง ลาดกระบัง</span><br />
<br />
พอจะนำเข้าสภา ยะใสจะยื่นฟ้องแล้วเห็นไหม<br />
<br />
นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า การใช้สภาฯเป็นตรายางประทับรับรองวาระซ่อนเร้นของรัฐบาลครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะหลีกพ้นความรับผิดชอบตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้เชื่อว่าหลังมีการอภิปรายทั่วไปตาม มาตรา179 ครม.ก็จะมีการอนุมัติให้ทางสหรัฐใช้สนามบินอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางกลุ่มกรีน (Green politics) จะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้ระงับมติ ครม. และจะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งผู้ตรวจการแผ่นดินอีกทางหนึ่งด้วย<br />
<br />
<span style="color: #ff9900;">By: แดง สุวรรณภูมิ</span><br />
<br />
โถ พ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย ใครเขาจะไปโทษพวกพ่อคุณ แม่คุณได้ล่ะ ก็พวกพ่อเส้นใหญ่เหลือเกิน....ก็ที่รัฐบาล ทำลงไปน่ะ มันผิดหมดแหละ ไม่มีอะไรถูกสักอย่างเดียว...ผิดกับพวกพ่อคุณ แม่คุณทั้งหลาย ทำอะไรก็ถูกหมด ถ้ารัฐบาลนี้จะทำให้ถูกต้องก็ทำได้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ คืออย่าเสนอหน้าเข้ามาบริหารประเทศนี้...ประเทศนี้มันเป็นของพ่อกลุ่มเดียวนี่นะ...เฮ้อ พวกอเวไนยสัตว์ เกิดมาเป็นบัวใต้น้ำ เป็นได้แค่อาหารของพวกเต่า ปู ปลาเท่านั้นแหละหนอ....<br />Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-79575259636574921462012-06-05T14:09:00.002+07:002012-06-19T15:57:36.436+07:0017 พอเถอะครับ ตุลาการวิบัติ ที่ผ่านๆมา ชาติบ้านเมืองยัง ฉิบหาย กันไม่พออีกหรือ<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2011/09/4-19.html" target="_blank">4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/02/80.html" target="_blank">"วรเจตน์" ฝ่าศึกสหบาทา: ร้องว่าผมเนรคุณ แต่คุณยืนให้สูงเพื่อบอกว่าจงรักภักดี โดยเหยียบหัวผมขึ้นไป</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/fasttfoodd/027-bangkok-underwater-26-october-2011" target="_blank">027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/fasttfoodd/029-chm-phaph-chud-na-yk-pu-lng-reux-yeiym-prachachn-khet-dxnmeuxng-thi-thuk-na-thwm-khang-du-sihna-bng-khwam-ni-ci" target="_blank">029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://sites.google.com/site/fasttfoodd/030-peid-chak-xaseiyn-sammith-khrang-thi-19-thi-bahli-prathes-xindoniseiy" target="_blank">ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.284528548227841.86799.100000120933242&type=1&l=2d6ae7cd96" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.328000970547265.96442.100000120933242&type=1&l=5a9719e527" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.334802079867154.97244.100000120933242&type=1&l=81eb6dc1ab" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.368199826527379.103888.100000120933242&type=3&l=a074f4a6ce" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.368195803194448.103887.100000120933242&type=3&l=088d56706f" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.370653919615303.104341.100000120933242&type=3&l=46c1cbdcc2" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.390402360973792.107596.100000120933242&type=3&l=399f30c380" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.401245353222826.109861.100000120933242&type=3&l=19bd24ac2e" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น ชุดที่8</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.414188955261799.112770.100000120933242&type=3&l=e20dc01751" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เกาหลีใต้ ชุดที่9</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.430952200252141.115943.100000120933242&type=3&l=b10e825fc0" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน จีน ชุดที่10</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.455520967795264.119214.100000120933242&type=3&l=5353058a29" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บาห์เรน-กาตาร์ ชุดที่11</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.367191246628237.103668.100000120933242&type=3&l=5b56cd1a74" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.334799796534049.97243.100000120933242&type=1&l=ecaf63ec52" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/zone1kongthun/nihlwng-sedc-xxk-mha-smakhm-n-mukh-dec-phrathinang-cakri-mha-prasath-ni-phrabrm-mharach-wang" target="_blank">ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/12/81.html" target="_blank">81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2011/12/10-1972-8000.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">82 ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/01/54.html" target="_blank">54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/01/blog-post_25.html" target="_blank">สถานีรถไฟจีน แล้วลองย้อนมาดูเรา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/03/55.html" target="_blank">55... มาร์คครับ หยุดใช้วาทกรรมแก้รัฐธรรมนูญทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post.html" target="_blank">สุดยอดไปเล้ย ก้อคุณพี่ทิศใต้นะสิคะ บอกไม่กลับบ้านก็ได้ทุกวันนี้สบายดี</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/84.html" target="_blank">84 คุณชวนนท์ครับ ออกมาดูโลกภายนอกบ้างเถอะครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://red-ratkrabang.blogspot.com/2012/03/80.html" target="_blank">80 สังคมไทยป่วย หรือเป็นผลผลิตจากการโฆษณาชวนเชื่อมาอย่างยาวนาน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post_13.html" target="_blank">นิก นอสติทซ์ "ผมมาทำตามหน้าที่ของความเป็นมนุษย์"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/03/90.html" target="_blank">สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในใจของคนเป็นหมอ...คือการได้ทำตามคำสั่งสุดท้ายของคนไข้นั่นเอง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/03/56.html" target="_blank">อาข่า...พาไปชมตลาด...มาดูว่าข้าวของไม่ได้แพงอย่างสลิ่มว่านะ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/86.html" target="_blank">ยาจีนโบราณ ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก กินแล้วหายหลายโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post_28.html" target="_blank">ตอแหล ตลบตะแลง กวนตีน สิ่งที่ไอ้ฟักและพรรคของมันคิดว่าเท่เหลือเกินในสภา</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/87-googlemap-360.html" target="_blank">ลูกเล่นใหม่ GoogleMap ดูได้รอบทิศทาง360องศาหน้าบ้านตัวเอง-คนอื่น</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/04/57.html" target="_blank">แม่ค้ารุมกรี๊ด! ภาพนายกฯปู กินก๋วยเตี๋ยว-เดินตลาดนางเลิ้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/04/88.html" target="_blank">ไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อย</a> <br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/91.html" target="_blank">ปี๋เก่าก็ล่วงไปแล้ว ปี๋ใหม่แก้วก็มาฮอดมาเติง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.426886667325361.115366.100000120933242&type=3&l=7497e3d4f3" target="_blank">คลิปและภาพนายกฯปูเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.youtube.com/playlist?list=PLD63435625E518CC1" target="_blank">คลิปนายกฯทักษิณร้องเพลงเวทีคนเสื้อแดงที่กัมพูชา</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/04/58-300.html" target="_blank">เปิดตัว "เอ็มแรป" โมเดล! สุดคุ้มขึ้นค่าแรง 300 บาทบริษัทโชว์กำไรพุ่ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/04/100.html" target="_blank">ขอยืนยัน ข้าวแกงจานละ 100 บาท หรือกว่า ร้อยบาท มีจริง แพงจริง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/04/89.html" target="_blank">เหอ เหอ... พณฯท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติในสภาฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/92-comment.html" target="_blank">นานาcomment...ให้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย รับเอาไปทำการบ้านก่อนจะสายเกินแก้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/blog-post.html" target="_blank">"เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อน" : ดร.สุนัย วิเคราะห์การพ่ายแพ้ที่ปทุมฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://red-ratkrabang.blogspot.com/2012/04/85.html" target="_blank">ผมเห็นรัฐบาลกำลังทำอะไรที่ไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว รู้สึกเหมือนถอยหลังไปอีกสิบปี</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/05/94-dream-shock-2.html" target="_blank">ฉายแล้ว จ้าาาาา หนังสั้น เรื่อง DREAM SHOCK หลับ...หลอน ฉบับเต็ม รำลึก 2 ปี ราชประสงค์ (ดูก่อนใคร)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/05/blog-post.html" target="_blank">ของดีราคาถูกหน้า พรรค ปชป. กรุงเทพฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/05/91-17-02-2551.html" target="_blank">สนทนาประสาสมัคร 17-02-2551 "แก้เศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/eastnorthhh/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">System Engineer วิศวกรระบบเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/92.html" target="_blank">สุดยอด ส.ส. ที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องบันทึกไว้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post.html" target="_blank">แถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/06/95.html" target="_blank">ถ้าไม่รู้จักสู้... เมิงก็จะต้อนทนอยู่ให้มันข่มเหงอยู่ร่ำไป</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/59.html" target="_blank">ถ้าไม่สู้ตอนนี้...แล้วจะไปสู้ตอนไหน?????????ฮึ!! ท่านประธานฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/93-16-06-2555.html" target="_blank">คลิปเต็ม นายกฯปูประชุม ขำกลิ้ง 16 06 2555</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/06/96.html" target="_blank">ถอย!! ก่อนแพ้ฟาล์วซ้ำซาก "เหลิม"เหน็บประชาธิปัตย์ เหมือนเปลือยล่อนจ้อน?!</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/06/60.html" target="_blank">ผมแอบชื่นชมมวลชนของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post_19.html">อู่ตะเภา-เขาวิหาร สันดาน "แมลงสาป"</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/gg/2012-06-05_135234510.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>พอเถอะครับ ตุลาการวิบัติ ที่ผ่านๆมา ชาติบ้านเมืองยัง ฉิบหาย กันไม่พออีกหรือ</strong></span><br />
<span style="color: #ff9900;">By: สายลมรัก</span><br />
<br />
เลิกลอยหน้าลอยตา กับสังคมว่ามีคุณธรรม เลิกบอกกับสังคมว่าไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย เลิกบอกกับสังคมว่าทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดก้าวก่าย ไม่เคยอยากก้าวล่วง ไม่แอบเล่นการเมือง ไม่ได้ถือหางใคร ฯลฯ<br />
<br />
เลิกพูดเถอะครับ สังคมเราอุดมไปด้วยความตอแหลประเภทนี้มากเกินพอแล้ว<br />
<br />
บ้านเมืองของเรา ประเทศของเรา ควรอยู่กันด้วยความจริง ไม่ใช่อยู่กันด้วยวิกหนองแขม วิกหมอชิต หรือละครจักรๆวงศ์ๆ ประโลมโลกไปวันๆ<br />
<br />
ผมเลี่ยนในการตอแหลของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้มามากพอแล้ว<br />
<br />
สี่ซ้าห้าปีที่ผ่านมา นับแต่ คตส. ปปช. กสม. กลต. อะไรต่อมิอะไร อีกหลายหน่วย<br />
<br />
พวกท่านก็แก้ผ้ากลางถนน กันอุจาดมากพอแล้ว หนำซ้ำยังนึกว่าตัวเองยังมีอาภรณ์พันร่างกาย เที่ยวเดินไปถามชาวบ้านร้านตลาดว่า เสื้อผ้าฉันสวยไหม ชุดที่ฉันใส่งดงามไหม ทั้งๆไม่ได้สวมใส่อะไรไว้เลย<br />
<br />
พวกท่านได้กระทำการตุลาการพิบัติมา นับแต่ การพิพากษาจำคุก กกต.<br />
<br />
ให้คำวินิจฉัยโลกตะลึงที่ว่า กฎหมายที่ออกย้อนหลังมาเพื่อเล่นงานใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง<br />
<br />
จนกระทั่งเปิดพจนานุกรมตัดสินคดี เพื่อเอาผิด<br />
<br />
มันสร้างอะไรเป็นมรรคเป็นผล เป็นการย้ายฝ่ายย้ายข้างอันใดกับประชาชนบ้าง<br />
<br />
ยุบพรรค จำคุก เอนเอียงนับครั้งไม่ได้ ทั้งขู่ทั้งปลอบ จนแทบจะเอามีดจี้คอประชาชน<br />
<br />
แต่พวกเขาก็ยังตบหน้าพวกท่านด้วยการเลือกพรรคฝ่ายตรงข้ามที่ท่านต้องการ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำแล้วและก็ซ้ำเล่า<br />
<br />
ลองเอาหัวแม่ตรีน พิดนา ดูบ้างนะครับ ว่า ตุลาการพิบัติมากี่หนแล้วประเทศชาติเป็นอย่างไร จากป่วยเบา เป็นป่วยหนัก ป่วยหนักเป็นเข้า ICU และอาการจะเข้าขั้นตรีทูต อยู่รอมร่อ<br />
<br />
สำเหนียกกันบ้างมั้ยอั้ยแสรดดดดดดดดดดด<br />
<br />
ประเทศของเราวิบัติมามากเกินพอแล้วครับ ท่านทั้งหลาย<br />
<br />
วันนี้ ยังพยายามยื่นมือ เสือกแบบข้างๆคูๆ เป็นการหยามไปถึงประชาชนว่า ปวงชนชาวไทยอย่าได้คิดว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยนั้นเป็นเรื่องล้อกันเล่น<br />
<br />
อำนาจที่แท้จริงนั้น ต้องมาจากสวรรค์ ซอยดาวดึงษ์ เอ้ยไม่ใช่ ชั้นดาวดึงษ์ อย่างพวกท่าน ที่ใครตั้งมาก็ไม่รู้<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/DqR9eU3Coeg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
ไม่เคยส่องกระจกมองดูตัวเองเลยว่า ล่อนจ้อนขนาดไหน มีที่มาอย่างไร รับๆไปก่อนแล้วไปแก้กันที่หลัง (ฮา) จนมาถึง สิบห้าล้านเสียง ก็แค่หนึ่งพันห้าร้อยล้านบาท<br />
<br />
ยังไม่สำเหนียก ยังมีกล้ามาบอกว่า ตัวเองกลาง กล้างงงง กลาง<br />
<br />
ผมว่าบ้านเมืองบางทีมันก็ถึงทางตันแล้วนะ<br />
<br />
ถ้าไม่ฆ่ากันแบบล้างเผ่าพันธุ์สักที บางทีมันยังไม่สำนึก<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/uj/2012-06-05_134526510.jpg"></center><br />
ทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง เป็นอันธพาลเสียงข้างน้อย<br />
<br />
ผสมโรงกับพรรคฝ่ายค้าน ที่[xxx]ที่สุดที่ประเทศนี้เคยมีมา<br />
<br />
เจริญแน่ๆ ประเทศไทย<br />
<br />
อดีตกาลไปทำอะไรเขาไว้ว๊ะเนีย เขาถึงสาปแช่งไม่ให้ประเทศนี้เจริญ<br />
<br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/bUu2GoNiQ8I" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<a href="http://www.constitutionalcourt.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=334&Itemid=85&lang=th" target="_blank">เข้าไปดูที่เว็บของ 'ศาลรัฐธรรมนูญ'</a> เรื่อง การใช้สิทธิต่อศาลรัฐธรรมนูญ (ด้านล่าง ของหน้าเว็บ ..อ่านเพิ่มเติม <a href="http://www.constitutionalcourt.or.th/index.php?option=com_docman&task=doc_download&gid=867&Itemid=100&lang=th" target="_blank">โหลดมาเป็นไฟล์ pdf</a>) หน้าที่ 3 คลิกเข้าไปดูกันครับ ยังเห็นอยู่ว่า 'อัยการสูงสุด' เท่านั้น เป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องประเด็นปัญหา การพิจารณาวินิจฉัยกรณีบุคคลหรือพรรคการเมืองใช้สิทธิและเสรีภาพในทางการเมืองโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และมาตรา 237<br />Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-1922860775416933217.post-73379601430593271132012-05-25T18:54:00.000+07:002012-06-06T19:12:21.454+07:0016 ปิยบุตร แสงกนกกุล: ทำความเข้าใจหลักการ "เงินเยียวยา" ทำไมห้ามฟ้องแพ่ง<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2011/09/4-19.html" target="_blank">4 ข้อเสนอนิติราษฎร์ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร 19 กันยา"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/02/80.html" target="_blank">"วรเจตน์" ฝ่าศึกสหบาทา: ร้องว่าผมเนรคุณ แต่คุณยืนให้สูงเพื่อบอกว่าจงรักภักดี โดยเหยียบหัวผมขึ้นไป</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/fasttfoodd/027-bangkok-underwater-26-october-2011" target="_blank">027 Pictures...Bangkok Underwater 26 October 2011</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/fasttfoodd/029-chm-phaph-chud-na-yk-pu-lng-reux-yeiym-prachachn-khet-dxnmeuxng-thi-thuk-na-thwm-khang-du-sihna-bng-khwam-ni-ci" target="_blank">029 ชมภาพชุด! นายกฯปูลงเรือเยี่ยมประชาชนเขตดอนเมืองที่ถูกน้ำท่วมขัง...และภาพสวยๆจากสื่อมะกัน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="https://sites.google.com/site/fasttfoodd/030-peid-chak-xaseiyn-sammith-khrang-thi-19-thi-bahli-prathes-xindoniseiy" target="_blank">ชมภาพสวยๆทั้ง 3 ชุด บาหลี-ต้อนรับฮิลลารี-บันคีมูนที่ทำเนียบฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.284528548227841.86799.100000120933242&type=1&l=2d6ae7cd96" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.328000970547265.96442.100000120933242&type=1&l=5a9719e527" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.334802079867154.97244.100000120933242&type=1&l=81eb6dc1ab" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.368199826527379.103888.100000120933242&type=3&l=a074f4a6ce" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.368195803194448.103887.100000120933242&type=3&l=088d56706f" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.370653919615303.104341.100000120933242&type=3&l=46c1cbdcc2" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.390402360973792.107596.100000120933242&type=3&l=399f30c380" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.401245353222826.109861.100000120933242&type=3&l=19bd24ac2e" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น ชุดที่8</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.414188955261799.112770.100000120933242&type=3&l=e20dc01751" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เกาหลีใต้ ชุดที่9</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.430952200252141.115943.100000120933242&type=3&l=b10e825fc0" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน จีน ชุดที่10</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.455520967795264.119214.100000120933242&type=3&l=5353058a29" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บาห์เรน-กาตาร์ ชุดที่11</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.367191246628237.103668.100000120933242&type=3&l=5b56cd1a74" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.334799796534049.97243.100000120933242&type=1&l=ecaf63ec52" target="_blank">ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือนกองทัพไทย</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/zone1kongthun/nihlwng-sedc-xxk-mha-smakhm-n-mukh-dec-phrathinang-cakri-mha-prasath-ni-phrabrm-mharach-wang" target="_blank">ภาพชุดงานสโมสรสันนิบาต วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธ.ค.2554</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2011/12/81.html" target="_blank">81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2533.blogspot.com/2011/12/10-1972-8000.html">เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/01/82-by-kimeng-suk.html" target="_blank">82 ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/01/54.html" target="_blank">54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/01/blog-post_25.html" target="_blank">สถานีรถไฟจีน แล้วลองย้อนมาดูเรา...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/03/55.html" target="_blank">55... มาร์คครับ หยุดใช้วาทกรรมแก้รัฐธรรมนูญทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเลยครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post.html" target="_blank">สุดยอดไปเล้ย ก้อคุณพี่ทิศใต้นะสิคะ บอกไม่กลับบ้านก็ได้ทุกวันนี้สบายดี</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/84.html" target="_blank">84 คุณชวนนท์ครับ ออกมาดูโลกภายนอกบ้างเถอะครับ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://red-ratkrabang.blogspot.com/2012/03/80.html" target="_blank">80 สังคมไทยป่วย หรือเป็นผลผลิตจากการโฆษณาชวนเชื่อมาอย่างยาวนาน</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post_13.html" target="_blank">นิก นอสติทซ์ "ผมมาทำตามหน้าที่ของความเป็นมนุษย์"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/03/90.html" target="_blank">สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในใจของคนเป็นหมอ...คือการได้ทำตามคำสั่งสุดท้ายของคนไข้นั่นเอง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/03/56.html" target="_blank">อาข่า...พาไปชมตลาด...มาดูว่าข้าวของไม่ได้แพงอย่างสลิ่มว่านะ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/86.html" target="_blank">ยาจีนโบราณ ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก กินแล้วหายหลายโรค</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/03/blog-post_28.html" target="_blank">ตอแหล ตลบตะแลง กวนตีน สิ่งที่ไอ้ฟักและพรรคของมันคิดว่าเท่เหลือเกินในสภา</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/03/87-googlemap-360.html" target="_blank">ลูกเล่นใหม่ GoogleMap ดูได้รอบทิศทาง360องศาหน้าบ้านตัวเอง-คนอื่น</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/04/57.html" target="_blank">แม่ค้ารุมกรี๊ด! ภาพนายกฯปู กินก๋วยเตี๋ยว-เดินตลาดนางเลิ้ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/04/88.html" target="_blank">ไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อยไป ตรัง มา มีเรื่องมาเล่าให้ฟังนิดหน่อย</a> <br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/91.html" target="_blank">ปี๋เก่าก็ล่วงไปแล้ว ปี๋ใหม่แก้วก็มาฮอดมาเติง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.426886667325361.115366.100000120933242&type=3&l=7497e3d4f3" target="_blank">คลิปและภาพนายกฯปูเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.youtube.com/playlist?list=PLD63435625E518CC1" target="_blank">คลิปนายกฯทักษิณร้องเพลงเวทีคนเสื้อแดงที่กัมพูชา</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sujin-labour1.blogspot.com/2012/04/58-300.html" target="_blank">เปิดตัว "เอ็มแรป" โมเดล! สุดคุ้มขึ้นค่าแรง 300 บาทบริษัทโชว์กำไรพุ่ง</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/04/100.html" target="_blank">ขอยืนยัน ข้าวแกงจานละ 100 บาท หรือกว่า ร้อยบาท มีจริง แพงจริง...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/04/89.html" target="_blank">เหอ เหอ... พณฯท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติในสภาฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/92-comment.html" target="_blank">นานาcomment...ให้ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย รับเอาไปทำการบ้านก่อนจะสายเกินแก้...</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/04/blog-post.html" target="_blank">"เป็นเรื่องโชคดีที่แพ้ก่อน" : ดร.สุนัย วิเคราะห์การพ่ายแพ้ที่ปทุมฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://red-ratkrabang.blogspot.com/2012/04/85.html" target="_blank">ผมเห็นรัฐบาลกำลังทำอะไรที่ไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว รู้สึกเหมือนถอยหลังไปอีกสิบปี</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://read2532.blogspot.com/2012/05/94-dream-shock-2.html" target="_blank">ฉายแล้ว จ้าาาาา หนังสั้น เรื่อง DREAM SHOCK หลับ...หลอน ฉบับเต็ม รำลึก 2 ปี ราชประสงค์ (ดูก่อนใคร)</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/05/blog-post.html" target="_blank">ของดีราคาถูกหน้า พรรค ปชป. กรุงเทพฯ</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/05/91-17-02-2551.html" target="_blank">สนทนาประสาสมัคร 17-02-2551 "แก้เศรษฐกิจด้วยเศษสตางค์"</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://sites.google.com/site/eastnorthhh/sastr-leiyng-luk-hi-di-xyang-ci-khir-ci-mi-thung-xya-du-" target="_blank">System Engineer วิศวกรระบบเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://redbkk.blogspot.com/2012/06/92.html" target="_blank">สุดยอด ส.ส. ที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องบันทึกไว้</a><br />
<font color="#0000FF">@</font> <a href="http://resist12.blogspot.com/2012/06/blog-post.html" target="_blank">แถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ</a><br />
<br />
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น <font color="#0000FF">@</font> <a href="http://www.facebook.com/media/set/?set=a.336611403019555.97439.100000120933242&type=1&l=b8264ea02c" target="_blank">โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...</a><br />
<center><a href="http://upic.me/i/kd/u2011-12-11_902.jpg" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/x1/u2011-12-11_515.jpg" /></a></center><br />
<center><iframe width="480" height="390" src="http://www.youtube.com/embed/8JoD7i3wEgg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe></center><br />
<center><img src="http://upic.me/i/om/bm01510.jpg"></center><br />
แม่น้องเกด ทำถูกต้องแล้วครับ เพราะมันไม่มีผลต่อคดีอาญา ยังฟ้องได้ทั้งศาลไทย ศาลโลกICC คดีแพ่งยุติ แต่อาญาไม่ยุติ ยกเว้นได้รับการนิรโทษกรรม ผมไม่เห็นแก่ตัวนะ เงินเกือบๆ8ล้านอย่างน้อยก็ใช้อย่างประหยัด จนบั้นปลายยังไม่หมด เฉพาะดอกเบี้ยอย่างเดียวก็เหลือแล้ว อนาคตเรื่องการฟ้องร้องต่อศาลคดีอาญา ก็มีเงินทุนสู้คดีความจนถึงที่สุด<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/af/0pic46510.jpg"></center><br />
<span style="color: #3333ff; font-family: Verdana, sans-serif; font-size: x-large;"><strong>ปิยบุตร แสงกนกกุล: ทำความเข้าใจหลักการ<br />
"เงินเยียวยา" ทำไมห้ามฟ้องแพ่ง</strong></span><br />
Thu, 2012-05-24 19:14 <br />
By: <a href="http://www.prachatai.com/journal/2012/05/40658" target="_blank">กองบรรณาธิการ"ประชาไท"</a><br />
<br />
กรณีการรับเงินเยียวยาความเสียหายจากการชุมนุม และมีข้อกำหนดห้ามฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายจากรัฐนั้น สามารถกระทำได้ เพราะฐานของการได้รับค่าเสียหายนี้ คือ ความรับผิดโดยปราศจากความผิด (ชดใช้ให้ไปก่อน โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าคนชดใช้ คือรัฐนั้น กระทำละเมิดหรือไม่ ทั้งนี้เป็นไปตามนิตินโยบาย) ในต่างประเทศระยะหลัง ศาลวางแนวรับรองความรับผิดโดยปราศจากความผิดเพิ่มขึ้นมา และขยายวงออกไปในหลายเรื่อง เช่น ผู้เสียหายจากการก่อการร้าย การรักษาพยาบาลฯ จนทำให้ผู้เสียหายฟ้องศาลมากขึ้น เพื่อขอค่าเสียหายจากรัฐ เพราะผู้เสียหายไม่ต้องพิสูจน์ว่ารัฐทำละเมิด ถ้าศาลเห็นว่าเป็นความรับผิดโดยปราศจากความผิด ศาลก็จะให้เอง<br />
<br />
พอคดีแบบนี้เพิ่มมากขึ้น ฝ่ายนิติบัญญัติก็เข้ามาช่วยด้วยการออกกฎหมายรายฉบับ กำหนดเรื่องที่ใช้ความรับผิดโดยปราศจากความผิด (เช่น ผู้เสียหายจากการักษาพยาบาล, ผู้เสียหายจากการชุมนุม, ผู้เสียหายจากการก่อการร้าย เป็นต้น) มีหลักการคือ ให้มีคณะกรรมการชุดหนึ่ง พิจารณากำหนดค่าเสียหายให้ โดยไม่ต้องพิสูจน์ว่ารัฐผิด พิจารณาแค่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง มีความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำกับความเสียหาย และดูความร้ายแรงของความเสียหายเพื่อกำหนดจำนวนเงินมากน้อยต่างกันไป<br />
<br />
เมื่อกำหนดค่าเสียหายให้แล้ว ผู้เสียหายยังไม่พอใจ ก็จะอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการอีกชุดเพื่อให้ชี้อีกครั้งก็ได้<br />
<br />
หากผู้เสียหายพอใจตกลงรับเงินค่าเสียหาย ก็ไม่อาจฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายต่อศาลได้อีก แต่หากไม่พอใจ ก็ฟ้องศาลได้อีก<br />
<br />
นี่เป็นหลักการปกติ คือ ฝ่ายนิติบัญญัติลงมาช่วย เพื่อให้คดีไม่รกศาล และผู้เสียหายก็ได้เงินรวดเร็ว<br />
<br />
กฎหมายแบบนี้มีมากมายที่ฝรั่งเศส เคยมีผู้ร้องไปยังศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเหมือนกันว่า การกำหนดว่าถ้ารับเงินแล้ว ห้ามฟ้องศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายนั้นขัดกับสิทธิการฟ้องคดี แต่ศาลวินิจฉัยว่า ไม่ขัด<br />
<br />
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นคดีเรียกค่าเสียหาย เรียกเงินเท่านั้น ไม่ได้ตัดสิทธิการฟ้องคดีอาญา<br />
<br />
ดังนั้น ที่รัฐบาลทำอยู่ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน คือ รับเงินแล้ว ฟ้องเรียกเงินอีกไม่ได้ แต่เมื่อมีการกำหนดตัวเงินมาแล้ว ผู้เสียหายยังไม่พอใจ ก็สามารถฟ้องศาลต่อได้ และที่สำคัญ การรับเงิน หรือไม่รับเงิน ไม่ได้ไปตัดเรื่องฟ้องคดีอาญา<br />
<br />
ที่ฝรั่งเศส มีกฎหมายอยู่ฉบับหนึ่ง ตราเมื่อ 4 มีนาคม 2002 กฎหมายนี้กำหนดว่า บุคคลผู้เสียหายจากการตรวจ การรักษาพยาบาล โดยที่ความเสียหายนี้ ไม่ได้เกิดจากการกระทำละเมิด ผู้เสียหายอาจร้องขอต่อคณะกรรมการชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณากำหนดค่าเสียหายให้ได้ โดยต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ความเสียหายเกิดจากการกระทำ ความเสียหายผิดปกติ ความเสียหายร้ายแรง<br />
<br />
อาจเป็นไปได้ว่า เกิดใช้สองช่อง คือ ฟ้องศาล และ ร้องกับคณะกรรมการ<br />
<br />
เช่น ฟ้องศาลไปแล้ว ศาลยังไม่ตัดสิน แล้วมาขอคณะกรรมการอีก กฎหมายกำหนดให้ผู้ร้องต้องแจ้งแก่คณะกรรมการฯด้วยว่า ได้ฟ้องศาลในเรื่องนี้ไปแล้ว ผลก็คือ อายุความของศาล และกระบวนพิจารณาในศาล หยุดลงชั่วคราวไปก่อน<br />
<br />
เช่น ร้องขอคณะกรรมการแล้ว แต่คณะกรรมการยังไม่วินิจฉัย ก็เลยไปฟ้องศาลอีก กฎหมายกำหนดให้ ผู้ฟ้องต้องแจ้งแก่ศาลด้วยว่า ตนได้ร้องต่อคณะกรรมการฯไว้ด้วย<br />
<br />
ในกรณีที่คณะกรรมการฯวินิจฉัยให้จ่ายแล้ว ก็จะแบ่งเป็น<br />
<br />
1.) พอใจ รับเงิน จบ ห้ามฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายในเรื่องนี้อีก<br />
<br />
2.) ไม่พอใจ อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการฯ วินิจฉัยมา พอใจ จบ ห้ามฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายในเรื่องนี้อีก<br />
<br />
3.) ไม่พอใจ อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการฯ วินิจฉัยมา ไม่พอใจ ไปฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายในเรื่องนี้ อีก กรณีนี้คู่พิพาทกัน ก็คือ ผู้เสียหาย กับ คณะกรรมการกองทุนนี้ โดยเรื่องที่พิจารณาคือ ควรได้ค่าเสียหายเท่าไร ศาลอาจบอกว่า เท่าเดิม หรือ ศาลอาจเพิ่มให้ (แต่ลดลงไม่ได้)<br />
<br />
สำหรับกรณีของไทย เข้าใจดีว่าผู้เสียหายหลายคนอาจยังติดใจว่า ทำไมฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อให้จ่ายค่าเสียหายไม่ได้ ขออธิบายดังนี้<br />
<br />
1.) พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539 วางหลักว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่กระทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องฟ้องตัวหน่วยงาน แต่ถ้ากรณีที่เจ้าหน้าที่กระทำละเมิดในนามส่วนตัว ทำนอกการปฏิบัติหน้าที่ ต้องฟ้องตัวเจ้าหน้าที่<br />
<br />
2.) กรณีสลายการชุมนุม ไม่มีช่องไหนที่จะฟ้องตัวคนได้เลย เพราะการสั่ง การปฏิบัติการ การสลายชุมนุมอยู่ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งนั้น หากไปละเมิดก็เป็นละเมิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ต้องฟ้องหน่วยงานเสมอ ไม่มีทางฟ้องอภิสิทธิ์ สุเทพ ได้<br />
<br />
3.) เมื่อฟ้องหน่วยงานไปแล้ว หากศาลพิจารณาว่าเป็นละเมิดจริง ก็จะสั่งให้หน่วยงานชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหาย จะเห็นได้ว่า เป็นเงินที่มาจากงบประมาณแผ่นดินเช่นเดียวกัน<br />
<br />
4.) หากหน่วยงานจ่ายไปแล้ว เห็นว่า เจ้าหน้าที่ที่กระทำละเมิด กระทำโดยจงใจหรือประมาทร้ายแรง หน่วยงานก็ไปไล่เบี้ยเอากับเจ้าหน้าที่คนนั้น (ซึ่งไม่เกี่ยวกับผู้เสียหายแล้ว ผู้เสียหายได้รับเงินไปแล้ว หน่วยงานกับเจ้าหน้าที่เขาว่ากันเอง)<br />
<br />
5.) จะเห็นได้ว่า หากใช้ช่อง พ.ร.บ. ปี 39 แล้ว กระบวนการจะช้าและเป็นภาระแก่ผู้เสียหายมาก ดังนี้ 1. ผู้เสียหายต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นให้ได้ว่ามีการละเมิด 2. สมมติศาลพิพากษาให้หน่วยงานจ่าย หน่วยงานก็จะสู้คดีต่ออีกในชั้นอุทธรณ์ ฎีกา 3. ค่าเสียหายที่ผู้เสียหายขอต่อศาลไปนั้น อาจไม่ได้ตามที่ขอ เพราะศาลจะดูหลายๆ อย่างประกอบ เช่น ระดับความเสียหาย, ค่าเสียโอกาสในอนาคตมีจริงหรือไม่, ผู้เสียหายมีส่วนร่วมกระทำผิดในการละเมิดนั้นหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งปกติแล้ว ขอไปทีไร ศาลให้ไม่เต็มเสมอๆ 4. องค์คณะของศาลแต่ละคดี อาจตัดสินไม่เหมือนกันก็ได้<br />
<br />
6.) การสลายการชุมนุมในปี 52 มีคดีตัวอย่าง ทนายสุวิทย์ ทองนวล (ทำคดีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ร่วมกับทนายคารม พลพรกลาง) เป็นคนทำคดีฟ้องฐานละเมิดโดยเอา พ.ร.บ. 39 มาใช้ ขอไปประมาณกว่า 3 ล้าน ศาลสั่งให้หน่วยงานชดใช้ ได้มาล้านกว่าๆ (เคยเป็นข่าวใน น.ส.พ. ข่าวสด) และไม่แน่ใจว่าหน่วยงานสู้คดีต่อหรือไม่<br />
<br />
7.) กรณีระเบียบฯเยียวยานี้ เปิดทางเลือกให้ผู้เสียหาย หากผู้เสียหายไม่เอาทางนี้ ก็ไปฟ้องได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าไปฟ้องต่อศาล ก็ต้องใช้หลักตาม พ.ร.บ. ปี39 ซึ่งไม่มีทางที่จะฟ้องอภิสิทธิ์-สุเทพได้โดยตรง แต่ต้องฟ้องหน่วยงาน<br />
<br />
8.) ระเบียบฯนี้ ไม่ได้ตัดเรื่องความผิดอาญา ในระบบกฎหมายเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไม่มีกฎหมายใดตัดความผิดอาญาจากการสลายการชุมนุมได้ นอกจากจะมีการตรากฎหมายนิรโทษกรรม<br />
<br />
นอกจากนี้ยังมีอีกปัญหาด้วย คือ กรณีความรับผิดแบบ without fault นั้น ศาลไทยยังไม่ค่อยพัฒนาเท่าไร พอพูดเรื่องละเมิด ก็ต้องลากไปประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 420 คือ ต้องไปพิสูจน์ว่ากระทำผิด ละเมิด ให้ได้ ถึงจะได้ค่าสินไหมทดแทน<br />
<br />
ทีนี้ ในกรณีกฎหมายปี 2002 ของฝรั่งเศสนั้น เขาก็เอาเฉพาะเรื่องกรณี without fault เท่านั้น ที่ให้ใช้ช่องคณะกรรมการฯ แต่ถ้าเป็นการฟ้องความรับผิดที่มี fault ขึ้นมา ก็ไปว่ากันเอง ซึ่งว่ากันเองนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องฟ้องหน่วยงานก่อนอยู่ดี (หากเป็นการละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่)<br />
<br />
แต่พอมากรณีของไทย มันจะผสมมั่วๆ อยู่นิดหนึ่ง คือ กรณีระเบียบเยียวยา ไม่ได้พูดเรื่อง without fault เพราะ เขาอาจไม่รู้จักก็ได้ แต่ผมเห็นว่าฐานที่รัฐบาลยอมจ่ายนี้ เป็น without fault แน่นอน เพราะจ่ายโดยไม่ได้ไปหาฐานละเมิด<br />
<br />
แต่ระเบียบฯนี้ก็ไปเขียนอีกว่า ตัดสิทธิฟ้องแพ่ง (เดาว่า เขาไม่รู้จักเรื่อง without fault กับ fault จริงๆ เลยไม่รู้จะเขียนตัดยังไง) และหากมีการไปฟ้องศาล เป็นไปได้ว่าศาลเองก็อาจไม่รู้เรื่องอีกเหมือนกัน<br />
<br />
นักกฎหมายไทยไม่ค่อยรู้จัก เรื่อง without fault ทุกวันนี้ตอนบรรยายวิชากฎหมายปกครอง ผมจะพูดเรื่องนี้ประมาณ 3 คาบทุกครั้ง เพราะ concept แบบ without fault ต่อไปจะใช้เยอะขึ้นแน่นอน ตามความคิดการพึ่งพาอาศัยกันฉันมิตร (Solidarité nationale)<br />
<br />
จริงๆ เรื่องนี้พอมีโผล่ๆ มาอยู่บ้าง เช่น กรณี ม.41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, กรณีร่าง พ.ร.บ. ความเสียหายจากการรับริการสาธารณสุข, กรณี พ.ร.บ. เกี่ยวกับเรื่องการชดเชยให้กับคนติดคุก ซึ่งต่อมาศาลพิพากษาว่าบริสุทธิ์<br />
<br />
อีกประเด็น ก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ถูกความคิดแบบกฎหมายเอกชนครอบงำมานาน พอพูดเรื่องฟ้องกันทีไร จะต้องคิดภาพตัวคนลอยมาทันที เช่น ก ตีกบาล ข ก ก็ฟ้องเรียกเงินจาก ข ข ก็เอาเงินของตนมาจ่าย ก แต่ในทางคดีปกครอง เขาไม่ได้เล่นกันที่ตัวคน เช่น ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งที่เจ้าหน้าที่ ก ออกมา ก็เล่นไปที่ตัวคำสั่ง ไม่ได้เล่นไปที่เจ้าหน้าที่ ก หรือ เช่น เจ้าหน้าที่ ก ปฏิบัติหน้าที่แล้วไปละเมิด ข ข ก็ฟ้องหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ ก เพราะ การกระทำของ ก เป็นไปเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ทำในนามของหน่วยงานนั่นเอง<br />
<br />
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผ่านมา ไม่มีคำพิพากษาใดพูดชัดเรื่อง without fault เลย นอกเสียจากมี พ.ร.บ. กำหนดไว้ชัดเจน เช่นพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544<br />
<br />
และหากฟ้องแบบ fault ไปได้ ก็ต้องเจอกับ พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ปี 2539 ที่ไปฟ้องเอากับหน่วยงานอยู่ดี และใช้กระบวนการนานมาก<br />
<br />
รัฐบาลเองก็อาจแยกไม่ออกกระมัง เลยเขียนระเบียบออกมาแบบเร็วๆ แบบนี้<br />
<br />
ตอนทำระเบียบ ไม่รู้ว่าเขาเอาแบบของ พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 มาดูไหม เพราะอันนี้เขียนค่อนข้างใช้ได้ มีคณะกรรมการพิจารณา คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และเขียนชัดว่าไม่ตัดสิทธิหรือประโยชน์ที่ผู้เสียหายหรือจำเลยพึงได้ตามกฎหมายอื่น<br />
<br />
หากจะทำให้เป็นระบบกว่านี้ ควรออกมาในรูปแบบ ดังนี้<br />
<br />
1.) มีคณะกรรมการพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้อง<br />
<br />
2.) คณะกรรมการกำหนดจำนวนเงิน ผู้เสียหายพอใจ รับไป จบ<br />
<br />
3.) คณะกรรมการกำหนดจำนวนเงิน ผู้เสียหายไม่พอใจ อุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ผู้เสียหายพอใจ จบ<br />
<br />
4.) คณะกรรมการกำหนดจำนวนเงิน ผู้เสียหายไม่พอใจ อุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ผู้เสียหายไม่พอใจ ฟ้องศาล เพื่อให้ศาลกำหนดจำนวนเงินให้ใหม่<br />
<br />
5.) กรณีไม่เลือกช่องทางคณะกรรมการ ก็ไปฟ้องศาลได้โดยตรง<br />
<br />
6.) นี่เป็นความรับผิดแบบ without fault ไม่ใช่ความรับผิดแบบ fault หากตั้งฐานเอาแบบ fault ก็ไปฟ้องได้<br />
<br />
(ประเด็น คือ ผู้ปฏิบัติกฎหมายไทยจะรู้จักและแยกแยะ without fault กับ fault ได้หรือไม่ หรือเหมารวมไปหมด ดังนั้น จริงๆ น่าจะตรากฎหมาย เขียนระเบียบให้ชัด ผมจึงคาดเดาว่า ด้วยเหตุนี้เอง ระเบียบฯ จึงไปเขียนว่าตัดสิทธิฟ้องแพ่ง เพราะ ไม่รู้จักเรื่อง without fault กับ fault รู้จักแค่ว่าถ้าฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน เรียกเงินกัน ต้องเป็นฟ้องแพ่งแบบละเมิดหมด)<br />
<br />
ที่มา: เฟซบุ๊คส่วนตัวปิยบุตร แสงกนกกุล<br />
<br />
<center><img src="http://upic.me/i/o6/p12141306-510.png"></center><br />Thanawut, สมศรี สวยสดhttp://www.blogger.com/profile/00435043436316036962noreply@blogger.com